การถ่ายโอนร้านค้าระยะพัฒนาไปยังลูกค้า

หลังจากที่คุณดำเนินการในร้านค้าระยะพัฒนาสำหรับลูกค้าเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้าให้กับลูกค้า หลังจากที่คุณถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้าพัฒนาแล้ว ร้านค้าจะปรากฏในหน้าร้านค้า ใน Partner Dashboard ใต้แท็บที่จัดการแล้ว คุณไม่สามารถยกเลิกการถ่ายโอนร้านค้าระยะพัฒนาได้ ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกค้ามีสิทธิ์เข้าถึงอีเมลที่คุณถ่ายโอนไป และคุณได้จัดการเรื่องร้านค้าเสร็จสิ้นแล้ว

ร้านค้าระยะพัฒนามีข้อจำกัดที่กำหนดไว้เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นร้านค้าสำหรับพัฒนาเท่านั้น ในบางกรณี คุณอาจต้องตั้งค่าฟีเจอร์สำหรับร้านค้าระยะพัฒนาที่มีให้ใช้งานเฉพาะร้านค้าในแผนแบบชำระเงินเท่านั้น

คุณไม่สามารถโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้าระยะพัฒนาที่มีการเปิดใช้ตัวอย่างสำหรับผู้พัฒนาได้

สิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้าระยะพัฒนาและสิทธิ์อนุญาตของพนักงาน

ร้านค้าระยะพัฒนาสามารถมีเจ้าของบัญชีผู้ใช้ได้เพียงบัญชีเดียว สมาชิกในทีมของพาร์ทเนอร์ที่สร้างร้านค้าระยะพัฒนาเป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้ของร้านค้าจนกว่าจะมีการถ่ายโอนไปยังลูกค้า คุณสามารถสร้างบัญชีผู้ใช้ของพนักงานได้สูงสุดถึง 15 บัญชีให้กับสมาชิกในทีมพาร์ทเนอร์คนอื่นๆ ในร้านค้าระยะพัฒนาแต่ละร้าน เมื่อสมาชิกในทีมพาร์ทเนอร์คนอื่นๆ เข้าสู่ระบบร้านค้าระยะพัฒนาจาก Partner Dashboard บัญชีผู้ใช้ของพนักงานจะถูกสร้างโดยอัตโนมัติให้สมาชิกในทีมของพาร์ทเนอร์ได้รับสิทธิ์สูงสุด หากคุณต้องเพิ่มสมาชิกในทีมพาร์ทเนอร์ใหม่หลังจากถึงขีดจํากัดแล้ว คุณต้องลบบัญชีผู้ใช้ของพนักงานที่มีอยู่ออกก่อน

ระบบจะลบบัญชีผู้ใช้ของพนักงานของพาร์ทเนอร์ออกจากร้านค้าระยะพัฒนาในกรณีดังต่อไปนี้:

  • เมื่อมีการถ่ายโอนร้านค้าระยะพัฒนาไปยังผู้ขาย พาร์ทเนอร์จะสูญเสียสิทธิ์อนุญาตในการเข้าถึงร้านค้า
  • พาร์ทเนอร์จะสูญเสียสิทธิ์อนุญาตในการเข้าถึงร้านค้าและสิทธิ์การเป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้จะถูกโอนไปยังเจ้าของหลักขององค์กรพาร์ทเนอร์ เมื่อลบพาร์ทเนอร์ออกจากองค์กรแล้ว

เมื่อโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้า

เหตุผลหลักในการถ่ายโอนร้านค้าไปยังแผนแบบชำระเงินมีสองประการ:

  • งานในร้านค้าเสร็จสมบูรณ์และร้านค้าพร้อมขายสินค้าแล้ว
  • งานในร้านค้ายังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ร้านค้าจำเป็นต้องมีฟีเจอร์ที่พร้อมใช้งานเฉพาะในแผนแบบชำระเงินเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์และข้อจำกัดของร้านค้าระยะพัฒนา

เมื่อคุณถ่ายโอนร้านค้าพัฒนาไปยังแผนการสมัครใช้งานที่เผยแพร่อยู่ คุณจะต้องป้อนข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ซึ่งเจ้าของร้านค้าต้องเป็นผู้ให้ข้อมูลการเรียกเก็บเงินนี้

โอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้าระยะพัฒนา

ในส่วนนี้

ก่อนที่คุณจะเริ่ม

คุณควรดำเนินงานต่อไปนี้ให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้าระยะพัฒนาไปให้ลูกค้าของคุณ:

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เพิ่มลูกค้าให้เป็นพนักงานและให้พวกเขาตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ของพนักงานจนเสร็จสิ้นแล้ว หลังจากที่คุณถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของให้กับลูกค้าแล้ว คุณจะยังคงอยู่ในร้านค้าในฐานะผู้ร่วมงาน แต่ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลทางการเงินอีกต่อไป

  • หากลูกค้าของคุณตั้งใจที่จะใช้ระบบ Point of Sale (POS) ของ Shopify ให้คุณให้สิทธิ์พวกเขาในการเข้าถึง POS และมอบหมายบทบาทของ POS เมื่อเพิ่มพวกเขาเป็นพนักงานในร้านค้า

  • เพิ่มที่อยู่ของลูกค้าลงในการตั้งค่าร้านค้า โดยเฉพาะกรณีที่ลูกค้าอยู่คนละประเทศกับคุณ ในบางกรณี การถ่ายโอนร้านค้าโดยมีที่อยู่ที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ลูกค้าถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมในใบแจ้งหนี้ Shopify หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ของร้านค้าให้ไปที่การเพิ่มการตั้งค่าธุรกิจสำหรับร้านค้าของคุณ

ข้อควรพิจารณาในการถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้าระยะพัฒนา

  • หากคุณเปลี่ยนร้านค้าไปเป็นแผนแบบชําระเงินแต่ยังคงสิทธิ์การเป็นเจ้าของไว้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม คุณจะต้องติดต่อฝ่ายช่วยเหลือสำหรับพาร์ทเนอร์ เพื่อลบค่าคอมมิชชันในร้านค้าออก ดูข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนร้านค้าระยะพัฒนาไปเป็นแผนแบบชําระเงินโดยไม่ต้องโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของ

  • หลังจากที่ร้านค้าระยะพัฒนาเปลี่ยนมาใช้แผนแบบชำระเงิน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนโดยผู้ขายหลังจากถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้า หรือเปลี่ยนโดยพาร์ทเนอร์ที่เป็นเจ้าของอยู่ ร้านค้าจะอยู่ภายใต้[ข้อกำหนดในการใช้บริการของ Shopify

](https://www.shopify.com/legal/terms)

  • หากคุณเปลี่ยนเป็นแผน Shopify Plus ก่อนที่จะเปลี่ยนสิทธิ์การเป็นเจ้าของ คุณจะกลายเป็นเจ้าขององค์กรรวมถึงเจ้าของร้านค้า การเปลี่ยนเจ้าขององค์กรนั้นไม่สามารถทำผ่านส่วนผู้ดูแล Shopify ได้ ดังนั้นคุณควรจะพิจารณาการถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแผนแบบชำระเงิน หากต้องการถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าขององค์กรหลังจากเปลี่ยนไปใช้แผน Plus ให้ติดต่อฝ่ายช่วยเหลือของ Shopify Plus

  • หากลูกค้าของคุณใช้ Shopify POS และต้องใช้ฟีเจอร์ของ POS Pro ลูกค้าจะต้องเลือกการสมัครใช้งาน POS Pro ในแต่ละตำแหน่งที่ตั้งที่ต้องการใช้ฟีเจอร์เหล่านี้หลังจากที่เลือกแผนอีคอมเมิร์ซแล้ว ดูข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการการสมัครใช้งาน POS ของร้านค้าตามตำแหน่งที่ตั้ง

  • หากลูกค้าของคุณตั้งใจที่จะขายที่หน้าร้านเป็นครั้งคราว POS Lite จะรวมอยู่ในแผน Shopify ทั้งหมด และช่วยให้ผู้ขายสามารถขายที่หน้าร้าน ติดตามยอดขาย และสร้างโปรไฟล์ลูกค้าพื้นฐานได้

  • หลังจากที่คุณได้ถ่ายโอนร้านค้าระยะพัฒนาไปเป็นแผนใช้งานจริง ร้านค้าจะร้านค้าจะไม่มีสิทธิ์รับโปรโมชันหรือการทดลองใช้งานฟรีอีกต่อไป
  • หากคุณเปิดใช้งาน Shopify Payments บนร้านค้าของลูกค้าโดยใช้ข้อมูลของคุณเอง คุณจำเป็นต้องอัปเดตข้อมูลของลูกค้าด้วย ติดต่อฝ่ายช่วยเหลือของ Shopify เพื่อให้อัปเดตบัญชีผู้ใช้ Shopify Payments

ถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้าโดยใช้แดชบอร์ดของพาร์ทเนอร์

ขั้นตอน:

  1. เข้าสู่ระบบแดชบอร์ดพาร์ทเนอร์ของคุณแล้วคลิกร้านค้า

  2. คลิก “การดำเนินการ” > “ถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของ” ด้านข้างร้านค้าระยะพัฒนาที่ต้องการถ่ายโอน

  3. เลือกเจ้าของร้านค้าใหม่จากรายชื่อเจ้าของที่มีสิทธิ์ในกล่องโต้ตอบ “ถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้า” หากคุณยังไม่ได้เพิ่มลูกค้าของคุณเป็นพนักงาน ให้คลิก “เพิ่มบัญชีผู้ใช้ของพนักงาน” และสร้างบัญชีใหม่ให้กับลูกค้าก่อนที่จะดำเนินการต่อ ลูกค้าของคุณต้องตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ของพนักงานให้เสร็จสิ้นก่อนจึงจะสามารถถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้าได้

  4. เมื่อคุณดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ให้คลิก “ถ่ายโอนร้านค้า” ร้านค้าดังกล่าวจะแสดงบนหน้าร้านค้าใน Partner Dashboard ใต้แท็บจัดการแล้ว เจ้าของรายใหม่จะได้รับอีเมลพร้อมคำแนะนำในการสร้างบัญชีและเลือกแผน โดยระหว่างรอให้ลูกค้ายอมรับการถ่ายโอน ร้านค้าจะหยุดให้บริการชั่วคราว หลังจากลูกค้าเริ่มต้นชำระเงินซื้อแผนการสมัครใช้งาน Shopify คุณจะได้รับค่าคอมมิชชันต่อเนื่องตามรอบบิล

แจ้งข้อมูลให้ลูกค้าทราบหลังจากที่คุณถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้า

หลังจากที่คุณถ่ายโอนร้านค้าไปให้ลูกค้าของคุณแล้ว โปรดให้ข้อมูลในเรื่องดังต่อไปนี้แก่ลูกค้า:

  • วิธีเข้าถึงร้านค้าพร้อม URL (https://admin.shopify.com/store/{shop})
  • แผน Shopify ที่คุณแนะนำให้ลูกค้านอกจากแผน Basic, Shopify และ Advanced แล้ว ผู้ขายยังสามารถเลือกแผน Plus แบบมาตรฐานได้แล้วด้วย
  • ข้อเสนอ Shopify POS ที่คุณแนะนำให้พวกเขา หากมีนอกเหนือจากการขายที่หน้าร้านเป็นครั้งคราวแล้ว ผู้ขายยังสามารถเลือกสมัครใช้งานที่ช่วยให้สามารถขายในร้านค้าปลีกหลายแห่งหรือซื้อฮาร์ดแวร์สำหรับการค้าปลีกที่เข้ากันได้
  • สิ่งอื่นๆ ที่คุณจะแนะนำ (เช่นแอปที่ควรดาวน์โหลด สัมมนาออนไลน์ที่ควรรับชม หรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อช่วยให้สร้างธุรกิจของตนเองได้)

หมายเหตุ: หากคุณเปิดใช้งาน Shopify Payments ในร้านค้าของลูกค้าโดยใช้ข้อมูลของคุณเอง และถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้าแล้ว ให้แจ้งให้ลูกค้าของคุณติดต่อฝ่ายช่วยเหลือของ Shopify เพื่อให้อัปเดตรายละเอียดใน Shopify Payments

เปลี่ยนร้านค้าระยะพัฒนาไปเป็นแผนแบบชําระเงินโดยไม่ต้องโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของ

คุณสามารถเปลี่ยนร้านค้าระยะพัฒนาไปเป็นแผนแบบชําระเงินโดยที่ยังคงเป็นเจ้าของร้านค้าอยู่ได้ ซึ่งคุณอาจต้องการที่จะดำเนินการดังกล่าวหากจำเป็นต้องทดสอบฟีเจอร์ที่ยังไม่พร้อมใช้งานในร้านค้าระยะพัฒนา

ข้อควรพิจารณาเมื่อคุณรักษาสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้า

  • หากคุณเปลี่ยนร้านค้าระยะพัฒนาไปเป็นแผนแบบชําระเงิน คุณจะไม่สามารถรับค่าคอมมิชชันแบบประจำในร้านค้านั้นได้ ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงของ Partner Program คุณจะต้องติดต่อฝ่ายช่วยเหลือ Partner Program เพื่อทำการลบค่าคอมมิชชันออกจากร้านค้า ทั้งนี้ คุณสามารถติดต่อฝ่ายช่วยเหลือ Partner Program ได้ผ่านศูนย์ช่วยเหลือของ Shopify
  • หากคุณเปลี่ยนร้านค้าระยะพัฒนาไปเป็นแผนแบบชำระเงิน คุณจะไม่สามารถถ่ายโอนร้านค้าโดยใช้ Partner Dashboard ได้ หากคุณต้องการที่จะถ่ายโอนร้านค้าไปให้ลูกค้าในภายหลัง คุณจะต้องโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของและลบรายละเอียดการชำระเงินของคุณออกด้วยตนเอง
  • แผน Basic ไม่สามารถมีบัญชีผู้ใช้ของพนักงานได้ หากคุณเปลี่ยนร้านค้าไปเป็นแผน Basic คุณต้องลบพนักงานทั้งหมดออกจากร้านค้าก่อนที่จะเริ่มถ่ายโอนจากส่วนผู้ดูแล Shopify ไปยังลูกค้า

ขั้นตอน:

  1. เข้าสู่ระบบ Partner Dashboard ของคุณ แล้วคลิกที่ร้านค้า
  2. ค้นหาร้านค้าที่คุณต้องการถ่ายโอน จากนั้นคลิกที่ “เข้าสู่ระบบ
  3. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้คลิกที่ การตั้งค่า > แผน
  4. ในส่วนรายละเอียดแผน ให้คลิกเปรียบเทียบแผน
  5. คลิกที่ เลือกแผนนี้ และเลือกหนึ่งในแผนที่ใช้งานได้
  6. เลือกรอบการเรียกเก็บเงินและตรวจสอบคำอธิบายของการเรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตที่คุณยอมรับ
  7. เลือกวิธีการชำระเงิน จากนั้นป้อนข้อมูลวิธีการชำระเงินของคุณ
  8. คลิกเริ่มแผน

ถ่ายโอนธีมจากภายนอก

หากได้สร้างร้านค้าสำหรับลูกค้าและมีธีมจากภายนอก คุณต้องถ่ายโอนธีมไปให้ลูกค้า โดยวิธีที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับว่าธีมนั้นยังต้องปรับแต่งโค้ดเมื่อโอนร้านค้าระยะพัฒนาให้แก่ลูกค้าของคุณหรือเปล่า:

  • หากธีมยังคงต้องการให้ปรับแต่งรหัส คุณก็จำเป็นต้องซื้อธีมในนามของลูกค้า แล้วจากนั้นให้เรียกเก็บเงินค่าธีมจากลูกค้า เมื่อคุณถ่ายโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของร้านค้าระยะพัฒนาแล้ว ระบบจะลบบัตรเครดิตหรือบัญชี PayPal ของคุณออกจากการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินของร้านค้านั้นโดยอัตโนมัติ

  • หากไม่ต้องมีการปรับแต่งโค้ดของธีม ให้ปล่อยธีมไว้ให้เป็นการทดลองใช้ฟรี ลูกค้าไม่ต้องชำระเงินค่าธีมจนกว่าจะต้องการเผยแพร่ธีม หรือต้องการปรับแต่งโค้ด โดยลูกค้าสามารถดำเนินการได้หลังจากที่คุณถ่ายโอนร้านค้าระยะพัฒนาแล้ว

สร้างและเปิดใช้งานร้านค้าที่หยุดชั่วคราวอีกครั้ง

เมื่อร้านค้าอยู่ในแผนPause and Build ระบบจะปิดใช้การขั้นตอนการชำระเงิน แต่คุณยังสามารถสร้างร้านค้าได้โดยเข้าถึงส่วนผู้ดูแลระบบและแก้ไขสินค้า เมื่อร้านค้าพร้อมแล้ว เจ้าของร้านค้าสามารถเลือกแผนการสมัครใช้งานเพื่อเปิดใช้งานการขั้นตอนการชำระเงินอีกครั้งและทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้