การจัดการใบลดหนี้และเครดิตการเรียกเก็บเงิน

ในหน้านี้ คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีจัดการใบลดหนี้และเครดิตการเรียกเก็บเงินผ่านส่วนผู้ดูแล Shopify

การจัดการใบลดหนี้สำหรับการปรับเปลี่ยนการเรียกเก็บเงิน

ระบบใช้ใบลดหนี้เพื่อยกเลิกใบเรียกเก็บเงินบางส่วนหรือทั้งหมดที่ออกให้คุณ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ

  • ใบเรียกเก็บเงินที่ยังไม่ชำระ หากคุณยังไม่ได้ชำระใบเรียกเก็บเงิน ระบบจะนำจำนวนเงินที่ระบุไว้ในใบลดหนี้ไปหักยอดเงินรวมที่ต้องชำระโดยอัตโนมัติ
  • ใบเรียกเก็บเงินที่ชำระแล้ว: หากคุณได้ชำระใบเรียกเก็บเงินไปแล้ว ใบลดหนี้สามารถทริกเกอร์ขอคืนเงินตามจำนวนที่ระบุ เพื่อคืนเงินเหล่านั้นให้กับคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เข้าถึงและดาวน์โหลดใบลดหนี้

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. ในส่วนใบเรียกเก็บเงินในอดีต ให้เลือกใบเรียกเก็บเงินที่มีใบลดหนี้ที่สอดคล้องกัน

  3. ในส่วนบัญชีของคุณจะได้รับเครดิตจำนวน [amount] เมื่อวันที่ [date] ให้คลิกดาวน์โหลดใบลดหนี้ ใบลดหนี้จะดาวน์โหลดลงในอุปกรณ์ของคุณในรูปแบบ PDF

การทำความเข้าใจยอดคงเหลือในบัญชีผู้ใช้และเครดิตการเรียกเก็บเงิน

บัญชีผู้ใช้การเรียกเก็บเงินแต่ละบัญชีใน Shopify จะมียอดคงเหลือ ยอดคงเหลือนี้มีลักษณะการทำงานดังนี้

  • ยอดคงเหลือมีค่าเป็นบวก ระบบจะใช้ยอดคงเหลือที่มีค่าเป็นบวกในบัญชีผู้ใช้ของคุณเพื่อหักลดจำนวนเงินที่ครบกำหนดชำระในใบแจ้งหนี้ในอนาคต ดำเนินการต่อไปได้จนกว่ายอดคงเหลือจะมีค่าเป็นศูนย์
  • ใบลดหนี้และใบแจ้งหนี้ เมื่อมีการออกใบลดหนี้เนื่องจาก Shopify มีจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคุณ ระบบจะปรับกระบวนการชำระเงินสำหรับใบแจ้งหนี้ที่กำลังจะมาถึง วิธีนี้จะช่วยลดจำนวนเงินที่คุณต้องชำระครั้งถัดไปหรืออาจครอบคลุมใบแจ้งหนี้ทั้งหมดก็ได้

เกณฑ์คุณสมบัติสำหรับเครดิตการเรียกเก็บเงิน

Shopify จะไม่คืนเงินให้กับผู้ขาย รวมถึงคำขอคืนเงินหรือเครดิตสำหรับบริการที่ไม่ได้ใช้ โดเมนที่สะกดผิด หรือกรณีที่ผู้ขายไม่มีสิทธิ์ได้รับเครดิต ดูรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายการคืนเงินของ Shopify ได้ที่ส่วนที่ 5.10 ของข้อกำหนดในการใช้บริการShopify

การคืนเงินเป็นเครดิตบัญชีผู้ใช้

หากคุณเลือกการคืนเงินในรูปแบบเครดิตบัญชีผู้ใช้ เครดิตเหล่านี้จะถูกหักออกจากยอดคงเหลือที่ครบกำหนดในใบเรียกเก็บเงินครั้งถัดไปโดยอัตโนมัติ

ตัวอย่างเช่น หากบัญชีผู้ใช้ของคุณได้รับเครดิต 40 ดอลลาร์สหรัฐในรอบการเรียกเก็บเงินตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 จนถึง 30 มกราคม 2025 ระบบจะใช้เครดิตนี้เพื่อลดยอดชำระในรอบการเรียกเก็บเงินถัดไป ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2025 จนถึง 1 มีนาคม 2025

ประเภทและการใช้งานเครดิตการเรียกเก็บเงิน

เราจัดหมวดหมู่เครดิตบัญชีผู้ใช้การเรียกเก็บเงินดังต่อไปนี้และนำไปใช้ตามลำดับ

  • นำเครดิตการสมัครใช้งานมาใช้เป็นส่วนลดสำหรับค่าสมัครใช้งานได้
  • นำเครดิตแอปมาใช้เป็นส่วนลดสำหรับค่าบริการแอปได้
  • นำเครดิตค่าจัดส่งมาใช้เป็นส่วนลดสำหรับค่าจัดส่งได้
  • นำเครดิตธุรกรรมมาใช้เป็นส่วนลดสำหรับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมได้

ระบบจะใช้เครดิตการเรียกเก็บเงินอย่างไร

เรากำหนดเครดิตในบัญชีผู้ใช้ Shopify ไว้สำหรับหมวดหมู่การเรียกเก็บเงินที่เจาะจง โดยระบบจะนำไปใช้กับใบแจ้งหนี้ถัดไปภายในหมวดหมู่เดียวกันที่ได้รับมอบหมายโดยอัตโนมัติ สิ่งสำคัญคือต้องทราบข้อจำกัดดังต่อไปนี้

  • หมวดหมู่ที่เจาะจง ไม่สามารถนำเครดิตที่ได้รับในหมวดหมู่ใดหมวดหมู่หนึ่ง (เช่น การสมัครใช้งานหรือการจัดส่ง) ไปโอนให้หรือใช้ชำระค่าบริการในหมวดหมู่อื่น
  • การเรียกเก็บเงินในอนาคตเท่านั้น คุณสามารถใช้เครดิตสำหรับรอบการเรียกเก็บเงินในอนาคตเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับค่าใช้จ่ายปัจจุบันหรือค่าใช้จ่ายที่ค้างชำระในบัญชีผู้ใช้ของคุณ รวมถึงการสมัครใช้งานและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม

ตรวจสอบเครดิตการเรียกเก็บเงินที่คุณมี

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. หากคุณมีเครดิตพร้อมให้ใช้งานไม่ว่าจะประเภทใดๆ ให้คลิกดูเครดิตคงเหลือ ในส่วนรอบการเรียกเก็บเงินปัจจุบัน

  3. ในกล่องโต้ตอบ “เครดิตในบัญชีผู้ใช้ของคุณ” ดูเครดิตที่คุณมีอยู่ในประเภทเครดิตใดๆ

เครดิตที่แบ่งตามสัดส่วนระหว่างการอัปเกรดแผน Shopify

หากคุณอัปเกรดแผน Shopify เมื่ออยู่ในรอบการเรียกเก็บเงิน เวลาสมัครใช้งานที่ยังไม่ใช้จะถูกแปลงเป็นเครดิตที่แบ่งตามสัดส่วน โดยระบบจะนำเครดิตเหล่านี้มาใช้กับใบแจ้งหนี้แผนที่คุณอัปเกรดโดยอัตโนมัติ

วิธีคำนวณเครดิตที่แบ่งตามสัดส่วน

หากคุณอัปเกรดแผนในระหว่างรอบการเรียกเก็บเงิน ระบบจะคำนวณจำนวนวันที่ยังไม่ใช้ในแผนปัจจุบัน แล้วแปลงเป็นเครดิต คำนวณได้โดยนำค่าใช้จ่ายแผนรายเดือน มาหารด้วยจำนวนวันในเดือนนั้น แล้วคูณด้วยจำนวนวันที่ยังไม่ใช้

ตัวอย่างการคำนวณเครดิตที่แบ่งตามสัดส่วน

สมมุติว่าแผนการสมัครใช้งานร้านค้า Shopify มีค่าใช้จ่าย 39 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน โดยคุณได้รับใบแจ้งหนี้รายเดือนในวันที่ 1 พฤษภาคม หากคุณตัดสินใจอัปเกรดเป็นแผนที่สูงกว่าในวันที่ 11 พฤษภาคม เท่ากับว่าคุณไม่ได้ใช้งาน 19 วันในการสมัครใช้งานเดิม วิธีการคำนวณและใช้เครดิตที่แบ่งตามสัดส่วนมีดังต่อไปนี้

  1. คำนวณอัตรารายวัน: อัตรารายวัน = 39 ดอลลาร์สหรัฐ/30 วัน = 1.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน
  2. คำนวณเครดิตที่แบ่งตามสัดส่วน: 1.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน x 19 วันที่ยังไม่ใช้ = 24.70 ดอลลาร์สหรัฐ

ตัวอย่างการใช้เครดิตที่แบ่งตามสัดส่วนสำหรับแผน Shopify ใหม่รายเดือน

นี่คือวิธีใช้เครดิตที่แบ่งตามสัดส่วนเพื่อปรับจำนวนเงินในใบแจ้งหนี้สำหรับการอัปเกรด

  • ค่าใช้จ่ายแผนใหม่: 105 ดอลลาร์สหรัฐ
  • หักเครดิตที่แบ่งตามสัดส่วน: 24.70 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ยอดเงินใบแจ้งหนี้ขั้นสุดท้าย: 105 - 24.70 ดอลลาร์สหรัฐ = 80.30 ดอลลาร์สหรัฐ

ดังนั้น ใบแจ้งหนี้จะมีมูลค่า 80.30 ดอลลาร์สหรัฐ

ตัวอย่างการใช้เครดิตที่คิดตามสัดส่วนสำหรับแผนใหม่ของ Shopify รายปี

นี่คือวิธีใช้เครดิตที่แบ่งตามสัดส่วนเพื่อปรับจำนวนเงินในใบแจ้งหนี้สำหรับการอัปเกรด

  • ค่าใช้จ่ายรายปี: 348 ดอลลาร์สหรัฐ
  • หักเครดิตที่แบ่งตามสัดส่วน: 24.70 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ยอดเงินใบแจ้งหนี้ขั้นสุดท้าย: 348 - 24.70 ดอลลาร์สหรัฐ = 323.30 ดอลลาร์สหรัฐ

ดังนั้น ใบแจ้งหนี้จะมีมูลค่า 323.30 ดอลลาร์สหรัฐ

การทำความเข้าใจนโยบายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม

เมื่อคุณยกเลิกคำสั่งซื้อใน Shopify ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกนั้นจะไม่มีการคืนเงินไปยังบัญชีผู้ใช้ของคุณและไม่คืนเครดิตให้

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจะแยกต่างหากจากค่าธรรมเนียม Shopify Payments ซึ่งจะหักจากการรับชำระเงินของคุณโดยตรง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย

ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ