คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการอัปเดตข้อตกลง Partner Program ของเรา
ในวันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม 2023 Shopify ได้ส่งข้อมูลสรุปการอัปเดตที่จะมาถึงเกี่ยวกับข้อตกลง Partner Program ("PPA") รวมถึงใบอนุญาตและข้อกำหนดการใช้งาน API ของเรา การอัปเดตเหล่านี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 และรวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชี้แจงความรับผิดชอบของพาร์ทเนอร์ให้ดำเนินการบางอย่างโดยทันที ไปจนถึงความจําเป็นในการแก้ไขข้อกำหนดที่ล้มเหลวหรือการละเมิดข้อกำหนดของเรา และการอัปเดตที่สําคัญอื่นๆ
ต่อไปนี้คือคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว รวมถึงผลกระทบต่อพาร์ทเนอร์และผู้พัฒนา
เพราะเหตุใด Shopify จึงเปลี่ยนมาใช้ข้อกำหนดฉบับใหม่
เราอัปเดตข้อตกลง Partner Program รวมถึงใบอนุญาตและข้อกำหนดการใช้งาน API ของเราเพื่อรองรับการเติบโตของพาร์ทเนอร์และผู้พัฒนาของ Shopify ควบคู่กับการรักษาความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของสินค้าและบริการที่เสนอบนหรือผ่านแพลตฟอร์มของเรา
ข้อกำหนดการดำเนินการของพาร์ทเนอร์สำหรับข้อกำหนดข้อใดข้อหนึ่งที่ล้มเหลวหรือการละเมิดนโยบายของ App Store
Shopify จะแจ้งให้พาร์ทเนอร์ทราบถึงข้อกำหนดที่ล้มเหลวหรือการละเมิดนโยบายของ App Store ได้อย่างไร
เมื่อพาร์ทเนอร์จําเป็นต้องดำเนินการใดๆ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการที่จําเป็นในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับแอปหรือด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีผู้ใช้ของพาร์ทเนอร์ ทาง Shopify จะแจ้งให้พาร์ทเนอร์ทราบผ่านช่องทางต่างๆ โดยช่องทางเหล่านี้รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงอีเมลธุรกิจที่เชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้ของพาร์ทเนอร์ หากพาร์ทเนอร์ต้องทำการแก้ไขที่สำคัญต่อแอป ทาง Shopify ก็จะส่งการแจ้งเตือนไปยังอีเมลฉุกเฉินของผู้พัฒนาด้วย
อีเมลเหล่านี้มาจากทีมของ Shopify หลากหลายทีมที่จะช่วยบังคับใช้ข้อกำหนดทั่วทั้งระบบนิเวศของเรา อีเมลทั้งหมดที่ต้องมีการดำเนินการจะสื่อสารการเปลี่ยนแปลงที่พาร์ทเนอร์ต้องดำเนินการและกรอบเวลาไว้อย่างชัดเจน อีเมลเหล่านี้จะมีบรรทัดหัวเรื่องที่มีคําสําคัญ เช่น “สําคัญ”, “ต้องมีการดำเนินการ”, “ร้ายแรง” หรือ “แจ้งเตือนครั้งสุดท้าย” และมีการกระตุ้นให้ดำเนินการที่ชัดเจนว่าพาร์ทเนอร์ต้องแก้ไขคําขอที่ค้างส่งจาก Shopify อย่างไร
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อพาร์ทเนอร์ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของเรา
การรักษาตลาดแอปที่น่าเชื่อถือและน่าไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยแอปแต่ละแอปและพาร์ทเนอร์ในระบบนิเวศของเราจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงของเรา หากพาร์ทเนอร์ไม่ตอบกลับคำขอจาก Shopify โดยเฉพาะคำขอเกี่ยวกับการละเมิดข้อกำหนดและเงื่อนไขของเราหรือการรักษาข้อกำหนดของ App Store เราอาจต้องดำเนินการบางอย่างรวมถึงการตัดสินใจที่ยากลำบากในการลบแอปของพาร์ทเนอร์ออกจาก Shopify App Store โดยในบางกรณี เราอาจต้องลบพาร์ทเนอร์ออกจากแพลตฟอร์มของเราด้วย
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการบังคับใช้นโยบาย Partner Program ของ Shopify
ข้อกำหนดการผสานการทำงาน Customer Privacy JS API
แอปและธีมใดที่ควรผสานการทำงานกับ Customer Privacy JS API
แอป ธีม ส่วนขยายแอป หรือส่วนขยายธีม (เรียกรวมกันว่า “แอปและธีม”) ใดๆ ที่เก็บความยินยอมจากคุกกี้หรือแทรกคุกกี้เข้าไปในหน้าร้านของผู้ขายเพื่อผสานการทำงานกับ Customer Privacy JS API ของ Shopify ตัวอย่างเช่น แอปหรือธีมควรใช้ API เพื่อช่วยกำหนดว่าควรแสดงแบนเนอร์คุกกี้หรือไม่ กำหนดว่าต้องเก็บความยินยอมใด และส่งต่อความยินยอมที่เก็บรวบรวมกลับมาโดยใช้ API หรือใช้คุกกี้หรือสคริปต์การติดตามเพื่อติดตามความยินยอมของผู้ใช้เพื่อการวิเคราะห์และข้อมูลการตลาด
ฉันต้องใช้การจัดเก็บความยินยอมกับผู้ขายทั้งหมดที่ใช้แอปหรือธีมของฉันหรือไม่
ข้อบังคับด้านความเป็นส่วนตัวจะแตกต่างกันไปตามภูมิประเทศ อย่างไรก็ตาม Shopify ต้องการให้แอปและธีมทั้งหมดปฏิบัติตามนโยบายใหม่นี้ไม่ว่าจะพัฒนาแอปหรือธีมในที่ใด หรือไม่ว่าผู้ขายที่ใช้แอปหรือธีมจะอยู่ที่ใด
คุกกี้ที่จำเป็นแตกต่างจากคุกกี้ที่ไม่จำเป็นอย่างไร
คุกกี้ที่จําเป็นเป็นคุกกี้ที่จําเป็นอย่างยิ่งในการอำนวยความสะดวกในการส่งข้อมูลและเปิดใช้งานเว็บไซต์ ข้อมูลเหล่านี้จะอยู่บนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ของผู้ใช้โดยอัตโนมัติเมื่อเข้าถึงเว็บไซต์หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
คุกกี้ที่ไม่จำเป็นคือคุกกี้ประเภทอื่นๆ ทั้งหมดที่ไม่อยู่ภายใต้คำนิยามของคุกกี้ที่จำเป็น
ข้อกำหนดในการซิงค์คำสั่งซื้อของแอป
ควรใช้ API ใดในการอัปเดตคำสั่งซื้อ
API หลักที่ผู้พัฒนาสามารถใช้เพื่ออัปเดตคำสั่งซื้อคือ API คำสั่งซื้อ API การจัดการคำสั่งซื้อ และ API แก้ไขคำสั่งซื้อ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่มุ่งเน้นแหล่งข้อมูลอื่นๆ อาจส่งผลต่อแหล่งข้อมูล Order
ของคุณ คุณควรตรวจสอบกรณีทั้งหมดที่แอปของคุณโต้ตอบกับคำสั่งซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลจะซิงค์กับ Shopify โดยอัตโนมัติ
ในฐานะพาร์ทเนอร์ ฉันจะจัดการคำสั่งซื้อที่ปิดหรือเสร็จสิ้นแล้วได้อย่างไร
หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับช่องคำสั่งซื้อในการผสานการทำงานของคุณ คุณควรอัปเดตข้อมูลที่สอดคล้องกันใน Shopify โดยทันที เพื่อให้แน่ใจว่า Shopify และระบบอื่นๆ ทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับการสั่งซื้อดังกล่าวซิงค์กัน
หากปิดคำสั่งซื้อแล้ว คุณยังสามารถอัปเดตช่องข้อมูลในคำสั่งซื้อนั้นได้โดยใช้ API แก้ไขคำสั่งซื้อของ Shopify
โปรดทราบว่าสินค้าในสถานะเก็บถาวร ใน Shopify หรือที่สั่งซื้อก่อนวันที่ 1 มกราคม 2019 จะไม่สามารถอัปเดตได้
จะเกิดอะไรขึ้นหากการผสานการทำงานของฉันมีช่องที่เกี่ยวกับคำสั่งซื้อมากกว่าเมื่อเทียบกับช่องที่มีอยู่ใน Shopify
แอปและบริการแต่ละแอปมีความเฉพาะตัว และอาจมีชุดช่องหรือชุดข้อมูลของตัวเองซึ่งไม่เชื่อมโยงกับช่องคำสั่งซื้อใน Shopify โดยตรง คุณควรใช้การตัดสินใจที่ดีที่สุดของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลต่างๆ ที่ซิงค์กับ Shopify มีความสอดคล้องและต่อเนื่อง
ฉันควรซิงค์ช่องคำสั่งซื้อบ่อยเท่าใด
แอปที่สร้างขึ้นโดยพาร์ทเนอร์ควรซิงค์ช่องคำสั่งซื้อโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ผู้ขายหรือระบบอื่นทำการปลี่ยนแปลงช่องคำสั่งซื้อต้นทางจาก Shopify
ตัวอย่างเช่น: ลูกค้าของผู้ขายขอให้อัปเดตที่อยู่ที่จัดส่งของตนสำหรับคำสั่งซื้อหนึ่ง หากระบบมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ดังกล่าว แอปของคุณควรอัปเดตคำสั่งซื้อใน Shopify ให้แสดงการเปลี่ยนแปลงนี้ก่อนที่จะสร้างการจัดการคำสั่งซื้อ
ขณะนี้แอปของฉันไม่ได้ซิงค์ข้อมูลคำสั่งซื้อโดยอัตโนมัติ ฉันปฏิบัติตามข้อกำหนดอยู่หรือไม่
เนื่องจากข้อกำหนดนี้เป็นข้อกําหนดของใบอนุญาตและข้อกำหนดการใช้งาน Shopify API ของเรา คุณจึงต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าการผสานการทำงานของคุณมีการซิงค์ข้อมูลคำสั่งซื้อภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023