ปรับราคาสินค้าสำหรับเครื่องมือค้นหาให้เป็นสกุลเงินท้องถิ่น

หน้านี้พิมพ์ขึ้นเมื่อ Apr 25, 2024 หากต้องการเวอร์ชันปัจจุบัน โปรดไปที่ https://help.shopify.com/th/manual/online-store/themes/themes-by-shopify/vintage-themes/customizing-vintage-themes/customize-search-results

อัปเดตธีมของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าราคาที่ปรากฏในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาตรงกับสกุลเงินของลูกค้าคุณ

เครื่องมือค้นหามักจะส่งคืนราคาสินค้าในผลลัพธ์การค้นหา เมื่อคุณขายสินค้าในหลายสกุลเงิน บางครั้งสกุลเงินในผลลัพธ์จะไม่ตรงกับสกุลเงินในพื้นที่ของลูกค้าคุณ

หากลูกค้าของคุณพบว่าประเภทของสกุลเงินนี้ไม่ตรงกันในผลลัพธ์การค้นหา คุณต้องแก้ไขธีมร้านค้าของคุณเพื่อให้มีข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งและสกุลเงินที่คุณขาย โดยส่วนใหญ่แล้ว คุณสามารถดำเนินการนี้ได้โดยปรับเปลี่ยนการตั้งค่าต่อไปนี้ในธีมของคุณ:

  • ข้อมูลที่มีการจัดโครงสร้าง
  • ลิงก์ Hreflang
  • การตั้งค่า URL มาตรฐาน

ตัวอย่างเช่น คุณขายสินค้าในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ แล้วลูกค้าในประเทศนิวซีแลนด์ค้นหาเสื้อยืดของคุณ พวกเขาจะเห็นราคาในสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ($20 AUD) ในผลการค้นหา เมื่อลูกค้ารายนี้คลิกที่ผลลัพธ์แล้ว ระบบจะนำพวกเขาไปที่หน้าสินค้าของเสื้อยืดในเวอร์ชันนิวซีแลนด์ ในหน้านี้ ลูกค้าของคุณจะเห็นราคาในสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ ($22 GTS) ลูกค้าจะสังเกตเห็นความแตกต่างของราคาระหว่างผลการค้นหากับหน้าสินค้าและจะรู้สึกสับสน ซึ่งทำให้ลูกค้ารายนี้ใช้เวลานานขึ้นในการตัดสินใจซื้อ

หมายเหตุ: เนื้อหาในหน้านี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น หากคุณประสบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผลการค้นหาและสกุลเงิน ให้ติดต่อ Shopify Partner ที่เชี่ยวชาญในด้าน SEO คุณสามารถติดต่อพาร์ทเนอร์ผ่าน Partner Directory ของ Shopify ได้

ในหน้านี้

ใช้ข้อมูลที่มีการจัดโครงสร้าง

คุณสามารถใช้มาร์กอัปในหน้าในการจัดโครงสร้างข้อมูลของคุณเพื่อให้เครื่องมือค้นหาทราบเกี่ยวกับสกุลเงินที่คุณขายได้ เครื่องมือค้นหาจะใช้ข้อมูลที่มีการจัดโครงสร้างเพื่อแยกประเภทเนื้อหาในหน้าของคุณ นอกจากนี้ยังใช้เพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ผลการค้นหา เช่น แสดงราคาของสินค้าในผลลัพธ์

สำหรับแต่ละสกุลเงินที่คุณรองรับ คุณต้องใช้ประเภทข้อมูลที่มีการจัดโครงสร้าง product และมีคุณสมบัติ priceCurrency คุณสมบัตินี้จะอธิบายสกุลเงิน (ในรูปแบบ ISO 4217) และต้องได้รับการตั้งเป็น cart.currency.iso_code (ไม่ใช่ shop.currency)

ธีม Debut ใช้รูปแบบอื่นสำหรับข้อมูลที่มีการจัดโครงสร้าง ทำให้ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ หากคุณใช้ธีม Debut คุณสามารถข้ามขั้นตอนเหล่านี้และเริ่มต้นที่ใช้แอตทริบิวต์ Hreflang ได้เลย

ขั้นตอน:

  1. ค้นหาธีมของคุณสำหรับคุณสมบัติ priceCurrency ที่ซ้อนอยู่ในขอบเขตรายการ offers โดยปกติแล้ว priceCurrency จะถูกกําหนดไว้ใน product-template.liquid ในโฟลเดอร์ส่วน หากคุณไม่พบคุณสมบัตินี้ ให้เพิ่มคุณสมบัตินี้ไปยัง Sections/product-template.liquid
  2. โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า priceCurrency ถูกตั้งเป็น cart.currency.iso_code แล้ว

ตัวอย่างเช่น โค้ดของคุณควรมีลักษณะดังต่อไปนี้:

<div itemscope itemtype=”http://schema.org/Product . . .
<div itemprop="offers" itemscope itemtype="http://schema.org/Offer">
  <meta
    itemprop="priceCurrency"
    content="{{ cart.currency.iso_code }}"
  />
  . . .
</div>

คุณสามารถใช้เครื่องมือทดสอบข้อมูลที่มีการจัดโครงสร้าง เพื่อทดสอบการเปลี่ยนแปลงของคุณ

ใช้แอตทริบิวต์ Hreflang

คุณสามารถใช้แอตทริบิวต์ hreflang เพื่อบอกให้เครื่องมือค้นหาทราบเกี่ยวกับหน้าสินค้าในเวอร์ชันต่างๆ สำหรับแต่ละสกุลเงินที่คุณขาย คุณต้องระบุภาษา (รูปแบบ ISO 639-1) และภูมิภาค (รูปแบบ ISO 3166-1 Alpha 2) ที่ใช้กับสกุลเงินนั้น

ขั้นตอน:

  1. เปิดไฟล์ theme.liquid ของคุณ ไฟล์นี้ควรมีองค์ประกอบ <link ... >
  2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าในแต่ละสกุลเงินที่คุณขาย มีองค์ประกอบ link rel=alternate เช่น องค์ประกอบต่อไปนี้: 
<link
  rel="alternate"
  hreflang="LANG-CTRY"
  href="{{ canonical_url}}?currency=XXX"
/>`.

ตัวอย่างเช่น หากคุณขายสินค้าในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์สเตอร์ลิง และเยน ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่า theme.liquid ของคุณมีบรรทัดต่อไปนี้:

<head>
  ...
  <link
    rel="alternate"
    hreflang="en-us"
    href="{{ canonical_url }}?currency=USD"
  />
  <link
    rel="alternate"
    hreflang="en-gb"
    href="{{ canonical_url }}?currency=GBP"
  />
  <link
    rel="alternate"
    hreflang="ja-jp"
    href="{{ canonical_url }}?currency=JPY"
  />
  ...
</head>

หากคุณขายสินค้าในสกุลเงินยูโร (EUR) คุณต้องระบุตำแหน่งที่ตั้ง (ภาษา/ประเทศ) ที่คุณรองรับ สำหรับแต่ละตำแหน่งที่ตั้งที่ใช้สกุลเงิน EUR ที่คุณรองรับ ให้เพิ่มองค์ประกอบ <link> และใส่แอตทริบิวต์ hreflang สำหรับตำแหน่งที่ตั้งนั้นไว้ด้วย

ตัวอย่างเช่น บรรทัดต่อไปนี้บอกเครื่องมือค้นหาว่าควรแสดงหน้าสินค้าเวอร์ชันสกุลเงิน EUR ต่อผู้พูดภาษาฝรั่งเศสในฝรั่งเศส ผู้พูดภาษาเยอรมันในเยอรมนี และทั้งผู้พูดภาษาอังกฤษและดัตช์ในเนเธอร์แลนด์:

...
<link
  rel="alternate"
  hreflang="fr-fr"
  href="{{ canonical_url }}?currency=EUR"
/>
<link
  rel="alternate"
  hreflang="de-de"
  href="{{ canonical_url }}?currency=EUR"
/>
<link
  rel="alternate"
  hreflang="en-nl"
  href="{{ canonical_url }}?currency=EUR"
/>
<link
  rel="alternate"
  hreflang="nl-nl"
  href="{{ canonical_url }}?currency=EUR"
/>
...
  1. เพิ่มองค์ประกอบ link rel=alternate และตั้งค่า hreflang เป็น x-default เครื่องมือค้นหาจะใช้ลิงก์ย้อนกลับนี้เมื่อลูกค้าของคุณมาจากภาษาที่คุณไม่รองรับ: 
<link
  rel="alternate"
  hreflang="x-default"
  href="{{ canonical_url }}"
/>

ขั้นตอนที่ 3: ใช้ URL มาตรฐาน

คุณสามารถบอกเครื่องมือค้นหาว่าจะใช้ URL ใดเป็น URL มาตรฐาน การดำเนินการนี้จะบอกเครื่องมือค้นหาว่าหน้าเฉพาะประเทศที่อ้างอิงถึงนั้นเป็นหน้าแบบสแตนด์อโลนที่ไม่เหมือนใคร แทนที่จะเป็นหน้าที่ซ้ำกับหน้าอื่น เมื่อตั้งค่าแล้ว ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถระบุสกุลเงินที่จะแสดงได้ ใช้ <link rel="canonical" href="{{ canonical_url }}"> และใส่ cart.currency.iso_code

ขั้นตอน:

  1. ใน theme.liquid ให้ค้นหาลิงก์มาตรฐาน หากคุณไม่พบลิงก์นี้ ให้เพิ่มลิงก์: 
<link rel="canonical" href="{{ canonical_url }}>"
  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่า URL มาตรฐานของคุณมี cart.currency.iso_code 
<link
  rel="canonical"
  href="{{ canonical_url }}?currency={{ cart.currency.iso_code }}"
/>

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

พร้อมเริ่มต้นการขายด้วย Shopify แล้วหรือยัง

ทดลองใช้งานฟรี