การตลาดผ่านเนื้อหา
การสร้างเนื้อหาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณในบล็อก อีเมล วิดีโอ หรือโซเชียลมีเดียมักจะถูกเรียกว่าการทำการตลาดเนื้อหา คุณสามารถพัฒนาเนื้อหาที่มีคุณค่าและกระตุ้นการมีส่วนร่วมจากลูกค้าของคุณได้ผ่านการร่างกลยุทธ์เนื้อหา
กลยุทธ์เนื้อหาคือส่วนหนึ่งของแผนการตลาดของคุณ ซึ่งจะกำหนดวิธีที่คุณใช้เนื้อหาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของคุณ และสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย ปัจจัยที่ควรมีในกลยุทธ์เนื้อหาที่มีประสิทธิภาพมีดังนี้
- การเลือกช่องทางการตลาดที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเป้าหมายของคุณ
- การพัฒนาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและรูปแบบเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพ
- การกำหนดเป้าหมายเพื่อวัดความสำเร็จของเนื้อหาของคุณ
หลังจากที่ได้สร้างเนื้อหาแล้ว คุณสามารถวางแผนการเผยแพร่เนื้อหาของคุณโดยใช้ปฏิทินสำหรับวางแผนได้
ในหน้านี้
การเลือกช่องทางการตลาดเนื้อหา
เมื่อมีการพัฒนาเนื้อหาสำหรับช่องทางการตลาด 2-3 ช่องทาง คุณได้ช่วยมอบวิธีที่หลากหลายให้กลุ่มเป้าหมายสามารถมีส่วนร่วมกับแบรนด์และการค้นหาร้านค้า ลองพัฒนาเนื้อหาสำหรับช่องทางต่อไปนี้
- หน้าร้านค้าออนไลน์
- บล็อก
- โซเชียลมีเดีย
- แคมเปญอีเมล
คุณควรออกแบบเนื้อหาทางการตลาดตามลักษณะของแต่ละช่องทาง ปรับแต่งเนื้อหาสำหรับแต่ละช่องทางโดยปรับข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอให้เหมาะสม ใช้ฟีเจอร์เฉพาะตัวของช่องทาง เช่น แฮชแท็ก หรือกล่าวถึงเพื่อช่วยให้กลุ่มเป้าหมายค้นเจอเนื้อหาของคุณ เนื่องจากลูกค้าอาจพบเนื้อหาของคุณบนช่องทางมากกว่าหนึ่งช่องทาง หลีกเลี่ยงที่จะใช้เนื้อหาเหมือนๆ กันกับทุกช่องทาง แต่ให้สร้างเนื้อหาที่สามารถทำงานร่วมกับช่องทางที่แตกต่างกันเพื่อบอกเล่าถึงแต่ละบทของเรื่องราว ตัวอย่างเช่น โพสต์รูปภาพ Instagram ที่มีพนักงานของคุณสามารถนำไปยังหน้า “เกี่ยวกับเรา” ในร้านค้าออนไลน์ของคุณได้
คุณไม่จำเป็นต้องอยู่ในทุกช่องทาง สร้างเฉพาะกลยุทธ์ที่คุณสามารถดูแลได้ และพัฒนาเนื้อหาสำหรับช่องทางที่ลูกค้าของคุณมีแนวโน้มจะอาศัยอยู่มากที่สุด
การกำหนดเป้าหมาย
ก่อนจะพัฒนาเนื้อหาใดๆ ให้กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจที่คุณต้องการให้บรรลุผลผ่านการดำเนินการทางการตลาดก่อน จากนั้นจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างเนื้อหาโดยมอบความสุขให้กับกลุ่มเป้าหมายของคุณไปพร้อมกันด้วย
คุณสามารถใช้การตลาดเนื้อหาเพื่อช่วยให้คุณมีเป้าหมายดังต่อไปนี้
- การรับรู้แบรนด์
- ความต้องการสินค้า
- ผู้สมัครรับข้อมูลทางอีเมลหรือผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย
- ปริมาณการขาย
- จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม
- ความภักดีของลูกค้า
- ข้อเสนอแนะหรือรีวิว
- บริการลูกค้า
- จูงใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ
ใช้เป้าหมายที่คุณกำหนดเพื่อวัดความสำเร็จของความพยายามทางการตลาดผ่านเนื้อหา ตัวอย่างเช่น คุณสามารถวัดการเพิ่มขึ้นของการรับรู้แบรนด์ด้วยจำนวนอิมเพรสชั่นบนโพสต์ Facebook หรือคุณสามารถตรวจสอบยืนยันว่าโพสต์ Instagram ช่วยเพิ่มความต้องการสินค้าตามการขายที่อ้างอิงหรือไม่
เพิ่มลิงก์การแนะนำไปยังร้านค้าของคุณเมื่อสร้างโปรไฟล์สำหรับบัญชีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย แคมเปญอีเมล หรือเนื้อหาใดๆ ก็ตามสำหรับเว็บไซต์รอง คุณสามารถใช้ลิงก์เหล่านี้เพื่อช่วยให้คุณกำหนดค่าของการสร้างเนื้อหาสำหรับช่องทางเหล่านั้นตามอัตราคอนเวอร์ชันของพวกเขาได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดคอนเวอร์ชันการติดตามสำหรับคำสั่งซื้อ
การพัฒนาเนื้อหา
ความท้าทายของกลยุทธ์เนื้อหาอย่างหนึ่ง คือ การเลือกประเภทเนื้อหาที่ลูกค้าจะสนใจ หากต้องการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจครอบคลุมไปทั้งช่องทาง ให้กำหนดส่วนผสมของเนื้อหาที่เป็นแบบตอนๆ และประเภทโพสต์ที่มลักษณะเดียวกัน คุณสามารถสร้างเนื้อหาข้อความหรือเนื้อหาบนโซเชียลได้ เช่น วิดีโอ และรูปภาพ
เพื่อช่วยให้ลูกค้าค้นพบร้านค้า เนื้อหาที่คุณพัฒนาควรครอบคลุมเรื่องหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ ลองใช้คำสำคัญที่ลูกค้าอาจใช้ในการค้นหาร้านค้าของคุณในเครื่องมือค้นหาและสร้างเนื้อหาที่อิงจากคำสำคัญเหล่านั้น เนื่องจากมีช่องทางเนื้อหามากมายที่นำเสนอการค้นหา การใช้กลยุทธ์ SEO จึงสามารถช่วยให้กลุ่มเป้าหมายของคุณค้นพบเนื้อหาของคุณได้
ลองค้นหาส่วนผสมของเนื้อหาที่เหมาะกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ลองใช้รูปแบบต่อไปนี้สำหรับส่วนผสมเนื้อหาของคุณอย่างน้อยหนึ่งประเภท:
- ข่าวสาร - ข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหรือเทรนด์ในปัจจุบัน
- แรงบันดาลใจ - ให้แรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น คำคม หรือรูปภาพจากทั่วทุกมุมโลก
- การให้ความรู้ - ข้อเท็จจริง บทแนะนำการใช้งาน หรือบล็อกโพสต์แนะนำวิธีการต่างๆ
- โปรโมชันสินค้า - รูปภาพที่มีคุณภาพสูงของสินค้าในสถานการณ์จริง วิดีโอสาธิตการใช้งาน หรือรางวัลต่างๆ
- การแข่งขัน - การดาวน์โหลดฟรี ส่วนลด หรือสิ่งจูงใจอื่นๆ ที่ลูกค้าของคุณสามารถร่วมแข่นขันได้
- แนะนำโดยลูกค้าหรืออินฟลูเอ็นเซอร์ - รูปภาพหรือวิดีโอที่มีลูกค้าของคุณหรือผู้คนที่พวกเขาติดตาม
- กิจกรรมชุมชน - ข้อมูลเกี่ยวกับพบปะ โครงการระดมทุน หรือโอกาสในการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นธุรกิจท้องถิ่น
- ถามตอบ - คำถาม โพลล์ หรือคำตอบของการสอบถามที่พบได้บ่อย
- เบื้องหลัง - วิดีโอหรือบทความเกี่ยวกับสินค้า พนักงาน การดำเนินธุรกิจ เรื่องราวของแบรนด์ หรืออุตสาหกรรมของคุณ
คุณสามารถสร้างเทมเพลตและการออกแบบได้ เพื่อให้สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ภายในรูปแบบที่กำหนดได้ง่ายยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น คุณสามารถบันทึกแฮชแท็กบน Instagram เพื่อให้สามารถนำมาใส่ในโพสต์ได้อย่างสะดวกเมื่อต้องการ หรือจะเป็นการเรียกใช้งานฟิลเตอร์เดิมกับรูปภาพทั้งหมดเพื่อให้มีความสวยงามที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
เนื้อหาการวางแผนในปฏิทิน
เมื่อใช้ปฏิทินเพื่อวางแผนการอัปเดตสินค้า คุณสามารถตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้พัฒนาเนื้อหาต่างๆ และเผยแพร่เนื้อหาดังกล่าวในความถี่ที่ผู้ชมของคุณคาดหวัง เพิ่มการอัปเดตโซเชียลมีเดีย บล็อกโพสต์ วิดีโอ หรือความพยายามทางการตลาดเนื้อหาอื่นๆ ไปยังปฏิทินเพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบว่าช่องทางของคุณได้รับการอัปเดตเป็นประจำ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ปฏิทินเพื่อวางแผนเนื้อหาที่สอดคล้องกับช่องทางต่างๆหรือกำหนดเวลาเนื้อหาสำหรับช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของคุณ
เวลาในการเผยแพร่ก็เป็นปัจจัยที่สร้างความแตกต่างในการมีส่วนร่วม หากต้องการกำหนดเวลาที่ดีที่สุดในการเผยแพร่เนื้อหา คุณสามารถอ่านการวิจัยของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายหรือช่องทางของ หรือค่อยๆ เริ่มและวัดการมีส่วนร่วมของลูกค้ากับเนื้อหาก็ได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้นิสัยของคุณเองเป็นแนวทางเลยก็ได้!
หากต้องการประหยัดเวลา คุณสามารถใช้เครื่องมือการกำหนดเวลาเพื่อจัดเตรียมเนื้อหาล่วงหน้าได้ ในส่วนผสมเนื้อหาของคุณ ให้ใส่แนวคิดที่คุณสามารถวางแผนได้ล่วงหน้า ต่อยอด และเผยแพร่เป็นประจำ ปรับส่วนผสมของคุณโดยให้มีรูปแบบที่คุณสามารถสร้างได้รวดเร็วแต่ผู้อื่นต้องใช้นานจึงจะเลียนแบบได้ จัดเตรียมเนื้อหาหลายชิ้นพร้อมกันเพื่อให้คุณสามารถนำเวลาไปโฟกัสในด้านอื่นๆ ของธุรกิจของคุณได้
ตารางเวลาการเผยแพร่ที่คาดเดาได้จะช่วยให้ลูกค้ารับรู้สิ่งที่คาดหวัง เมื่อคุณวางแผนเนื้อหาในปฏิทินโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสามารถดูแลการพัฒนาเนื้อได้อย่างครอบคลุมและไม่ได้มากเกินกว่าที่ธุรกิจจะรับไหว
การใช้กลยุทธ์เนื้อหาบนตัวตนบนโลกออนไลน์ของคุณ
เมื่อคุณวางแผนกลยุทธ์เนื้อหา ให้มองหาโอกาสที่จะนำไปใช้งานกับจุดที่กลุ่มเป้าหมายของคุณโต้ตอบกับร้านค้า ใช้ข้อความหรือรูปภาพที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันในส่วนต่อไปนี้:
- เนื้อหาร้านค้า เช่น คำอธิบายสินค้า หรือการชำระเงินของคุณ
- การแจ้งเตือนคำสั่งซื้อและการจัดส่ง
- โปรไฟล์โซเชียลมีเดีย
อย่าลืมที่จะช่วยให้การสนทนาดำเนินต่อไป โดยเฉพาะในช่องทางโซเชียลมีเดีย หรือภายในความคิดเห็นของบล็อก เมื่อคุณตอบกลับความคิดเห็น แชร์โพสต์จากผู้อื่น และตอบคำถาม ให้พิจารณาว่าการโต้ตอบเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เหลือของคุณผสมอย่างไรเพื่อนำไปบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์
อภิธานศัพท์ทางการตลาดเนื้อหา
เมื่อคุณวิจัยหรือจัดเตรียมการตลาดผ่านเนื้อหา คุณอาจพบกับคำศัพท์บางคำดังต่อไปนี้:
- การทดสอบ A/B - การทดลองที่ส่งเนื้อหา 2 เวอร์ชันขึ้นไป เพื่อดูว่าเวอร์ชันใดมีประสิทธิภาพดีกว่ากัน
- อีเมลแจ้งขั้นตอนการชำระเงินที่ยังไม่เสร็จสิ้น - อีเมลแจ้งเตือนอัตโนมัติที่ส่งไปยังลูกค้าที่เริ่มชำระเงินแล้วแต่ยังดำเนินการสั่งซื้อไม่เสร็จสมบูรณ์
- การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) - ซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับจัดการการโต้ตอบกับลูกค้าและผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า
- การกระตุ้นให้ดำเนินการ (CTA) - ปุ่มหรือข้อความที่แจ้งเตือนให้ผู้เยี่ยมชมดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ปุ่ม
Subscribe
ในแบบฟอร์มลงทะเบียนรับจดหมายข่าว - อัตราการคลิกผ่าน - จำนวนผู้คนที่คลิกลิงก์เทียบกับจำนวนผู้คนทั้งหมดที่เห็นลิงก์นั้น
- แคมเปญผ่านอีเมล - อีเมลหรือชุดอีเมลที่มาในธีมเดียวกัน
- ผู้ให้บริการอีเมล (ESP) - บริษัทที่ให้บริการซอฟต์แวร์การตลาดผ่านอีเมล
- Google Analytics (GA) - เครื่องมือที่สร้างโดย Google ซึ่งใช้สำหรับการวัดยอดเข้าชมร้านค้าและคอนเวอร์ชันบนเว็บไซต์ของคุณ
- วงจรการตลาด - อีเมลที่ส่งไปยังลูกค้าโดยอิงจากประสบการณ์การซื้อของลูกค้า เช่น อีเมลที่มีส่วนลด VIP สำหรับลูกค้าที่ทำการซื้อจำนวนมาก
- อัตราการเปิด - ร้อยละของอีเมลที่ผู้รับเปิดเทียบกับจำนวนผู้รับทั้งหมด
- การเลือกรับ - การกระตุ้นให้ดำเนินการเฉพาะสำหรับการเข้าร่วมรายชื่ออีเมลหรือการตกลงใช้บริการ
- ผู้สมัครรับข้อมูล - ผู้ที่ยินยอมรับการติดต่อหรือรับการตลาดจากคุณ
- ความใหม่ ความถี่ และการวิเคราะห์เงิน (RFM) - ข้อมูลที่คุณรวบรวมเพื่อทำความเข้าใจความใหม่ (ลูกค้าซื้อสินค้าล่าสุดเมื่อใด) ความถี่ (ความถี่ที่ลูกค้าทำการซื้อ) และมูลค่าทางการเงิน (จำนวนเงินที่ลูกค้าใช้ในการซื้อ) ที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครรับข้อมูลทางอีเมลของคุณแต่ละราย
- ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) - อัตราส่วนของกำไรจากการลงทุนที่สัมพันธ์กับต้นทุน
- กลุ่มหรือการแบ่งกลุ่ม - การใช้เกณฑ์เพื่อแบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่มย่อย ซึ่งคุณสามารถใช้เพื่อสร้างเนื้อหาอีเมลที่กำหนดเป้าหมายได้มากขึ้น
- การกำหนดเป้าหมาย - แบ่งตลาดแยกย่อยเป็นส่วนๆ แล้วมุ่งเน้นการดำเนินการทางการตลาดของคุณโดยการส่งเนื้อหาที่ปรับแต่งให้เหมาะสมแล้ว
- อีเมลสำหรับต้อนรับ - อีเมลอัตโนมัติที่ใช้สร้างความสัมพันธ์กับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่ลงทะเบียนเป็นหนึ่งในรายชื่ออีเมลของคุณ