การจัดการข้อมูลผู้ขาย

ผู้ขายแสดงต้นทางหรือแหล่งที่มาของสินค้าที่คุณขาย หากคุณสร้างสินค้าทั้งหมดด้วยตนเอง คุณจะต้องเป็นผู้ขายเพียงรายเดียว อย่างไรก็ตาม หากคุณขายสินค้าจากแหล่งที่มาหลายแหล่ง การจัดการข้อมูลผู้ขายช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงดําเนินการของคุณ ติดตามแหล่งที่มาของสินค้าคงคลัง ตลอดจนปรับประสิทธิภาพกลยุทธ์การขายโดยรวม

ผู้ขายที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณอาจเป็นตัวคุณเองหรือผู้ขายรายอื่นก็ได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณขายน้ำผึ้งและผลิตสินค้าจากน้ำผึ้งด้วยตนเอง คุณจะทำหน้าที่เป็นผู้ขายสินค้าทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หากคุณจัดหาแหล่งสินค้าคงคลังน้ำผึ้งจากฟาร์มหลายแห่ง ฟาร์มที่คุณซื้อน้ำผึ้งแต่ละฟาร์มจะกลายเป็นผู้ขายที่ต่างกันในระบบของคุณ

คุณสามารถใช้ข้อมูลผู้ขายภายในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณเพื่อปรับปรุงงานต่างๆ เช่น การจัดระเบียบ การจัดเรียง และการกรองสินค้า รวมถึงสร้างรายงานตามผู้ขาย ไม่ว่าคุณจะจัดการสร้างสินค้าเป็นพิเศษหรือร่วมงานกับซัพพลายเออร์หลายราย การจัดระเบียบรายละเอียดผู้ขายจะมอบข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าในการดําเนินธุรกิจของคุณ

ประโยชน์ของการจัดการข้อมูลผู้ขาย

นอกเหนือจากการเก็บข้อมูลสินค้าใน Shopify ให้ครบถ้วนและครอบคลุมเท่าที่เป็นไปได้แล้ว การเพิ่มข้อมูลผู้ขายยังมีประโยชน์ดังต่อไปนี้

  • การติดตามสินค้าคงคลัง: เมื่อเชื่อมโยงผู้ขายกับสินค้าเฉพาะรายการ คุณจะสามารุติดตามสินค้าของผู้ขายแต่ละรายการได้ ซึ่งข้อมูลนี้สำคัญต่อคืนสินค้าคงคลังยอดนิยมกลับสต็อกและจัดการความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การประเมินประสิทธิภาพ: การกำหนดผู้ขายให้กับสินค้าช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์แนวโน้มยอดขายและประเมินประสิทธิภาพของผู้ขายแต่ละรายได้ ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับค่าคอมมิชชันหรือสิ่งจูงใจตามยอดขายของสินค้าได้

การใช้ผู้ขายสินค้าในส่วนผู้ดูแล

ในส่วนผู้ดูแล Shopify คุณสามารถสร้างผู้ขายและกำหนดผู้ขายให้กับสินค้าได้ในส่วนการจัดสินค้าของหน้ารายละเอียดสินค้าแต่ละหน้า ตัวอย่างต่อไปนี้คือวิธีที่คุณสามารถใช้ข้อมูลผู้ขายได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีรายละเอียดดังนี้

  • การกำหนดผู้ขาย: คุณสามารถกำหนดสินค้าแต่ละรายการให้กับผู้ขายหนึ่งรายได้ หากไม่ได้กำหนดสินค้าใหม่ให้กับผู้ขาย ช่องผู้ขายจะเป็นค่าเริ่มต้นในชื่อร้านค้าของคุณ
  • การจัดเรียงและการกรอง: คุณสามารถใช้ค่า ผู้ขายสินค้าในการจัดเรียงและการกรองรายการสินค้าของคุณ รวมถึงสร้างรายงานแบบกำหนดเองตามผู้ขายได้

จัดเรียงสินค้าตามผู้ขาย

คุณสามารถจัดเรียงรายการสินค้าของคุณได้โดยใช้ตัวเลือกการจัดเรียงของผู้ขายเพื่อช่วยในการจัดเรียงสินค้าภายในรายการสินค้าของส่วนผู้ดูแล Shopify โดยเรียงตามตัวอักษรหรือเรียงตามตัวอักษรจากหลังมาหน้า ฟีเจอร์การจัดเรียงนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการแสดงลำดับสินค้าบนร้านค้าออนไลน์ของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการค้นหาสินค้าและการกรองรายการสินค้า

ขั้นตอน:

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่สินค้า

  2. คลิกที่ชื่อคอลัมน์ “ผู้ขาย

กรองสินค้าตามผู้ขาย

ตามค่าเริ่มต้น สินค้าของคุณทั้งหมดจะแสดงอยู่ในรายการสินค้า คุณสามารถใช้ตัวกรองผู้ขายสินค้าเพื่อแสดงสินค้าที่เชื่อมโยงกับผู้ขายรายใดรายหนึ่งในรายการสินค้าของคุณได้เท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการค้นหาสินค้าและการกรองรายการสินค้า

ขั้นตอน:

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่สินค้า

  2. คลิกไอคอนค้นหาและกรอง

  3. คลิกเมนู “ผู้ขายสินค้า

  4. เลือกผู้ขายที่คุณต้องการให้แสดงในรายการ

  5. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการจัดเรียงผู้ขายของคุณตามตัวอักษรหรือเรียงตามตัวอักษรจากหลังมาหน้า ให้คลิกที่ชื่อคอลัมน์ผู้ขาย

  6. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการบันทึกมุมมองนี้ ให้คลิก “บันทึกเป็น” เพื่อป้อนชื่อมุมมองที่จะบันทึก จากนั้นคลิก “บันทึกมุมมอง

จัดเรียงและกรองรายงานของคุณตามผู้ขาย

คุณสามารถจัดเรียงและกรองรายงานของคุณตามผู้ขายได้ในส่วนผู้ดูแล Shopify รายงานบางประเภทจะไม่มีข้อมูลผู้ขายสินค้าเป็นตัวกรองที่มีให้ใช้งาน เนื่องจากไม่ใช่รายงานทุกประเภทที่จะแสดงข้อมูลที่เน้นสินค้า ตัวอย่างเช่น ไม่สามารถจัดเรียงหรือกรองรายงานการหาลูกค้าและพฤติกรรมตามผู้ขายได้

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ตัววิเคราะห์ข้อมูล > รายงาน

  2. คลิกรายงานที่คุณต้องการกรองตามผู้ขาย

  3. คลิกที่ไอคอนคอลัมน์แล้วเลือกผู้ขายสินค้าเพื่อแสดงเป็นคอลัมน์ในรายงาน

  4. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการจัดเรียงข้อมูลรายงานของคุณตามผู้ขายตามตัวอักษรหรือเรียงตามตัวอักษรจากหลังมาหน้า ให้คลิกที่ชื่อคอลัมน์ผู้ขายสินค้า

  5. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการกรองข้อมูลรายงานของคุณตามผู้ขาย ให้คลิกที่ไอคอนตัวกรองแล้วเลือกผู้ขายสินค้าเป็นตัวกรอง ปรับแต่งตัวกรองเพื่อเพิ่มหรือแยกผู้ขายบางรายแล้วคลิก “ใช้ตัวกรอง

แก้ไขผู้ขายหลายรายการ

เช่นเดียวกับข้อมูลสินค้าอื่น คุณสามารถแก้ไขข้อมูลผู้ขายสำหรับสินค้าของคุณหลายรายการได้โดยใช้เครื่องมือแก้ไขหลายรายการในครั้งเดียวหรือไฟล์ CSV

การแสดงผู้ขายสินค้าในร้านค้าออนไลน์

การแสดงข้อมูลผู้ขายสินค้าในร้านค้าออนไลน์ของคุณอาจเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อลูกค้าเมื่อลูกค้าต้องการค้นหาสินค้าจากผู้ขายหรือแบรนด์ที่คุณขายโดยเฉพาะ

ในธีมทั้งหมดที่ Shopify สร้างขึ้น คุณสามารถแสดงข้อมูลผู้ขายในเทมเพลตหน้าต่างๆ ได้โดยใช้ส่วนหรือบล็อกด้วยวิธีต่อไปนี้

  • ในส่วนคอลเลกชันเด่น ให้เลือก “แสดงผู้ขาย” เพื่อแสดงข้อมูลผู้ขายสำหรับสินค้าแต่ละรายการในกริดสินค้า
  • ในส่วนสินค้าแนะนำ ให้เพิ่มบล็อกข้อความแล้วคลิกที่ไอคอน “เชื่อมต่อกับแหล่งที่มาแบบไดนามิก” เลือกผู้ขายเพื่อแสดงผู้ขายสินค้าสำหรับสินค้าแนะนำแบบไดนามิก

สำหรับธีมจากภายนอก คุณควรดูเอกสารด้านความช่วยเหลือเกี่ยวกับธีมของคุณหรือติดต่อผู้พัฒนาธีม ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่ที่จะรับความช่วยเหลือเกี่ยวกับธีมของคุณ

ผู้ขายในฟีเจอร์อื่นๆ ของ Shopify

คำว่าผู้ขายจะใช้ในฟีเจอร์อื่นๆ ของ Shopify และอาจไม่เกี่ยวข้องกับช่องผู้ขายในรายละเอียดสินค้าของคุณ โดยฟีเจอร์อื่นๆ ของ Shopify ที่อ้างอิงผู้ขาย มีดังต่อไปนี้

  • Shopify Bill Pay: ร้านค้าในบางภูมิภาคสามารถจัดเก็บใบแจ้งหนี้และชำระเงินให้กับผู้ขายที่คุณซื้อสินค้าคงคลังหรือบริการจากส่วนผู้ดูแล Shopify ได้ โดยผู้ขายเหล่านี้จะไม่เกี่ยวข้องกับรายการสินค้าของคุณในส่วนผู้ดูแล Shopify ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการผู้ขายผ่าน Shopify Bill Pay
  • Stocky: Stocky สำหรับ Shopify POS จะนําเข้าผู้ขายสินค้าจากส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณโดยอัตโนมัติ แต่คุณสามารถใช้แอปเพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้ขายที่มีรายละเอียดมากขึ้นที่เรียกว่าซัพพลายเออร์ได้ การสร้างซัพพลายเออร์ภายใน Stocky ช่วยให้คุณสามารถควบคุมสินค้าคงคลังของคุณได้มากขึ้น เนื่องจากสามารถกำหนดสินค้าให้กับซัพพลายเออร์หลายรายได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ขายและซัพพลายเออร์ใน Stocky
  • B2B (สำหรับแผน Shopify Plus เท่านั้น): หากคุณเป็นผู้ค้าส่งและลูกค้าของคุณคือผู้ขาย คุณสามารถตั้งค่าเป็นบริษัทและกำหนดแค็ตตาล็อกการกำหนดราคาที่ไม่ซ้ำกันให้กับสินค้าของคุณได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท B2B
ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ