ส่วนและบล็อก

ธีมจะใช้ส่วนต่างๆ ในการสร้างเลย์เอาต์ตามที่คุณต้องการ โดยส่วนต่างๆ ส่วนใหญ่จะสร้างจากบล็อกที่ทำหน้าที่เฉพาะเจาะจง เช่น ส่วนหัว ข้อความ รูปภาพเดี่ยว ชุดรูปภาพแบบตัดปะ หรือลิงก์ การใช้ส่วนและบล็อกต่างๆ ในเทมเพลตของคุณจะช่วยให้คุณสามารถจัดเรียงเนื้อหาในร้านค้าได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งทำให้คุณสามารถควบคุมรูปลักษณ์และการใช้งานของร้านค้าออนไลน์ได้โดยไม่ต้องแก้ไขโค้ด โดยแต่ละเทมเพลตมีส่วนได้มากสุด 25 ส่วน

ในแต่ละส่วนจะมีบล็อกที่มีฟังก์ชันเฉพาะหลากหลายแบบที่คุณสามารถเพิ่มไปยังส่วนนั้นๆ ได้ โดยคุณสามารถเพิ่มบล็อกได้สูงสุด 50 บล็อกต่อหนึ่งส่วน ทั้งนี้ส่วนและบล็อกใดๆ ที่พร้อมให้ใช้งานนั้นจะขึ้นอยู่กับธีมของคุณ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกต่างๆ ที่พร้อมให้คุณใช้งาน ให้ดูที่เอกสารเกี่ยวกับธีมของคุณ

ส่วนบางส่วนจะมีขีดจํากัดเรื่องจํานวนบล็อก หรือขีดจํากัดจํานวนบล็อกบางประเภทที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปได้ ตัวอย่างเช่น ส่วนรูปภาพพร้อมข้อความ จะแสดงเฉพาะบล็อกที่ผู้ออกแบบธีมระบุในธีมของคุณเท่านั้น ใน Dawn ซึ่งเป็นธีมฟรีของ Shopify คุณจะสามารถเพิ่มบล็อกต่อไปนี้ได้เพียงหนึ่งบล็อกเท่านั้น

  • หัวเรื่อง
  • ย่อหน้า
  • ปุ่ม

คุณสามารถปรับแต่งส่วนดังกล่าวเพิ่มเติมได้โดยแก้ไขการตั้งค่าของส่วนนั้นๆ เพื่อใส่รูปภาพและเลือกการจัดวาง ขนาด สีพื้นหลัง และรายการที่จะโหลดก่อนเมื่อลูกค้าเยี่ยมชมร้านค้าออนไลน์ของคุณ

หากส่วนต่างๆ ที่คุณเพิ่มไปยังเลย์เอาต์ร้านค้าของคุณไม่มีการตั้งค่าหรือตัวเลือกที่คุณต้องการ คุณสามารถแก้ไขโค้ดธีมของคุณหรือติดต่อผู้พัฒนาธีมของคุณเพื่อรับความช่วยเหลือได้

ปรับแต่งเทมเพลตธีมของคุณด้วยส่วนและบล็อก

เมื่อคุณเปิดตัวแก้ไขธีม หน้าแรกของร้านค้าคุณจะโหลดตามค่าเริ่มต้น โดยคุณสามารถใช้เมนูดรอปดาวน์เพื่อเลือกเทมเพลตอื่น หรือใช้แถบค้นหาในเมนูดรอปดาวน์เทมเพลตเพื่อค้นหาประเภทหน้าที่เฉพาะเจาะจงได้ นอกจากนี้การเลือกเทมเพลตจะเป็นการโหลดเทมเพลตนั้นไปยังตัวแก้ไขธีม และระบบจะแสดงตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่คุณดำเนินการในตัวแก้ไขธีม

เพิ่มส่วน

เพิ่มส่วนใหม่ไปยังหน้าใดก็ได้ในร้านค้าออนไลน์ของคุณ

ขั้นตอน:

  1. เลือกเทมเพลตจากเมนูดรอปดาวน์
  2. คลิก “+ เพิ่มส่วน” แล้วเลือกส่วนใหม่จากรายการ หรือใช้แถบค้นหาเพื่อค้นหาด้วยคำค้น
  3. คลิกที่ส่วนใหม่เพื่อแก้ไขบล็อกภายในส่วนนั้น
  4. ไม่บังคับ: คลิกและลากไอคอน ⋮⋮ ซึ่งอยู่ถัดจากส่วนหนึ่งๆ เพื่อจัดเรียงส่วนต่างๆ ในหน้าของคุณใหม่
  5. คลิกที่ “บันทึก

แก้ไขส่วน

  1. จากเมนูดรอปดาวน์ ให้เลือกเทมเพลตที่มีส่วนที่คุณต้องการแก้ไข
  2. คลิกที่ส่วนเพื่อโหลดเนื้อหาเข้าไปยังหน้าต่างแสดงตัวอย่างและใช้งานตัวเลือกที่มีให้คุณ
  3. ตัวเลือกเสริม: คลิกบล็อกแต่ละรายการเพื่อแก้ไขบล็อกภายในส่วนนั้น
  4. คลิกที่ “บันทึก

สร้างส่วนหรือบล็อกซ้ำ

  1. จากเมนูดรอปดาวน์ ให้เลือกเทมเพลตที่มีส่วนหรือบล็อกที่คุณต้องการสร้างซ้ำ
  2. คลิกส่วนหรือบล็อกที่คุณต้องการสร้างซ้ำ
  3. คลิกปุ่ม ... ด้านข้างชื่อส่วนในแถบด้านข้าง จากนั้นคลิก "ทำซ้ำ"
  4. คลิกที่ “บันทึก

ลบส่วนหรือบล็อก

  1. จากเมนูดรอปดาวน์ ให้เลือกเทมเพลตที่มีส่วนที่คุณต้องการแก้ไข
  2. คลิกที่ส่วนเพื่อโหลดเนื้อหาเข้าไปยังหน้าต่างแสดงตัวอย่างและใช้งานตัวเลือกที่มีให้คุณ
  3. คลิกไอคอนรูปดวงตาเพื่อซ่อนหรือเลิกซ่อนส่วนหรือบล็อก
  4. คลิก “ลบออก” เพื่อลบบล็อกหรือส่วนออก

ส่วนบางส่วนจะมีประเภทของบล็อกที่กำหนดไว้และขีดจำกัดเรื่องจำนวนบล็อก หากส่วนหรือบล็อกใดๆ มีขีดจำกัดเรื่องจำนวนที่ใช้ได้ อินเทอร์เฟสจะแจ้งให้คุณทราบว่าคุณได้ใช้บล็อกไปแล้ว X จากทั้งหมด X บล็อกที่พร้อมให้ใช้งาน หากคุณใช้งานบล็อกจนถึงจำนวนสูงสุดแล้ว คุณจะไม่สามารถเพิ่มบล็อกใดๆ เพิ่มเติมได้จนกว่าคุณจะลบบล็อกที่มีอยู่

การจัดการกับบล็อก

บล็อกเป็นโมดูลที่ปรับแต่งได้ซึ่งประกอบกันขึ้นมาเป็นส่วนต่างๆ ในเทมเพลตหน้าของคุณ ซึ่งคุณสามารถใช้บล็อกเพื่อเพิ่มข้อความ รูปภาพ ลิงก์ ปุ่ม และอื่นๆ ได้

ธีมของ Shopify มีส่วนและบล็อกที่คุณสามารถปรับแต่งได้ โดยส่วนบางส่วนจะมีประเภทของบล็อกที่กำหนดไว้ตายตัว ซึ่งหมายความว่าคุณจะเลือกใช้ได้เฉพาะบล็อกต่างๆ ที่ผู้ออกแบบธีมกำหนดให้ใช้งานได้กับส่วนนั้นๆ อย่างไรก็ตาม คุณจะสามารถเลือกบล็อกใดๆ จากส่วนอื่นๆ ได้ แต่จะจํากัดจํานวนบล็อกทั้งหมดที่คุณสามารถเพิ่มลงในส่วนดังกล่าวแทน หากคุณใช้บล็อกในส่วนของคุณจนถึงจํานวนสูงสุดที่สามารถใช้ได้แล้ว ระบบจะแสดงข้อความว่าจำนวนบล็อกถึงขีดจำกัดแล้ว และตัวเลือก “+ เพิ่มบล็อก” จะกลายเป็นสีเทาจนกว่าจะลบบล็อกที่มีอยู่แล้วออก

เพิ่มบล็อก

  1. จากเมนูดรอปดาวน์ ให้เลือกเทมเพลตที่มีส่วนที่คุณต้องการแก้ไข
  2. คลิกที่ส่วนเพื่อโหลดเนื้อหาเข้าไปยังหน้าต่างแสดงตัวอย่างและใช้งานตัวเลือกที่มีให้คุณ
  3. คลิก “+ เพิ่มบล็อก” แล้วเลือกบล็อกใหม่ หรือคลิกที่แถบค้นหาเพื่อป้อนคำค้น
  4. คลิกที่ “บันทึก

การใช้เมตาฟิลด์และแหล่งที่มาแบบไดนามิก

เมตาฟิลด์ช่วยให้คุณสามารถแสดงข้อมูลแบบไดนามิกในร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ หากคุณมีธีมที่รองรับเมตาฟิลด์ คุณจะสามารถเชื่อมต่อเมตาฟิลด์ไปยังส่วนหรือบล็อกในตัวแก้ไขธีม

ตัวอย่างเช่น ผู้ขายเทียนอาจต้องการแสดงเวลาการเผาไหม้ของเทียนแต่ละประเภท หลังจากตั้งค่าเมตาฟิลด์สำหรับเวลาเผาไหม้ ผู้ขายสามารถเพิ่มบล็อกสำหรับเวลาเผาไหม้ไปยังเทมเพลตสินค้าของตนจากนั้นจึงเชื่อมต่อกับเมตาฟิลด์สินค้า หลังจากตั้งค่าเมตาฟิลด์ต่างๆ ที่แสดงเวลาการเผาไหม้แล้ว ผู้ขายสามารถเพิ่มบล็อกไปยังเทมเพลตคอลเลกชันของพวกเขาแล้วเชื่อมต่อกับเมตาฟิลด์คอลเลกชันได้

คุณสามารถแสดงข้อมูลแบบไดนามิกในร้านค้าออนไลน์ของคุณได้โดยการเพิ่มส่วนหรือบล็อกต่างๆ ที่สามารถใช้แหล่งที่มาแบบไดนามิกได้ โดยคุณสามารถใช้แหล่งที่มาแบบไดนามิกกับส่วนหรือบล็อกใดๆ ในเทมเพลตสินค้าได้ สำหรับเทมเพลตที่ไม่ใช่เทมเพลตสินค้า คุณจะสามารถใช้แหล่งที่มาแบบไดนามิกในส่วนหรือบล็อกที่แสดงสินค้าได้ ทั้งนี้คุณจะต้องเพิ่มเมตาฟิลด์ของคุณก่อน จึงจะสามารถเชื่อมต่อเมตาฟิลด์ดังกล่าวในเทมเพลตได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เมตาฟิลด์และแหล่งที่มาแบบไดนามิกในธีมของคุณ โปรดดูที่แหล่งที่มาแบบไดนามิก

หลังจากคุณดำเนินการตามขั้นตอนการตั้งค่าเสร็จสิ้นแล้ว ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อแทรกแหล่งข้อมูลแบบไดนามิกลงในเทมเพลตของคุณ:

  1. จากเมนูดรอปดาวน์ ให้เลือกเทมเพลตที่มีส่วนที่คุณต้องการแก้ไข
  2. คลิกส่วนที่มีอยู่เพื่อโหลดเนื้อหาเข้าไปยังหน้าต่างแสดงตัวอย่างและใช้งานตัวเลือกที่มีให้คุณ หรือคลิก “+ เพิ่มส่วน
  3. คลิก “+ เพิ่มบล็อก” จากนั้นเชื่อมต่อแหล่งข้อมูลแบบไดนามิก:
  • หากไอคอนการเชื่อมต่อแหล่งข้อมูลแบบไดนามิกแสดงอยู่ ให้คลิกเลือกเมตาฟิลด์เดียว:
    Connect dynamic source
  • หากไอคอนการเชื่อมต่อแหล่งข้อมูลแบบไดนามิกแสดงเครื่องหมาย + ให้คลิกเพื่อเพิ่มเมตาฟิลด์ทีละรายการ โดยสามารถเลือกได้สูงสุด 20 รายการ:
    Insert dynamic source icon
  1. คลิกที่ “บันทึก

พร้อมเริ่มต้นการขายด้วย Shopify แล้วหรือยัง

ทดลองใช้งานฟรี