การสร้างและการจัดการบริษัทแบบ B2B

บริษัทใน Shopify เป็นตัวแทนของบริษัทที่คุณขายสินค้าให้กับธุรกิจแบบ B2B บริษัทมีตำแหน่งที่ตั้งได้หลายแห่ง แต่ละแห่งจะมีแค็ตตาล็อกแยกต่างหาก ข้อกำหนดการชำระเงิน ตัวเลือกการชำระเงิน และที่อยู่ที่จัดส่ง เมื่อลูกค้าที่เป็นธุรกิจแบบ B2B เข้าสู่ระบบร้านค้าของคุณ ลูกค้าจะเลือกตำแหน่งที่ตั้งที่ตนจะซื้อให้และได้รับการเสนอราคา ข้อกำหนดการชำระเงิน และการชำระเงินที่คุณได้มอบหมายให้กับตำแหน่งที่ตั้งบริษัทนั้น

หากต้องการจัดเก็บข้อมูลที่กำหนดเองเกี่ยวกับลูกค้า B2B ของคุณ คุณสามารถเพิ่มเมตาฟิลด์ไปยังบริษัทหรือตำแหน่งที่ตั้งได้ เมตาฟิลด์ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งฟังก์ชันการใช้งานและรูปลักษณ์ของร้านค้า Shopify ของคุณได้โดยการช่วยให้คุณสามารถบันทึกข้อมูลเฉพาะที่มักจะไม่ได้จัดเก็บในส่วนผู้ดูแล Shopify ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมตาฟิลด์

ข้อควรพิจารณาในการสร้างบริษัทและตำแหน่งที่ตั้งของบริษัท

ก่อนที่คุณจะสร้างบริษัทหรือที่ตำแหน่งที่ตั้งของบริษัท โปรดตรวจสอบข้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้

  • บริษัทสามารถมีตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทได้สูงสุด 10,000 แห่ง
  • บริษัทสามารถมีลูกค้าได้สูงสุด 10,000 ราย
  • ตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทสามารถมีแค็ตตาล็อกได้สูงสุด 25 รายการ
  • แต่ละตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทสามารถมีลูกค้าได้สูงสุด 50 ราย

สร้างบริษัท

คุณต้องใช้เพียงแค่ชื่อบริษัท เมื่อคุณสร้างบริษัทเป็นครั้งแรก โดยสามารถเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมได้ในภายหลัง

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า > บริษัท

  2. คลิก “เพิ่มบริษัท

  3. ป้อนชื่อบริษัท ชื่อนี้จะแสดงให้ลูกค้าเห็นเมื่อเข้าสู่ระบบ

  4. ป้อน ID บริษัท คุณสามารถใช้ ID ภายนอกที่มีอยู่ หรือสร้าง ID ที่ไม่ซ้ำกันได้

  5. เลือกผู้ติดต่อหลัก คุณสามารถเลือกลูกค้าจากโปรไฟล์ที่มีอยู่แล้วในร้านค้าของคุณหรือสร้างโปรไฟล์ลูกค้าใหม่ โดยโปรไฟล์ลูกค้าต้องมีที่อยู่อีเมลเพื่อใช้เป็นผู้ติดต่อหลัก

  6. ป้อนที่อยู่ที่จัดส่งและที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน

  7. เพิ่ม ID ตำแหน่งที่ตั้ง คุณสามารถเพิ่ม ID ภายนอกที่มีอยู่ หรือสร้าง ID ที่ไม่ซ้ำกันได้

  8. ในส่วน แค็ตตาล็อก ให้เลือกแค็ตตาล็อกที่จะมีผลบังคับใช้กับบริษัท

  9. ในส่วนข้อกำหนดในการชำระเงิน ให้เลือกข้อกำหนดในการชำระเงินสำหรับบริษัท

  10. ในส่วนการชำระเงิน ให้กําหนดค่าการตั้งค่าการชำระเงินของคุณ:

  11. ตัวเลือกเสริม: ในส่วนภาษี ให้เพิ่มข้อมูลภาษี:

    1. ในช่อง ID ภาษี ให้ป้อน ID ภาษีของบริษัท

    2. ในเมนูดรอปดาวน์การตั้งค่าภาษี ให้เลือกว่าจะเรียกเก็บภาษีหรือไม่: - หากต้องการเก็บภาษี ให้เลือกเก็บภาษี - หากไม่ต้องการเก็บภาษี ให้เลือกไม่ต้องเก็บภาษี - หากต้องการเก็บภาษียกเว้นการยกเว้นภาษีที่ใช้ได้ ให้เลือกเก็บภาษียกเว้นการยกเว้นภาษีที่ใช้ได้ จากนั้นในเมนูดรอปดาวน์การยกเว้นภาษี ให้เลือกการยกเว้นภาษี

    3. แล้วคลิกที่บันทึก

  12. ไม่บังคับ: ในส่วนเมตาฟิลด์ ให้เพิ่มข้อมูลสำหรับเมตาฟิลด์ใดๆ ที่คุณได้เพิ่ม

  13. แล้วคลิกที่บันทึก

เพิ่มตำแหน่งที่ตั้งไปยังบริษัทที่มีอยู่

คุณสามารถเพิ่มตำแหน่งที่ตั้งไปยังบริษัทที่มีอยู่ได้

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า > บริษัท

  2. เลือกบริษัทเพื่อเพิ่มตำแหน่งที่ตั้งใหม่ให้

  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้ง ให้คลิก “สร้างตำแหน่งที่ตั้งใหม่

  4. เลือกหนึ่งรายการต่อไปนี้:

    • หากต้องการคัดลอกที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน ผู้ติดต่อในตำแหน่งที่ตั้ง แค็ตตาล็อก และข้อกำหนดในการชำระเงินจากตำแหน่งที่ตั้งที่มีอยู่ ให้เลือก “คัดลอกตำแหน่งที่ตั้งที่มีอยู่
    • หากต้องการป้อนข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งด้วยตนเอง ให้เลือก ตำแหน่งที่ตั้งบริษัทใหม่
  5. ป้อนที่อยู่ที่จัดส่งและที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน

  6. เพิ่มชื่อตำแหน่งที่ตั้งและ ID ตำแหน่งที่ตั้ง

  7. เลือกผู้ติดต่อหลัก คุณสามารถเลือกลูกค้าจากโปรไฟล์ที่มีอยู่แล้วในร้านค้าของคุณหรือสร้างโปรไฟล์ลูกค้าใหม่ โดยโปรไฟล์ลูกค้าต้องมีที่อยู่อีเมลเพื่อใช้เป็นผู้ติดต่อหลัก

  8. เลือกสิทธิ์อนุญาตสำหรับผู้ติดต่อหลักจากรายการต่อไปนี้:

    • การสั่งซื้อเท่านั้น ลูกค้าสามารถดำเนินการสั่งซื้อสำหรับตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทและตรวจสอบรายการคำสั่งซื้อที่พวกเขาสั่งซื้อได้
    • ผู้ดูแลตำแหน่งที่ตั้ง ลูกค้าสามารถดำเนินการสั่งซื้อสำหรับตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทและตรวจสอบรายการคำสั่งซื้อที่ลูกค้าทั้งหมดสั่งซื้อสำหรับตำแหน่งที่ตั้งนั้นได้
  9. ในส่วนแค็ตตาล็อก ให้เลือกแค็ตตาล็อกเพื่อใช้กับตำแหน่งที่ตั้งบริษัท

  10. ในส่วนข้อกำหนดในการชำระเงิน ให้เลือกข้อกำหนดในการชำระเงินสำหรับตำแหน่งที่ตั้งของบริษัท

  11. ในส่วนการชำระเงิน ให้กําหนดค่าการตั้งค่าการชำระเงินของคุณ:

  12. ตัวเลือกเสริม: ในส่วนภาษี ให้เพิ่มข้อมูลภาษี:

    1. ในช่อง ID ภาษี ให้ป้อน ID ภาษีของบริษัท

    2. ในเมนูดรอปดาวน์การตั้งค่าภาษี ให้เลือกว่าจะเรียกเก็บภาษีหรือไม่: - หากต้องการเก็บภาษี ให้เลือกเก็บภาษี - หากไม่ต้องการเก็บภาษี ให้เลือกไม่ต้องเก็บภาษี - หากต้องการเก็บภาษียกเว้นการยกเว้นภาษีที่ใช้ได้ ให้เลือกเก็บภาษียกเว้นการยกเว้นภาษีที่ใช้ได้ จากนั้นในเมนูดรอปดาวน์การยกเว้นภาษี ให้เลือกการยกเว้นภาษี

    3. แล้วคลิกที่บันทึก

  13. ไม่บังคับ: ในส่วนเมตาฟิลด์ ให้เพิ่มข้อมูลสำหรับเมตาฟิลด์ใดๆ ที่คุณได้เพิ่ม

  14. แล้วคลิกที่บันทึก

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะ “” > “ลูกค้า

  2. แตะ “บริษัท

  3. แตะเพื่อเลือกบริษัท

  4. ในส่วน Locations ให้แตะที่ “เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง

  5. เลือกหนึ่งรายการต่อไปนี้:

    • หากต้องการคัดลอกที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน ผู้ติดต่อในตำแหน่งที่ตั้ง แค็ตตาล็อก และข้อกำหนดในการชำระเงินจากตำแหน่งที่ตั้งที่มีอยู่ ให้เลือก “คัดลอกตำแหน่งที่ตั้งที่มีอยู่
    • หากต้องการป้อนข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งด้วยตนเอง ให้เลือก ตำแหน่งที่ตั้งบริษัทใหม่
  6. ป้อนที่อยู่ที่จัดส่งและที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน

  7. เพิ่มชื่อตำแหน่งที่ตั้งและ ID ตำแหน่งที่ตั้ง

  8. เลือกผู้ติดต่อหลัก คุณสามารถเลือกโปรไฟล์ลูกค้าที่มีอยู่หรือสร้างโปรไฟล์ลูกค้าใหม่ได้ โปรไฟล์ลูกค้าต้องมีที่อยู่อีเมลเพื่อใช้เป็นผู้ติดต่อหลัก

  9. เลือกสิทธิ์อนุญาตที่คุณต้องการมอบหมายผู้ติดต่อหลัก:

    • การสั่งซื้อเท่านั้น: ลูกค้าสามารถทำการซื้อสำหรับตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทและตรวจสอบรายการคำสั่งซื้อที่พวกเขาสั่งซื้อได้
    • ผู้ดูแลตำแหน่งที่ตั้ง: ลูกค้าสามารถทำการซื้อสำหรับตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทและตรวจสอบรายการคำสั่งซื้อที่ลูกค้าทั้งหมดสั่งซื้อสำหรับตำแหน่งที่ตั้งนั้นได้
  10. ในส่วน แค็ตตาล็อก ให้เลือกแค็ตตาล็อกที่จะมีผลบังคับใช้กับบริษัท

  11. ในส่วนข้อกำหนดในการชำระเงิน ให้เลือกข้อกำหนดในการชำระเงินสำหรับตำแหน่งที่ตั้งของบริษัท

  12. ในส่วนการชำระเงิน ให้กําหนดค่าการตั้งค่าการชำระเงินของคุณ:

  13. ตัวเลือกเสริม: ในส่วนภาษี ให้เพิ่มข้อมูลภาษี:

    1. ในช่อง ID ภาษี ให้ป้อน ID ภาษีของบริษัท จากนั้นแตะที่ เสร็จสิ้น

    2. ในเมนูดรอปดาวน์การตั้งค่าภาษี ให้เลือกว่าจะเรียกเก็บภาษีหรือไม่: - หากต้องการเก็บภาษี ให้เลือกเก็บภาษี - หากไม่ต้องการเก็บภาษี ให้เลือกไม่ต้องเก็บภาษี - หากต้องการเก็บภาษียกเว้นการยกเว้นภาษีที่ใช้ได้ ให้เลือกเก็บภาษียกเว้นการยกเว้นภาษีที่ใช้ได้ จากนั้นในเมนูดรอปดาวน์การยกเว้นภาษี ให้เลือกการยกเว้นภาษี

    3. แตะบันทึก

  14. ไม่บังคับ: ในส่วนเมตาฟิลด์ ให้เพิ่มข้อมูลสำหรับเมตาฟิลด์ใดๆ ที่คุณได้เพิ่ม

  15. แตะบันทึก

Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะ “” > “ลูกค้า

  2. แตะ “บริษัท

  3. แตะเพื่อเลือกบริษัท

  4. ในส่วน Locations ให้แตะที่ “เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง

  5. เลือกหนึ่งรายการต่อไปนี้:

    • หากต้องการคัดลอกที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน ผู้ติดต่อในตำแหน่งที่ตั้ง แค็ตตาล็อก และข้อกำหนดในการชำระเงินจากตำแหน่งที่ตั้งที่มีอยู่ ให้เลือก “คัดลอกตำแหน่งที่ตั้งที่มีอยู่
    • หากต้องการป้อนข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งด้วยตนเอง ให้เลือก ตำแหน่งที่ตั้งบริษัทใหม่
  6. ป้อนที่อยู่ที่จัดส่งและที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน

  7. เพิ่มชื่อตำแหน่งที่ตั้งและ ID ตำแหน่งที่ตั้ง

  8. เลือกผู้ติดต่อหลัก คุณสามารถเลือกโปรไฟล์ลูกค้าที่มีอยู่หรือสร้างโปรไฟล์ลูกค้าใหม่ได้ โปรไฟล์ลูกค้าต้องมีที่อยู่อีเมลเพื่อใช้เป็นผู้ติดต่อหลัก

  9. เลือกสิทธิ์อนุญาตที่คุณต้องการมอบหมายผู้ติดต่อหลัก:

    • การสั่งซื้อเท่านั้น: ลูกค้าสามารถทำการซื้อสำหรับตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทและตรวจสอบรายการคำสั่งซื้อที่พวกเขาสั่งซื้อได้
    • ผู้ดูแลตำแหน่งที่ตั้ง: ลูกค้าสามารถทำการซื้อสำหรับตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทและตรวจสอบรายการคำสั่งซื้อที่ลูกค้าทั้งหมดสั่งซื้อสำหรับตำแหน่งที่ตั้งนั้นได้
  10. ในส่วน แค็ตตาล็อก ให้เลือกแค็ตตาล็อกที่จะมีผลบังคับใช้กับบริษัท

  11. ในส่วนข้อกำหนดในการชำระเงิน ให้เลือกข้อกำหนดในการชำระเงินสำหรับตำแหน่งที่ตั้งของบริษัท

  12. ในส่วนการชำระเงิน ให้กําหนดค่าการตั้งค่าการชำระเงินของคุณ:

  13. ตัวเลือกเสริม: ในส่วนภาษี ให้เพิ่มข้อมูลภาษี:

    1. ในช่อง ID ภาษี ให้ป้อน ID ภาษีของบริษัท จากนั้นแตะที่ เสร็จสิ้น

    2. ในเมนูดรอปดาวน์การตั้งค่าภาษี ให้เลือกว่าจะเรียกเก็บภาษีหรือไม่: - หากต้องการเก็บภาษี ให้เลือกเก็บภาษี - หากไม่ต้องการเก็บภาษี ให้เลือกไม่ต้องเก็บภาษี - หากต้องการเก็บภาษียกเว้นการยกเว้นภาษีที่ใช้ได้ ให้เลือกเก็บภาษียกเว้นการยกเว้นภาษีที่ใช้ได้ จากนั้นในเมนูดรอปดาวน์การยกเว้นภาษี ให้เลือกการยกเว้นภาษี

    3. แล้วแตะที่

  14. ไม่บังคับ: ในส่วนเมตาฟิลด์ ให้เพิ่มข้อมูลสำหรับเมตาฟิลด์ใดๆ ที่คุณได้เพิ่ม

  15. แล้วแตะที่

แก้ไขรายละเอียดของบริษัท

คุณสามารถเพิ่มหรืออัปเดตข้อมูลบริษัทหลังจากที่สร้างบริษัทแล้วได้ การเปลี่ยนแปลงที่ดำเนินการในหน้าบริษัทจะนำไปใช้กับตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมดของบริษัท แต่ข้อมูลบางอย่าง เช่น หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและการยกเว้นภาษี เป็นข้อมูลเฉพาะของแต่ละตำแหน่งที่ตั้งและต้องได้รับการอัปเดตในหน้าตำแหน่งที่ตั้ง

หากคุณจำเป็นต้องอัปเดตข้อมูลบริษัทหลายรายการในครั้งเดียว เช่น (ชื่อบริษัท) ให้ลองใช้แอปเครื่องมือแก้ไขหลายรายการในครั้งเดียวจากภายนอก

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า > บริษัท

  2. คลิกบริษัทที่คุณต้องการอัปเดต

  3. ทำการอัปเดตข้อมูลต่อไปนี้กับบริษัท:

    • แก้ไขชื่อบริษัทและ ID บริษัท:

      1. ในส่วนรายละเอียดบริษัท ให้คลิก จากนั้นคลิกแก้ไขรายละเอียดบริษัท
      2. ในช่องชื่อบริษัท และ ID บริษัท ให้อัปเดตรายละเอียดบริษัท
    • เพิ่มหรือลบแค็ตตาล็อกออกจากบริษัท:

      1. ในส่วนแค็ตตาล็อก ให้คลิก
      2. คลิกเพิ่มแค็ตตาล็อก หรือลบแค็ตตาล็อก
      3. เลือกหรือค้นหาแค็ตตาล็อกที่คุณต้องการเพิ่มหรือลบ
    • แก้ไขข้อกำหนดการชำระเงินให้กับบริษัท

      1. ในส่วนข้อกำหนดในการชำระเงิน ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ
      2. เลือกข้อกำหนดการชำระเงินจากเมนูดรอปดาวน์
      3. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการตั้งค่าเงินมัดจำสำหรับข้อกำหนดการชำระเงินของคุณ ให้เลือกต้องวางเงินมัดจำเมื่อสร้างคำสั่งซื้อผ่านขั้นตอนการชำระเงิน จากนั้นป้อนข้อกำหนดเงินมัดจำเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 20%
    • แก้ไขการตั้งค่าการชำระเงินให้กับบริษัท

      1. ตัวเลือกเสริม: ในส่วนที่อยู่ที่จัดส่ง ให้เลือกหรือยกเลิกการเลือกอนุญาตให้ลูกค้าจัดส่งไปยังที่อยู่ใดก็ได้หนึ่งครั้งเพื่ออัปเดตที่อยู่ที่จัดส่งแบบยืดหยุ่น
      2. ในส่วนการส่งคำสั่งซื้อ ให้เลือกส่งสินค้าโดยอัตโนมัติ หรือส่งคำสั่งซื้อทุกรายการเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินาำหรับการตรวจสอบเพื่ออัปเดตกฎการส่งสินค้า
    • เพิ่มหรือแก้ไขหมายเหตุเกี่ยวกับบริษัท:

      1. ในส่วนหมายเหตุ ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ
      2. เพิ่มหรือแก้ไขหมายเหตุ
  4. แล้วคลิกที่บันทึก

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะ “” > “ลูกค้า

  2. แตะ “บริษัท

  3. แตะบริษัทที่คุณต้องการอัปเดต

  4. ทำการอัปเดตข้อมูลต่อไปนี้กับบริษัท:

    • แก้ไขชื่อบริษัทและ ID บริษัท:

      1. ในส่วนรายละเอียดบริษัท ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
      2. ในช่องชื่อบริษัท และ ID บริษัท ให้อัปเดตรายละเอียดบริษัท
    • เพิ่มหรือลบแค็ตตาล็อกออกจากบริษัท:

      1. ในส่วนแค็ตตาล็อก ให้แตะ ...
      2. แตะเพิ่มแค็ตตาล็อก หรือลบแค็ตตาล็อก
      3. เลือกหรือค้นหาแค็ตตาล็อกที่คุณต้องการเพิ่มหรือลบ
    • แก้ไขข้อกำหนดการชำระเงินให้กับบริษัท

      1. ในส่วนข้อกำหนดในการชำระเงิน ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
      2. เลือกข้อกำหนดการชำระเงินจากเมนูดรอปดาวน์
      3. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการตั้งค่าเงินมัดจำสำหรับข้อกำหนดการชำระเงินของคุณ ให้เลือกต้องวางเงินมัดจำเมื่อสร้างคำสั่งซื้อผ่านขั้นตอนการชำระเงิน จากนั้นป้อนข้อกำหนดเงินมัดจำเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 20%
    • แก้ไขการตั้งค่าการชำระเงินให้กับบริษัท

      1. ตัวเลือกเสริม: ในส่วนที่อยู่ที่จัดส่ง ให้เลือกหรือยกเลิกการเลือกอนุญาตให้ลูกค้าจัดส่งไปยังที่อยู่ใดก็ได้หนึ่งครั้งเพื่ออัปเดตที่อยู่ที่จัดส่งแบบยืดหยุ่น
      2. ในส่วนการส่งคำสั่งซื้อ ให้เลือกส่งสินค้าโดยอัตโนมัติ หรือส่งคำสั่งซื้อทุกรายการเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินาำหรับการตรวจสอบเพื่ออัปเดตกฎการส่งสินค้า
    • เพิ่มหรือแก้ไขหมายเหตุเกี่ยวกับบริษัท:

      1. ในส่วนหมายเหตุ ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
      2. เพิ่มหรือแก้ไขหมายเหตุ
  5. แตะบันทึก

Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะ “” > “ลูกค้า

  2. แตะ “บริษัท

  3. แตะบริษัทที่คุณต้องการอัปเดต

  4. ทำการอัปเดตข้อมูลต่อไปนี้กับบริษัท:

    • แก้ไขชื่อบริษัทและ ID บริษัท:

      1. ในส่วนรายละเอียดบริษัท ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
      2. ในช่องชื่อบริษัท และ ID บริษัท ให้อัปเดตรายละเอียดบริษัท
    • เพิ่มหรือลบแค็ตตาล็อกออกจากบริษัท:

      1. ในส่วนแค็ตตาล็อก ให้แตะ ...
      2. แตะเพิ่มแค็ตตาล็อก หรือลบแค็ตตาล็อก
      3. เลือกหรือค้นหาแค็ตตาล็อกที่คุณต้องการเพิ่มหรือลบ
    • แก้ไขข้อกำหนดการชำระเงินให้กับบริษัท

      1. ในส่วนข้อกำหนดในการชำระเงิน ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
      2. เลือกข้อกำหนดการชำระเงินจากเมนูดรอปดาวน์
      3. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการตั้งค่าเงินมัดจำสำหรับข้อกำหนดการชำระเงินของคุณ ให้เลือกต้องวางเงินมัดจำเมื่อสร้างคำสั่งซื้อผ่านขั้นตอนการชำระเงิน จากนั้นป้อนข้อกำหนดเงินมัดจำเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 20%
    • แก้ไขการตั้งค่าการชำระเงินให้กับบริษัท

      1. ตัวเลือกเสริม: ในส่วนที่อยู่ที่จัดส่ง ให้เลือกหรือยกเลิกการเลือกอนุญาตให้ลูกค้าจัดส่งไปยังที่อยู่ใดก็ได้หนึ่งครั้งเพื่ออัปเดตที่อยู่ที่จัดส่งแบบยืดหยุ่น
      2. ในส่วนการส่งคำสั่งซื้อ ให้เลือกส่งสินค้าโดยอัตโนมัติ หรือส่งคำสั่งซื้อทุกรายการเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินาำหรับการตรวจสอบเพื่ออัปเดตกฎการส่งสินค้า
    • เพิ่มหรือแก้ไขหมายเหตุเกี่ยวกับบริษัท:

      1. ในส่วนหมายเหตุ ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
      2. เพิ่มหรือแก้ไขหมายเหตุ
  5. แตะบันทึก

แก้ไขรายละเอียดรายละเอียดของตำแหน่งที่ตั้งของบริษัท

คุณสามารถเพิ่มหรืออัปเดตข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งได้หลังจากสร้างตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่ดำเนินการในหน้าบริษัทจะนำไปใช้กับตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมดของบริษัท แต่ข้อมูลบางอย่าง เช่น เลขประจำตัวผู้เสียภาษีและการยกเว้นภาษี เป็นข้อมูลเฉพาะของแต่ละตำแหน่งที่ตั้งและต้องได้รับการอัปเดตในหน้าตำแหน่งที่ตั้ง

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า > บริษัท

  2. คลิกที่บริษัทที่มีตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการอัปเดต

  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้ง ให้คลิกที่ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการอัปเดต

  4. ในส่วนรายละเอียดตำแหน่งที่ตั้งบริษัท ให้คลิก จากนั้นให้ทำการอัปเดตต่อไปนี้ในตำแหน่งที่ตั้งบริษัท:

    • หากต้องการแก้ไขชื่อตำแหน่งที่ตั้งบริษัทและ ID บริษัท ให้คลิกแก้ไขรายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง
    • หากต้องการแก้ไขที่อยู่การจัดส่งจากตำแหน่งที่ตั้งบริษัท ให้คลิกแก้ไขที่อยู่การจัดส่ง
    • หากต้องการแก้ไขที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงินจากตำแหน่งที่ตั้งบริษัท ให้คลิกแก้ไขที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน
    • หากต้องการแก้ไข ID ภาษีของตำแหน่งที่ตั้งบริษัท ให้คลิกแก้ไข ID ภาษี
    • หากต้องการแก้ไขการตั้งค่าการเก็บภาษีและการยกเว้นภาษีในตำแหน่งที่ตั้งบริษัท ให้คลิกจัดการการตั้งค่าภาษี
  5. แล้วคลิกที่บันทึก

  6. ในส่วนการปรับแต่ง ให้ทำการอัปเดตต่อไปนี้ในตำแหน่งที่ตั้งบริษัท:

    • เพิ่มหรือลบแค็ตตาล็อกออกจากที่ตั้งบริษัท:

      1. ในส่วนแค็ตตาล็อก ให้คลิก
      2. คลิกเพิ่มแค็ตตาล็อก หรือลบแค็ตตาล็อก
      3. เลือกหรือค้นหาแค็ตตาล็อกที่คุณต้องการเพิ่มหรือลบ
    • แก้ไขข้อกำหนดการชำระเงินสำหรับตำแหน่งที่ตั้งบริษัท:

      1. ในส่วนข้อกำหนดในการชำระเงิน ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ
      2. เลือกข้อกำหนดการชำระเงินจากเมนูดรอปดาวน์
      3. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการตั้งค่าเงินมัดจำสำหรับข้อกำหนดการชำระเงินของคุณ ให้เลือกต้องวางเงินมัดจำเมื่อสร้างคำสั่งซื้อผ่านขั้นตอนการชำระเงิน จากนั้นป้อนข้อกำหนดเงินมัดจำเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 20%
    • แก้ไขการตั้งค่าการชำระเงินให้กับบริษัท

      1. ตัวเลือกเสริม: ในส่วนที่อยู่ที่จัดส่ง ให้เลือกหรือยกเลิกการเลือกอนุญาตให้ลูกค้าจัดส่งไปยังที่อยู่ใดก็ได้หนึ่งครั้งเพื่ออัปเดตที่อยู่ที่จัดส่งแบบยืดหยุ่น
      2. ในส่วนการส่งคำสั่งซื้อ ให้เลือกส่งสินค้าโดยอัตโนมัติ หรือส่งคำสั่งซื้อทุกรายการเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินาำหรับการตรวจสอบเพื่ออัปเดตกฎการส่งสินค้า
    • เพิ่มหรือแก้ไขหมายเหตุเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งบริษัท:

      1. ในส่วนหมายเหตุ ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ
      2. เพิ่มหรือแก้ไขหมายเหตุ
  7. แล้วคลิกที่บันทึก

การกรองเมตาฟิลด์บริษัทและตำแหน่งที่ตั้งบริษัท

คุณสามารถกรองและค้นหาเมตาฟิลด์บริษัทและตำแหน่งที่ตั้งบริษัทได้ในหน้าดัชนีตำแหน่งที่ตั้งบริษัทและบริษัท ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกรองเมตาฟิลด์บริษัทและตำแหน่งที่ตั้งบริษัท

ลบบริษัท

เมื่อคุณลบบริษัทออก ระบบจะลบตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมดของบริษัทนั้นออก ลูกค้าทั้งหมดจะถูกลบออกจากบริษัท แต่ยังคงอยู่ในรายชื่อลูกค้าของคุณ เว้นแต่คุณจะลบออก ทั้งนี้ คุณไม่สามารถลบบริษัทได้ หากมีคำสั่งซื้อค้างส่งของบริษัทนั้นอยู่

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า > บริษัท

  2. คลิกบริษัทที่คุณต้องการลบ

  3. คลิก “ลบบริษัท

  4. ตรวจสอบข้อมูลการลบ จากนั้นคลิกลบบริษัท

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ลูกค้า
  2. แตะ “บริษัท
  3. แตะบริษัทที่คุณต้องการลบ
  4. แตะที่ลบบริษัท
  5. ตรวจสอบข้อมูลการลบ จากนั้นแตะลบบริษัท
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม จากนั้นจึงแตะที่ ลูกค้า
  2. แตะ “บริษัท
  3. แตะบริษัทที่คุณต้องการลบ
  4. แตะที่ลบบริษัท
  5. ตรวจสอบข้อมูลการลบ จากนั้นแตะลบบริษัท

ลบตำแหน่งที่ตั้งออกจากบริษัท

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า > บริษัท

  2. คลิกบริษัทที่คุณต้องการลบตำแหน่งที่ตั้งบริษัทออก

  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้ง ให้คลิกที่ตำแหน่งที่ตั้งบริษัทที่คุณต้องการลบ

  4. คลิก “ลบตำแหน่งที่ตั้ง” จากนั้นคลิก “ลบตำแหน่งที่ตั้ง

การอนุญาตให้ลูกค้า B2B ป้อนที่อยู่ที่จัดส่งแบบยืดหยุ่นได้ในหน้าการชำระเงิน

คุณสามารถกำหนดได้ว่าจะให้ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าสามารถป้อนที่อยู่ในการรับสินค้าแบบครั้งเดียวใหม่ในขั้นตอนการชำระเงินสำหรับตำแหน่งที่ตั้งแต่ละแห่งของบริษัทได้หรือไม่ การตั้งค่านี้จะปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้น เมื่อคุณสร้างบริษัทหรือตำแหน่งที่ตั้งบริษัทใหม่ คุณสามารถเปิดใช้งานตัวเลือกนี้ในเวลาเดียวกันได้

คุณสามารถปิดใช้งานตัวเลือกนี้สำหรับบริษัทหรือตำแหน่งที่ตั้งบริษัทเมื่อใดก็ได้ โดยกลับไปยังการตั้งค่าการชำระเงินและยกเลิกการเลือกตัวเลือกนั้น

ที่อยู่ที่จัดส่งที่ลูกค้า B2B ให้ไว้ในขั้นตอนการชำระเงินจะมีผลกับคำสั่งซื้อเฉพาะที่เพิ่มเข้ามาเท่านั้น โดยระบบจะไม่จัดเก็บไว้เพื่อใช้งานในอนาคต หลังจากที่คุณยอมรับแล้ว ลูกค้า B2B จะไม่สามารถแก้ไขที่อยู่ที่จัดส่งของคำสั่งซื้อได้

การอนุญาตให้ใช้ที่อยู่ที่จัดส่งแบบยืดหยุ่นกับตำแหน่งที่ตั้งบริษัท

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า > บริษัท

  2. คลิกบริษัทที่คุณต้องการอนุญาตให้ใช้ที่อยู่ที่จัดส่งแบบยืดหยุ่น

  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้ง ให้คลิกที่ตำแหน่งที่ตั้งบริษัทที่คุณต้องการอนุญาตให้ลูกค้า B2B ป้อนที่อยู่การจัดส่งในขั้นตอนการซื้อสินค้า

  4. ในส่วนการชำระเงิน ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ

  5. เลือกอนุญาตให้ลูกค้าจัดส่งไปยังที่อยู่ใดก็ได้หนึ่งครั้ง

  6. แล้วคลิกที่บันทึก

การอนุญาตให้ใช้ที่อยู่ที่จัดส่งแบบยืดหยุ่นกับบริษัท

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า > บริษัท

  2. คลิกบริษัทที่คุณต้องการอนุญาตให้ใช้ที่อยู่ที่จัดส่งแบบยืดหยุ่น

  3. ในส่วนการชำระเงิน ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ

  4. เลือกอนุญาตให้ลูกค้าจัดส่งไปยังที่อยู่ใดก็ได้หนึ่งครั้ง

  5. แล้วคลิกที่บันทึก

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะ “” > “ลูกค้า
  2. แตะ “บริษัท
  3. แตะบริษัทที่คุณต้องการอนุญาตให้ใช้ที่อยู่ที่จัดส่งแบบยืดหยุ่น
  4. ในส่วนการชำระเงิน ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
  5. เลือกอนุญาตให้ลูกค้าจัดส่งไปยังที่อยู่ใดก็ได้หนึ่งครั้ง
  6. แตะบันทึก
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะ > ลูกค้า
  2. แตะ “บริษัท
  3. แตะบริษัทที่คุณต้องการอนุญาตให้ใช้ที่อยู่ที่จัดส่งแบบยืดหยุ่น
  4. ในส่วนการชำระเงิน ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
  5. เลือกอนุญาตให้ลูกค้าจัดส่งไปยังที่อยู่ใดก็ได้หนึ่งครั้ง
  6. แตะบันทึก
ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ