การสร้างและแก้ไขหน้า

คุณสามารถสร้างหน้าใหม่สำหรับร้านค้าออนไลน์ได้ในส่วนผู้ดูแล Shopify และจัดการเนื้อหาและการแสดงผลหน้าที่มีอยู่ได้

หลังจากที่คุณสร้างหรือแก้ไขหน้า คุณสามารถดูตัวอย่างหน้าเพื่อตรวจสอบว่าจะแสดงหน้าในร้านค้าออนไลน์ของคุณอย่างไร คุณอาจต้องโหลดเบราว์เซอร์ใหม่เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงที่บันทึกไว้

หากต้องการแสดงหน้าในการนำทางร้านค้าออนไลน์ คุณสามารถเพิ่มลิงก์ไว้ในเมนูได้

เพิ่มหน้าที่สร้างขึ้นใหม่ไปยังร้านค้าออนไลน์ของคุณ

เดสก์ท็อป
  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ร้านค้าออนไลน์ > หน้า

  2. คลิกเพิ่มหน้า

  3. ป้อนชื่อและเนื้อหาของหน้าเพจดังกล่าว โดยระบุข้อมูลให้ละเอียดและชัดเจนเมื่อคุณเลือกชื่อหน้าเพจคุณ ชื่อของหน้าที่คุณสร้างขึ้นจะแสดงในแท็บหรือแถบชื่อของเบราว์เซอร์ และยังแสดงในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาอีกด้วย

  4. เลือกว่าควรเผยแพร่หน้าดังกล่าวในส่วน การแสดงผล หรือไม่

    • หากต้องการสร้างหน้า ให้เลือก แสดงผล ทั้งนี้ตามค่าเริ่มต้นแล้ว หน้าที่คุณสร้างขึ้นใหม่จะแสดงให้เห็นหลังจากที่คุณคลิก บันทึก
    • หากต้องการซ่อนหน้า ให้เลือก ซ่อน เพื่อซ่อนหน้าจากร้านค้าออนไลน์ของคุณ
    • ไม่บังคับ: หากต้องการกำหนดวันที่เผยแพร่สำหรับหน้าที่ซ่อนไว้ ให้คลิกไอคอนปฏิทิน จากนั้นเลือกวันที่และเวลา
  5. ในส่วนเนื้อหา ให้เพิ่มเนื้อหาสำหรับหน้าของคุณ

  6. แล้วคลิกที่บันทึก

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม

  2. ในส่วนช่องทางการขาย ให้แตะที่ร้านค้าออนไลน์

  3. แตะหน้า

  4. แตะ "เพิ่มหน้า"

  5. ป้อนชื่อและเนื้อหาของหน้าเพจดังกล่าว โดยระบุข้อมูลให้ละเอียดและชัดเจนเมื่อคุณเลือกชื่อหน้าเพจคุณ ชื่อของหน้าที่คุณสร้างขึ้นจะแสดงในแท็บหรือแถบชื่อของเบราว์เซอร์ และยังแสดงในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาอีกด้วย

  6. เลือกว่าควรเผยแพร่หน้าดังกล่าวในส่วน การแสดงผล หรือไม่

    • หากต้องการสร้างหน้า ให้เลือก แสดงผล ทั้งนี้ตามค่าเริ่มต้นแล้ว หน้าที่คุณสร้างขึ้นใหม่จะแสดงให้เห็นหลังจากที่คุณคลิก บันทึก
    • หากต้องการซ่อนหน้า ให้เลือก ซ่อน เพื่อซ่อนหน้าจากร้านค้าออนไลน์ของคุณ
    • ไม่บังคับ: หากต้องการกำหนดวันที่เผยแพร่สำหรับหน้าที่ซ่อนไว้ ให้คลิกไอคอนปฏิทินเพื่อควบคุมวันที่ต้องการเผยแพร่หน้าของคุณ
  7. ในส่วนเนื้อหา ให้เพิ่มเนื้อหาสำหรับหน้าของคุณ

  8. แตะบันทึก

Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม

  2. ในส่วนช่องทางการขาย ให้แตะที่ร้านค้าออนไลน์

  3. แตะหน้า

  4. แตะ "เพิ่มหน้า"

  5. ป้อนชื่อและเนื้อหาของหน้าเพจดังกล่าว โดยระบุข้อมูลให้ละเอียดและชัดเจนเมื่อคุณเลือกชื่อหน้าเพจคุณ ชื่อของหน้าที่คุณสร้างขึ้นจะแสดงในแท็บหรือแถบชื่อของเบราว์เซอร์ และยังแสดงในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาอีกด้วย

  6. เลือกว่าควรเผยแพร่หน้าดังกล่าวในส่วน การแสดงผล หรือไม่

    • หากต้องการสร้างหน้า ให้เลือก แสดงผล ทั้งนี้ตามค่าเริ่มต้นแล้ว หน้าที่คุณสร้างขึ้นใหม่จะแสดงให้เห็นหลังจากที่คุณคลิก บันทึก
    • หากต้องการซ่อนหน้า ให้เลือก ซ่อน เพื่อซ่อนหน้าจากร้านค้าออนไลน์ของคุณ
    • ไม่บังคับ: หากต้องการกำหนดวันที่เผยแพร่สำหรับหน้าที่ซ่อนไว้ ให้คลิกไอคอนปฏิทินเพื่อควบคุมวันที่ต้องการเผยแพร่หน้าของคุณ
  7. ในส่วนเนื้อหา ให้เพิ่มเนื้อหาสำหรับหน้าของคุณ

  8. แล้วแตะที่

เพิ่มเนื้อหาไปยังหน้าที่ต้องการ

เครื่องมือแก้ไข Rich Text จะแสดงในช่องเนื้อหาในรูปแบบเดียวกันกับที่แสดงในร้านค้าของคุณ คุณสามารถตั้งค่ารูปแบบข้อความของคุณและเปลี่ยนสีตัวอักษรได้โดยการเลือกตัวเลือกต่างๆ ในเครื่องมือแก้ไข Rich Text และคุณยังสามารถแทรกองค์ประกอบดังต่อไปนี้ลงในหน้าที่ต้องการได้:

  • ลิงก์
  • ตาราง
  • รูปภาพ
  • วิดีโอ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือแก้ไข Rich Text

หากต้องการแก้ไขโค้ด HTML สำหรับหน้า ให้คลิกปุ่ม </> เพื่อดู HTML และเปลี่ยนแปลงโค้ด:

ไฮไลท์การแสดง HTML

เพิ่มลิงก์ไปยังหน้า

คุณสามารถเพิ่มลิงก์ไปยังหน้าที่ต้องการนำลูกค้าไปที่หน้าอื่นในร้านค้าออนไลน์ของคุณหรือไปยังลิงก์ภายนอก

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ร้านค้าออนไลน์ > หน้า

  2. คลิกที่ชื่อของหน้าที่คุณต้องการแก้ไข หรือสร้างหน้าใหม่

  3. ในช่องเนื้อหา ให้ป้อนข้อความที่จะแปลงเป็นลิงก์

  4. ไฮไลท์ข้อความลิงก์ จากนั้นคลิกปุ่ม “แทรกลิงก์”:

    ไฮไลท์ลิงก์เพิ่มหน้า

  5. ป้อนที่อยู่เว็บไซต์ในช่องลิงก์ไปยัง ป้อนชื่อลิงก์ที่มีการอธิบายเพื่อช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือค้นหาและการเข้าถึง

  6. แล้วคลิกที่บันทึก

เพิ่ม Google Maps ไปยังหน้าที่ต้องการ

คุณสามารถเพิ่มที่อยู่จาก Google Maps ในร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ ตัวอย่างเช่น การเพิ่มแผนที่ในหน้าเกี่ยวกับเราเพื่อแสดงที่ตั้งร้านค้าปลีกของคุณ ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวทีเดียว:

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. ใน Google Maps ให้ใส่ที่อยู่ที่ต้องการในแผนที่
  2. คลิกไอคอนแชร์ เพื่อเปิดตัวเลือกการแชร์
  3. คลิกที่ฝังแผนที่ เพื่อสร้างโค้ดฝังตัวของคุณ
  4. เลือกขนาดแผนที่ที่ต้องการ จากนั้นคัดลอกโค้ดในกล่องข้อความ โค้ดเริ่มต้นด้วย <iframe src= ซึ่งเป็นแท็กที่เขียนใน HTML สำหรับใช้ฝังแผนที่
  5. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ร้านค้าออนไลน์ > หน้า
  6. คลิกชื่อของหน้าที่คุณต้องการแสดงแผนที่ของคุณ
  7. ในแถบเครื่องมือเนื้อหา ให้คลิกปุ่ม </> เพื่อดูโค้ด HTML ของหน้านั้นๆ:
    ไฮไลท์แสดง HTML
  8. วางโค้ดที่คุณคัดลอกมาจาก Google Maps ลงในช่องเนื้อหา คุณสามารถฝังแผนที่บริเวณด้านล่างหน้าที่คุณต้องการได้โดยวางโค้ดไว้หลังเนื้อหาที่มีอยู่ หรือบริเวณใดๆ ก็ได้บนหน้านั้นๆ
  9. คลิกที่ “แสดงเครื่องมือแก้ไข” เพื่อเปลี่ยนกลับไปยังเครื่องมือแก้ไขสำหรับหน้าดังกล่าวจากมุมมอง HTML และดูตัวอย่างแผนที่ของคุณ
  10. แล้วคลิกที่บันทึก

สร้างเนื้อหาของหน้าโดยอัตโนมัติ

คุณสามารถใช้ Shopify Magic เพื่อสร้างชื่อและเนื้อหาของหน้าที่คุณต้องการได้โดยอัตโนมัติ ตามค่าเริ่มต้นแล้ว การแนะนำเนื้อหาในภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาถิ่นจะใช้ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันข้อมูลภาษาที่ AI ใช้มาจากแหล่งข้อมูลในอเมริกาเหนือเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเนื้อหาที่สร้างจึงอาจมีคำศัพท์และการใช้คำที่ใช้ในท้องถิ่นของภูมิภาคดังกล่าว คุณสามารถเปลี่ยนส่วนใดๆ ของการแนะนำเนื้อหาให้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังได้

Shopify Magic จะสร้างข้อความสำหรับหน้าของคุณเท่านั้น คุณสามารถเพิ่มองค์ประกอบสำหรับการโต้ตอบต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังสร้างหน้ารายชื่อติดต่อ คุณอาจจำเป็นต้องใช้โค้ดแบบกำหนดเองเพื่อสร้างแบบฟอร์มการติดต่อที่ใช้งานได้

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ร้านค้าออนไลน์ > หน้า

  2. คลิกเพิ่มหน้า

  3. ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

    • หากต้องการสร้างชื่อของหน้าที่ต้องการ ให้คลิกไอคอนสร้างข้อความ ในช่องชื่อ จากนั้นเขียนคำอธิบายเกี่ยวกับหน้าดังกล่าว
    • หากต้องการสร้างเนื้อหาสำหรับหน้านั้นๆ ให้คลิกไอคอนสร้างข้อความ ในเครื่องมือแก้ไข Rich Text ของส่วนเนื้อหา แล้วทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:
      1. เขียนคำอธิบายเกี่ยวกับหน้าดังกล่าว
      2. ตัวเลือกเสริม: เลือกน้ำเสียงใหม่จากเมนูดรอปดาวน์น้ำเสียง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกน้ำเสียง
      3. ตัวเลือกเสริม: คลิกไอคอน “คำแนะนำพิเศษ” และเขียนคำแนะนำเพิ่มเติมที่คุณต้องการเพิ่มในช่องคำแนะนำพิเศษ ดูที่การใช้คำแนะนำพิเศษสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของคำแนะนำที่คุณสามารถให้ได้
  4. คลิก “สร้าง

  5. ตัวเลือกเสริม: ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

    • คลิก “สร้างอีกครั้ง” เพื่อดูผลลัพธ์อื่นๆ
    • เลือกน้ำเสียงอื่นหรือแก้ไขพรอมต์ของคุณ จากนั้นคลิก “สร้างอีกครั้ง
  6. คลิก “เก็บ” เพื่อเพิ่มเนื้อหาที่แนะนำลงในหน้าที่คุณต้องการ

  7. ตัวเลือกเสริม: แก้ไขและจัดรูปแบบเนื้อหาที่สร้างขึ้นเพื่อให้ตรงกับแบรนด์ของคุณ

  8. แล้วคลิกที่บันทึก

หลังจากที่คุณสร้างเนื้อหาให้กับหน้าหนึ่งแล้ว คุณสามารถดำเนินการตามขั้นตอนที่เหลือเพื่อเพิ่มหน้าใหม่ที่จะเผยแพร่ในร้านค้าออนไลน์

แก้ไขหน้า

หากคุณต้องการแก้ไขคำผิด เพิ่มข้อมูลใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหา คุณสามารถแก้ไขหน้าได้

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ร้านค้าออนไลน์ > หน้า

  2. คลิกที่ชื่อของหน้า

  3. เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าหรือเนื้อหาในหน้าที่มีอยู่

  4. แล้วคลิกที่บันทึก

แก้ไขรายการเครื่องมือค้นหาสำหรับหน้าที่ต้องการ

คุณสามารถแก้ไขข้อความที่แสดงในผลลัพธ์เครื่องมือค้นหาสำหรับหน้าได้ ชื่อและคำอธิบายที่บรรยายลักษณะสามารถช่วยให้ลูกค้าใหม่ๆ หาร้านค้าออนไลน์ของคุณเจอและโน้นน้าวให้พวกเขาคลิกที่ลิงก์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้นๆ ในเครื่องมือค้นหา (SEO)

เมื่อคุณเปลี่ยนแปลงข้อมูลในรายการเครื่องมือค้นหาของหน้า คุณสามารถดูตัวอย่างลักษณะที่จะแสดงได้ในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา

หากคุณป้อนชื่อไว้ยาวกว่า 70 อักขระ หรือป้อนคำอธิบายไว้ยาวกว่า 160 อักขระ ระบบอาจตัดทอนข้อความดังกล่าวในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา

คุณสามารถทำการเปลี่ยนแปลงกับที่อยู่เว็บไซต์ของหน้าได้ ซึ่งในกรณีส่วนใหญ่จะไม่จำเป็นต้องทำ แต่หากทำการเปลี่ยนแปลง จะมีตัวเลือกที่เลือกไว้ให้ล่วงหน้าให้คุณสร้าง URL สำหรับเปลี่ยนเส้นทาง แล้วที่อยู่เว็บไซต์เดิมจะเปลี่ยนเส้นทางไปยังที่อยู่เว็บไซต์ใหม่

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ร้านค้าออนไลน์ > หน้า

  2. คลิกชื่อของหน้าที่คุณต้องการแก้ไขรายการเครื่องมือค้นหา

  3. ในส่วนดูตัวอย่างรายการเครื่องมือค้นหา ให้คลิกไอคอนดินสอ

  4. ป้อนหรือแก้ไขช่องหนึ่งช่องใดต่อไปนี้:

    • ในช่องชื่อหน้า ให้ป้อนชื่อที่ให้รายละเอียด โดยชื่อดังกล่าวจะแสดงในลิงก์ผลลัพธ์ของเครื่องมือการค้นหา
    • ในช่องคำอธิบายเนื้อหาอย่างย่อ ให้ป้อนคำอธิบาย โดยลองพิจารณาใส่คำสำคัญที่เกี่ยวข้องและชื่อร้านค้าของคุณเพื่อช่วยให้ลูกค้าหน้าใหม่สามารถหาหน้าของคุณเจอ
    • ในช่องแฮนเดิลของ URL คุณสามารถเปลี่ยนบางส่วนของที่อยู่เว็บไซต์ได้ โดยจะต้องไม่มีช่องว่างใดๆ คุณสามารถใช้เครื่องหมายขีดกลาง (-) คั่นระหว่างคำแทนช่องว่างได้
  5. แล้วคลิกที่บันทึก

ลบหน้า

หากคุณลบหน้าที่คุณใช้ในการนำทางของร้านค้าคุณ ระบบจะลบรายการเมนูที่เกี่ยวข้องด้วย ตัวอย่างเช่น หากคุณลบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงของการค้าส่งที่คุณใช้ในรายการเมนูการค้าส่ง ระบบจะลบทั้งหน้าและเมนูดังกล่าว

คุณยังสามารถใช้การดำเนินการหลายรายการในครั้งเดียวเพื่อลบมากกว่าหนึ่งหน้าในคราวเดียวได้

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ร้านค้าออนไลน์ > หน้า

  2. คลิกชื่อของหน้าที่คุณต้องการลบ

  3. คลิกที่ “ลบหน้า

  4. คลิกที่ลบ

เปลี่ยนการแสดงผลหน้าหลายรายการในคราวเดียว

คุณสามารถอัปเดตการตั้งค่าการแสดงผลสำหรับหลายหน้าในร้านค้าออนไลน์ได้ในคราวเดียวจากส่วนร้านค้าออนไลน์ > หน้าของส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ

คุณสามารถใช้ตัวเลือกการค้นหาและตัวกรองเพื่อค้นหาหน้าตามคำสำคัญชื่อเรื่อง หรือใช้ตัวกรองการแสดงผลเพื่อแสดงหน้าตามสถานะการแสดงผล

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ร้านค้าออนไลน์ > หน้า

  2. เลือกหน้าที่คุณต้องการเผยแพร่

  3. ใช้ตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้เพื่อเปลี่ยนแปลงการแสดงผลหน้า:

    • หากต้องการแสดงผลหน้าทั้งหมดที่เลือก ให้คลิก "ตั้งค่าให้แสดงผล"
    • หากต้องการซ่อนหน้าทั้งหมดที่เลือก ให้คลิก "ตั้งค่าให้ซ่อน"
ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ