สร้างรายงานแบบกำหนดเอง

คุณสามารถสร้างรายงานแบบกำหนดเองได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

  • สร้างรายงานแบบปรับแต่งเองโดยใช้เทมเพลต
  • แก้ไขรายงานเริ่มต้นที่มีอยู่
  • ทำซ้ำและแก้ไขรายงานที่มีอยู่

สร้างรายงานแบบกำหนดเองใหม่โดยใช้เทมเพลต

คุณสามารถสร้างรายงานใหม่ได้โดยใช้เทมเพลตเป็นต้นแบบสำหรับตัวกรองและคอลัมน์ข้อมูลเริ่มต้นที่แสดงในรายงาน เมื่อคุณสร้างรายงานแบบกำหนดเองใหม่ คุณจะสามารถใช้เทมเพลตต่อไปนี้ได้:

ตารางแสดงรายการเทมเพลตรายงานที่ใช้งานได้และประเภทการรายงานที่เกี่ยวข้อง
เทมเพลตหมวดหมู่
ยอดขายตามเวลายอดขาย
การชำระเงินตามวิธีการเงิน
ภาษีที่เรียกเก็บตามช่วงเวลาการเงิน
เซสชันเมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งการหาลูกค้า
ลูกค้าตามมูลค่าคำสั่งซื้อลูกค้า

เลือกเทมเพลตที่เหมาะกับประเภทและวัตถุประสงค์ของรายงานแบบกำหนดเองของคุณที่สุดเพื่อเริ่มต้น คุณสามารถแก้ไขและปรับแต่งรายงานแบบกำหนดเองเพิ่มเติมได้หลังจากที่เลือกเทมเพลต

ขั้นตอน:

เดสก์ท็อป
  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ตัววิเคราะห์ข้อมูล > รายงาน

  2. คลิกสร้างรายงานแบบกำหนดเอง

  3. จากกล่องโต้ตอบสร้างรายงานแบบกำหนดเอง ให้เพิ่มข้อมูลต่อไปนี้:

    1. ในส่วนเทมเพลตรายงาน ให้เลือกประเภทรายงานที่ต้องการใช้
    2. ในช่องชื่อรายงาน ให้ตั้งชื่อรายงานแบบปรับแต่งเองชิ้นใหม่ด้วยชื่อที่อธิบายรายละเอียด
  4. คลิกสร้างรายงานแบบกำหนดเอง

  5. เพิ่มตัวกรองและแก้ไขคอลัมน์เพื่อแสดงข้อมูลที่คุณต้องการ

  6. เมื่อคุณสร้างรายงานเสร็จแล้ว ให้คลิกที่บันทึกรายงาน

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ตัววิเคราะห์ข้อมูล
  2. แตะ รายงาน
  3. แตะที่ปุ่ม “+
  4. จากกล่องโต้ตอบสร้างรายงานแบบกำหนดเอง ให้เพิ่มข้อมูลต่อไปนี้:

    1. ในส่วนเทมเพลตรายงาน ให้เลือกประเภทรายงานที่ต้องการใช้
    2. ในช่องชื่อรายงาน ให้ตั้งชื่อรายงานแบบปรับแต่งเองชิ้นใหม่ด้วยชื่อที่อธิบายรายละเอียด
  5. แตะที่สร้าง

  6. เพิ่มตัวกรองและแก้ไขคอลัมน์เพื่อแสดงข้อมูลที่คุณต้องการ

  7. เมื่อสร้างรายงานเสร็จสิ้นแล้ว ให้แตะ “บันทึกรายงาน

Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ตัววิเคราะห์ข้อมูล
  2. แตะ รายงาน
  3. แตะที่ปุ่ม “+
  4. จากกล่องโต้ตอบสร้างรายงานแบบกำหนดเอง ให้เพิ่มข้อมูลต่อไปนี้:

    1. ในส่วนเทมเพลตรายงาน ให้เลือกประเภทรายงานที่ต้องการใช้
    2. ในช่องชื่อรายงาน ให้ตั้งชื่อรายงานแบบปรับแต่งเองชิ้นใหม่ด้วยชื่อที่อธิบายรายละเอียด
  5. แตะ

  6. เพิ่มตัวกรองและแก้ไขคอลัมน์เพื่อแสดงข้อมูลที่คุณต้องการ

  7. เมื่อสร้างรายงานเสร็จสิ้นแล้ว ให้แตะ “บันทึกรายงาน

สร้างรายงานแบบกำหนดเองด้วยการแก้ไขรายงานเริ่มต้นที่มีอยู่

หากคุณแก้ไขรายงานเริ่มต้นที่จัดทำโดย Shopify รายงานดังกล่าวจะถือว่าเป็นรายงานแบบกำหนดเอง

ขั้นตอน:

เดสก์ท็อป
  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ตัววิเคราะห์ข้อมูล > รายงาน

  2. คลิกชื่อรายงานเริ่มต้นที่คุณต้องการปรับแต่ง

  3. เพิ่มตัวกรองและแก้ไขคอลัมน์เพื่อแสดงข้อมูลที่คุณต้องการ

  4. คลิกที่ บันทึกเป็น

  5. ในกล่องโต้ตอบ บันทึกรายงานแบบกำหนดเอง ให้ป้อนชื่อที่อธิบายรายละเอียดสำหรับรายงานแบบกำหนดเอง

  6. คลิกที่ “บันทึก

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ตัววิเคราะห์ข้อมูล
  2. แตะ รายงาน
  3. แตะที่ชื่อรายงานค่าเริ่มต้นที่คุณต้องการปรับแต่ง
  4. เพิ่มตัวกรองและแก้ไขคอลัมน์เพื่อแสดงข้อมูลที่คุณต้องการ
  5. แตะ “...” > “บันทึกเป็น
  6. ในกล่องโต้ตอบ บันทึกรายงานแบบกำหนดเอง ให้ป้อนชื่อที่อธิบายรายละเอียดสำหรับรายงานแบบกำหนดเอง
  7. แตะที่บันทึก
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ตัววิเคราะห์ข้อมูล
  2. แตะ รายงาน
  3. แตะที่ชื่อรายงานค่าเริ่มต้นที่คุณต้องการปรับแต่ง
  4. เพิ่มตัวกรองและแก้ไขคอลัมน์เพื่อแสดงข้อมูลที่คุณต้องการ
  5. แตะ “...” > “บันทึกเป็น
  6. ในกล่องโต้ตอบ บันทึกรายงานแบบกำหนดเอง ให้ป้อนชื่อที่อธิบายรายละเอียดสำหรับรายงานแบบกำหนดเอง
  7. แตะที่บันทึก

สร้างรายงานแบบกำหนดเองด้วยการทำซ้ำและแก้ไขรายงานที่มีอยู่

คุณสามารถทำสำเนารายงานที่มีอยู่แล้วได้ เพื่อนำไปใช้เป็นตั้งต้นทำรายงานแบบปรับแต่งเอง จากนั้นคุณจะแก้ไขรายงานให้เป็นไปตามที่ต้องการได้

ขั้นตอน:

เดสก์ท็อป
  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ตัววิเคราะห์ข้อมูล > รายงาน

  2. คลิกที่ชื่อของรายงานที่มีอยู่ที่คุณต้องการทำซ้ำและแก้ไข

  3. คลิกที่ บันทึกเป็น

  4. ในกล่องโต้ตอบบันทึกรายงานแบบกำหนดเอง ให้ป้อนชื่อที่อธิบายรายละเอียดสำหรับรายงานแบบกำหนดเองใหม่

  5. คลิกที่ “บันทึก

  6. เพิ่มตัวกรองและแก้ไขคอลัมน์เพื่อแสดงข้อมูลที่คุณต้องการ

  7. คลิก บันทึกรายงาน

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ตัววิเคราะห์ข้อมูล
  2. แตะ รายงาน
  3. แตะชื่อรายงานที่มีอยู่ที่คุณต้องการทำซ้ำและแก้ไข
  4. แตะ “...” > “บันทึกเป็น
  5. ในกล่องโต้ตอบบันทึกรายงานแบบกำหนดเอง ให้ป้อนชื่อที่อธิบายรายละเอียดสำหรับรายงานแบบกำหนดเองใหม่
  6. แตะที่บันทึก
  7. เพิ่มตัวกรองและแก้ไขคอลัมน์เพื่อแสดงข้อมูลที่คุณต้องการ
  8. แตะ บันทึกรายงาน
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ตัววิเคราะห์ข้อมูล
  2. แตะ รายงาน
  3. แตะชื่อรายงานที่มีอยู่ที่คุณต้องการทำซ้ำและแก้ไข
  4. แตะ “...” > “บันทึกเป็น
  5. ในกล่องโต้ตอบบันทึกรายงานแบบกำหนดเอง ให้ป้อนชื่อที่อธิบายรายละเอียดสำหรับรายงานแบบกำหนดเองใหม่
  6. แตะที่บันทึก
  7. เพิ่มตัวกรองและแก้ไขคอลัมน์เพื่อแสดงข้อมูลที่คุณต้องการ
  8. แตะ บันทึกรายงาน

ตัวอย่างของรายงานแบบกำหนดเอง

คุณเป็นผู้เขียนและต้องการให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับการปล่อยอีบุ๊กเล่มใหม่ของคุณ คุณจึงใช้แคมเปญการตลาดบนโซเชียลมีเดียหลายแคมเปญ (ทั้งหมดที่มีชื่อ UTM ว่า ebook-launch) ในกรณีนี้ คุณควรสร้างรายงานแบบกำหนดเองใหม่จากเทมเพลตเพื่อแสดงรายการคุณภาพของยอดเข้าชมร้านค้าที่มาจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณระบุว่าแคมเปญบนโซเชียลมีเดียใดที่จำเป็นต้องปรับหรือมุ่งเน้น

ขั้นตอน:

  1. คลิกสร้างรายงานแบบกำหนดเอง
  2. ให้ตั้งชื่อรายงานด้วยชื่อที่อธิบายรายละเอียด แล้วเลือกเทมเพลตเซสชันเมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง
  3. คลิกสร้างรายงานแบบกำหนดเอง
  4. คลิกไอคอนตัวกรองแล้วใช้ตัวกรองต่อไปนี้ UTM campaign name > is > ebook-launch การกระทำนี้จะจํากัดรายงานของคุณให้แสดงเฉพาะเซสชันที่มาจากแคมเปญของคุณที่มีชื่อว่า ebook-launchเท่านั้น
  5. คลิกที่ไอคอนคอลัมน์และเลือกคอลัมน์ต่อไปนี้เพื่อแสดง:

    • อัตราตีกลับ
    • ระยะเวลาเซสชันโดยเฉลี่ย
    • ชื่อช่องทางอ้างอิง
    • เส้นทางแลนดิ้งเพจ
  6. คลิก บันทึกรายงาน

รายงานตัวอย่างนี้จะแสดงระยะเวลาที่ผู้เยี่ยมชมอยู่ในหน้าต่างๆ และมาจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใด (เช่น Facebook, Instagram หรือ Google) การรู้ว่าผู้คนอยู่ (หรือไม่อยู่) ในหน้าใดจะเป็นสิ่งที่ช่วยประกอบการตัดสินใจทางการตลาดของคุณได้

ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ