เพิ่มการติดตามคอนเวอร์ชันไปยังหน้าสถานะคำสั่งซื้อ
คุณสามารถใช้การติดตามคอนเวอร์ชันเพื่อติดตามเวลาลูกค้าเข้ามายังขั้นตอนการชำระเงินและความถี่ที่ลูกค้าสั่งซื้อได้ การติดตามคอนเวอร์ชันช่วยให้ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์การซื้อในร้านค้าของคุณได้ เช่น มูลค่าคำสั่งซื้อโดยเฉลี่ยและยอดขายรวมต่อสินค้า โดยมีแพลตฟอร์มที่ให้คุณเข้าถึงข้อมูลนี้ได้อยู่สองสามรายการด้วยกัน
ในหน้านี้
การติดตามคอนเวอร์ชันโดย Google Analytics
คุณสามารถใช้การติดตามคอนเวอร์ชันของ Google Analytics สำหรับขั้นตอนการชำระเงินได้ หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์นี้ในร้านค้า โปรดอ่านการตั้งค่าเป้าหมายและกราฟทรงกรวยของ Google Analytics
พิกเซลการติดตาม
คุณสามารถเพิ่มพิกเซลการติดตามลงในหน้าแสดงสถานะคำสั่งซื้อโดยใช้กล่องสคริปต์เพิ่มเติม
การติดตามคำสั่งซื้อ
คุณสามารถเพิ่มรหัสติดตามคอนเวอร์ชัน เช่น พิกเซลการติดตาม ลงในร้านค้าเพื่อติดตามลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากร้านค้าของคุณได้ โดยทั่วไปแล้วรหัสติดตามจะใช้ในหน้าแสดงสถานะคำสั่งซื้อ
สคริปต์การติดตามจะจัดทำโดยบริษัทภายนอก และใช้เป็นชิ้นส่วนรหัสในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ
ขั้นตอน:
- เมื่อคุณมีรหัสการติดตามแล้ว ให้คัดลอกรหัสนั้นไปยังคลิปบอร์ดโดยกดปุ่ม
cmd + c
บน Mac หรือctrl + c
บนคอมพิวเตอร์ - ในหน้าส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ การตั้งค่า > การชำระเงิน
- ในส่วนหน้าแสดงสถานะคำสั่งซื้อ ให้ไปที่กล่องข้อความสคริปต์เพิ่มเติม
- วางรหัสการติดตามของคุณจากคลิปบอร์ดโดยกดปุ่ม
cmd + v
บน Mac หรือctrl + v
บนคอมพิวเตอร์ ในกล่องข้อความนั้น คุณสามารถใช้อ็อบเจกต์ Liquid “shop
”, อ็อบเจกต์ Liquid “order
” และ แอสเซทของ JavaScript “OrderStatus
”
- เมื่อคุณมีรหัสการติดตามแล้ว ให้คัดลอกรหัสนั้นไปยังคลิปบอร์ดโดยกดปุ่ม
cmd + c
บน Mac หรือctrl + c
บนคอมพิวเตอร์ - จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “…” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า”
- ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะการชำระเงิน
- ในส่วนหน้าแสดงสถานะคำสั่งซื้อ ให้ไปที่กล่องข้อความสคริปต์เพิ่มเติม
- วางรหัสการติดตามของคุณจากคลิปบอร์ดโดยกดปุ่ม
cmd + v
บน Mac หรือctrl + v
บนคอมพิวเตอร์ ในกล่องข้อความนั้น คุณสามารถใช้อ็อบเจกต์ Liquid “shop
”, อ็อบเจกต์ Liquid “order
” และ แอสเซทของ JavaScript “OrderStatus
”
- เมื่อคุณมีรหัสการติดตามแล้ว ให้คัดลอกรหัสนั้นไปยังคลิปบอร์ดโดยกดปุ่ม
cmd + c
บน Mac หรือctrl + c
บนคอมพิวเตอร์ - จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “…” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า”
- ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะการชำระเงิน
- ในส่วนหน้าแสดงสถานะคำสั่งซื้อ ให้ไปที่กล่องข้อความสคริปต์เพิ่มเติม
- วางรหัสการติดตามของคุณจากคลิปบอร์ดโดยกดปุ่ม
cmd + v
บน Mac หรือctrl + v
บนคอมพิวเตอร์ ในกล่องข้อความนั้น คุณสามารถใช้อ็อบเจกต์ Liquid “shop
”, อ็อบเจกต์ Liquid “order
” และ แอสเซทของ JavaScript “OrderStatus
”
การผสานการทำงานตามเงื่อนไข
ผู้ให้บริการบางรายอาจขอให้คุณแสดงพิกเซลการติดตามของพวกเขา ในกรณีที่ลูกค้ามาพร้อมกับพารามิเตอร์อ้างอิงที่แน่นอน (โดยปกติคือ ref
source
หรือ r
)
Shopify จัดเก็บค่าเหล่านี้พร้อมกับคำสั่งซื้อ และทำให้เข้าถึงได้โดยใช้ landing_site_ref
ตัวอย่างเช่น ตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการของคุณต้องการให้คุณเพิ่มพิกเซลของพวกเขาในหน้าการชำระเงิน แต่เฉพาะสำหรับลูกค้าที่มาจากการแนะนำของพวกเขา URL ที่คุณลงทะเบียนด้วยระบบติดตามของคุณจะมีลักษณะดังนี้:
http://www.example.com/?ref=tracking-site
? ref=tracking-site
ต้องไม่ซ้ำกัน
โดยจะนำไปใช้ในหน้าสุดท้ายของขั้นตอนการชำระเงิน เพื่อตรวจสอบยืนยันว่าคำสั่งซื้อที่ได้รับนั้นมาจากการอ้างอิงของตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ
หากต้องการตั้งค่าการผสานการทำงานตามเงื่อนไข ให้ไปที่หน้าการตั้งค่าการชำระเงินแล้วเพิ่มสคริปต์ตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ:
{% if landing_site_ref == 'tracking-site' %} <img src="https://www.trackingx.com/pixel.gif?amount={{ total_price | money_without_currency }}&order-id={{ order_id }}&currency={{ currency }}" height="1" width="1" /> {% endif %}
ด้วยคำสั่ง if landing_site_ref == 'tracking-site'
พิกเซลจึงจะปรากฏต่อลูกค้าที่มี landing_site_ref
ที่ถูกต้องเท่านั้น
ตัวอย่าง
การติดตามคอนเวอร์ชันพื้นฐาน
สมมติว่าบริษัทภายนอกขอให้คุณผสานการทำงานของพิกเซลการติดตามเช่นนี้:
\<img src="https://www.tracking.com/u?amount=<amount>&order-id=<order_id>&currency=<currency>” height="1" width="20" />
<img src="https://www.tracking.com/pixel.gif?amount={{ total_price | money_without_currency }}&order-id={{ order_id }}&currency={{ currency }}" height="1" width="1" />
เมื่อลูกค้ามาถึงหน้าสุดท้ายของขั้นตอนการชำระเงิน โค้ดที่ส่งไปยังเบราว์เซอร์จะมีลักษณะดังต่อไปนี้
<img src="https://www.tracking.com/pixel.gif?amount=55.34&order-id=4343&currency=USD" height="1" width="1" />
การติดตามคอนเวอร์ชันที่อธิบายคำสั่งซื้อ
<img src="https://www.emjcd.com/u?CID=YOURCID&TYPE=YOURTYPE&METHOD=IMG&CURRENCY={{ currency }}&OID={{ order_id }}{% for line_item in line_items %}&ITEM{{ forloop.index }}={{ line_item.sku }}&AMT{{ forloop.index }}={{ line_item.line_price | money_without_currency }}&QTY{{ forloop.index }}={{ line_item.quantity }}{% endfor %}" height="1" width="20" />
พิกเซล Meta
สามารถเพิ่มการติดตามพิกเซลของ Meta ในร้านค้าของคุณได้สองวิธีด้วยกัน โดยที่การเพิ่มการติดตามพิกเซลของ Meta สองวิธีนั้นไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ คุณต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง:
- คุณสามารถผสานการทำงานของร้านค้าและพิกเซลของ Meta ของคุณในส่วนผู้ดูแล Shopify โดยไม่ต้องใช้โค้ดใดๆ ทั้งสิ้น แต่ต้องมี ID พิกเซลของ Meta
- คุณสามารถเพิ่มโค้ดด้วยตนเองในแต่ละหน้าของร้านค้าและหน้าการชำระเงินของคุณ
การติดตามคอนเวอร์ชันด้วย ID คำสั่งซื้อ
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณควรนับคอนเวอร์ชันเมื่อลูกค้าทำธุรกรรมกับร้านค้าของคุณเสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น หากลูกค้ากลับมาเยี่ยมชมหรือโหลดหน้าคอนเวอร์ชันอีกครั้ง เซสชันของพวกเขาอาจนับเป็นคอนเวอร์ชันมากกว่าหนึ่งครั้ง คุณสามารถใช้แท็กคอนเวอร์ชัน ID คำสั่งซื้อเพื่อลดจำนวนคอนเวอร์ชันซ้ำได้ แท็กคอนเวอร์ชัน ID คำสั่งซื้อจะติดตามการเยี่ยมชมครั้งแรกของลูกค้าในหน้าคอนเวอร์ชันเท่านั้น ID คำสั่งซื้อของลูกค้าของคุณปรากฏเป็น {{ order_id }}
ในแท็ก Liquid
หากต้องการความช่วยเหลือในการเพิ่ม ID คำสั่งซื้อให้กับแท็กคอนเวอร์ชันของคุณ โปรดไปที่ฝ่ายช่วยเหลือของ Google