การสร้างรายงานยอดขาย B2B
คุณสามารถสร้างรายงาน B2B ของคุณเองได้โดยใช้การสำรวจข้อมูลที่กำหนดเองใน Shopify Analytics ใหม่ คุณสามารถปรับแต่งแต่ละรายงานให้ตรงตามความต้องการเฉพาะได้
ในบทความนี้ คุณจะพบตัวอย่างรายงาน B2B ทั่วไปที่คุณอาจต้องการสร้าง แต่ละตัวอย่างจะแสดงคําอธิบายวิธีสร้างการสำรวจด้วยตนเองโดยใช้แผงการกำหนดค่า หรือเรียกใช้คำค้นหา ShopifyQL
ในหน้านี้
มิติข้อมูลและตัวกรอง B2B ที่มีในรายงาน
เมื่อสร้างการสำรวจ คุณสามารถใช้ส่วนประกอบการกำหนดค่าข้อมูลเพื่อปรับแต่งรายงานของคุณสำหรับธุรกิจแบบ B2B ได้ คุณสามารถใช้ใบจ่าหน้า B2B ต่อไปนี้เป็นมิติข้อมูลของรายงานหรือตัวกรองสำหรับตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับยอดขาย เช่นยอดขายสุทธิ หรือยอดการคืนสินค้าได้
- เป็นคำสั่งซื้อแบบ B2B
- ID บริษัท
- ID ตำแหน่งที่ตั้งบริษัท
- ชื่อตำแหน่งที่ตั้งบริษัท
- ชื่อบริษัท
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการสร้างรายงานยอดขายที่แสดงเฉพาะข้อมูลจากคำสั่งซื้อแบบ B2B คุณสามารถเพิ่มตัวกรอง เป็นคำสั่งซื้อแบบ B2B > ใช่ การดำเนินการนี้จะลบคำสั่งซื้อที่ไม่ใช่ B2B ทั้งหมดออกจากข้อมูลของคุณ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมิติข้อมูลและตัวกรองในแผงการกำหนดค่าของตัววิเคราะห์ข้อมูลแบบใหม่ของ Shopify
ตัวอย่าง: สร้างรายงานยอดขายตามช่วงเวลาโดยเปรียบเทียบยอดขาย B2B และ D2C
คุณสามารถสร้างรายงานยอดขายที่แสดงยอดขายสุทธิตามช่วงเวลาของยอดขายทั้งแบบ B2B และยอดขายจากการจำหน่ายให้ผู้บริโภคโดยตรง (D2C) ได้ รายงานนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อคุณมีร้านค้าแบบผสม เนื่องจากช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบยอดขายจากลูกค้า 2 ประเภทที่แตกต่างกันภายในกรอบเวลาเดียวกันได้ในรายงานฉบับเดียว
ในตัวอย่างนี้ ระบบจะแสดงยอดขายสุทธิในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถเลือกให้ระบบแสดงยอดขายรวมแทนยอดขายสุทธิ หรือแบ่งกรอบเวลาเป็นช่วงเวลาตามสัปดาห์หรือวันแทนเดือนได้อีกด้วย
ขั้นตอนมีดังนี้
Using configuration panel
จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ตัววิเคราะห์ข้อมูล > รายงาน
คลิกการสำรวจใหม่
ในแผงการกำหนดค่า ให้เลือกข้อมูลรายงานของคุณดังนี้
ในเมนูตัวชี้วัด ให้คลิก ⊕ และเลือกยอดขายสุทธิ
ในเมนูมิติข้อมูล ให้คลิก ⊕ เพื่อเพิ่มมิติข้อมูลต่อไปนี้ตามลำดับ - เป็นคำสั่งซื้อแบบ B2B - เดือน
ในเมนูตัวกรอง ให้คลิกค่าช่วงวันที่แล้วตั้งเป็น 12 เดือนที่ผ่านมา จากนั้นคลิกใช้
ตัวเลือกเสริม: เพิ่มตัวชี้วัด มิติข้อมูล การเปรียบเทียบ และตัวกรองเพิ่มเติม เพื่อแสดงข้อมูลอื่นๆ ที่คุณต้องการ หรือคลิกที่เมนูการแสดงภาพเพื่อเลือกการแสดงภาพข้อมูลของคุณในแบบอื่น
หลังจากที่คุณสร้างรายงานแล้ว ให้คลิกบันทึก
ในกล่องโต้ตอบบันทึกรายงาน ให้ตั้งชื่อรายงานแล้วคลิกบันทึก
Using ShopifyQL
จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ตัววิเคราะห์ข้อมูล > รายงาน
คลิกการสำรวจใหม่
คัดลอกคำค้นหาต่อไปนี้แล้ววางในแผงเครื่องมือแก้ไขคำค้นหา ShopifyQL
FROM sales
SHOW net_sales
GROUP BY is_b2b_order, month
TIMESERIES MONTH
WITH TOTALS, GROUP_TOTALS
SINCE startOfMonth(-12m)
UNTIL endOfMonth(-1m)
ORDER BY net_sales__is_b2b_order_totals DESC, month ASC, net_sales DESC, is_b2b_order ASC
LIMIT 1000
VISUALIZE net_sales
- ตัวเลือกเสริม: ปรับแต่งคำค้นหา ShopifyQL เพื่อปรับแต่งข้อมูลที่จะใส่ในรายงาน
- คลิก ▹เรียกใช้
- หลังจากที่คุณสร้างรายงานแล้ว ให้คลิกบันทึก
- ในกล่องโต้ตอบบันทึกรายงาน ให้ตั้งชื่อรายงานแล้วคลิกบันทึก
ตัวอย่าง: สร้างรายงานยอดขายของลูกค้า B2B และตำแหน่งที่ตั้งที่มียอดขายสูงสุด
คุณสามารถสร้างรายงานยอดขายที่แสดงยอดขายสุทธิจากลูกค้า B2B ของคุณจากมากไปหาน้อย โดยรายงานจะแบ่งกลุ่มตามชื่อและตำแหน่งที่ตั้งของบริษัท ดังนั้นบริษัทที่มียอดขายสูงสุดของคุณจะแสดงเป็นอันดับแรกในรายการ และตำแหน่งที่ตั้งที่มียอดขายสูงสุดของแต่ละบริษัทก็จะแสดงเป็นอันดับแรกในรายการเช่นกัน นอกจากนี้ รายงานยังกรองยอดขายทั้งหมดจากลูกค้าที่ไม่ใช่ B2B ออกอีกด้วย
ในตัวอย่างนี้ ระบบจะแสดงยอดขายสุทธิในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถเลือกให้ระบบแสดงยอดขายรวมแทนยอดขายสุทธิ หรือแบ่งกรอบเวลาเป็นช่วงเวลาตามสัปดาห์หรือวันแทนเดือนได้อีกด้วย นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกที่จะแยกมิติข้อมูลของชื่อตำแหน่งที่ตั้งบริษัททั้งหมดออกได้ หากรายงานแสดงข้อมูลแยกย่อยของยอดขายตามตำแหน่งที่ตั้งบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ
ขั้นตอนมีดังนี้
Using configuration panel
จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ตัววิเคราะห์ข้อมูล > รายงาน
คลิกการสำรวจใหม่
ในแผงการกําหนดค่า ให้เลือกข้อมูลรายงานของคุณด้วยตนเอง ดังนี้
ในเมนูตัวชี้วัด ให้คลิก ⊕ และเลือกยอดขายสุทธิ
ในเมนูมิติข้อมูล ให้คลิก ⊕ เพื่อเพิ่มมิติข้อมูลต่อไปนี้ตามลำดับ - ชื่อบริษัท - ชื่อตำแหน่งที่ตั้งบริษัท
ในเมนูตัวกรอง ให้กำหนดค่าการตั้งค่าต่อไปนี้ - ให้คลิกค่าช่วงวันที่แล้วตั้งเป็น 12 เดือนที่ผ่านมา จากนั้นคลิกใช้ - คลิก ⊕ และเลือกเป็นคำสั่งซื้อ B2B ในตัวกรองใหม่นี้ ให้คลิกใช่
ตัวเลือกเสริม: เพิ่มตัวชี้วัด มิติข้อมูล การเปรียบเทียบ และตัวกรองเพิ่มเติม เพื่อแสดงข้อมูลอื่นๆ ที่คุณต้องการ หรือคลิกที่เมนูการแสดงภาพเพื่อเลือกการแสดงภาพข้อมูลของคุณในแบบอื่น
หลังจากที่คุณสร้างรายงานแล้ว ให้คลิกบันทึก
ในกล่องโต้ตอบบันทึกรายงาน ให้ตั้งชื่อรายงานแล้วคลิกบันทึก
Using ShopifyQL
จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ตัววิเคราะห์ข้อมูล > รายงาน
คลิกการสำรวจใหม่
คัดลอกคำค้นหาต่อไปนี้แล้ววางในแผงเครื่องมือแก้ไขคำค้นหา ShopifyQL
FROM sales
SHOW net_sales
WHERE is_b2b_order = true
GROUP BY company_name, company_location_name
WITH TOTALS, GROUP_TOTALS
SINCE startOfMonth(-12m)
UNTIL endOfMonth(-1m)
ORDER BY net_sales__company_name_totals DESC, net_sales DESC, company_name ASC, company_location_name ASC
LIMIT 1000
VISUALIZE net_sales
- ตัวเลือกเสริม: ปรับแต่งคำค้นหา ShopifyQL เพื่อปรับแต่งข้อมูลที่จะใส่ในรายงาน
- คลิก ▹เรียกใช้
- หลังจากที่คุณสร้างรายงานแล้ว ให้คลิกบันทึก
- ในกล่องโต้ตอบบันทึกรายงาน ให้ตั้งชื่อรายงานแล้วคลิกบันทึก