หน้ารายละเอียดสินค้า
คุณสามารถสร้าง แก้ไข และดูสินค้าได้จากส่วนสินค้าจากส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ
เมื่อคุณคลิกที่สินค้า คุณสามารถดูและแก้ไขเนื้อหาและข้อมูลประเภทต่างๆ ของรายการสินค้าได้
ในหน้านี้
ชื่อและคำอธิบาย
- ชื่อ - ชื่อสำหรับสินค้าที่คุณต้องการให้แสดงให้ลูกค้าเห็น
- คำอธิบาย - คำอธิบายสำหรับสินค้าของคุณ พื้นที่นี้จะใช้เครื่องมือแก้ไข Rich Text เพื่อให้คุณสามารถจัดรูปแบบข้อความของคุณได้ อธิบายสินค้าของคุณโดยละเอียดเพื่อให้ข้อมูลและโน้มน้าวลูกค้าเป้าหมายของคุณ ในกรณีที่คุณเป็นตัวแทนจำหน่าย อย่าใช้คำอธิบายที่เหมือนกันทุกประการกับคำอธิบายของผู้ผลิต เนื่องจากสินค้าของคุณไม่ควรซ้ำใครเมื่อต้องค้นหาในเครื่องมือค้นหา
สื่อ
รูปภาพ โมเดล 3 มิติ และวิดีโอที่จะสาธิตวิธีใช้สินค้าของคุณ หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มสื่อสินค้า ให้ดูที่สื่อสินค้า
หมวดหมู่
หมวดหมู่สินค้าคือป้ายกำกับที่อธิบายกลุ่มหรือชนิดที่สินค้ารายการหนึ่งสังกัด หมวดหมู่สินค้าจะถูกเลือกจากการจำแนกผลิตภัณฑ์มาตรฐานของ Shopify ซึ่งเป็นรายการตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยหมวดหมู่สินค้าดังกล่าวจะช่วยให้คุณดำเนินงานต่อไปนี้ได้
- ปลดล็อกแอตทริบิวต์ของสินค้าเรียกว่าเมตาฟิลด์หมวดหมู่ที่แมปกับหมวดหมู่สินค้าแต่ละรายการ
- จัดการสินค้าของคุณได้ดีขึ้นภายใน Shopify ตัวอย่ างเช่น ใช้หมวดหมู่สินค้าสำหรับคอลเลกชันอัจฉริยะหรือเพื่อช่วยกรองรายการสินค้าของคุณ
- ทำให้ขายสินค้าได้ง่ายขึ้นในช่องทางอื่นที่ต้องใช้ประเภทสินค้ามาตรฐาน เช่น Facebook หรือ Google
- ระบุอัตราที่จะใช้จัดเก็บภาษีสินค้าเมื่อคุณใช้ Shopify Tax สินค้าของคุณอาจต้องเสียภาษีในอัตราพิเศษหรือได้รับการยกเว้นภาษี เมื่อสินค้าได้รับการจัดหมวดหมู่อย่างถูกต้อง ระบบจะจัดเก็บอัตราภาษีที่ถูกต้องที่สุดในขั้นตอนการชำระเงิน การจัดเก็บภาษีการขายมากเกินไปหรือไม่เพียงพออาจทำให้ธุรกิจของคุณต้องรับผิดทางการเงินหรือทางกฎหมายได้
สินค้ารายการหนึ่งๆ จะสังกัดได้เพียงหมวดหมู่เดียวเท่านั้น และระบบจะปรับใช้หมวดหมู่ดังกล่าวกับตัวเลือกสินค้าทั้งหมดของสินค้านั้นๆ หากเป็นไปได้ ระบบ จะแสดงคำแนะนำหมวดหมู่สินค้ามาตรฐานเพื่อช่วยให้คุณเลือกหมวดหมู่ในครั้งแรก โดยคุณสามารถยอมรับหรือแก้ไขคำแนะนำได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจำแนกผลิตภัณฑ์มาตรฐานของ Shopify และหมวดหมู่สินค้า
เมตาฟิลด์หมวดหมู่คือแอตทริบิวต์ของสินค้าที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าและเอนทรีเริ่มต้นที่จะปลดล็อกเมื่อคุณมอบหมายหมวดหมู่สินค้า ตัวอย่างเช่น หากคุณเพิ่มหมวดหมู่สินค้า Apparel & Accessories > Clothing > Clothing Tops > Shirts
แล้ว คุณก็สามารถเพิ่มเมตาฟิลด์หมวดหมู่ size
, neckline
, sleeve length type
, top length type
, age group
, fabric
, target gender
, clothing features
และ color
ได้ เอนทรีเริ่มต้นจะพร้อมใช้งานสำหรับเมตาฟิลด์แต่ละหมวดหมู่ ตัวอย่างเช่น เมตาฟิลด์หมวดหมู่ color
จะมีเอนทรีเริ่มต้นสำหรับสี เช่น red
, black
และ white
นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับแต่งรายการข้อมูลเมตาฟิลด์ประเภทของคุณเองได้
คุณสามารถแก้ไขเอนทรีเริ่มต้นเพื่อให้ตรงกับการสร้างแบรนด์ของคุณมากขึ้นได้ และระบบจะอัปเดตข้อมูลในทุกตำแหน่งที่ใช้เอนทรีดังกล่าวโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น ตัวอย่างเอนทรีสีจะรวมถึง สีแดง สีดำ และสีขาว หากคุณต้องการอัปเดต black
เป็น graphite
คุณสามารถอัปเดตเอนทรี และระบบจะอัปเดตข้อมูลในทุกตำแหน่งที่เชื่อมต่อกับเอนทรีดังกล่าวโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้คุณยังสามารถเชื่อมต่อเมตาฟิลด์หมวดหมู่เข้ากับตัวเลือกสินค้าของสินค้าคุณได้อีกด้วย เมื่อคุณใช้เอนทรีของสีเป็นตัวเลือกสินค้า คุณจะสามารถแสดงตัวเลือกสินค้าเป็นตัวอย่างตัวเลือกสีในหน้าสินค้าของร้านค้าได้
ดูข้อมูลเพ ิ่มเติมเกี่ยวกับเมตาฟิลด์หมวดหมู่
ราคา
-
ราคา - ราคาที่คุณเรียกเก็บจากสินค้า ตรวจสอบรายละเอียดดังต่อไปนี้:
- คุณสามารถตั้งค่าสกุลเงินของร้านค้าของคุณได้ในส่วนการตั้งค่า > ทั่วไปของส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ
- หากคุณขายสินค้าในหลายสกุลเงิน คุณจำเป็นต้องใช้ Shopify Payments และเปิดใช้ International
- คุณสามารถจัดการสกุลเงินได้บนหน้าสินค้าและการกำหนดราคาของตลาดที่เกี่ยวข้องในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ
- หากสินค้าต้องเสียภาษี ให้ตั้งค่าภาษีตามตำแหน่งที่ตั้ง
ราคาเปรียบเทียบ - ตั้งราคาเปรียบเทียบเพื่อแสดงราคาเดิมของสินค้าเมื่อคุณลดราคาสินค้า โดยราคาเปรียบเทียบจะแสดงร่วมกับค่าที่คุณตั้งไว้สำหรับราคาสินค้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งราคาโปรโมชัน
รหัสภาษี - สำหรับแผน Shopify Plus คุณสามารถใช้บริการด้านภาษีจากภายนอกได้ หากคุณใช้บริการดังกล่าว รหัสภาษีสำหรับสินค้าก็จะแสดงที่นี่
การกําหนดราคาต่อหน่วย - หากคุณขายสินค้าเป็นปริมาณหรือเป็นหน่วยการวัด คุณอาจต้องแสดงราคาต่อหน่วยของสินค้าที่บางรายการ เมื่อคุณป้อนราคาต่อหน่วยของผลิตภัณฑ์ ระบบจะแสดงราคาต่อหน่วยในหน้าสินค้า หน้าคอลเลกชัน หน้าตะกร้าส ินค้า หน้าการช้อปปิ้ง และการแจ้งเตือนการยืนยันการสั่งซื้อ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าการกําหนดราคาต่อหน่วย
ต้นทุนต่อสินค้าแต่ละรายการ - นี่คือค่าใช้จ่ายของสินค้าหรือตัวเลือกสินค้าของคุณ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณนำสินค้ามาขายต่อ คุณก็สามารถป้อนราคาที่คุณจ่ายให้แก่ผู้ผลิตได้ โดยไม่รวมภาษี การจัดส่ง หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ หากคุณเป็นผู้สร้างสินค้าด้วยตนเอง คุณก็สามารถป้อนค่าที่อิงจากค่าแรงและค่าใช้จ่ายด้านวัตถุของคุณได้
สำหรับสินค้าที่มีการป้อนค่าใช้จ่ายต่อรายการ กำไรและอัตรากำไรที่คาดการณ์ไว้จะแสดงในส่วนการกำหนดราคาบนหน้ารายละเอียดสินค้า และผลต่างจะคำนวณโดยใช้สูตรดังนี้ ([ราคา - ต้นทุน] / ราคา) × 100 ตัวอย ่างเช่น หากราคาของคุณคือ 50 ดอลลาร์สหรัฐ และต้นทุนของคุณคือ 30 ดอลลาร์สหรัฐ จะได้ผลต่าง (คำนวณโดยใช้ ([50 - 30] / 50) × 100) ออกมาเป็น 40% หากคุณเลือกเรียกเก็บภาษีจากสินค้านี้ รายละเอียดกำไรและอัตรากำไรจะไม่แสดง
คุณสามารถเข้าถึงรายงานเพื่อวิเคราะห์ต้นทุนและอัตรากำไรสินค้าได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถหาราคาต้นทุนขาย (COGS) ได้อีกด้วย
คุณสามารถเลือกได้ว่าจะป้อนหรือไม่ป้อนราคาต้นทุนสินค้าต่อชิ้น หากคุณเลือกที่จะป้อนราคาต้นทุน ให้เพิ่มราคาต้นทุนไปยังสินค้าทั้งหมดที่มีอยู่ของคุณในเวลาเดียวกัน โดยการใช้เครื่องมือแก้ไขหลายรายการในครั้งเดียวหรือโดยการนำเข้า CSV การอัปเดตข้อมูลในเวลาเดียวกันทำให้คุณสามารถใช้งานรายงานกำไรได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
ต้นทุนต่อสินค้าแต่ละรายการใช้ไม่ได้กับสินค้าบัตรของขวัญ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกําหนดราคาสินค้าของคุณ
สินค้าคงคลัง
- SKU (รหัสสินค้าคงคลัง) - รหัสเสริมที่เป็นตัวระบุสินค้าในธุรกิจของคุณ เพื่อการติดตามและการรายงานยอดขายที่มีประสิทธิผล SKU แต่ละรายการต้องไม่ซ้ำกัน คุณสามารถสร้างรูปแบบ SKU ของคุณเองได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SKU ได้ที่รูปแบบ SKU
- บาร์โค้ด (ISBN, UPC, GTIN, ฯลฯ ) - โดยทั่วไปแล้วตัวแทนจำหน่ายจะเป็นผู้ที่ใช้บาร์โค้ด ตัวระบุต้องเป็นรหัสผลิตภัณฑ์สากล (GTIN) ใหม่หรือที่มีอยู่ ช่องทางการขายบางส่วนจะกำหนดให้มี GTIN ก่อนจึงจะสามารถเผยแพร่สินค้าโดยใช้ช่องทางดังกล่าวได้
GTIN คือรหัสเฉพาะที่ใช้ในระดับสากลเพื่อจัดเก็บและระบุข้อมูลสินค้า ตัวอย่างของ GTIN คือ UPC, EAN และ ISBN ซึ่งอาจมีความสั้นยาวแตกต่างกันไปตามประเภทของสินค้า คุณสามารถดู GTIN ได้ที่ด้านบนหรือด้านล่างของบาร์โค้ดบนบรรจุภัณฑ์สินค้าของคุณ
คุณสามารถใช้บาร์โค้ดที่สแกนโดยใช้ Shopify POS เพื่อเผยแพร่สินค้าในช่องทาง Google & YouTube
หากคุณไม่มี GTIN สำหรับสินค้า คุณสามารถส่งคำขอเพื่อรับได้จากผู้ผลิต ดูวิธีรับ GTIN สำหรับสินค้าที่คุณผลิตได้ที่เว็บไซต์มาตรฐาน GS1 ห้ามปลอมแปลงข้อมูล GTIN สำหรับสินค้าของคุณ
สำหรับข้อมูลเ กี่ยวกับวิธีป้อนบาร์โค้ดโดยใช้สมาร์ทโฟน ให้ดูที่สแกนบาร์โค้ดด้วยกล้องของอุปกรณ์คุณ
ปริมาณ
หากคุณจัดการสินค้าคงคลังในหลายตำแหน่งที่ตั้ง ระบบจะแสดงจำนวนสำหรับสินค้าในแต่ละตำแหน่งที่ตั้ง
สามารถดูประเภทจำนวนต่อไปนี้ได้ในหน้ารายละเอียดสินค้า หรือในหน้ารายละเอียดตัวเลือกสินค้าแต่ละรายการ หากคุณดูสินค้าที่มีตัวเลือกสินค้าอยู่:
- ไม่พร้อมจำหน่าย - จำนวนของหน่วยที่ไม่พร้อมจำหน่าย
- จองไว้แล้ว - จำนวนหน่วยที่เป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งซื้อแต่ยังไม่ได้รับการจัดการ ระบบจะไม่นับหน่วยสินค้าคงคลังที่เป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งซื้อที่ยังไม่ช ำระเงินว่าเป็นหน่วยที่จองไว้แล้วจนกว่าคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินดังกล่าวจะกลายเป็นคำสั่งซื้อ
- พร้อมจำหน่าย - จำนวนหน่วยที่สามารถขายได้
- มีอยู่ - จํานวนหน่วยทั้งหมดที่คุณมีในตำแหน่งที่ตั้งหนึ่ง ซึ่งได้แก่ สินค้าที่ผูกมัดแล้ว ไม่พร้อมจำหน่ายและพร้อมจำหน่าย
- ขาเข้า - จำนวนหน่วยขาเข้าไปยังตำแหน่งที่ตั้งหนึ่งๆ ดูที่การถ่ายโอนสินค้าคงคลัง
การจัดส่ง
- นี่คือสินค้าแบบจับต้องได้ - เลือกตัวเลือกนี้ให้กับสินค้าแบบจับต้องได้ที่คุณจัดส่ง
- น้ำหนัก - น้ำหนักของสินค้า ช่องนี้จะปรากฏต่อเมื่อช่องสินค้านี้เป็นสินค้าแบบจับต้องได้ถูกเลือก โดยน้ำหนักสินค้าจะต้องถูกต้องทุกประการ เนื่องจากต้องใช้น้ำหนั กสินค้าในการคำนวณอัตราค่าจัดส่ง ทั้งนี้ คุณสามารถสั่งซื้อเครื่องชั่งไปรษณีย์ได้จากร้านค้าฮาร์ดแวร์ของ Shopify
-
ข้อมูลที่ปรับแต่งเอง - การเลือกนี้จะช่วยให้คุณสามารถบันทึกข้อมูลที่ต้องใช้เมื่อจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศได้ ช่องนี้จะปรากฏต่อเมื่อช่องสินค้านี้เป็นสินค้าแบบจับต้องได้ถูกเลือก
- ประเทศ/ภูมิภาคต้นทาง - ประเทศที่ผลิตหรือประกอบสินค้า หากสินค้านั้นประกอบด้วยวัสดุจากหลากหลายประเทศหรือภูมิภาค ให้ถือว่าประเทศหรือภูมิภาคที่ประกอบสินค้าขั้นสุดท้ายเป็นประเทศหรือภูมิภาคต้นทาง กฎเรื่องแหล่งต้นทางสินค้าจะแตกต่างกันไปตามประเทศหรือภูมิภาคที่แตกต่างกันและสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ
- พิกัดศุลกากร (HS) - หากคุณต้องการจัดส ่งสินค้าไปต่างประเทศ ให้ป้อนพิกัดศุลกากร (HS) โดยพิกัดเหล่านี้จะเป็นข้อมูลสำหรับศุลกากร เพื่อให้สามารถคิดภาษีกับคำสั่งซื้อได้อย่างเหมาะสม คุณสามารถหาพิกัดศุลกากรสำหรับสินค้าของคุณได้โดยการค้นหาด้วยคำสำคัญในช่องพิกัดศุลกากร (HS) ของหน้ารายละเอียดสินค้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิกัดศุลกากรได้จากองค์การศุลกากรโลก
ตัวเลือกสินค้าคือ
สำหรับสินค้าที่มีตัวเลือกสินค้า ส่วนนี้ในหน้ารายละเอียดสินค้าจะแสดงตัวเลือกต่างๆ ของสินค้า เช่น สีและขนาด หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกสินค้า ให้ดูที่ตัวเลือกสินค้า
ตัวเลือกการซื้อ
คุณสามารถเพิ่มตัวเลือกการซื้อให้กับสินค้าของคุณ เช่น การสมัครใช้งาน การทดลองใช้ก่อนซื้อ และการสั่งซื้อล่วงหน้า
หากมีการใช้ตัวเลือกการซื้อไว้กับสินค้าหรือตัวเลือกสินค้าใดๆ ก็ตาม ระบบจะแสดงการตั้งค่าตัวเลือกการซื้อที่เกี่ยวข้องในส่วนตัวเลือกการซื้อของหน้ารายละเอียดสินค้า
คุณสามารถเลือกจํากัดสินค้าให้มีเพียงตัวเลือกการซื้อ หรือจะเปิดใช้งานทั้งตัวเลือกการซื้อและการซื้อแบบครั้งเดียวก็ได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกการซื้อ
เมตาฟีลด์
คุณสามารถเพิ่มฟิลด์แบบกำหนดเองไปยังหน้าสินค้าของคุณได้โดยใช้เมตาฟิลด์ เมตาฟิลด์ช่วยให้คุณสามารถบันทึกข้อมูลเฉพาะทางที่มักจะไม่ได้รวมอยู่ในหน้าสินค้าของคุณ ตัวอย่างเช่น ผู้ขายเทียนอาจต้องการแสดงเวลาการเผาไหม้ของเทียนในหน้าสินค้าของตน ขณะที่ร้านขายของชำอาจต้องการแสดงวันหมดอายุของสินค้ากระป๋อง ต่อไปนี้คือตัวอย่างข้อมูลพิเศษอื่นๆ:
- หมายเลขของส่วนต่างๆ
- ตัวอย่างสี
- วันเปิดตัว
- สินค้าที่เกี่ยวข้อง
- ข้อมูลสรุปบล็อกโพสต์
- ไฟล์สำหรับดาวน์โหลด
เมตาฟิลด์จะแสดงในตารางที่แก้ไขได้บนหน้ารายละเอียดสินค้าในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ เมตาฟิลด์แต่ละช่องจะแสดงชื่อที่คุณเลือกตอนที่สร้างคำจำกัดความเมตาฟิลด์ของคุณ คุณสามารถคลิกในแต่ละแถวของตารางเพื่อแสดงประเภทและคำอธิบายของเมตาฟิลด์ได้ จากนั้นจึงป้อนค่า
หากคุณมีธีม Online Store 2.0 เช่น Dawn คุณสามารถใช้ตัวแก้ไขธีมเพื่อเชื่อมเมตาฟิลด์เข้ากับธีมของคุณและปรับแต่งหน้าต่างๆ ของคุณตามสินค้าหรือตัวเลือกสินค้าที่แสดงไว้ได้ หากคุณใช้ธีมวินเทจหรือต้องการเพิ่มประเภทเมตาฟิลด์ที่ธีมของคุณไม่รองรับ คุณสามารถแก้ไขโค้ดธีมของคุณหรือว่าจ้าง Shopify Partner ให้ช่วยเหลือคุณได้
การทำรายการสินค้าสำหรับเครื่องมือค้นหา
ส่วนนี้มีตัวอย่างที่จะแสดงลักษณะที่สินค้าคุณอาจแสดงในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา เช่น บน Google ตัวอย่างดังกล่าวจะประกอบไปด้วยชื่อสินค้า, URL ของสินค้าในร้านค้าออนไลน์ของคุณ และคำอธิบายสินค้า
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวิธีการแสดงสินค้าของคุณบนเครื่องมือค้นหา โปรดดูที่แก้ไขรายการเครื่องมือค้นหาสำหรับสินค้า
สถานะของสินค้า
สถานะสินค้าจะระบุว่าสินค้าพร้อมขายหรือไม่
เมื่อคุณสร้างสินค้าใหม่ สถานะสินค้าจะถูกตั้งเป็นมีจำหน่ายตามค่าเริ่มต้น สินค้าที่คุณสร้างโดยการทำซ้ำสินค้าที่มีอยู่ หรือสินค้าที่คุณยกเลิกการเก็บถาวรจะถูกตั้งค่าเป็นสถาน ะแบบร่างตามค่าเริ่มต้น
คุณสามารถกำหนดสถานะดังต่อไปนี้ได้:
- ใช้งานอยู่: รายละเอียดสินค้าเสร็จสมบูรณ์แล้วและพร้อมที่จะขายสินค้าแล้ว
- แบบร่าง: ต้องแก้ไขรายละเอียดสินค้าให้เสร็จสิ้นก่อนจึงจะสามารถขายได้
- เก็บถาวรแล้ว: รายละเอียดสินค้าเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่สินค้านี้ไม่มีการขายอีกต่อไป เมื่อคุณเก็บถาวรสินค้า สินค้าดังกล่าวจะถูกซ่อนจากหน้าร้านของคุณและจากรายการสินค้าหลักในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ
คุณสามารถเปลี่ยนสถานะของสินค้าหรือสินค้าต่างๆ ได้
ขั้นตอนมีดังนี้
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่สินค้า
ใช้ช่องทำเครื่องหมายเพื่อเลือกสินค้าหรือสินค้าหลายรายการ
-
ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี ้:
- หากต้องการเปลี่ยนสถานะของสินค้าหรือสินค้าต่างๆ เป็นมีจำหน่าย ให้คลิกตั้งเป็นมีจำหน่าย
- หากต้องการเปลี่ยนสถานะของสินค้าหรือสินค้าต่างๆ เป็นแบบร่าง ให้คลิกตั้งเป็นแบบร่าง
- หากต้องการเปลี่ยนสถานะของสินค้าหรือสินค้าต่างๆ เป็นเก็บถาวรแล้ว ให้คลิก … > เก็บถาวรสินค้า
กำลังเผยแพร่
ส่วนที่กำลังเผยแพร่บนหน้ารายละเอียดสินค้าจะแสดงรายการช่องทางการขายและตลาดของคุณ สำหรับร้านค้าในแผน Shopify Plus นี่คือส่วนที่แค็ตตาล็อก B2B ของคุณถูกจัดเก็บไว้ ระบบจะเลือกช่องทางการขายและตลาดทั้งหมดตามค่าเริ่มต้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าความพร้อมจำหน่ายของสินค้าในช่องทางการขายของคุณ