การสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

คุณสามารถสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินในนามของลูกค้าของคุณแล้วส่งใบแจ้งหนี้ของคำสั่งซื้อให้แก่ลูกค้าของคุณได้ ตามค่าเริ่มต้นแล้ว ใบแจ้งหนี้จะมีลิงก์ที่นำทางไปยังหน้าการชำระเงิน ซึ่งเป็นที่ลูกค้าของคุณสามารถชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อของตนได้

คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินอาจมีข้อมูลดังต่อไปนี้:

ในหน้านี้

สร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่

คุณสามารถสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่ได้จากหน้า คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ของส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่ไม่มีข้อมูลคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่กรอกไว้ล่วงหน้า ดังนั้นคุณต้องเพิ่มรายละเอียดสำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินทั้งหมดด้วยตนเอง

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกสร้างคำสั่งซื้อ

  3. เพิ่มสินค้าไปยังคำสั่งซื้อ

  4. ปรับแต่งคำสั่งซื้อ:

    • เพิ่มลูกค้า
    • ใช้ส่วนลด
    • เปิดหรือปิดการคิดภาษี
    • เพิ่มแท็กหรือหมายเหตุ
    • เปลี่ยนตลาดเพื่อแสดงสกุลเงินในพื้นที่อื่น
  5. ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

คุณยังสามารถสร้างคำสั่งซื้อที่กรอกข้อมูลลูกค้าไว้ล่วงหน้าโดยใช้ข้อมูลจากโปรไฟล์ลูกค้าได้เช่นกัน

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
  2. แตะที่ปุ่ม “+
  3. เพิ่มสินค้าไปยังคำสั่งซื้อ
  4. ปรับแต่งคำสั่งซื้อ:

    • เพิ่มลูกค้า
    • ใช้ส่วนลด
    • เปิดหรือปิดการคิดภาษี
    • เพิ่มแท็กหรือหมายเหตุ
    • เปลี่ยนตลาดเพื่อแสดงสกุลเงินในพื้นที่อื่น
  5. ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
  2. แตะที่ปุ่ม “+
  3. เพิ่มสินค้าไปยังคำสั่งซื้อ
  4. ปรับแต่งคำสั่งซื้อ:

    • เพิ่มลูกค้า
    • ใช้ส่วนลด
    • เปิดหรือปิดการคิดภาษี
    • เพิ่มแท็กหรือหมายเหตุ
    • เปลี่ยนตลาดเพื่อแสดงสกุลเงินในพื้นที่อื่น
  5. ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

การสร้างสำเนาคำสั่งซื้อที่มีอยู่หรือคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

เมื่อคุณสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน คุณสามารถประหยัดเวลาได้โดยการสร้างสำเนาคำสั่งซื้อที่มีอยู่หรือสร้างสำเนาคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่ ตรวจสอบตัวอย่างต่อไปนี้เมื่อมีการสร้างสำเนาคำสั่งซื้อที่มีอยู่อาจเป็นประโยชน์:

เมื่อคุณสร้างสำเนาคำสั่งซื้อที่มีอยู่หรือคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ระบบได้สร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่พร้อมข้อมูลสำเนาต่อไปนี้:

  • สินค้า สินค้าเฉพาะรายการที่ทำสำเนาไว้จะมีข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ หากลบสินค้าออก สินค้าดังกล่าวจะไม่ปรากฎในสำเนาคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  • รายการที่กำหนดเอง
  • ข้อมูลลูกค้า หากมีการลบลูกค้า ระบบจะสร้างลูกค้าตามอีเมล ที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน และที่อยู่สำหรับจัดส่ง
  • อีเมล ที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน และที่อยู่สำหรับจัดส่ง
  • หมายเหตุ การระบุแหล่งที่มาของหมายเหตุ และแท็ก
  • ตลาด

ส่วนลดและอัตราค่าจัดส่งจะไม่มีการทำซ้ำในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

สร้างสำเนาคำสั่งซื้อที่มีอยู่

เมื่อคุณสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินโดยการสร้างสำเนาคำสั่งซื้อที่มีอยู่ในส่วนผู้ดูแล Shopify

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ

  2. คลิกคำสั่งซื้อที่มีอยู่ที่คุณต้องการคัดลอก

  3. ในหน้ารายละเอียดคำสั่งซื้อ ให้คลิก ทำซ้ำ ระบบจะสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินด้วยสินค้าเฉพาะรายการเดียวกัน รวมทั้งข้อมูลลูกค้าและคำสั่งซื้อเดิม

  4. ไม่บังคับ: ปรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินพร้อมรายละเอียดใหม่

  5. เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ให้เลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะคำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อทั้งหมด
  2. แตะคำสั่งซื้อที่มีอยู่ที่คุณต้องการคัดลอก
  3. แตะ > ทำซ้ำ
  4. ไม่บังคับ: ปรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินพร้อมรายละเอียดใหม่
  5. เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ให้เลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะคำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อทั้งหมด
  2. แตะคำสั่งซื้อที่มีอยู่ที่คุณต้องการคัดลอก
  3. แตะ > ทำซ้ำ
  4. ไม่บังคับ: ปรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินพร้อมรายละเอียดใหม่
  5. เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ให้เลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

หากคุณบันทึกคำสั่งซื้อเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน คุณสามารถอัปเดตในภายหลังได้จากหน้าคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินในส่วนผู้ดูแล Shopify เมื่อคุณยอมรับการชำระเงินจากหน้าคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ระบบจะสร้างคำสั่งซื้อในหน้าคำสั่งซื้อ

สร้างสำเนาคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่

เมื่อคุณสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินโดยการสร้างสำเนาคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่ในส่วนผู้ดูแล Shopify

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่ที่คุณต้องการคัดลอก

  3. ในหน้ารายละเอียดคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ให้คลิก ทำซ้ำ ระบบจะสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่ด้วยสินค้าเฉพาะรายการเดียวกัน รวมทั้งข้อมูลลูกค้าและคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินเดิม

  4. ไม่บังคับ: ปรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินพร้อมรายละเอียดใหม่

  5. เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ให้เลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

iPhone
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่ที่คุณต้องการคัดลอก
  3. แตะ > ทำซ้ำ ระบบจะสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่ด้วยสินค้าเฉพาะรายการเดียวกัน รวมทั้งข้อมูลลูกค้าและคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินเดิม
  4. ไม่บังคับ: ปรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินพร้อมรายละเอียดใหม่
  5. เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ให้เลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
Android
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่ที่คุณต้องการคัดลอก
  3. แตะ > ทำซ้ำ ระบบจะสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่ด้วยสินค้าเฉพาะรายการเดียวกัน รวมทั้งข้อมูลลูกค้าและคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินเดิม
  4. ไม่บังคับ: ปรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินพร้อมรายละเอียดใหม่
  5. เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ให้เลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

หากคุณบันทึกคำสั่งซื้อเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่ คุณสามารถอัปเดตในภายหลังได้จากหน้าคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินในส่วนผู้ดูแล Shopify เมื่อคุณยอมรับการชำระเงินจากหน้าคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ระบบจะสร้างคำสั่งซื้อในหน้าคำสั่งซื้อ

เพิ่มสินค้าไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

คุณสามารถเพิ่มสินค้าและชุดรวมสินค้าไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินของคุณได้

นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกได้ว่าจะสำรองสินค้าในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้ารายอื่นๆ ไม่สามารถซื้อสินค้าคงคลังได้

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือคลิก สร้างคำสั่งซื้อ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่

  3. ในส่วนสินค้า ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

    • ป้อนชื่อสินค้าหรือชุดรวมสินค้าที่คุณต้องการเพิ่มไปยังคำสั่งซื้อของคุณ
    • คลิกที่ “เรียกดู” เพื่อดูรายการสินค้าและคอลเลกชันของร้านค้าของคุณ
    • สร้างสินค้าแบบกำหนดเองสำหรับคำสั่งซื้อนั้นโดยการคลิกที่เพิ่มสินค้าที่กำหนดเอง
  4. เลือกสินค้าหรือตัวเลือกสินค้าแต่ละรายการที่คุณต้องการเพิ่มลงในคำสั่งซื้อของคุณ

  5. คลิกที่ “เพิ่ม” หากต้องการลบสินค้าออกจากคำสั่งซื้อ ให้คลิกปุ่ม X ที่อยู่ด้านข้างสินค้าในส่วนสินค้า

  6. ตรวจสอบปริมาณที่คุณได้เพิ่มลงในคำสั่งซื้อ หากคุณเพิ่มสินค้าที่มีจำนวนสินค้าคงคลังเป็นศูนย์และสินค้านั้นไม่ได้รับอนุญาตให้มีการขายเกินจำนวน ข้อผิดพลาดสินค้าหมดจะแสดงให้ลูกค้าของคุณเห็นเมื่อพวกเขาพยายามสั่งซื้อ

  7. ตัวเลือกเสริม: สำรองสินค้าที่มีอยู่ในใบแจ้งหนี้หรือในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้ารายอื่นซื้อสินค้าดังกล่าว

iPhone
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่คุณต้องการเพิ่มสินค้าลงไป
  3. ในส่วนสินค้า ให้แตะ เพิ่มสินค้า เพื่อดูรายการสินค้าของร้านค้าของคุณ คุณสามารถสร้างรายการแบบกำหนดเองสำหรับคำสั่งซื้อได้เช่นกันโดยแตะที่เพิ่มรายการแบบกำหนดเอง:
  4. แตะสินค้าหรือชุดรวมสินค้าที่คุณต้องการเพิ่มลงในคำสั่งซื้อ
  5. ตัวเลือกสินค้า: หากต้องการลบสินค้าออกจากคำสั่งซื้อ ให้แตะไอคอนถังขยะที่อยู่ข้างสินค้าที่คุณต้องการลบ
  6. ตรวจสอบปริมาณที่คุณได้เพิ่มลงในคำสั่งซื้อ หากคุณเพิ่มสินค้าที่มีจำนวนสินค้าคงคลังเป็นศูนย์และสินค้านั้นไม่ได้รับอนุญาตให้มีการขายเกินจำนวน ข้อผิดพลาดสินค้าหมดจะแสดงให้ลูกค้าของคุณเห็นเมื่อพวกเขาพยายามสั่งซื้อ
Android
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่คุณต้องการเพิ่มสินค้าลงไป
  3. ในส่วนสินค้า ให้แตะ เพิ่มสินค้า เพื่อดูรายการสินค้าของร้านค้าของคุณ คุณสามารถสร้างรายการแบบกำหนดเองสำหรับคำสั่งซื้อได้เช่นกันโดยแตะที่เพิ่มรายการแบบกำหนดเอง:
  4. แตะสินค้าหรือชุดรวมสินค้าที่คุณต้องการเพิ่มลงในคำสั่งซื้อ
  5. ตัวเลือกสินค้า: หากต้องการลบสินค้าออกจากคำสั่งซื้อ ให้แตะไอคอนถังขยะที่อยู่ข้างสินค้าที่คุณต้องการลบ
  6. ตรวจสอบปริมาณที่คุณได้เพิ่มลงในคำสั่งซื้อ หากคุณเพิ่มสินค้าที่มีจำนวนสินค้าคงคลังเป็นศูนย์และสินค้านั้นไม่ได้รับอนุญาตให้มีการขายเกินจำนวน ข้อผิดพลาดสินค้าหมดจะแสดงให้ลูกค้าของคุณเห็นเมื่อพวกเขาพยายามสั่งซื้อ

สำรองสินค้าคงคลังในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

เมื่อคุณสำรองสินค้าคงคลังในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน จำนวนสินค้าคงคลังเหล่านั้นจะอยู่ในสถานะสินค้าคงคลังที่ไม่พร้อมจำหน่าย และลูกค้ารายอื่นจะไม่สามารถซื้อสินค้าคงคลังเหล่านั้นได้ รายการสินค้าที่คุณสำรองจะถูกจำกัดไว้เฉพาะกับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินนั้นๆ หากคุณไม่ได้สำรองสินค้า ปริมาณสินค้าจะยังคงอยู่ในสถานะสินค้าคงคลังที่พร้อมจำหน่าย และลูกค้ารายอื่นๆ สามารถซื้อได้ คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะสินค้าคงคลังได้

หากต้องการสำรองรายการสินค้า ต้องเปิดใช้งานการติดตามสินค้าคงคลังสำหรับสินค้าดังกล่าว

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือคลิก สร้างคำสั่งซื้อ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่

  3. หลังจากเพิ่มสินค้าของคุณไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินแล้ว ให้คลิกที่ ... > สำรองสินค้าคงคลัง

  4. เลือกวันและเวลาที่การสำรองรายการสินค้าจะหมดอายุ

  5. คลิกที่เสร็จสิ้น

iPhone
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือแตะ + เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่
  3. หลังจากเพิ่มสินค้าในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินแล้ว ให้แตะที่ ... > สำรองสินค้าคงคลัง
  4. เลือกวันและเวลาที่การสำรองรายการสินค้าจะหมดอายุ
  5. แตะที่บันทึก
  6. แตะ บันทึก เพื่อบันทึกคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
Android
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือแตะ + เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่
  3. หลังจากเพิ่มสินค้าในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินแล้ว ให้แตะที่ ... > สำรองสินค้าคงคลัง
  4. เลือกวันและเวลาที่การสำรองรายการสินค้าจะหมดอายุ
  5. แตะ
  6. แตะเพื่อบันทึกคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

ล็อกการกำหนดราคาสินค้าในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

ตามค่าเริ่มต้นแล้ว คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินจะต้องได้รับการอัปเดตเพื่อแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าในส่วนผู้ดูแล Shopify ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินให้เสร็จสิ้นได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเปิดใช้งานการล็อกการกําหนดราคาในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบอัปเดตการเปลี่ยนแปลงราคาของสินค้าเดิมหลังจากใช้การล็อกการกําหนดราคา

ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์ในสถานการณ์ที่คุณต้องการยึดราคาตามใบเสนอราคาที่ได้เสนอให้กับลูกค้า โดยไม่คำนึงว่าราคาสินค้าจะเปลี่ยนแปลงในภายหลังหรือไม่

การล็อกการกำหนดราคาจะมีผลใช้กับสินค้าที่มีอยู่ทั้งหมดในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน โดยรวมถึงสินค้าที่เพิ่มไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินหลังจากใช้การล็อกการกําหนดราคาแล้ว สินค้าที่ล็อกราคาไว้จะแสดงสัญลักษณ์รูปแม่กุญแจที่ด้านข้างราคาสินค้าในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน เมื่อคุณส่งใบแจ้งหนี้หรือลิงก์ชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อให้แก่ลูกค้า คุณจะมีตัวเลือกในการล็อกราคาสินค้าทั้งหมดหรือปลดล็อกราคาทั้งหมดในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินโดยอัตโนมัติ

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือคลิก สร้างคำสั่งซื้อ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่

  3. หลังจากเพิ่มสินค้าของคุณไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินแล้ว ให้คลิก > ล็อกการกำหนดราคาสินค้า

  4. คลิกอัปเดตคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

iPhone
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือแตะ + เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่
  3. หลังจากเพิ่มสินค้าของคุณไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินแล้ว ให้แตะที่ ... > การกำหนดราคาสินค้า
  4. แตะอัปเดตคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
Android
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือแตะ + เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่
  3. หลังจากเพิ่มสินค้าของคุณไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินแล้ว ให้แตะที่ ... > การกำหนดราคาสินค้า
  4. แตะที่ เพื่ออัปเดตคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

คุณสามารถปลดล็อกการกำหนดราคาสินค้ได้ทุกเมื่อ โดยเลือก ... > ปลดล็อกการกำหนดราคาสินค้า

เพิ่มส่วนลดให้กับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

คุณสามารถใช้ส่วนลดกับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับใช้ส่วนลดกับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

เพิ่มการจัดส่งไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

หากต้องจัดส่งคำสั่งซื้อปัจจุบัน คุณสามารถเลือกอัตราค่าจัดส่งที่ตั้งไว้ล่วงหน้า สร้างอัตราแบบกำหนดเอง หรือเลือกการจัดส่งในพื้นที่หรือการรับสินค้าที่ร้านก็ได้

หากต้องการใช้อัตราค่าจัดส่งตามตำแหน่งที่ตั้ง คุณจะต้องเพิ่มลูกค้าและที่อยู่ที่จัดส่งไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินของคุณก่อน หลังจากเพิ่มลูกค้าแล้ว คุณจะสามารถเลือกอัตราค่าจัดส่งในการตั้งค่าการจัดส่งของร้านค้าคุณได้

การปรับแต่งวิธีการจัดส่งที่คุณได้เปิดใช้งานในขั้นตอนการชำระเงินจะมีผลกับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินตามค่าเริ่มต้น

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือคลิก สร้างคำสั่งซื้อ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่

  3. คลิก เพิ่มการจัดส่งและการส่งมอบ

  4. ในกล่องโต้ตอบ “ตัวเลือกการจัดส่งและการส่งมอบ” ให้เลือกตัวเลือกการจัดส่ง:

    • หากต้องการเลือกจากอัตราค่าจัดส่งที่ใช้ได้ของร้านค้าคุณ ให้เลือก “อัตราค่าจัดส่ง” แล้วเลือกอัตราค่าจัดส่งที่ใช้ได้
    • หากต้องการเลือกวิธีจัดส่งในพื้นที่ ให้เลือก การจัดส่งในพื้นที่ หรือเลือก การรับสินค้าที่ร้าน จากนั้นเลือกหนึ่งในตำแหน่งที่ตั้งของคุณ
    • หากต้องการสร้างอัตราค่าจัดส่งแบบกำหนดเอง ให้เลือก “กำหนดเอง” จากนั้นป้อนชื่อและราคาของอัตราค่าจัดส่งที่กำหนดเอง
  5. คลิกนำไปใช้

iPhone
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการเพิ่มการจัดส่งลงไป
  3. แตะ เพิ่มการจัดส่งหรือการส่งมอบ
  4. เลือกตัวเลือกอัตราค่าจัดส่ง หรือแตะอัตราราคาแบบกำหนดเองเพื่อป้อนอัตราค่าจัดส่งแบบกำหนดเอง
  5. แตะที่บันทึก
Android
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการเพิ่มการจัดส่งลงไป
  3. แตะ เพิ่มการจัดส่งหรือการส่งมอบ
  4. เลือกตัวเลือกอัตราค่าจัดส่ง หรือแตะอัตราราคาแบบกำหนดเองเพื่อป้อนอัตราค่าจัดส่งแบบกำหนดเอง
  5. แตะ

เพิ่มแท็กไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

คุณสามารถเพิ่มแท็กเพื่อจัดระเบียบคำสั่งซื้อได้มากกว่าแค่แบ่งว่าคำสั่งซื้อนั้นมีการจัดเก็บยอดเงินแล้วหรือยัง ชำระเงินแล้วหรือยัง หรือจัดการแล้วหรือยัง คุณสามารถกรองคำสั่งซื้อด้วยแท็ก จากนั้นบันทึกมุมมองคำสั่งซื้อสำหรับแท็กนั้นเพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงคำสั่งซื้อเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วในอนาคต

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือคลิก สร้างคำสั่งซื้อ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่

  3. ในส่วนแท็ก ให้ป้อนชื่อแท็กโดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค แท็กคำสั่งซื้อจะต้องไม่เกิน 40 อักขระต่อแท็ก

  4. ไม่บังคับ: หากต้องการเลือกจากแท็กที่ใช้ก่อนหน้านี้ ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ แล้วคุณจะสามารถค้นหาแท็กของคุณได้ คลิก บันทึก เพื่อเพิ่มแท็กให้กับคำสั่งซื้อของคุณ

iPhone
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการเพิ่มแท็ก
  3. ในส่วนแท็ก ให้แตะ # แท็ก
  4. ในกล่องค้นหา ให้ป้อนชื่อแท็กโดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค จากนั้นให้เพิ่มแท็ก คุณสามารถค้นหาแท็กของคุณได้ แท็กคำสั่งซื้อจะต้องไม่เกิน 40 อักขระต่อแท็ก
  5. แตะแท็กที่คุณต้องการเพิ่ม
Android
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการเพิ่มแท็ก
  3. ในส่วนแท็ก ให้แตะ # แท็ก
  4. ในกล่องค้นหา ให้ป้อนชื่อแท็กโดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค จากนั้นให้เพิ่มแท็ก คุณสามารถค้นหาแท็กของคุณได้ แท็กคำสั่งซื้อจะต้องไม่เกิน 40 อักขระต่อแท็ก
  5. แตะแท็กที่คุณต้องการเพิ่ม

เพิ่มหรือลบภาษีออกจากคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

ตามค่าเริ่มต้นแล้ว คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินจะมีค่าภาษีตามการตั้งค่าภาษีของร้านค้าของคุณและที่อยู่การจัดส่งของลูกค้า หากคุณไม่มีที่อยู่การจัดส่งในรายการ ภาษีจะอิงตามที่อยู่การเรียกเก็บเงินของลูกค้าแทน

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือคลิก สร้างคำสั่งซื้อ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่

  3. ในส่วนการชำระเงิน ให้คลิก “ภาษีโดยประมาณ

  4. เลือกหรือยกเลิกการเลือก “เรียกเก็บภาษี

  5. คลิก “นำไปใช้” เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

iPhone
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง
  3. ในส่วนการชำระเงิน ให้สลับ “การเรียกเก็บภาษี” เป็นเปิดหรือปิด
Android
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง
  3. ในส่วนการชำระเงิน ให้สลับ “การเรียกเก็บภาษี” เป็นเปิดหรือปิด

เพิ่ม เปลี่ยน หรือลบลูกค้าออกจากคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

คุณสามารถเพิ่มลูกค้า เปลี่ยนข้อมูลของลูกค้า หรือลบลูกค้าออกจากคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินได้

เพิ่มลูกค้าไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

คุณสามารถเพิ่มลูกค้าใหม่หรือลูกค้าที่มีอยู่ไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินได้ การเพิ่มลูกค้าคือสิ่งจําเป็นเมื่อคุณต้องการใช้อัตราค่าจัดส่งตามตำแหน่งที่ตั้งสำหรับคำสั่งซื้อปัจจุบัน

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือคลิก สร้างคำสั่งซื้อ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่

  3. ในส่วน ลูกค้า ให้คลิกที่ช่อง ค้นหาหรือสร้างลูกค้า

  4. เพิ่มลูกค้าไปยังคำสั่งซื้อ:

    • หากคุณมีโปรไฟล์ลูกค้าสำหรับลูกค้ารายนี้อยู่แล้ว ให้พิมพ์ชื่อของพวกเขา จากนั้นคลิกชื่อลูกค้าจากตัวเลือกเมนูดรอปดาวน์
    • หากคุณกำลังเพิ่มลูกค้าใหม่ ให้คลิก สร้างลูกค้าใหม่ แล้วป้อนรายละเอียด จากนั้นคลิก บันทึกลูกค้า ระบบได้บันทึกลูกค้ารายนี้ไปยังร้านค้าของคุณแล้ว
  5. คลิกบันทึก

iPhone
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการเพิ่มลูกค้า
  3. ในส่วนลูกค้า ให้แตะ + เพิ่มลูกค้า
  4. แตะลูกค้าหรือแตะ + เพื่อสร้างลูกค้ารายใหม่
Android
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการเพิ่มลูกค้า
  3. ในส่วนลูกค้า แตะเพิ่มลูกค้า
  4. แตะลูกค้าหรือแตะ + เพื่อสร้างลูกค้ารายใหม่

การเปลี่ยนแปลงข้อมูลติดต่อของลูกค้า

คุณสามารถปรับข้อมูลของลูกค้าจากคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินได้

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือคลิก สร้างคำสั่งซื้อ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่

  3. ในส่วนลูกค้าของคำสั่งซื้อ ให้แตะ แล้วคลิก แก้ไขข้อมูลติดต่อ แก้ไขที่อยู่ที่จัดส่ง หรือ แก้ไขที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน

  4. ทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่จำเป็น

  5. คลิกบันทึก

iPhone
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง
  3. ในส่วนลูกค้าของคำสั่งซื้อ ให้แตะ แล้วแตะ แก้ไขข้อมูลติดต่อ แก้ไขที่อยู่ที่จัดส่ง หรือ แก้ไขที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน
  4. ทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลลูกค้า จากนั้นแตะบันทึก
  5. แตะที่ บันทึก เพื่อบันทึกคำสั่งซื้อ
Android
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง
  3. ในส่วนลูกค้าของคำสั่งซื้อ ให้แตะ แล้วแตะ แก้ไขข้อมูลติดต่อ แก้ไขที่อยู่ที่จัดส่ง หรือ แก้ไขที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน
  4. ทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลลูกค้า จากนั้นแตะ
  5. แตะที่ เพื่อบันทึกคำสั่งซื้อ

การลบลูกค้าออกจากคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

คุณสามารถลบลูกค้าออกจากคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินได้ โดยขั้นตอนนี้จะไม่ลบลูกค้าออกจากรายชื่อลูกค้าในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือคลิก สร้างคำสั่งซื้อ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่

  3. ในส่วนลูกค้าของคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ให้คลิก > ลบลูกค้าออก

  4. คลิก อัปเดตคำสั่งซื้อที่ยังไม่ได้ชำระเงิน เพื่อบันทึกคำสั่งซื้อที่ยังไม่ได้ชำระ

iPhone
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง
  3. ในส่วนลูกค้าของคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ให้แตะ > ลบลูกค้าออก
  4. แตะ บันทึก เพื่อบันทึกคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
Android
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง
  3. ในส่วนลูกค้าของคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ให้แตะ > ลบลูกค้าออก
  4. แตะเพื่อบันทึกคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

ตั้งค่าข้อกำหนดในการชำระเงินสำหรับการชำระเงินที่จะครบกำหนดในภายหลังให้กับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

ข้อกำหนดในการชำระเงินจะช่วยให้คุณกำหนดวันที่ครบกำหนดชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อได้ หลังจากที่คุณกำหนดระยะเวลาชำระเงินแล้ว คุณสามารถส่งใบแจ้งหนี้หรือรับการชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อ

ตรวจสอบตารางต่อไปนี้เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของข้อกำหนดในการชำระเงิน

ข้อกำหนดในการชำระเงินประเภทต่างๆ ที่ผู้ขายสามารถนำไปใช้กับคำสั่งซื้อที่มีการชำระเงินที่รอดำเนินการ
ข้อกำหนดในการชำระเงินคำอธิบาย
ครบกำหนดเมื่อได้รับใบเสร็จการชำระเงินจะครบกำหนดในวันที่คุณส่งใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้าของคุณ
ครบกำหนดเมื่อมีการจัดการคำสั่งซื้อการชำระเงินจะครบกำหนดในวันที่คุณจัดการรายการสินค้าทั้งหมดในคำสั่งซื้อ
ข้อกำหนดสุทธิการชำระเงินจะครบกําหนดชำระเงินภายในจำนวนวันที่ระบุนับตั้งแต่วันที่ออกกำหนด ทั้งนี้ ข้อกำหนดที่เรามีให้เลือกคือสุทธิ 7, สุทธิ 15, สุทธิ 30, สุทธิ 45, สุทธิ 60 และสุทธิ 90
ข้อกำหนดแบบตามกำหนดเวลาการชำระเงินจะครบกําหนดชำระเงินภายในจำนวนวันที่ระบุ

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือคลิก สร้างคำสั่งซื้อ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่

  3. ในส่วนการชำระเงิน ให้เลือกการชำระเงินที่จะครบกำหนดในภายหลัง

  4. จากเมนูดรอปดาวน์ข้อกำหนดการชำระเงิน ให้เลือกข้อกำหนดการชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อของคุณ

  5. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการเงินมัดจำสำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ขำระเงินของคุณ ให้คลิก + ต้องวางเงินมัดจำ จากนั้นป้อนข้อกำหนดเงินมัดจำเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 20% ซึ่งตัวเลือกนี้พร้อมใช้งานเฉพาะกับแผน Shopify Plus เท่านั้น

  6. คลิกบันทึก

iPhone
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือแตะ + เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่
  3. ในส่วนการชำระเงิน ให้เลือกการชำระเงินที่จะครบกำหนดในภายหลัง
  4. จากเมนูดรอปดาวน์ข้อกำหนดการชำระเงิน ให้เลือกข้อกำหนดการชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อของคุณ
  5. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการเงินมัดจำสำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ขำระเงินของคุณ ให้แตะ + ต้องวางเงินมัดจำ จากนั้นป้อนข้อกำหนดเงินมัดจำเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 20% ซึ่งตัวเลือกนี้พร้อมใช้งานเฉพาะกับแผน Shopify Plus เท่านั้น
  6. แตะที่บันทึก
Android
  1. ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือแตะ + เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่
  3. ในส่วนการชำระเงิน ให้เลือกการชำระเงินที่จะครบกำหนดในภายหลัง
  4. จากเมนูดรอปดาวน์ข้อกำหนดการชำระเงิน ให้เลือกข้อกำหนดการชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อของคุณ
  5. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการเงินมัดจำสำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ขำระเงินของคุณ ให้แตะ + ต้องวางเงินมัดจำ จากนั้นป้อนข้อกำหนดเงินมัดจำเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 20% ซึ่งตัวเลือกนี้พร้อมใช้งานเฉพาะกับแผน Shopify Plus เท่านั้น
  6. แตะ

สกุลเงินในพื้นที่บนคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

หากคุณใช้ International ในการขายสินค้าระหว่างประเทศ ระบบจะระบุสกุลเงินในพื้นที่ การกําหนดราคา ภาษี และอากรตามตลาดที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อนั้น

ระบบจะระบุตลาดที่เชื่อมโยงกับคำสั่งซื้อจากที่อยู่ที่จัดส่งของลูกค้า เมื่อเพิ่มลูกค้าไปยังคำสั่งซื้อ ระบบจะอัปเดตการกำหนดราคาและแสดงสกุลเงินในพื้นที่ของลูกค้าคุณ

ในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินซึ่งแสดงสกุลเงินในพื้นที่อื่นที่ไม่ใช่สกุลเงินของร้านค้า ระบบจะคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้เมื่อคุณสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน โดยอัตรานี้เป็นอัตราแบบตายตัวและระบบจะนำไปใช้กับใบแจ้งหนี้ ไม่ว่าอัตราแลกเปลี่ยนนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากคุณบันทึกคำสั่งซื้อเป็นแบบร่างและทำการแก้ไขในภายหลัง ระบบจะอัปเดตการกําหนดราคาทั้งหมดในคำสั่งซื้อโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เป็นปัจจุบัน ณ เวลาที่ทำการแก้ไข

หากคุณต้องการใช้การกําหนดราคาและสกุลเงินอื่นสำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ให้เปลี่ยนการกำหนดราคาและตรวจสอบดูผลกระทบดังต่อไปนี้ที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนการกำหนดราคาในการสั่งซื้อ:

  • ภาษีอาจรวมหรือไม่รวมอยู่ในราคาสินค้า ตัวอย่างเช่น คำสั่งซื้อที่อยู่ในตลาดสหรัฐอเมริกาจะไม่รวมภาษีไว้ในราคา แต่คำสั่งซื้อที่อยู่ในตลาดเยอรมนีจะรวมภาษีไว้ในราคาด้วย
  • อัตราภาษีจะแตกต่างกันไปตามตลาด ในขั้นตอนการชำระเงิน หากลูกค้าเปลี่ยนที่อยู่ที่จัดส่งเป็นที่อยู่ซึ่งอยู่นอกตลาด ระบบจะเรียกเก็บภาษีโดยใช้อัตราภาษีที่ถูกต้องสำหรับที่อยู่ที่จัดส่งของลูกค้า แต่ตลาดในคำสั่งซื้อซึ่งมีการตั้งค่าไว้ว่ารวมหรือไม่รวมภาษีนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
  • หากคุณใช้บริการจากภายนอกในการกําหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้กับตลาด ระบบจะระบุการกําหนดราคาในคำสั่งซื้อตามอัตราแลกเปลี่ยนของบริการ อย่างไรก็ตาม อัตราที่ Shopify Payments ใช้ในการคํานวณยอดเงินที่ร้านค้าของคุณจะได้รับนั้นจะอิงจากตลาดที่เลือกไว้ใน Shopify ดังนั้น จํานวนเงินที่เรียกเก็บจากคำสั่งซื้ออาจแตกต่างจากจํานวนเงินที่คุณได้รับในการชำระเงิน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่การแปลงสกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยน
  • ราคาขายปลีกที่ผู้ผลิตแนะนำ (MSRP): ในกรณีที่คุณต้องขายสินค้าตาม MSRP ในตลาดของลูกค้า หากคุณเปลี่ยนตลาดและใช้ราคาตลาดอื่นแทน นั่นอาจเป็นการละเมิดสัญญาได้

เปลี่ยนตลาดให้กับการสั่งซื้อ

หากคุณใช้ Shopify International และต้องการเปลี่ยนการกําหนดราคาและสกุลเงินในคำสั่งซื้อของคุณ คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนการกําหนดราคา ส่วนตลาดของคำสั่งซื้อของคุณจะปรากฏต่อเมื่อเปิดใช้งานตลาดอื่นที่ไม่ใช่ตลาดหลักของคุณแล้วเท่านั้น หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงการกําหนดราคาของตลาดใดตลาดหนึ่งโดยเฉพาะ คุณจำเป็นต้องเปิดใช้งานตลาดนั้นและสกุลเงินในพื้นที่ของตลาด

ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนแปลงการกําหนดราคา โปรดแน่ใจว่าได้ตรวจสอบผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงการกําหนดราคาแล้ว

ขั้นตอน:

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกแบบร่างคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข

  3. ในส่วนตลาด ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ

  4. เลือกตลาดเพื่อใช้การกำหนดราคากับแบบร่างคำสั่งซื้อของคุณ

  5. คลิก เปลี่ยนแปลงการกําหนดราคา

  6. คลิกที่ “บันทึก

iPhone
  1. ในแอป Shopify ให้ไปที่ คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่คุณต้องการแก้ไข
  3. ในส่วนตลาด ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
  4. เลือกตลาดเพื่อใช้การกำหนดราคากับแบบร่างคำสั่งซื้อของคุณ
  5. แตะ เปลี่ยนการกำหนดราคา
  6. แตะที่บันทึก
Android
  1. ในแอป Shopify ให้ไปที่ คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. แตะคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่คุณต้องการแก้ไข
  3. ในส่วนตลาด ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
  4. เลือกตลาดเพื่อใช้การกำหนดราคากับแบบร่างคำสั่งซื้อของคุณ
  5. แตะ เปลี่ยนการกำหนดราคา
  6. แตะ

ราคาคำสั่งซื้อจะแสดงเป็นสกุลเงินในพื้นที่ของลูกค้า เมื่อคุณทำการเปลี่ยนแปลงแบบกำหนดเองต่อไปนี้กับคำสั่งซื้อ:

  • หากคุณเพิ่มสินค้าเฉพาะรายการหรือส่วนลดคำสั่งซื้อแบบปรับแต่งเอง มูลค่าส่วนลดจะแสดงในสกุลเงินของร้านค้า
  • หากคุณเพิ่มราคาค่าจัดส่งที่กำหนดเอง ระบบจะแสดงราคาเป็นสกุลเงินของร้านค้า
  • หากคุณเพิ่มรายการที่กำหนดเอง ราคาจะปรากฏในสกุลเงินของร้านค้า

หลังจากที่คุณทำการเปลี่ยนแปลงแบบกำหนดเองเหล่านี้แล้ว ระบบจะแสดงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในคำสั่งซื้อด้วยสกุลเงินในพื้นที่ของลูกค้า

การลบคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

คุณสามารถลบคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินได้ ไม่ว่าคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินนั้นจะเปิดอยู่หรือเสร็จสิ้นไปแล้ว การลบคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินจะไม่เป็นการลบคำสั่งซื้อที่สร้างขึ้นจากแบบร่าง

ขั้นตอนมีดังนี้

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน

  2. คลิกคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่คุณต้องการลบ

  3. คลิกลบคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

  4. ในโมดอลดังกล่าว ให้คลิกลบคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินเพื่อยืนยันและลบรายการที่ยังไม่ชำระเงิน

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
  2. แตะที่แบบร่าง
  3. แตะคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่คุณต้องการลบ
  4. แตะ ... จากนั้นแตะลบคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  5. ในโมดอล ให้แตะลบเพื่อยืนยันและลบแบบร่าง
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน เพื่อเปิดการสั่งซื้อที่มีอยู่
  2. แตะที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  3. แตะคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่คุณต้องการลบ
  4. แตะ จากนั้นแตะลบคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  5. ในโมดอลดักล่าว ให้แตะลบเพื่อยืนยันและลบรายการที่ยังไม่ชำระเงิน

กฎการชำระเงินในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

กฎการตรวจสอบยืนยันการชำระเงินที่คุณได้ตั้งค่าไว้ในส่วนกฎการชำระเงินของการตั้งค่าการชำระเงินจะมีผลกับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินด้วย หากไม่ปฏิบัติตามกฎการตรวจสอบยืนยันข้อใดข้อหนึ่งขณะสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน แบนเนอร์ที่เขียนว่ากฎทางธุรกิจที่มีผลกับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินนี้พร้อมกับรายการกฎการชำระเงินที่เกี่ยวข้องซึ่งยังไม่ได้ปฏิบัติตามจะแสดงขึ้นมา

คุณสามารถแก้ไขตามคําเตือนได้โดยปรับเนื้อหาของคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินให้เป็นไปตามกฎการตรวจสอบยืนยัน หรือจะเลือกเรียกเก็บเงินสำหรับคำสั่งซื้อโดยไม่ทำการแก้ไขก็ได้ หากคุณเลือกที่จะเรียกเก็บเงินสำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน คุณจะได้รับคำเตือนเกี่ยวกับกฎการชำระเงินที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งคุณจะเลือกแก้ไขหรือละเว้นและสร้างคำสั่งซื้อก็ได้

หากคุณเลือกที่จะส่งใบแจ้งหนี้หรือลิงก์การชำระเงินโดยตรงสำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินซึ่งมีกฎการตรวจสอบยืนยันการชำระเงินที่ยังไม่ได้แก้ไขให้กับลูกค้า จะมีตัวเลือกให้คุณสามารถเปิดใช้งานการละเว้นกฎการชำระเงินทั้งหมดก่อนที่จะส่งใบแจ้งหนี้หรือคัดลอกลิงก์ได้ หากไม่ไดเปิดใช้งานตัวเลือกนี้ในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินซึ่งมีกฎการชำระเงินที่ยังไม่ได้แก้ไข ลูกค้าจะไม่สามารถดำเนินการชำระเงินให้เสร็จสิ้นได้

ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ