การโต้แย้งการเรียกเก็บเงินในบัญชี Shopify Credit ของคุณ

ในฐานะผู้ขายบน Shopify แล้ว คุณควรทำหน้าที่กำกับดูแลธุรกรรมทางการเงินของคุณ ซึ่งรวมถึงธุรกรรมที่มีในบัญชี Shopify Credit ของคุณ หากคุณพบธุรกรรมที่คุณคิดว่าไม่ถูกต้อง คุณจะมีตัวเลือกในการโต้แย้ง

หากคุณสงสัยว่าบัตร Shopify Credit ของคุณถูกบุกรุก สูญหาย ถูกขโมย หรือใช้โดยฉ้อโกง คุณควรยกเลิกบัตรและขอใบใหม่ทันทีเพื่อปกป้องบัญชีของคุณและป้องกันกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ต่อไป

ทำความเข้าใจกับข้อแตกต่างระหว่างการโต้แย้งและการคืนเงิน

ข้อโต้แย้งจะเกิดขึ้นเมื่อคุณระบุข้อผิดพลาดหรือปัญหาเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินรายการใดรายการหนึ่งในบัญชีของคุณ โดยระบุว่าการเรียกเก็บเงินไม่ถูกต้อง หรือผู้ขายไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดในการใช้บริการที่ตกลงกันไว้ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับกรณีที่มียอดเรียกเก็บเงินไม่ถูกต้อง ความไม่พอใจต่อคุณภาพของสินค้าหรือบริการ หรือไม่ได้รับการจัดส่งสินค้าหรือบริการ ในกระบวนการโต้แย้งนั้น คุณต้องทำการโต้แย้งการเรียกเก็บเงินผ่าน Shopify Credit (ผู้ออกบัตร) ซึ่งจะเป็นฝ่ายตรวจสอบและไกล่เกลี่ยกับผู้ขายเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

ในทางกลับกัน การคืนเงินเป็นคำขอแบบตรงไปตรงมาซึ่งจะขอกับผู้ขายโดยตรงให้คืนเงินที่ได้ชำระไป ซึ่งตามปกติมักเกิดขึ้นเพราะคุณเปลี่ยนแผน ไม่พอใจกับการซื้อ หรือตัดสินใจคืนสินค้าตามนโยบายการคืนสินค้า การคืนเงินจะแตกต่างกับการโต้แย้งตรงที่การคืนเงินไม่ต้องมีผู้ออกบัตรเข้ามาเกี่ยวข้องในขั้นแรก และเป็นการดำเนินการระหว่างคุณและผู้ขายกันโดยตรง

ความแตกต่างที่สำคัญนั้นอยู่ที่วิธีการแก้ไขข้อโต้แย้งแต่ละประเภท การโต้แย้งมีความเกี่ยวข้องกับตัวกลาง (ผู้ออกบัตร) และอิงจากการเรียกร้องให้ชดเชยข้อผิดพลาดในการเรียกเก็บเงินหรือความล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริการ การคืนเงินคือธุรกรรมที่กระทำโดยตรงกับผู้ขายโดยอิงจากความพึงพอใจของลูกค้าหรือนโยบายการคืนสินค้าโดยไม่ต้องพิจารณาถึงความถูกต้องของธุรกรรมเริ่มต้น

สิทธิ์ในการโต้แย้งการเรียกเก็บเงินจากบัญชีของบัตรสำหรับธุรกิจของ Shopify Credit

ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการโต้แย้ง โปรดทำความเข้าใจกับเกณฑ์กำหนดสิทธิ์ดังต่อไปนี้

  • สถานะธุรกรรม: เฉพาะธุรกรรมที่มีการบันทึกข้อมูลไว้เท่านั้นที่โต้แย้งได้
  • กรอบเวลา: คุณจะต้องรายงานข้อโต้แย้งโดยทันที
  • หมวดหมู่การโต้แย้ง: การโต้แย้งที่มีสิทธิ์จะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่แบบเฉพาะเจาะจง

คุณสามารถโต้แย้งได้เฉพาะการซื้อเท่านั้น ไม่สามารถโต้แย้งการคืนเงินได้

หมวดหมู่การโต้แย้งที่มีสิทธิ์สำหรับธุรกรรมผ่านบัตร Shopify Credit

คุณสามารถโต้แย้งการเรียกเก็บเงินจากบัญชี Shopify Credit ของคุณด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

  • ยกเลิกแล้ว
  • ทำซ้ำ
  • การฉ้อโกง
  • สินค้าไม่ตรงตามคำอธิบาย
  • ไม่ได้รับ
  • บริการไม่ตรงตามคำอธิบาย
  • เหตุผลอื่นๆ

บัตรสำหรับธุรกิจของ Shopify Credit ที่ถูกโจรกรรม

หากคุณเชื่อว่าบัตรสำหรับธุรกิจ Shopify Credit ของคุณถูกละเมิดข้อมูล สูญหาย ถูกขโมย หรือใช้งานในลักษณะฉ้อฉล คุณควรยกเลิกบัตรและสั่งซื้อบัตรใหม่โดยทันทีที่ทราบ

ดูวิธีเปลี่ยนหรือล็อกบัตรสำหรับธุรกิจของ Shopify Credit

การดำเนินการก่อนการโต้แย้ง

ก่อนโต้แย้งการเรียกเก็บเงิน โปรดพิจารณาติดต่อกับผู้ขายและตรวจสอบรายละเอียดธุรกรรม ดังนี้:

  • ติดต่อกับผู้ขาย: ในหลายๆ กรณี การติดต่อกับผู้ขายโดยตรงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีกว่า โปรดลองพยายามแก้ไขปัญหากับผู้ขายก่อนทำการยื่นข้อโต้แย้ง หากคุณต้องการ ID ธุรกรรม โปรดติดต่อฝ่ายช่วยเหลือของ Shopify
  • ตรวจสอบรายละเอียดธุรกรรม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกรรมมีการบันทึกข้อมูลไว้แล้ว และยืนยันว่าวันที่ทำธุรกรรมอยู่ภายในกรอบเวลาที่ให้สิทธิ์ยื่นข้อโต้แย้งได้ (ผ่านมาแล้วไม่เกิน 60 วัน เว้นแต่ในกรณีที่ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต)

โต้แย้งการเรียกเก็บเงิน

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ให้ไปที่การเงิน > เครดิต
  2. ในส่วนธุรกรรม ให้คลิกที่ธุรกรรมที่คุณต้องการโต้แย้ง
  3. รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องที่จะช่วยสนับสนุนคำร้องของคุณ ตัวอย่างเช่น ใบเสร็จ การโต้ตอบกับผู้ขาย หลักฐานการคืนสินค้า และข้อตกลงการใช้บริการ
  4. ติดต่อกับฝ่ายช่วยเหลือของ Shopify และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกรรมที่เป็นประเด็น เหตุผลในการโต้แย้ง และหลักฐานเพิ่มเติมใดๆ ที่มีการร้องขอ
  5. ตรวจสอบยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้อง และให้ฝ่ายช่วยเหลือของ Shopify ส่งข้อโต้แย้งของคุณ

โต้แย้งข้อกล่าวหาฉ้อโกง

หากคุณตรวจพบธุรกรรมที่ฉ้อโกง คุณสามารถรายงานได้โดยตรงผ่าน Shopify admin ของคุณ กระบวนการนี้ช่วยให้คุณจัดการเรื่องนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องติดต่อที่ปรึกษาฝ่ายสนับสนุนของ Shopify

หลังจากที่คุณรายงานธุรกรรมแล้ว บัตร Shopify Credit ของคุณจะถูกยกเลิกทันทีและจะมีการออกบัตรทดแทนให้ การเปลี่ยนบัตรเสมือนจะออกให้ทันที สำหรับบัตรจริง คุณสามารถคาดหวังได้ว่าบัตรทดแทนจะมาถึงภายใน 5-8 วันทำการ หลังจากที่คุณได้รับบัตรใหม่แล้ว คุณควรอัปเดตการชำระเงินที่เกิดซ้ำด้วยรายละเอียดบัตรใหม่ของคุณ คุณยังสามารถตรวจสอบสถานะของรายงานธุรกรรมการฉ้อโกงของคุณได้โดยการดูรายละเอียดธุรกรรม

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ให้ไปที่การเงิน > เครดิต
  2. ในส่วนธุรกรรม คลิกธุรกรรมที่คุณเชื่อว่าเป็นการฉ้อโกง
  3. คลิก รายงานธุรกรรมที่น่าสงสัย
  4. ทางเลือก: หากคุณสงสัยว่ามีธุรกรรมหลายรายการที่เป็นการฉ้อโกง สามารถคลิกเพิ่มเพื่อรวมธุรกรรมเพิ่มเติมในรายงานของคุณได้
  5. ตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดที่คุณเลือก จากนั้นคลิกดำเนินการต่อ
  6. ทางเลือก: คลิกเพิ่มไฟล์เพื่อแนบหลักฐานที่เกี่ยวข้องซึ่งสนับสนุนการเรียกร้องของคุณ เช่น รายงานของตำรวจ หรือการโต้ตอบกับผู้ขาย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ยกเว้นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตหรือรหัสผ่านส่วนตัว คลิกดำเนินการต่อหลังจากแนบเอกสารของคุณ
  7. ทางเลือก: สำหรับบัตรจริง ให้ยืนยันที่อยู่สำหรับจัดส่งของคุณ จากนั้นคลิกดำเนินการต่อ
  8. ยืนยันรายงานของคุณโดยเลือกฉันยืนยันว่าฉันไม่ได้อนุญาตธุรกรรมที่เลือก จากนั้นคลิกส่งรายงาน
  9. ในกล่องโต้ตอบส่งรายงานและเปลี่ยนบัตร คลิกดำเนินการต่อ

การยกเลิกข้อโต้แย้ง

หากคุณต้องการยกเลิกข้อโต้แย้ง คุณมีเวลา 24 ถึง 48 ชั่วโมงในการขอยกเลิกข้อโต้แย้งนับจากเวลาที่มีการสร้างข้อโต้แย้งดังกล่าวขึ้น หลักจากที่มีการยกเลิกข้อโต้แย้งแล้ว คุณจะไม่สามารถโต้แย้งธุรกรรมนั้นๆ ได้อีกในภายหลัง

ตัวเลือกในการยกเลิกข้อโต้แย้งจะไม่สามารถใช้งานได้เมื่อคุณรายงานการเรียกเก็บเงินที่เป็นการฉ้อโกงผ่านส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ

ลำดับเหตุการณ์การระงับข้อโต้แย้งและคำตัดสินที่เป็นที่สิ้นสุด

อาจใช้เวลาในการระงับข้อโต้แย้งสูงสุดถึง 90 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและรายละเอียดที่กำหนดโดยกฎเครือข่าย (เช่น Visa)

หลังจากที่คุณส่งข้อโต้แย้งแล้ว พาร์ทเนอร์ทางธนาคารของ Shopify Credit จะเป็นฝ่ายตรวจสอบข้อโต้แย้งนั้น คุณจะได้รับอัปเดตทางอีเมลเกี่ยวกับสถานะและผลลัพธ์ของการตรวจสอบการโต้แย้ง หากมีคำตัดสินให้คุณเป็นฝ่ายชนะการโต้แย้ง ระบบจะปรับบัญชีของคุณให้สอดคล้องกับคำตัดสิน

คำตัดสินในการระงับข้อโต้แย้งถือเป็นที่สิ้นสุด

ทำความเข้าใจกับข้อโต้แย้งเกี่ยวกับบัตรประเภทต่างๆ

ตารางต่อไปนี้จำแนกข้อโต้แย้งเกี่ยวกับบัตรออกเป็นประเภทต่างๆ บอกรายละเอียดข้อโต้แย้งแต่ละประเภท ชี้แจงเอกสารสำคัญที่อาจจำเป็นต้องใช้ในการดำเนินการ และยกตัวอย่างสถานการณ์ที่จัดเป็นข้อโต้แย้งที่ยอมรับได้หรือยอมรับไม่ได้

ประเภทข้อโต้แย้งคำอธิบายประเภทข้อโต้แย้งเอกสารที่จำเป็นตัวอย่างข้อโต้แย้งที่ยอมรับได้ตัวอย่างข้อโต้แย้งที่ยอมรับไม่ได้
การหลอกลวงมีการเรียกเก็บเงินโดยปราศจากคำยินยอมจากผู้ถือบัตร
  • คำอธิบาย (ต้องมี): อธิบายธุรกรรมที่เป็นประเด็นและเหตุผลในการโต้แย้ง
  • เอกสารเพิ่มเติม: เอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบแจ้งยอดบัตรและการติดตามการจัดส่งคืนสินค้า ในรูปแบบไฟล์ PDF หรือ JPEG
มีธุรกรรมที่ไม่รู้จักปรากฏอยู่ในใบแจ้งยอดโต้แย้งธุรกรรมที่คุณลืมไปแล้ว
ไม่ได้รับจัดส่งชำระค่าสินค้าหรือบริการไปแล้วแต่ไม่ได้รับจัดส่งตามที่ตกลงกันไว้
  • ประเภทสินค้า (ต้องมี)
  • คำอธิบายสินค้า (ต้องมี)
  • วันที่คาดว่าจะได้รับ (ต้องระบุ)
  • คำอธิบาย: ระบุว่าสินค้ามาถึงช้าหรือไม่
  • เอกสารเพิ่มเติม: ภาพหน้าจอแสดงอีเมลหรือข้อความ
ชำระค่าสินค้าไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับจัดส่งโต้แย้งการจัดส่งล่าช้าแต่มีการจัดส่งแล้ว
ทำซ้ำถูกเรียกเก็บเงินจากธุรกรรมเดียวกันเกินหนึ่งครั้ง
  • ส่งเอกสารใดเอกสารหนึ่งต่อไปนี้
    • ใบเสร็จเงินสด: ใบเสร็จของการทำธุรกรรมด้วยเงินสด
    • ภาพเช็ค: ภาพเช็คทั้งสองด้าน
    • ธุรกรรมเดิม: โทเค็นแสดงการทำธุรกรรมครั้งแรก
มีการเรียกเก็บเงินเหมือนกันสองครั้งปรากฏอยู่ในใบแจ้งยอดมีการเรียกเก็บเงินสำหรับธุรกรรมที่คล้ายกันสองรายการซึ่งทำโดยสมัครใจ
สินค้าไม่ตรงตามคำอธิบายสินค้าที่ได้รับแตกต่างจากคำอธิบาย ณ เวลาที่ทำการซื้อ
  • ได้รับเมื่อ (ต้องมี)
  • สถานะการคืนสินค้า (ต้องมี): ผลจากการขอคืนสินค้า
  • ส่งคืนเมื่อ (ต้องมี)
  • คำบรรยายการคืนสินค้า (ต้องมี): รายละเอียดขั้นตอนการคืนสินค้า
  • คำอธิบาย (ต้องมี)
  • เอกสารเพิ่มเติม: ภาพหน้าจอแสดงการโต้ตอบ
สินค้าที่ได้รับมีสี รูปลักษณ์ หรือขนาดแตกต่างไปจากที่สั่งเอาไว้โต้แย้งเพราะนึกเสียดายที่ซื้อหรือเกิดเปลี่ยนใจหลังจากที่ได้รับสินค้าที่ตรงตามคำอธิบายแล้ว
บริการไม่ตรงตามคำอธิบายได้รับบริการแตกต่างไปจากที่ซื้อไว้
  • ได้รับเมื่อ (ต้องมี)
  • ยกเลิกเมื่อ (ต้องมี)
  • เหตุผลที่ยกเลิก (ต้องมี)
  • คำอธิบาย (ต้องมี)
  • เอกสารเพิ่มเติม: ภาพหน้าจอแสดงการโต้ตอบ
บริการผิดไปจากคุณภาพหรือเนื้อหาที่โฆษณาไว้อย่างมากไม่พอใจการให้บริการโดยประเมินจากประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งผู้ขายไม่ได้ให้คำมั่นไว้
ยกเลิกแล้วมีการเรียกเก็บเงินสำหรับบริการหรือสินค้าที่ถูกยกเลิกตามนโยบายของผู้ขาย
  • ประเภทสินค้า (ต้องมี)
  • คำอธิบายสินค้า (ต้องมี)
  • วันที่คาดว่าจะได้รับ (ต้องมี)
  • การปฏิบัติตามนโยบายการยกเลิก (ต้องมี)
  • ยกเลิกเมื่อ (ต้องมี)
  • เหตุผลที่ยกเลิก (ต้องมี)
  • ส่งคืนเมื่อ
  • สถานะการคืนสินค้า
  • คำอธิบาย
  • เอกสารเพิ่มเติม: ภาพหน้าจอแสดงการโต้ตอบ
ถูกเรียกเก็บเงินหลังจากที่คำสั่งซื้อถูกยกเลิกตามนโยบายการยกเลิกโต้แย้งหลังจากยกเลิกบริการหรือสินค้าซึ่งอยู่นอกกรอบเวลานโยบายการยกเลิก
อื่นๆข้อโต้แย้งที่ไม่เป็นไปตามหมวดหมู่มาตรฐาน
  • ประเภทสินค้า (ต้องมี)
  • คำอธิบายสินค้า (ต้องมี)
  • คำอธิบาย (ต้องมี)
  • เอกสารเพิ่มเติม: ภาพหน้าจอแสดงการโต้ตอบ
การเรียกเก็บเงินที่ไม่คาดคิดโดยไม่มีคำอธิบายหรือหมวดหมู่ที่ชัดเจนไม่มีตัวอย่าง เนื่องจากข้อโต้แย้งหมวดหมู่อื่นๆ ครอบคลุมสถานการณ์ได้กว้างมาก จึงต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป
ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ