การอนุญาตให้ลูกค้าแบบ B2B รายใหม่ขอสิทธิ์เข้าถึงร้านค้าของคุณ
คุณสามารถอนุญาตให้ลูกค้าแบบ B2B ใหม่ขอสิทธิ์การเข้าถึงร้านค้าออนไลน์ของคุณโดยใช้คำขอบัญชีผู้ใช้ของบริษัทได้ โดยคุณต้องติดตั้งแอป Shopify Forms, สร้าง และปรับแต่งแบบฟอร์มเพื่อให้ลูกค้าขายส่งกรอกข้อมูล จากนั้นเพิ่มแบบฟอร์มป๊อปอัพหรือแบบฟอร์มอินไลน์ไปยังร้านค้าออนไลน์ของคุณ
เมื่อลูกค้าส่งแบบฟอร์ม ระบบจะสร้างบริษัท ตำแหน่งที่ตั้งบริษัท และลูกค้าขึ้นโดยอัตโนมัติในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลของพวกเขาและอนุมัติหรือปฏิเสธคำขอสิทธิ์การเข้าถึงร้านค้าออนไลน์ของคุณและซื้อสินค้าจากธุรกิจของคุณได้
ในหน้านี้
ตั้งค่าแบบฟอร์มคำขอบัญชีบริษัท
คุณต้องติดตั้งแอป Shopify Forms ก่อนจึงจะตั้งค่าแบบฟอร์มคำขอบัญชีผู้ใช้ของบริษัทได้
คุณสามารถตั้งค่าแบบฟอร์มป๊อปอัพหรือแบบฟอร์มอินไลน์ในร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ โดยทั่วไปแล้วป๊อปอัพจะใช้รูปแบบสั้นๆ แบบฟอร์มอินไลน์จะเหมาะกับแบบฟอร์มที่ยาวกว่าหรือเมื่อคุณต้องการมีหน้าสำหรับการลงทะเบียนโดยเฉพาะในร้านค้าออนไลน์ของคุณ
ขั้นตอนมีดังนี้
จากส่วนผู้ดูแล Shopify ไปที่ แอป > Forms
คลิก “สร้างแบบฟอร์ม”
เลือกว่าต้องการสร้างแบบฟอร์มป๊อปอัพหรือแบบฟอร์มอินไลน์
ป้อนชื่อแบบฟอร์ม
คลิกสร้าง
ในส่วนช่อง ให้คลิกที่บริษัทและลูกค้า จำเป็นต้องใช้ชื่อบริษัทและที่อยู่อีเมลในการสร้างระเบียนบริษัทโดยอัตโนมัติ
ตัวเลือกเสริม: หากต้องการเพิ่มช่อง ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- คลิก “เพิ่มช่องใหม่”
- เลือกช่องที่มีอยู่หรือคลิกช่องใหม่เพื่อสร้างอินพุตแบบกำหนดเอง เมื่อส่งข้อมูลในช่องที่มีอยู่แล้วระบบจะสร้างระเบียนสำหรับช่องดังกล่าวโดยอัตโนมัติในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ตามค่าเริ่มต้น ข้อมูลในช่องทั้งหมดที่ส่งจะถูกจัดเก็บเป็นเมตาอ็อบเจกต์ และคุณยังสามารถจัดเก็บช่องเป็นเมตาฟิลด์ของบริษัทหรือเมตาฟิลด์ของลูกค้าได้
กําหนดค่าที่เหลือของแบบฟอร์มตามการกําหนดลักษณะของคุณ
แล้วคลิกที่บันทึก
ดำเนินการตามประเภทของแบบฟอร์มที่คุณเลือกดังนี้
- เพิ่มแบบฟอร์มป๊อปอัพให้กับร้านค้าออนไลน์ของคุณ
- เพิ่มแบบฟอร์มอินไลน์ในร้านค้าออนไลน์ของคุณ
การเพิ่มช่องป้อนข้อมูลแบบกำหนดเองลงในแบบฟอร์มของคุณ
คุณสามารถเพิ่มช่องแบบกำหนดเองลงในแบบฟอร์มของคุณและจัดเก็บเป็นช่องในระบบ เมตาฟิลด์ของลูกค้า หรือเมตาฟิลด์ของบริษัท (ลูกค้าหรือบริษัท) เมื่อคุณสร้างช่องแบบกำหนดเอง คุณจะต้องตั้งชื่อ เลือกประเภทช่อง และเลือกว่าจำเป็นต้องกรอกช่องดังกล่าวในแบบฟอร์มหรือไม่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการช่องแบบฟอร์ม
ช่องในระบบ
ช่องในระบบจะจัดเก็บไว้เฉพาะในแบบฟอร์มที่คุณสร้างช่องดังกล่าวขึ้นเท่านั้น จะไม่มีการจัดเก็บช่องประเภทนี้เพื่อใช้กับแบบฟอร์มอื่นๆ ในอนาคต หากต้องการนำช่องในระบบมาใช้ซ้ำกับแบบฟอร์มใหม่ คุณจะต้องทำซ้ำแบบฟอร์มที่มีอยู่ซึ่งใช้ช่องดังกล่าว
ข้อมูลที่ส่งจากช่องในระบบจะสามารถดูได้จากในเมตาอ็อบเจกต์เท่านั้น ข้อมูลส่วนนี้จะไม่ปรากฏในโปรไฟล์บริษัทหรือลูกค้าที่สร้างขึ้นหลังจากที่ลูกค้าส่งแบบฟอร์ม หากคุณต้องการดูข้อมูลที่ส่งทั้งหมดในโปรไฟล์บริษัทหรือลูกค้า ให้จัดเก็บข้อมูลเป็นเมตาฟิลด์ของลูกค้าหรือเมตาฟิลด์ของบริษัท
คุณสามารถเปลี่ยนช่องที่จัดเก็บข้อมูลในระบบให้เป็นเมตาฟิลด์ของลูกค้าหรือบริษัทได้ทุกเมื่อโดยเลือก จัดเก็บเป็นเมตาฟิลด์ของลูกค้าด้วย เมื่อคุณเปลี่ยนช่องในระบบให้เป็นเมตาฟิลด์ ระบบจะจัดเก็บข้อมูลในเมตาฟิลด์เฉพาะข้อมูลที่ส่งจากแบบฟอร์มใหม่เท่านั้น ข้อมูลที่ส่งก่อนหน้านี้ยังคงเป็นข้อมูลจากช่องในระบบ
เมตาฟิลด์ลูกค้าหรือบริษัท
เมตาฟิลด์ของลูกค้าหรือบริษัทจะบันทึกไว้ในเครื่องมือเลือกช่องแบบฟอร์มเพื่อนำมาใช้ซ้ำในแบบฟอร์มอื่นๆ หากคุณมีเมตาฟิลด์ถึง 20 รายการ เมตาฟิลด์ทั้งหมดจะพร้อมสำหรับการใช้งานซ้ำ หากคุณมีเมตาฟิลด์มากกว่า 20 รายการ ระบบจะแสดงเฉพาะเมตาฟิลด์ที่พินแล้วเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการเมตาฟิลด์ที่พินแล้ว
หลังจากที่คุณจัดเก็บช่องป้อนข้อมูลแบบกำหนดเองเป็นเมตาฟิลด์แล้ว เมตาฟิลด์ดังกล่าวจะไม่สามารถเปลี่ยนกลับเป็นช่องในระบบได้ และการเปลี่ยนแปลงที่มีต่อเมตาฟิลด์จะอัปเดตแบบฟอร์มทั้งหมดที่ใช้ช่องดังกล่าวด้วย
หลังจากที่คุณจัดเก็บช่องป้อนข้อมูลแบบกำหนดเองเป็นเมตาฟิลด์แล้ว ระบบจะบันทึกข้อมูลนั้นไว้ในข้อมูลแบบกำหนดเอง > ส่วนลูกค้าหรือบริษัทในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ คุณสามารถใช้ข้อมูลเมตาฟิลด์นี้เพื่อประเมินคำขอบัญชีผู้ใช้บริษัทสำหรับลูกค้าธุรกิจแบบ B2B หรือเพื่อสร้างกลุ่มลูกค้า
หากลูกค้ากรอกเพื่อส่งข้อมูลในช่องที่ลิงก์กับโปรไฟล์ลูกค้าของตนอยู่แล้วมากกว่าหนึ่งครั้ง โปรไฟล์ลูกค้าจะแสดงข้อมูลเมตาฟิลด์จากแบบฟอร์มล่าสุดที่ส่งมาเท่านั้น
ประเภทข้อมูลของช่องป้อนข้อมูลแบบกำหนดเอง
ช่องแบบกำหนดเองสามารถเป็นข้อมูลประเภทใดก็ได้ต่อไปนี้
ประเภทข้อมูลของช่อง | คำอธิบาย |
---|---|
ข้อความบรรทัดเดียว | ช่องข้อความสั้นๆ ที่เหมาะกับประโยคเดียว |
รายการเมนูดรอปดาวน์ | รายการของตัวเลือกที่แสดงเป็นเมนูดรอปดาวน์ที่ผู้ใช้สามารถเลือกได้หนึ่งตัวเลือก |
ปุ่มตัวเลือก | รายการของตัวเลือกที่แสดงเป็นชุดปุ่มที่ผู้ใช้สามารถเลือกได้หนึ่งตัวเลือก |
ข้อความหลายบรรทัด | ช่องข้อความที่ยาวขึ้นซึ่งเหมาะกับย่อหน้า |
หลายตัวเลือก | รายการตัวเลือกที่แสดงเป็นชุดช่องทำเครื่องหมาย ซึ่งแตกต่างจากรายการแบบดรอปดาวน์และปุ่มตัวเลือก ผู้ใช้สามารถเลือกได้มากกว่าหนึ่งคำตอบ |
วันที่ | วันที่ใดวันที่หนึ่ง |
ตัวเลข | หมายเลขเดียว |
การอัปโหลดไฟล์ | ไฟล์แนบไฟล์เดียวที่มีขนาด 20 MB หรือน้อยกว่า โดยไฟล์จะต้องเป็นหนึ่งในประเภทไฟล์ที่ระบบยอมรับดังต่อไปนี้
|
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการทราบจำนวนตำแหน่งที่ตั้งสำหรับการจัดส่งที่บริษัทมีก่อนจะได้รับอนุมัติให้เป็นลูกค้าธุรกิจแบบ B2B คุณสามารถสร้างแบบฟอร์มที่มีช่องตัวเลขแบบกำหนดเองได้ เมื่อลูกค้าธุรกิจแบบ B2B รายใหม่กรอกแบบฟอร์ม ลูกค้าต้องป้อนจำนวนตำแหน่งที่ตั้งที่ตนมีก่อนจะส่งแบบฟอร์ม จากนั้นคุณสามารถเก็บข้อมูลนี้เป็นเมตาฟิลด์บนโปรไฟล์บริษัทของลูกค้าดังกล่าวเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในอนาคตได้
ตรวจสอบคำขอบัญชีบริษัท
หลังจากที่คุณเพิ่มแบบฟอร์มในร้านค้าออนไลน์ของคุณแล้ว ลูกค้าขายส่งรายใหม่สามารถส่งแบบฟอร์มเพื่อขอสิทธิ์การเข้าถึงการซื้อจากธุรกิจของคุณได้ เมื่อลูกค้าส่งแบบฟอร์ม ระบบจะสร้างบริษัทพร้อมลูกค้าและตำแหน่งที่ตั้งที่เกี่ยวข้องในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณเพื่อการตรวจสอบ หากคุณได้เพิ่มช่องที่มีอยู่แล้ว ข้อมูลเหล่านั้นก็จะมีการอัปเดตโดยอัตโนมัติสำหรับบริษัทและลูกค้าด้วย
ตามค่าเริ่มต้น บริษัทที่สร้างผ่านแบบฟอร์มจะไม่สามารถทำการสั่งซื้อในร้านค้าออนไลน์ของคุณหรือเข้าถึงการกำหนดราคาแบบ B2B ได้จนกว่าคุณจะอนุมัติ คุณสามารถอนุมัติการส่งคำขอบัญชีผู้ใช้บริษัทใหม่ทั้งหมดได้โดยอัตโนมัติโดยใช้เทมเพลตอนุญาตคำสั่งซื้อสำหรับบริษัทที่สร้างโดยการร้องขอจากบัญชีผู้ใช้บริษัทใน Shopify Flow ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทมเพลต B2B สำหรับ Shopify Flow
คุณสามารถตรวจสอบคำขอบัญชีผู้ใช้บริษัทได้ในคอลัมน์การสั่งซื้อสินค้า และเลือกว่าจะอนุมัติบริษัทต่างๆ ในส่วนผู้ดูแล Shopify หรือไม่ คุณสามารถดูบันทึกการส่งแบบฟอร์มทั้งหมดได้โดยไปที่ เนื้อหา > เมตาอ็อบเจกต์ > เอนทรีล่าสุด ในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ
ขั้นตอนมีดังนี้
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า > บริษัท
คลิกแท็บการสั่งซื้อที่ไม่ได้รับอนุมัติ
คลิกบริษัทที่คุณต้องการตรวจสอบ
ในส่วนเมตาฟิลด์ ให้ตรวจสอบข้อมูลที่ผู้ติดต่อของบริษัทได้ส่งโดยใช้แบบฟอร์มของคุณ:
- หากต้องการปฏิเสธใบสมัคร ให้ลบบริษัทออก
- หากต้องการอนุมัติบริษัท ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- คลิก “จัดการสิทธิ์อนุญาต”
- เลือกตำแหน่งที่ตั้งและมอบหมายสิทธิ์อนุญาต
- คลิกถัดไป
- ตัวเลือกเสริม: เลือก “แจ้งให้ลูกค้าทราบว่าสามารถเริ่มสั่งซื้อแบบ B2B ได้” เพื่อส่งอีเมลไปยังผู้ติดต่อของบริษัท
ตัวเลือกเสริม: หากแบบฟอร์มของคุณมีช่องในระบบ คุณจะสามารถตรวจสอบข้อมูลที่ส่งจากช่องเหล่านั้นได้ในเมตาอ็อบเจกต์ดังนี้
- ในส่วนเมตาฟิลด์ ให้คลิกที่ช่องเวลาและวันที่สีเทาถัดจากการส่ง Shopify Forms
- คลิกเวลาและวันที่ที่มีการส่งแบบฟอร์มเพื่อดูช่องในระบบและการส่งแบบฟอร์มทั้งหมด
ร้านค้าธุรกิจแบบ B2B ที่จำกัดการขายและคำขอบัญชีผู้ใช้ของบริษัท
คุณไม่สามารถใช้คำขอบัญชีผู้ใช้ของบริษัทได้หากคุณมีร้านค้าแบบเฉพาะที่มีการจำกัดการขายและเปิดให้บริการเฉพาะลูกค้าธุรกิจแบบ B2B เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถลบการจำกัดการขายในร้านค้าและซ่อนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้ เพื่อให้มีเพียงลูกค้าขายส่งที่เข้าสู่ระบบเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ การดำเนินการนี้ทำให้คุณสามารถเพิ่มแบบฟอร์มในส่วนของร้านค้าออนไลน์ที่เปิดเผยต่อสาธารณะได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลใดๆ ที่คุณไม่ต้องการแบ่งปันต่อสาธารณะ
คุณสามารถซ่อนราคาสินค้า ปุ่มซื้อ และข้อมูลอื่นๆ เพื่อไม่ให้ลูกค้าที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบมองเห็นได้ โดยใช้โค้ด Liquid หรือตัวแก้ไขธีม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธีมที่คุณใช้ ก่อนจะปรับแต่งธีมของคุณ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้คัดลอกธีมของคุณเพื่อสร้างสำเนาข้อมูลสำรอง
ขั้นตอนมีดังนี้
- ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ร้านค้าออนไลน์ > ธีม
- ถัดไปจากธีมที่คุณต้องการแก้ไข ให้คลิก "ปรับแต่ง"
- ในบริบทเริ่มต้น ให้ใช้เมนูดรอปดาวน์เพื่อเลือกหน้าที่คุณต้องการซ่อนข้อมูล เช่น หน้าหลัก สินค้า หรือหน้าต่างๆ
- ค้นหาข้อมูลที่คุณต้องการซ่อน แล้วคลิกไอคอนรูปตาเพื่อซ่อนเนื้อหา
- ตัวเลือกเสริม: หากคุณขายสินค้าที่คุณต้องการซ่อนไม่ให้ลูกค้าที่ไม่รู้จักหรือลูกค้าใหม่เห็น แต่ให้ลูกค้าธุรกิจแบบ B2B ที่เข้าสู่ระบบสามารถเข้าดูได้ ให้ลบสินค้าดังกล่าวออกจากช่องทางการขายร้านค้าออนไลน์ หากคุณต้องการซ่อนสินค้าหลายรายการ ก็สามารถใช้การดำเนินการหลายรายการในครั้งเดียวได้
- เปลี่ยนมุมมองของคุณเป็นบริบท B2B จากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดยังเปิดให้ลูกค้าธุรกิจแบบ B2B ที่เข้าสู่ระบบสามารถเข้าดูได้