ตำแหน่งที่ตั้ง

ตำแหน่งที่ตั้งเป็นสถานที่จริงหรือแอปซึ่งคุณทำกิจกรรมใดๆ ต่อไปนี้:

  • ขายสินค้า
  • จัดส่งหรือจัดการสินค้า
  • สต็อกสินค้าคงคลัง

คุณสามารถตั้งค่าหลายตำแหน่งที่ตั้งในร้านค้า Shopify ของคุณเพื่อให้คุณติดตามสินค้าคงคลังและจัดการคำสั่งซื้อได้ที่ตำแหน่งที่ตั้งต่างๆ ของคุณ ตำแหน่งที่ตั้งของคุณสามารถเป็นร้านค้าปลีก คลังสินค้า ร้านป๊อปอัป ผู้ดรอปชิป หรือสถานที่ใดๆ ที่คุณจัดการหรือสต็อกสินค้าคงคลังไว้ การใช้ฟีเจอร์หลายตำแหน่งที่ตั้งจะทำให้คุณทราบถึงข้อมูลสินค้าคงคลังสำหรับธุรกิจของคุณได้อย่างดียิ่งขึ้น

เพื่อให้แน่ใจว่าปริมาณสินค้าคงคลังของคุณถูกต้องแม่นยำ ระบบจะกำหนดคำสั่งซื้อออนไลน์และการขายที่หน้าร้านไปยังตำแหน่งที่ตั้งต่างๆ หากสินค้าคงคลังส่วนหนึ่งของคุณหมดสต็อก แต่มีในสต็อกที่ตำแหน่งที่ตั้งอื่น คุณสามารถใช้ Shopify ในการแยกคำสั่งซื้อนั้นเพื่อให้จัดการจากหลายตำแหน่งที่ตั้งได้

หากคุณทำการขายจากตำแหน่งที่ตั้งจริงโดยใช้แอป Shopify POS คุณจะสามารถเพิ่มตำแหน่งที่ตั้งไปที่อุปกรณ์ช่วยขายเพื่อติดตามสินค้าคงคลังของคุณได้อย่างถูกต้อง

จำนวนตำแหน่งที่ตั้งสูงสุดที่คุณสามารถมีได้นั้นขึ้นอยู่กับแผนที่คุณใช้ ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณปิดใช้งาน จะไม่นับรวมอยู่ในขีดจำกัดตำแหน่งที่ตั้งของคุณ แอปที่สต็อกสินค้าคงคลังหรือจัดการคำสั่งซื้อสำหรับคุณถือว่าเป็นตำแหน่งที่ตั้ง แต่ไม่นับรวมกับขีดจำกัดเหล่านั้น เมื่อคุณเพิ่มแอปดังกล่าวไปยังร้านค้าของคุณ ระบบจะเพิ่มแอปดังกล่าวเป็นตำแหน่งที่ตั้งให้โดยอัตโนมัติ

หากคุณมีแอปแบบกำหนดเองที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อร้านค้าของคุณโดยเฉพาะ คุณอาจต้องอัปเดตแอปดังกล่าวเพื่อใช้การติดตามสินค้าคงคลังสำหรับหลายตำแหน่งที่ตั้ง ผู้พัฒนาสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโอนย้ายเพื่อรองรับหลายตำแหน่งที่ตั้งได้

การตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้ง

คุณสามารถเพิ่ม ปิดใช้งาน เปิดใช้งานอีกครั้ง และลบที่ตั้งของคุณได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถดู กรอง จัดเรียง และค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของคุณใน การตั้งค่า > ตำแหน่งที่ตั้ง > ตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด

จำนวนตำแหน่งที่ตั้งสูงสุดที่คุณสามารถมีได้นั้นขึ้นอยู่กับแผนการสมัครใช้งาน Shopify ของร้านค้าของคุณ

ขีดจํากัดจำนวนตำแหน่งที่ตั้ง

จํานวนสูงสุดของตำแหน่งที่ตั้งที่คุณสามารถมีได้นั้นขึ้นอยู่กับแผนการสมัครใช้งาน Shopify ของร้านค้าคุณ หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนตำแหน่งที่ตั้งที่ร้านค้าของคุณสามารถมีได้ ให้ตรวจสอบรายการดังต่อไปนี้

  • Starter: 2 แห่ง
  • Basic: 10 แห่ง
  • Shopify: 10 แห่ง
  • Advanced: 10 แห่ง
  • Shopify Plus: 200 แห่ง

ที่ตั้งที่คุณปิดใช้งานจะไม่นับรวมในขีดจํากัดของตำแหน่งที่ตั้งของคุณ โดยคุณสามารถค้นหาขีดจํากัดของตำแหน่งที่ตั้งรวมถึงปริมาณที่คุณใช้ไปแล้วได้ในหน้าการตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้ง

หากคุณใช้แอปที่สต็อกสินค้าคงคลังตามจริงให้กับคุณ แอปเหล่านั้นจะถือเป็นตำแหน่งที่ตั้ง แอปสินค้าคงคลัง ได้แก่ แอปการดรอปชิป บริการโลจิสติกส์โดยบุคคลภายนอก และบริการจัดการคำสั่งซื้อที่กำหนดเอง ตัวอย่างเช่น แอปหนึ่งๆ อาจเป็นคลังสินค้าที่จัดการคำสั่งซื้อในนามของคุณ แอปตำแหน่งที่ตั้งจะแสดงอยู่ในการตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้งในส่วนของแอปและตำแหน่งที่ตั้งสำหรับจัดการคำสั่งซื้อแบบกำหนดเอง แม้ว่าแอปเหล่านี้จะถือเป็นตำแหน่งที่ตั้ง แต่จะไม่นับรวมในขีดจำกัดตำแหน่งที่ตั้งของคุณ

แอปการจัดการคำสั่งซื้อบางแอปอนุญาตให้มีสินค้าคงคลังที่มีการจัดการหลายรายการ เพื่อที่คุณจะสามารถจัดการสินค้าคงคลังบางรายการในที่ตั้งร้านค้าได้ ขณะที่สินค้าคงคลังบางรายการได้รับการจัดการโดยแอปการจัดการคำสั่งซื้อ หากคุณจัดการสินค้าคงคลังของสินค้าชิ้นหนึ่งโดยใช้แอปการจัดการคำสั่งซื้อที่ไม่อนุญาตให้มีสินค้าคงคลังที่มีการจัดการหลายรายการ คุณก็ไม่สามารถสต็อกสินค้าในที่ตั้งร้านค้าของคุณได้

เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง

คุณสามารถเพิ่มตำแหน่งที่ตั้งได้ สินค้าคงคลังของคุณจะพร้อมจำหน่ายสำหรับการซื้อทางออนไลน์ตามค่าเริ่มต้นในแต่ละตำแหน่งที่ตั้งใหม่

หลังจากที่คุณสร้างตำแหน่งที่ตั้งแล้ว คุณสามารถเปิดใช้งานวิธีการจัดส่งสำหรับตำแหน่งที่ตั้งของคุณได้ ตำแหน่งที่ตั้งของคุณจะถูกเพิ่มไว้ด้านล่างสุดของรายการลำดับความสำคัญของการจัดการคำสั่งซื้อของคุณ

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > ตำแหน่งที่ตั้ง

  2. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้คลิกที่เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง

  3. ในส่วนรายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง ให้เพิ่มชื่อและที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้งของคุณ:

    1. ในส่วนชื่อ ให้คลิกเพิ่ม
    2. ป้อนชื่อตำแหน่งที่ตั้ง แล้วคลิกเสร็จสิ้น
    3. ในส่วนที่อยู่ ให้คลิกเพิ่ม
    4. ป้อนที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นคลิกบันทึก
  4. ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการให้สินค้าคงคลังของคุณพร้อมจำหน่ายสำหรับการซื้อทางออนไลน์ในตำแหน่งที่ตั้งนี้ ให้ปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ โดยตัวเลือกนี้จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับตำแหน่งที่ตั้งใหม่แต่ละแห่ง

  5. แล้วคลิกที่บันทึก

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า

  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง

  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง

  4. ในส่วนรายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง ให้เพิ่มชื่อและที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้งของคุณ:

    1. ในส่วนชื่อ ให้แตะเพิ่ม
    2. ป้อนชื่อตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะบันทึก
    3. ในส่วนที่อยู่ แตะที่เพิ่ม
    4. ป้อนที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะบันทึก
  5. ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการให้สินค้าคงคลังของคุณพร้อมจำหน่ายสำหรับการซื้อทางออนไลน์ในตำแหน่งที่ตั้งนี้ ให้ปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ โดยตัวเลือกนี้จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับตำแหน่งที่ตั้งใหม่แต่ละแห่ง

  6. แตะบันทึก

Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า

  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง

  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง

  4. ในส่วนรายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง ให้เพิ่มชื่อและที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้งของคุณ:

    1. ในส่วนชื่อ ให้แตะเพิ่ม
    2. ป้อนชื่อตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะบันทึก
    3. ในส่วนที่อยู่ แตะที่เพิ่ม
    4. ป้อนที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะบันทึก
  5. ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการให้สินค้าคงคลังของคุณพร้อมจำหน่ายสำหรับการซื้อทางออนไลน์ในตำแหน่งที่ตั้งนี้ ให้ปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ โดยตัวเลือกนี้จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับตำแหน่งที่ตั้งใหม่แต่ละแห่ง

  6. แตะบันทึก

ตรวจสอบยืนยันที่อยู่ตามตำแหน่งที่ตั้งของคุณ

เมื่อคุณป้อนที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้งแล้ว Google จะตรวจสอบยืนยันที่อยู่ดังกล่าวโดยอัตโนมัติ หากไม่สามารถตรวจสอบยืนยันที่อยู่ของคุณได้ ระบบจะแสดงที่อยู่ที่แนะนำ หากคุณมีตำแหน่งที่ตั้งที่มีที่อยู่ที่ไม่ได้ตรวจสอบยืนยัน อาจขัดขวางไม่ให้คุณเสนอการจัดส่งในพื้นที่ในร้านค้าของคุณหรือซื้อใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่งในส่วนผู้ดูแล Shopify ได้

หากไม่สามารถทำการตรวจสอบยืนยันที่อยู่ของคุณได้ ให้ตรวจสอบว่าบริการไปรษณีย์หรือ Google แนะนำรูปแบบที่อยู่อื่นหรือไม่ แล้วอัปเดตที่อยู่ของคุณให้เป็นรูปแบบใหม่ หากบริการไปรษณีย์ใช้รูปแบบที่อยู่ที่แตกต่างจาก Google คุณสามารถส่งการแก้ไขไปยัง Google ได้โดยตรง

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. ตรวจสอบยืนยันว่าบริการไปรษณีย์รู้จักที่อยู่ดังกล่าว เช่น Canada Post, DHL หรือ USPS
  2. ค้นหาที่อยู่ใน Google Maps เพื่อดูว่ารูปแบบที่อยู่ที่แนะนำนั้นถูกต้องหรือไม่
  3. หากรูปแบบที่อยู่ในขั้นตอนก่อนหน้านี้ไม่ตรงกัน คุณสามารถส่งการแก้ไขที่อยู่ไปยัง Google ได้

การกรองและการค้นหาตำแหน่งที่ตั้ง

ตามค่าเริ่มต้น ตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมดของคุณจะแสดงบนหน้าตำแหน่งที่ตั้ง คุณสามารถค้นหาตำแหน่งที่ตั้งโดยใช้คำสำคัญ หรือกรองตำแหน่งที่ตั้งตามสถานะตำแหน่งที่ตั้งและแผน POS ในรายการตำแหน่งที่ตั้งของคุณ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเรียงลำดับตำแหน่งที่ตั้งตามชื่อโดยเรียงจากน้อยไปมากหรือมากไปน้อยได้

ตรวจสอบตารางต่อไปนี้ของตัวกรองตำแหน่งที่ตั้งและตัวเลือกที่มี

ตัวกรองและตัวเลือกในรายการตำแหน่งที่ตั้ง
ตัวกรองตัวเลือกตัวกรอง
สถานะของตำแหน่งที่ตั้งใช้งาน ไม่ใช้งาน
แผน POSPro, Lite

ปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้ง

หากคุณไม่ต้องการขาย จัดการ หรือสต็อกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งอีกต่อไป คุณสามารถปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้งได้ เมื่อคุณปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้ง ระบบจะไม่แสดงตำแหน่งที่ตั้งดังกล่าวในตัวกรองและเมนูอีกต่อไป คุณจึงไม่สามารถจัดการหรือถ่ายโอนสินค้าคงคลังในตำแหน่งที่ตั้งนั้นได้อีก และไม่สามารถใช้ตำแหน่งที่ตั้งนั้นเป็นตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นได้ ทั้งนี้ คุณจำเป็นต้องมีตำแหน่งที่ตั้งที่เปิดใช้งานอยู่อย่างน้อยหนึ่งตำแหน่งเสมอ

ตำแหน่งที่ตั้งที่ปิดใช้งานจะไม่นับรวมอยู่ในขีดจำกัดตำแหน่งที่ตั้งของคุณ

คุณไม่สามารถปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้งที่เป็นแอปส่วนตัวหรือแอปจากภายนอกได้ แต่คุณจะต้องลบแอปออกแทน

คุณไม่สามารถปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนดไว้เป็นตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นในปัจจุบันของคุณได้ คุณจะต้องเปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นเป็นตำแหน่งที่ตั้งอื่นก่อน

ก่อนจะปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้ง คุณจำเป็นต้องดำเนินการตามคำสั่งซื้อและการถ่ายโอนทั้งหมดที่ได้กำหนดไปยังตำแหน่งนั้นให้เสร็จสิ้น แล้วจึงกำหนดใหม่ไปยังตำแหน่งที่ตั้งอื่น หากคุณไม่ทำเช่นนั้น ระบบจะแจ้งเตือนให้จัดการคำสั่งซื้อและมีการกำหนดปริมาณสินค้าคงคลังใหม่

หากตำแหน่งที่ตั้งนั้นอยู่ในแผนการสมัครใช้งาน POS Pro คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้งเป็นแผน POS Lite ก่อนจึงจะสามารถปิดใช้งานได้

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > ตำแหน่งที่ตั้ง

  2. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้คลิกตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการปิดใช้งาน

  3. คลิกปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้ง

  4. ตัวเลือกเสริม: หากตำแหน่งที่ตั้งของคุณมีการกำหนดสินค้าคงคลัง คำสั่งซื้อ หรือการถ่ายโอน ก็ให้เลือกตำแหน่งที่ตั้งอื่นที่จะย้ายสินค้าคงคลังไปยังตำแหน่งที่ตั้งดังกล่าว

  5. คลิกปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้งเพื่อยืนยัน

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการปิดใช้งาน
  4. แตะปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้ง
  5. ตัวเลือกเสริม: หากมีการกำหนดสินค้าคงคลัง คำสั่งซื้อ หรือการถ่ายโอนให้แก่ตำแหน่งที่ตั้งนี้ ก็ให้เลือกตำแหน่งที่ตั้งอื่นเพื่อย้ายสินค้าคงคลังไปยังตำแหน่งที่ตั้งดังกล่าว
  6. แตะปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้งเพื่อยืนยัน
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการปิดใช้งาน
  4. แตะปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้ง
  5. ตัวเลือกเสริม: หากมีการกำหนดสินค้าคงคลัง คำสั่งซื้อ หรือการถ่ายโอนให้แก่ตำแหน่งที่ตั้งนี้ ก็ให้เลือกตำแหน่งที่ตั้งอื่นเพื่อย้ายสินค้าคงคลังไปยังตำแหน่งที่ตั้งดังกล่าว
  6. แตะปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้งเพื่อยืนยัน

เปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้งอีกครั้ง

คุณสามารถเปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้งที่คุณปิดใช้งานไปก่อนหน้านี้ได้อีกครั้ง และยังคงจัดการคำสั่งซื้อจากตำแหน่งที่ตั้งนี้ต่อไปได้

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > ตำแหน่งที่ตั้ง

  2. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้คลิกที่ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการเปิดใช้งานอีกครั้ง

  3. คลิก “เปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้ง

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการเปิดใช้งานอีกครั้ง
  4. แตะ “เปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้ง
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการเปิดใช้งานอีกครั้ง
  4. แตะ “เปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้ง

ลบตำแหน่งที่ตั้ง

หากคุณไม่ต้องการขาย จัดการ หรือสต็อกสินค้าคงคลังในตำแหน่งที่ตั้งอีกต่อไป คุณสามารถลบตำแหน่งที่ตั้งนั้นแบบถาวรได้ มีการบันทึกข้อมูลย้อนหลังเพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงาน

ก่อนที่คุณจะสามารถลบที่ตั้งได้ คุณจะต้องปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้งนั้นก่อน

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > ตำแหน่งที่ตั้ง

  2. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้คลิกที่ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการลบ

  3. คลิกลบตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นคลิกลบตำแหน่งที่ตั้งเพื่อยืนยัน

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการลบ
  4. แตะลบตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะลบตำแหน่งที่ตั้งเพื่อยืนยัน
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการลบ
  4. แตะลบตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะลบตำแหน่งที่ตั้งเพื่อยืนยัน

การมอบหมายสินค้าคงคลังไปยังตำแหน่งที่ตั้ง

หากร้านค้าของคุณมีตำแหน่งที่ตั้งหลายตำแหน่ง สินค้าคงคลังในแต่ละตำแหน่งที่ตั้งนั้นจะปรากฏในหน้าสินค้าคงคลัง เครื่องมือแก้ไขสินค้าคงคลังหลายรายการในครั้งเดียว, CSV สินค้าคงคลัง และหน้ารายละเอียดของสินค้าแต่ละชิ้น

เมื่อคุณสร้างสินค้า สินค้าจะถูกสต็อกไว้ที่ตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมดตามค่าเริ่มต้น โดยคุณสามารถเปลี่ยนรายชื่อตำแหน่งที่ตั้งที่สต็อกสินค้าและปรับระดับสินค้าคงคลังของสินค้าในแต่ละตำแหน่งที่ตั้งได้ตามข้อจำกัดต่อไปนี้:

  • สินค้าจะต้องอยู่ในสต็อกในตำแหน่งที่ตั้งอย่างน้อย 1 แห่ง
  • คุณไม่สามารถเลิกสต็อกสินค้าจากตำแหน่งที่ตั้งที่มีคำสั่งซื้อที่ยังไม่จัดการ หรือที่มีการถ่ายโอนที่ต้องใช้สินค้าจากคลังนั้นได้

หากคุณต้องการอัปเดตปริมาณสินค้าคงคลังสำหรับสินค้าจำนวนมากในหลายตำแหน่งที่ตั้ง คุณสามารถใช้ไฟล์ CSV

เปลี่ยนรายการตำแหน่งที่ตั้งที่สต็อกสินค้า

หากคุณสต็อกสินค้าในที่ตั้งร้านค้ามากกว่าหนึ่งแห่ง คุณสามารถเลือกที่ตั้งที่คุณสต็อกสินค้าหรือตัวเลือกสินค้าได้จากหน้ารายละเอียด เมื่อคุณลบที่ตั้งออกจากรายการที่ตั้งสต็อกสินค้า ปริมาณสินค้าคงคลังในที่ตั้งนั้นจะถูกลบออก

หากคุณเปิดใช้การติดตามปริมาณสำหรับสินค้า คุณสามารถติดตามปริมาณสินค้าของแต่ละที่ตั้งที่มีสต็อกสินค้าได้

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่สินค้า

  2. คลิกสินค้าที่มีตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง

  3. หากสินค้ามีตัวเลือกสินค้า ให้เลือกตัวเลือกสินค้า

  4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกหลายตำแหน่งที่ตั้งในรายการสต็อกสินค้าคงคลังใน

  5. ในส่วนสินค้าคงคลัง ให้คลิก “แก้ไขที่ตั้ง

  6. เลือกตำแหน่งที่ตั้งที่สต็อกสินค้า และยกเลิกการเลือกตำแหน่งที่ตั้งที่ไม่ได้สต็อกสินค้า

  7. แล้วคลิกที่บันทึก

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้ไปที่สินค้า
  2. แตะที่สินค้าที่มีตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการเปลี่ยน
  3. หากสินค้าของคุณมีตัวเลือกสินค้า ให้แตะเลือกตัวเลือกสินค้าที่มีตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง
  4. แตะที่ “สินค้าคงคลัง” หากคุณต้องการติดตามปริมาณของสินค้านั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดใช้การติดตามปริมาณแล้ว
  5. ในส่วนจำนวน ให้แตะแก้ไขตำแหน่งที่ตั้ง
  6. เลือกตำแหน่งที่ตั้งที่สต็อกสินค้า และยกเลิกการเลือกตำแหน่งที่ตั้งที่ไม่ได้สต็อกสินค้า
  7. แตะบันทึก
Android
  1. จากแอป Shopify ให้ไปที่สินค้า
  2. แตะที่สินค้าที่มีตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการเปลี่ยน
  3. หากสินค้าของคุณมีตัวเลือกสินค้า ให้แตะเลือกตัวเลือกสินค้าที่มีตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง
  4. แตะที่ “สินค้าคงคลัง” หากคุณต้องการติดตามปริมาณของสินค้านั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดใช้การติดตามปริมาณแล้ว
  5. ในส่วนจำนวน ให้แตะแก้ไขตำแหน่งที่ตั้ง
  6. เลือกตำแหน่งที่ตั้งที่สต็อกสินค้า และยกเลิกการเลือกตำแหน่งที่ตั้งที่ไม่ได้สต็อกสินค้า
  7. แตะบันทึก

สต็อกสินค้าที่ตำแหน่งที่ตั้งโดยใช้เครื่องมือแก้ไขหลายรายการในครั้งเดียว

คุณสามารถเปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้งที่สต็อกสินค้าได้โดยใช้เครื่องมือแก้ไขหลายรายการในครั้งเดียวบนหน้าสินค้าคงคลัง

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่สินค้า > สินค้าคงคลัง

  2. เลือกตำแหน่งที่ตั้งที่สต็อกสินค้าที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง สินค้าที่ไม่ได้สต็อกไว้ในตำแหน่งที่ตั้งจะไม่ปรากฏบนรายการสินค้าคงคลังของที่ตั้งนั้น

  3. เลือกตัวเลือกสินค้าที่คุณต้องการเปลี่ยน

  4. คลิก แก้ไขหลายรายการในหลายรายการ

  5. ในเครื่องมือแก้ไขหลายรายการในครั้งเดียว ให้คลิก “คอลัมน์” และเพิ่มช่องสำหรับตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการสต็อกสินค้าไว้

  6. อัปเดตปริมาณสินค้าคงคลังของตัวเลือกสินค้าแต่ละรายการในที่ตั้งที่เกี่ยวข้อง

  7. แล้วคลิกที่บันทึก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขสินค้าคงคลังหลายรายการในครั้งเดียว

การจัดการสินค้าคงคลังจากหลายตำแหน่งที่ตั้งหรือแอปการจัดการคำสั่งซื้อ

คุณสามารถจัดการสินค้าคงคลังของสินค้าได้จากฟีเจอร์หลายตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอาจมีตำแหน่งที่ตั้งร้านค้าอย่างน้อยหนึ่งแห่ง รวมถึงอาจมีแอปการจัดการคำสั่งซื้ออย่างน้อยหนึ่งแอปที่เปิดใช้สินค้าคงคลังที่มีการจัดการหลายรายการไว้ได้

สินค้าคงคลังที่มีการจัดการหลายรายการจะช่วยให้คุณสามารถจัดการสินค้าคงคลังบางรายการของสินค้าหนึ่งในที่ตั้งร้านค้าได้ ขณะที่สินค้าคงคลังบางรายการได้รับการจัดการโดยแอปการจัดการคำสั่งซื้อ แอปการจัดการคำสั่งซื้ออาจรวมถึงแอปการดรอปชิป บริการโลจิสติกส์ และบริการจัดการคำสั่งซื้อแบบปรับแต่งเอง ตัวอย่างเช่น แอปหนึ่งอาจเป็นคลังสินค้าที่จัดการคำสั่งซื้อในนามของคุณ

เมื่อคุณจัดการสินค้าคงคลังของร้านค้าคุณจากหีเจอร์หลายตำแหน่งที่ตั้ง คุณต้องตั้งค่าสินค้าคงคลังของสินค้าให้สต็อกในหลายตำแหน่งที่ตั้งก่อนที่คุณจะสามารถอัปเดตปริมาณสินค้าคงคลังได้ หากข้อมูลต่อไปนี้เป็นจริง:

  • สินค้าจะได้รับการสต็อกในหลายๆ ที่ตั้งร้านค้า
  • สินค้าจะได้รับการสต็อกในที่ตั้งร้านค้าอย่างน้อยหนึ่งแห่ง และสินค้าคงคลังบางรายการจะได้รับการจัดการโดยแอปการจัดการคำสั่งซื้ออย่างน้อยหนึ่งแอป ซึ่งอนุญาตให้มีสินค้าคงคลังที่มีการจัดการหลายรายการได้

คุณสามารถจัดการปริมาณสินค้าคงคลังในฟีเจอร์หลายตำหน่งที่ตั้งได้จากหน้ารายละเอียดของสินค้าหรือตัวเลือกสินค้า

ขั้นตอน

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่สินค้า

  2. คลิกสินค้าที่คุณต้องการแก้ไข

  3. หากสินค้ามีตัวเลือกสินค้า ให้เลือกตัวเลือกสินค้า

  4. ในส่วนสินค้าคงคลัง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกหลายที่ตั้งจากรายการสต็อกสินค้าคงคลังในแล้ว

  5. หากคุณต้องการเพิ่มหรือลบที่ตั้ง ให้คลิก “แก้ไขที่ตั้ง” แล้วทำเครื่องหมายหรือเลิกทำเครื่องหมายที่ตำแหน่งที่ตั้งในรายการ จากนั้นคลิก “บันทึก

  6. หากคุณต้องการอัปเดตปริมาณสินค้าคงคลังของตำแหน่งที่ตั้ง ให้คลิกที่ปริมาณที่ระบุไว้ใต้ “พร้อมใช้งาน” เพื่อแก้ไขหรือกำหนดปริมาณ จากนั้นคลิก “บันทึก

  7. หากคุณต้องการเปิดใช้การติดตามสำหรับสินค้าหรือตัวเลือกสินค้า ให้ทำเครื่องหมายที่ติดตามปริมาณ

  8. หากคุณได้ทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ แล้ว ให้คลิก “บันทึก

การตั้งค่าการจัดการคำสั่งซื้อสำหรับตำแหน่งที่ตั้ง

หากคุณมีตำแหน่งที่ตั้งที่เปิดใช้งานอยู่มากกว่าหนึ่งตำแหน่ง คุณจะต้องระบุวิธีจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ ซึ่งการกำหนดตำแหน่งที่ตั้งสำหรับการจัดการคำสั่งซื้อนั้นสามารถทำได้หลายวิธี:

  • หากคุณต้องการจัดการสินค้าทั้งหมดสำหรับคำสั่งซื้อออนไลน์จากตำแหน่งที่ตั้งเดียว คุณจะต้องกำหนดตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นของคุณ และป้องกันไม่ให้มีการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์จากตำแหน่งที่ตั้งอื่น
  • หากคุณต้องการให้สินค้าสำหรับคำสั่งซื้อออนไลน์ได้รับการจัดการจากตำแหน่งที่ตั้งหลัก และจัดการจากตำแหน่งที่ตั้งอื่นในกรณีที่สต็อกที่ตำแหน่งที่ตั้งหลักไม่มีสินค้าดังกล่าว คุณสามารถกำหนดลำดับความสำคัญของตำแหน่งที่ตั้งสำหรับการจัดการคำสั่งซื้อได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตำแหน่งที่ตั้งแต่ละแห่งที่คุณต้องการจัดส่งนั้นมีการเปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์แล้ว
  • หากคุณต้องการปรับแต่งให้ตำแหน่งที่ตั้งใดจัดการคำสั่งซื้อโดยอิงตามตำแหน่งที่ตั้งและสินค้าให้เหมาะสม คุณสามารถอัปเดตการตั้งค่าการจัดส่งเพื่อใช้โปรไฟล์การจัดส่งได้
  • หากคุณใช้แอปการดรอปชิปหรือบริการจัดการคำสั่งซื้อเพื่อจัดการคำสั่งซื้อทั้งหมดอยู่ คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับตำแหน่งที่ตั้งของคุณหรือตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้น เนื่องจากระบบจะกำหนดให้ที่อยู่เริ่มต้นของร้านค้าคุณเป็นตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นของคุณ ซึ่งแอปการดรอปชิปหรือบริการจัดการคำสั่งซื้อจะไม่ใช้ที่อยู่เริ่มต้นของคุณ และระบบจะไม่แสดงให้ลูกค้าของคุณเห็น

การซื้อในร้านค้าที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วโดยใช้ Shopify POS จะใช้สินค้าคงคลังที่มีอยู่จากตำแหน่งที่ตั้งที่มีการขายเกิดขึ้น หากมีการสร้างคำสั่งซื้อให้มีจัดส่งสินค้าไปยังที่อยู่ของลูกค้า คำสั่งซื้อเหล่านั้นจะใช้สินค้าคงคลังโดยอิงจากว่ามีการกำหนดค่าสำหรับคำสั่งซื้อออนไลน์อย่างไรแทนที่จะใช้ตำแหน่งที่ตั้งของร้านค้า

เปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้งเลือกต้น

หากคุณไม่อัปเดตการตั้งค่าการจัดส่ง อัตราค่าจัดส่งของคุณจะถูกคำนวณตามตำแหน่งที่ตั้งที่ตั้งไว้เป็นตำแหน่งเริ่มต้นของคุณระบุตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นของคุณด้วยแท็กเริ่มต้นในการตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้งของคุณ

คุณสามารถกำหนดตำแหน่งที่ตั้งที่เปิดใช้งานตำแหน่งใดๆ ของคุณให้เป็นตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นได้ ทั้งนี้จะไม่สามารถตั้งแอปและตำแหน่งที่ตั้งที่ปิดใช้งานแล้วให้เป็นตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นได้

หากคุณเปลี่ยนต้นทางการจัดส่งเป็นตำแหน่งที่ผู้ให้บริการขนส่งไม่รองรับ อัตราค่าขนส่งสำหรับผู้ให้บริการขนส่งรายนั้นจะถูกซ่อนในหน้าการชำระเงิน ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดตำแหน่งที่ตั้งในสหรัฐอเมริกาให้เป็นตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้น อัตราค่าส่งของ Canada Post จะไม่แสดงขึ้นในขั้นตอนการชำระเงิน

อัตราสำหรับการซื้อใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่งจากส่วนผู้ดูแล Shopify จะได้รับการคํานวณจากตำแหน่งที่ตั้งของการจัดการคำสั่งซื้อ ไม่ใช่จากตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นของร้านค้าคุณ

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > ตำแหน่งที่ตั้ง

  2. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้น ให้คลิกที่เปลี่ยน

  3. เลือกตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นคลิก บันทึก

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้น ให้แตะที่เปลี่ยน
  4. เลือกตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะ บันทึก
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้น ให้แตะที่เปลี่ยน
  4. เลือกตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะ บันทึก

การเปิดหรือปิดใช้งานวิธีการจัดส่งสำหรับตำแหน่งที่ตั้ง

หากคุณเปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์สำหรับตำแหน่งที่ตั้งของคุณแล้ว คุณจะสามารถดูวิธีการจัดส่งที่ใช้ได้ และเปิดหรือปิดใช้งานสำหรับตำแหน่งนั้นได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถดูสถานะการจัดส่งแต่ละสถานะสำหรับตำแหน่งที่ตั้งได้

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > ตำแหน่งที่ตั้ง

  2. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้คลิกตำแหน่งที่คุณต้องการเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานวิธีการจัดส่ง

  3. ในส่วนการจัดการคำสั่งซื้อ ให้คลิกวิธีการจัดส่งที่คุณต้องการเปิดหรือปิดใช้งาน

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะตำแหน่งที่คุณต้องการเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานวิธีการจัดส่ง
  4. ในส่วนการจัดการคำสั่งซื้อ ให้แตะวิธีการจัดส่งที่คุณต้องการเปิดหรือปิดใช้งาน
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะตำแหน่งที่คุณต้องการเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานวิธีการจัดส่ง
  4. ในส่วนการจัดการคำสั่งซื้อ ให้แตะวิธีการจัดส่งที่คุณต้องการเปิดหรือปิดใช้งาน

การตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้งสำหรับการจัดลำดับความสำคัญของการจัดการคำสั่งซื้อ

เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางการขายออนไลน์ใดๆ คำสั่งซื้อเหล่านั้นจะถูกมอบหมายไปยังตำแหน่งที่ตั้งที่ควรจะมีการจัดการคำสั่งซื้อเหล่านั้น โดยอิงตามรายการลำดับความสำคัญและสินค้าคงคลังที่มีอยู่ หากมีตำแหน่งที่ตั้งใดสามารถจัดการคำสั่งซื้อทั้งหมดได้ สินค้าคงคลังจะถูกดึงจากตำแหน่งที่ตั้งนั้น หากไม่มีตำแหน่งที่ตั้งใดสามารถจัดการคำสั่งซื้อทั้งหมดได้ ตำแหน่งที่ตั้งที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดจะทำการขายสินค้าเกินจำนวน การขายสินค้าเกินจำนวนจะเกิดขึ้นเมื่อคุณขายสินค้านั้นในตำแหน่งที่ตั้งนั้นเกินจำนวนของสินค้าที่คุณมีอยู่ในสต็อก ณ ตำแหน่งที่ตั้งนั้น

ตัวอย่างเช่น คุณขายเสื้อเชิ้ตและมีตำแหน่งที่ตั้งสองแห่งที่มีลำดับความสำคัญดังนี้

  • ตำแหน่งที่ตั้ง A มีลำดับความสำคัญสูงสุด
  • ตำแหน่งที่ตั้ง B มีลำดับความสำคัญรองลงมา

ตำแหน่งที่ตั้ง A มีเสื้อเชิ้ต 1 ตัว และตำแหน่งที่ตั้ง B มีเสื้อเชิ้ต 2 ตัว หากคุณได้รับการสั่งซื้อเสื้อเชิ้ต 2 ตัว ตำแหน่งที่ตั้ง B จะจัดการกับคำสั่งซื้อดังกล่าว หากคุณได้รับการสั่งซื้อเสื้อเชิ้ต 3 ตัว ตำแหน่งที่ตั้ง A จะขายเสื้อออกไปเกินจำนวนที่มีอยู่แล้วจะเหลือสินค้าคงคลังเป็นจำนวน -2

คุณสามารถตั้งค่ากฎการกำหนดเส้นทางของคำสั่งซื้อและระบุว่าสถานที่ใดได้รับมอบหมายให้จัดการสินค้าคำสั่งซื้อโดยใช้การกำหนดเส้นทางของคำสั่งซื้อ

ป้องกันไม่ให้ตำแหน่งที่ตั้งหนึ่งจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์

ธุรกิจบางแห่งมีตำแหน่งที่ตั้งที่ใช้เก็บสินค้าคงคลังสำหรับการขายด้วยตนเองเท่านั้น หรือตำแหน่งที่ตั้งที่ใช้สำหรับการจัดเก็บเท่านั้น การป้องกันไม่ให้ตำแหน่งที่ตั้งหนึ่งจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์จะช่วยป้องกันไม่ให้คำสั่งซื้อจากช่องทางการขาย เช่น ร้านค้าออนไลน์และ Facebook Shop ใช้สินค้าคงคลังจากตำแหน่งที่ตั้งเหล่านี้

การป้องกันไม่ให้ตำแหน่งที่ตั้งหนึ่งจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์จะลบสินค้าคงคลังใดๆ ที่กำหนดให้กับตำแหน่งที่ตั้งนั้นออกจากจำนวนสินค้าทางช่องทางออนไลน์ โดยจำนวนสินค้าทางช่องทางออนไลน์จะแสดงในหน้าสินค้าคงคลัง และเป็นตัวเลขที่ลูกค้าจะเห็นหากคุณแสดงระดับสินค้าคงคลังของคุณบนร้านค้าออนไลน์

การป้องกันไม่ให้ตำแหน่งที่ตั้งจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ยังช่วยป้องกันไม่ให้ คำสั่งซื้อที่ส่งสินค้าให้ลูกค้าจาก Shopify POS ใช้สินค้าคงคลังจากตำแหน่งที่ตั้งเหล่านี้

สินค้าคงคลังของตำแหน่งที่ตั้งยังสามารถใช้เพื่อจัดการคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินและคำสั่งซื้อจากช่องทางการขายอื่นๆ ได้ โปรดตรวจสอบช่องทางการขายของคุณว่าเป็นไปตามนโยบายสินค้าคงคลังของร้านค้าของคุณเมื่อสร้างคำสั่งซื้อหรือไม่

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > ตำแหน่งที่ตั้ง

  2. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้คลิกที่ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการให้หยุดจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์

  3. ในส่วนการจัดการคำสั่งซื้อ ให้ปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ จากนั้นคลิกดำเนินการต่อ

  4. แล้วคลิกที่บันทึก

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการให้หยุดจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์
  4. ในส่วนการจัดการคำสั่งซื้อ ให้ปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ จากนั้นแตะดำเนินการต่อ
  5. แตะบันทึก
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่ตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการให้หยุดจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์
  4. ในส่วนการจัดการคำสั่งซื้อ ให้ปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ จากนั้นแตะดำเนินการต่อ
  5. แตะบันทึก

ตัวอย่างของการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์

ในตัวอย่างนี้ ร้านค้ามีตำแหน่งที่ตั้งสี่แห่งและได้รับคำสั่งซื้อออนไลน์สำหรับสินค้าหลายรายการ ระบบจะกำหนดคำสั่งซื้อไปยังตำแหน่งที่ตั้งโดยอิงตามลำดับความสำคัญของการจัดการและกฎดังต่อไปนี้:

  • พยายามกำหนดคำสั่งซื้อไปยังตำแหน่งที่ตั้งเดียว
  • หากจำเป็น ให้กำหนดสินค้าเฉพาะรายการไปยังตำแหน่งที่ตั้งที่มีสินค้าคงคลังเพียงพอ แต่ห้ามแยกสินค้าเฉพาะรายการไปหลายตำแหน่งที่ตั้ง
  • หากสินค้าจำหน่ายออกไปเกินกว่าจำนวนที่มีอยู่ ให้กำหนดคำสั่งซื้อไปยังตำแหน่งที่ตั้งหลักที่มีการสต็อกสินค้า

สมมติว่าสินค้าคงคลังดังต่อไปนี้พร้อมจำหน่ายในตำแหน่งที่ตั้ง:

ระดับสินค้าคงคลังของหมวก เสื้อเชิ้ต แก้ว และรองเท้าในตำแหน่งที่ตั้งร้านค้า 4 แห่ง
ตำแหน่งที่ตั้งหมวกเสื้อเชิ้ตแก้วรองเท้า
นิวยอร์ก51ไม่มีสต็อกไม่มีสต็อก
ลอสแอนเจลิส051ไม่มีสต็อก
ชิคาโก1051
พิตส์เบิร์ก10101010

เมื่อระดับความสำคัญของตำแหน่งที่ตั้งคือ 1 - นิวยอร์ก, 2 - ลอสแอนเจลิส และ 3 - ชิคาโก พิตส์เบิร์กจะไม่ได้จัดการคำสั่งซื้อออนไลน์

คำสั่งซื้อถูกกำหนดไปยังตำแหน่งที่ตั้งดังต่อไปนี้:

การกระจายคำสั่งซื้อทางออนไลน์ไปยังตำแหน่งที่ตั้งตามลำดับความสำคัญโดยอิงจากสินค้าคงคลังและกฎ
คำสั่งซื้อตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนด
เสื้อเชิ้ต 1 ตัวนิวยอร์ก
เสื้อเชิ้ต 1 ตัว, แก้ว 1 ใบลอสแอนเจลิส
หมวก 1 ใบ, แก้ว 1 ใบชิคาโก
เสื้อเชิ้ต 2 ตัวลอสแอนเจลิส
หมวก 2 ใบ, เสื้อ 2 ตัวหมวกถูกกำหนดไปที่นิวยอร์ก เสื้อเชิ้ตถูกกำหนดไปที่ลอสแอนเจลิส
เสื้อเชิ้ต 6 ตัวนิวยอร์ก
เสื้อเชิ้ต 7 ตัวนิวยอร์ก
หมวก 1 ใบ, เสื้อเชิ้ต 1 ตัว, แก้ว 1 ใบ, รองเท้า 1 คู่หมวกและเสื้อเชิ้ตถูกกำหนดไปที่นิวยอร์ก แก้วถูกกำหนดไปที่ลอสแอนเจลิส รองเท้าถูกกำหนดไปที่ชิคาโก

เคล็ดลับสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการตำแหน่งที่ตั้งของคุณ

  • การเติมสินค้าคงคลัง ใช้การนำเข้าไฟล์ CSVเพื่ออัปเดตระดับสต็อกสินค้าทั่วทั้งตำแหน่งที่ตั้งอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การผสานการทำงาน POS ยอดขายในร้านค้า จะหักสินค้าคงคลังออกจากตำแหน่งที่ตั้ง POS ในขณะที่คำสั่งซื้อที่จัดส่งแล้วจะเป็นไปตามกฎการจัดการคำสั่งซื้ออนไลน์
  • การแจ้งเตือนสินค้าคงเหลือน้อย ตรวจสอบเกณฑ์ที่ตั้งไว้เฉพาะในแต่ละตำแหน่งที่ตั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการขายเกินจำนวน
  • การผสานการทำงานแอปแบบกำหนดเอง แอปแบบกำหนดเองอาจต้องการการอัปเดตเพื่อให้สามารถรองรับการติดตามสินค้าคงคลังในหลายตำแหน่งที่ตั้ง นักพัฒนาควรใช้ API ของ Shopify เพื่อซิงค์สินค้าคงคลังระหว่างตำแหน่งที่ตั้ง

การแก้ไขปัญหาเรื่องตำแหน่งที่ตั้ง

  • ข้อผิดพลาด “สินค้าคงคลังที่ไม่พร้อมจำหน่าย” ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตำแหน่งที่ตั้งนั้นได้รับการตั้งค่าเพื่อดำเนินการคำสั่งซื้อออนไลน์และมีสต็อกสินค้าเพียงพอ
  • ไม่แสดงอัตราค่าจัดส่ง ตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นต้องรองรับผู้ให้บริการขนส่งที่เลือก (เช่น USPS ต้องการที่อยู่เริ่มต้นในสหรัฐอเมริกา)

ปัญหาเกี่ยวกับการตรวจสอบยืนยันที่อยู่

  • หาก Google ไม่สามารถยืนยันที่อยู่ได้ 1. ตรวจสอบรูปแบบการเขียนที่อยู่กับบริการไปรษณีย์ (เช่น USPS Canada Post) 2. ส่งการแก้ไขผ่าน Google Maps
ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ