สร้างรายงานแบบกำหนดเอง

คุณสามารถสร้างรายงานแบบกำหนดเองได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

  • สร้างรายงานแบบปรับแต่งเองโดยใช้เทมเพลต
  • แก้ไขรายงานเริ่มต้นที่มีอยู่
  • ทำซ้ำและแก้ไขรายงานที่มีอยู่

สร้างรายงานแบบกำหนดเองใหม่โดยใช้เทมเพลต

คุณสามารถสร้างรายงานใหม่ได้โดยใช้เทมเพลตเป็นต้นแบบสำหรับตัวกรองและคอลัมน์ข้อมูลเริ่มต้นที่แสดงในรายงาน เมื่อคุณสร้างรายงานแบบกำหนดเองใหม่ คุณจะสามารถใช้เทมเพลตต่อไปนี้ได้:

ตารางแสดงรายการเทมเพลตรายงานที่ใช้งานได้และประเภทการรายงานที่เกี่ยวข้อง
เทมเพลต หมวดหมู่
ยอดขายตามเวลา ยอดขาย
การชำระเงินตามวิธี การเงิน
ภาษีที่เรียกเก็บตามช่วงเวลา การเงิน
เซสชันเมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง การหาลูกค้า
ลูกค้าตามมูลค่าคำสั่งซื้อ ลูกค้า

เลือกเทมเพลตที่เหมาะกับประเภทและวัตถุประสงค์ของรายงานแบบกำหนดเองของคุณที่สุดเพื่อเริ่มต้น คุณสามารถแก้ไขและปรับแต่งรายงานแบบกำหนดเองเพิ่มเติมได้หลังจากที่เลือกเทมเพลต

ขั้นตอน:

สร้างรายงานแบบกำหนดเองด้วยการแก้ไขรายงานเริ่มต้นที่มีอยู่

หากคุณแก้ไขรายงานเริ่มต้นที่จัดทำโดย Shopify รายงานดังกล่าวจะถือว่าเป็นรายงานแบบกำหนดเอง

ขั้นตอน:

สร้างรายงานแบบกำหนดเองด้วยการทำซ้ำและแก้ไขรายงานที่มีอยู่

คุณสามารถทำสำเนารายงานที่มีอยู่แล้วได้ เพื่อนำไปใช้เป็นตั้งต้นทำรายงานแบบปรับแต่งเอง จากนั้นคุณจะแก้ไขรายงานให้เป็นไปตามที่ต้องการได้

ขั้นตอน:

ตัวอย่างของรายงานแบบกำหนดเอง

คุณเป็นผู้เขียนและต้องการให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับการปล่อยอีบุ๊กเล่มใหม่ของคุณ คุณจึงใช้แคมเปญการตลาดบนโซเชียลมีเดียหลายแคมเปญ (ทั้งหมดที่มีชื่อ UTM ว่า ebook-launch) ในกรณีนี้ คุณควรสร้างรายงานแบบกำหนดเองใหม่จากเทมเพลตเพื่อแสดงรายการคุณภาพของยอดเข้าชมร้านค้าที่มาจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณระบุว่าแคมเปญบนโซเชียลมีเดียใดที่จำเป็นต้องปรับหรือมุ่งเน้น

ขั้นตอน:

  1. คลิกสร้างรายงานแบบกำหนดเอง
  2. ให้ตั้งชื่อรายงานด้วยชื่อที่อธิบายรายละเอียด แล้วเลือกเทมเพลตเซสชันเมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง
  3. คลิกสร้างรายงานแบบกำหนดเอง
  4. คลิกไอคอนตัวกรองแล้วใช้ตัวกรองต่อไปนี้ UTM campaign name > is > ebook-launch การกระทำนี้จะจํากัดรายงานของคุณให้แสดงเฉพาะเซสชันที่มาจากแคมเปญของคุณที่มีชื่อว่า ebook-launchเท่านั้น
  5. คลิกที่ไอคอนคอลัมน์และเลือกคอลัมน์ต่อไปนี้เพื่อแสดง:

    • อัตราตีกลับ
    • ระยะเวลาเซสชันโดยเฉลี่ย
    • ชื่อช่องทางอ้างอิง
    • เส้นทางแลนดิ้งเพจ
  6. คลิก บันทึกรายงาน

รายงานตัวอย่างนี้จะแสดงระยะเวลาที่ผู้เยี่ยมชมอยู่ในหน้าต่างๆ และมาจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใด (เช่น Facebook, Instagram หรือ Google) การรู้ว่าผู้คนอยู่ (หรือไม่อยู่) ในหน้าใดจะเป็นสิ่งที่ช่วยประกอบการตัดสินใจทางการตลาดของคุณได้

พร้อมเริ่มต้นการขายด้วย Shopify แล้วหรือยัง

ทดลองใช้งานฟรี