ตัวกรองกลุ่มลูกค้าที่อิงตาม Shopify

ใช้คู่มืออ้างอิงนี้เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับชื่อตัวกรอง ตัวดำเนินการ และค่าต่างๆ ที่ใช้ในการสร้างกลุ่มลูกค้าซึ่งอิงจากตัวกรองเริ่มต้นใน Shopify

วันที่ที่ละทิ้งขั้นตอนการชำระเงิน

ชื่อ: abandoned_checkout_date

เพิ่มลูกค้าลงในกลุ่มตามวันที่ลูกค้าละทิ้งตะกร้าสินค้าครั้งล่าสุด

ตัวดำเนินการ ในวันที่ที่ระบุ: =
นอกเหนือจากวันที่ที่ระบุ: !=
ในวันที่ที่ระบุหรือก่อนหน้านั้น: <=
ก่อนหน้าวันที่ที่ระบุ: <
ในวันที่ที่ระบุหรือหลังจากนั้น: >=
หลังจากวันที่ที่ระบุ: >
ระหว่างวันที่ที่ระบุ: BETWEEN {date1} AND {date2}
ไม่มีอยู่: IS NULL
มีอยู่: IS NOT NULL







ค่า
รูปแบบ วันที่แน่นอน: YYYY-MM-DD
ตัวอย่างค่าความคลาดเคลื่อนของวันที่: -4w, -10y
วันที่ตั้งชื่อ:
  • วันนี้: = today
  • เมื่อวาน: = yesterday
  • ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา: >= 7_days_ago
  • ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา: >= 30_days_ago
  • ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา: >= 90_days_ago
  • ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา: >= 12_months_ago
วันที่ที่มีชื่อเป็นค่าเริ่มต้นและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ให้ใช้การชดเชยวันที่สำหรับวันที่แบบกำหนดเอง

ตัวอย่าง รวมลูกค้าที่มีตะกร้าสินค้าที่ยังไม่ชำระเงินครั้งล่าสุดภายในสัปดาห์ที่แล้ว:
abandoned_checkout_date >= 7_days_ago

รวมลูกค้าที่มีตะกร้าสินค้าที่ยังไม่ชำระเงินครั้งล่าสุดภายใน 8 เดือนที่ผ่านมา:
abandoned_checkout_date > -8m



หมายเหตุค่าวันที่จะอิงตามเวลาทั้งวันโดยขึ้นอยู่กับเขตเวลาที่ร้านค้าของคุณใช้งานอยู่
## วันครบรอบ

ชื่อ: anniversary

รวมลูกค้าตามวันที่ของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพารามิเตอร์วันที่

พารามิเตอร์ฟังก์ชัน ระบุเหตุการณ์ที่คุณต้องการกรอง ตัวอย่างเช่น 'metafields.facts.birth_date'
ตัวดำเนินการ MATCHES: พารามิเตอร์คือจริง
NOT_MATCHES: พารามิเตอร์คือเท็จ
IS NULL: ไม่มีพารามิเตอร์
IS NOT NULL: มีพารามิเตอร์

สำหรับวันที่ ตัวดำเนินการที่ใช้ได้ประกอบด้วย:
เท่ากับ: =
ไม่เท่ากับ: !=
มากกว่า: >
น้อยกว่า: <
น้อยกว่าหรือเท่ากับ: <=
มากกว่าหรือเท่ากับ: >=
อยู่ระหว่าง: BETWEEN











ค่า date
รูปแบบ วันที่ที่แน่นอน: YYYY-MM-DD
ตัวอย่างการชดเชยวันที่: +4w, +3m
วันที่หรือช่วงที่มีชื่อ:
  • วันนี้: = today
  • ใน 7 วันข้างหน้า: BETWEEN today AND +7d
  • ใน 30 วันข้างหน้า: BETWEEN today AND +30d


ตัวอย่าง รวมลูกค้าที่มีวันเกิดใน 30 วันถัดไป:
anniversary MATCHES ('metafields.facts.birth_date') BETWEEN today AND +30d
หมายเหตุ
## จำนวนเงินที่ใช้ไป

ชื่อ: amount_spent

เพิ่มลูกค้าลงในกลุ่มตามจำนวนเงินที่พวกเขาใช้จ่ายในร้านค้าของคุณ

ตัวดำเนินการ เท่ากับ: =
ไม่เท่ากับ: !=
มากกว่า: >
น้อยกว่า: <
น้อยกว่าหรือเท่ากับ: <=
มากกว่าหรือเท่ากับ: >=
ระหว่าง: BETWEEN





ค่า
รูปแบบ ช่วงตัวเลข: # AND #
ตัวเลข: #
ตัวเลขทศนิยม: ใช้จุดทศนิยม (.) เป็นตัวคั่นทศนิยม
ระบบจะไม่ยอมรับตัวคั่นหลักพัน เช่น เครื่องหมายจุลภาคหรือเว้นวรรค
ระบบจะไม่ยอมรับตัวเลขที่จัดรูปแบบเฉพาะภาษา



ตัวอย่าง เพิ่มลูกค้าที่ใช้จ่ายรวม 1 ถึง 999.99 ในร้านค้าของคุณลงในกลุ่ม:
amount_spent BETWEEN 1 AND 999.99
หมายเหตุ
  • สกุลเงินที่ใช้จะอิงตามสกุลเงินที่ร้านค้าของคุณเลือกไว้ โปรดอย่าระบุสกุลเงินที่ใช้โดยการป้อนสัญลักษณ์สกุลเงิน
  • BETWEEN จะครอบคลุมทั้งค่าแรกและค่าสุดท้ายด้วย ตัวอย่างเช่น amount_spent BETWEEN 1 AND 100 จะเพิ่มลูกค้าลูกค้าที่มีการใช้จ่ายอย่างน้อย 1 จนถึง 100 ลงในกลุ่ม
## เมือง

ชื่อ: customer_cities

เพิ่มลูกค้าที่มีที่อยู่ในเมืองที่ระบุไว้ลงในกลุ่ม หากลูกค้ามีที่อยู่หลายแห่งระบบอาจเพิ่มลูกค้ารายดังกล่าวลงในกลุ่มลูกค้าที่ใช้ตัวกรองนี้มากกว่าหนึ่งกลุ่ม

ตัวดำเนินการ Contains this exact city: CONTAINS
Doesn't contain this exact city: NOT CONTAINS
Doesn't exist: IS NULL
Exists: IS NOT NULL


ค่า
รูปแบบ countryCode-regionCode-cityCode
ตัวอย่าง เพิ่มลูกค้าที่มีที่อยู่ในนครนิวยอร์กลงในกลุ่ม:
customer_cities CONTAINS 'US-NY-NewYorkCity'
หมายเหตุ หากต้องการค้นหาเมือง คุณสามารถเริ่มพิมพ์ชื่อเมือง จากนั้นจึงเลือกค่าที่เหมาะสมจากรายการที่ปรากฏขึ้น
## บริษัท

ชื่อ: companies

รวมลูกค้าจากบริษัทที่กําหนดค่าเป็น ลูกค้าที่เป็นธุรกิจแบบ B2B

ตัวดำเนินการ มี ID บริษัทนี้: CONTAINS
ไม่มี ID บริษัทนี้: NOT CONTAINS
ไม่มีอยู่: IS NULL
มีอยู่: IS NOT NULL


ค่าID บริษัท
รูปแบบ
ตัวอย่าง เป็นลูกค้าที่เป็นธุรกิจแบบ B2B:
companies IS NOT NULL
ไม่ใช่ลูกค้าที่เป็นธุรกิจแบบ B2B:
companies IS NULL
รวมลูกค้าที่สังกัดบริษัทใดบริษัทหนึ่ง:
companies CONTAINS 3778915041302






หมายเหตุ
  • เมื่อคุณสร้างกลุ่มลูกค้า คุณสามารถเลือกบริษัทตามชื่อของบริษัทจากรายการที่แสดงได้ อีกวิธีหนึ่ง คุณสามารถเริ่มพิมพ์ชื่อบริษัท แล้วเลือกจากรายการ
  • ระบบจะป้อน ID บริษัทลงในโค้ด ไม่ใช่ชื่อบริษัท เมื่อคุณเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ ID บริษัท ชื่อบริษัทจะแสดงขึ้นมา
## ประเทศหรือภูมิภาค

ชื่อ: customer_countries

รวมลูกค้าที่มีที่อยู่ในประเทศหรือภูมิภาคที่ระบุไว้ โดยระบบอาจรวมลูกค้าที่มีที่อยู่หลายแห่งไว้ในกลุ่มลูกค้าที่ใช้ตัวกรองนี้มากกว่า 1 กลุ่ม

ตัวดำเนินการ ประกอบด้วยที่ตั้งที่ระบุ: CONTAINS
ไม่ได้ประกอบด้วยที่ตั้งที่ระบุ: NOT CONTAINS
ไม่มีอยู่: IS NULL
มีอยู่: IS NOT NULL


ค่า ใช้รหัสประเทศแบบสองตัวอักษรตาม ISO
รูปแบบ
ตัวอย่าง เพิ่มลูกค้าที่มีที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาลงในกลุ่ม:
customer_countries CONTAINS 'US'
หมายเหตุ หากต้องการค้นหาประเทศ คุณสามารถเริ่มพิมพ์ชื่อประเทศ จากนั้นจึงเลือกค่าที่เหมาะสมจากรายการที่ปรากฏขึ้น
## สร้างโดย ID ของแอป

ชื่อ: created_by_app_id

รวมลูกค้าที่สร้างขึ้นโดยแอปที่ระบุ

ตัวดำเนินการ เท่ากับ: =
ไม่เท่ากับ: !=
ค่าID ของแอปที่จะแบ่งกลุ่ม
รูปแบบID ของแอป
ตัวอย่าง รวมลูกค้าที่สร้างขึ้นใน Shopify admin:
created_by_app_id = 1830279
หมายเหตุ
  • เมื่อคุณสร้างกลุ่มลูกค้า คุณสามารถเลือกแอปตามชื่อจากรายการที่แสดงได้ หรือคุณจะพิมพ์ชื่อแอปจากนั้นเลือกแอปดังกล่าวจากในรายการก็ได้เช่นกัน
  • ระบบจะป้อน ID ของแอปลงในโค้ด ไม่ใช่ชื่อของแอป เมื่อคุณเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ ID ของแอป ชื่อแอปจะแสดงขึ้น
## สถานะบัญชีผู้ใช้ของลูกค้า

ชื่อ: customer_account_status

เพิ่มลูกค้าที่สถานะบัญชีผู้ใช้ของลูกค้าเป็นไปตามที่ระบุลงในกลุ่ม

ตัวดำเนินการ เท่ากับ: =
ไม่เท่ากับ: !=
ค่า ถูกปฏิเสธ: 'DECLINED' ลูกค้าได้รับเชิญให้สร้างบัญชีผู้ใช้ แต่ถูกปฏิเสธ
ปิดการใช้: 'DISABLED' ลูกค้ายังไม่ได้สร้างบัญชีผู้ใช้ หรือร้านค้าของคุณกำลังใช้บัญชีผู้ใช้ของลูกค้าแบบใหม่
เปิดการใช้: 'ENABLED' ลูกค้าสร้างบัญชีผู้ใช้แล้ว
เชิญแล้ว: 'INVITED' ลูกค้าได้รับเชิญให้สร้างบัญชีผู้ใช้แล้ว แต่ยังไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธ


รูปแบบ
ตัวอย่าง เพิ่มลูกค้าที่ได้รับเชิญให้สร้างบัญชีผู้ใช้ แต่มีการปฏิเสธลงในกลุ่ม:
customer_account_status = 'DECLINED'
หมายเหตุ
## วันที่เพิ่มลูกค้าเข้าสู่ร้านค้า

ชื่อ: customer_added_date

เพิ่มลูกค้าลงในกลุ่มตามวันที่ถูกเพิ่มเข้ามายังร้านค้าของคุณ

ตัวดำเนินการ ในวันที่ตรงตามที่ระบุ: =
นอกเหนือจากวันที่: !=
ในวันที่ระบุหรือก่อนหน้านั้น: <=
ก่อนวันที่: <
ในวันที่ระบุหรือหลังจากนั้น: >=
หลังวันที่: >
ระหว่างวันที่: BETWEEN {date1} AND {date2}





ค่า
รูปแบบ วันที่แน่นอน: YYYY-MM-DD
ตัวอย่างค่าความคลาดเคลื่อนของวันที่: -4w, -10y
วันที่ตั้งชื่อ:
  • วันนี้: = today
  • เมื่อวาน: = yesterday
  • ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา: >= 7_days_ago
  • ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา: >= 30_days_ago
  • ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา: >= 90_days_ago
  • ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา: >= 12_months_ago
วันที่ที่มีชื่อเป็นค่าเริ่มต้นและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ให้ใช้การชดเชยวันที่สำหรับวันที่แบบกำหนดเอง

ตัวอย่าง รวมลูกค้าที่เพิ่มเข้าภายในสัปดาห์ที่แล้ว:
customer_added_date >= 7_days_ago

รวมลูกค้าที่เพิ่มเข้าภายใน 8 เดือนที่ผ่านมา:
customer_added_date > -8m

รวมลูกค้าที่เพิ่มเข้าภายในช่วงวันที่ที่ระบุ:
customer_added_date BETWEEN 2022-12-01 AND 2022-12-31






หมายเหตุ ค่าวันที่จะอิงตามเวลาทั้งวันโดยขึ้นอยู่กับเขตเวลาที่ร้านค้าของคุณใช้งานอยู่
## โดเมนอีเมลสำหรับลูกค้า

ชื่อ: customer_email_domain

รวมลูกค้าที่มีที่อยู่อีเมลเป็นของโดเมนที่ระบุ โดยชื่อโดเมนจะเป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่อีเมลโดยอยู่หลังสัญลักษณ์ @ ตัวอย่างเช่น gmail.com

ตัวดำเนินการ เท่ากับ: =
ไม่เท่ากับ: !=
ไม่มีอยู่: IS NULL
มีอยู่: IS NOT NULL


ค่า ชื่อโดเมนต่อไปนี้เป็นเพียงการแนะนำ เราไม่ได้จำกัดให้คุณใช้เพียงแค่ชื่อโดเมนเหล่านี้เท่านั้น คุณสามารถป้อนชื่อโดเมนอื่นที่ถูกต้องได้ตามต้องการ
  • Gmail: 'gmail.com'
  • Yahoo: 'yahoo.com' หรือ 'yahoo.ca'
  • Hotmail: 'hotmail.com'
  • AOL: 'aol.com'
  • MSN: 'msn.com'
  • Live: 'live.com'
  • Outlook: 'outlook.com'
รูปแบบ
ตัวอย่าง เพิ่มลูกค้าที่ใช้โดเมนอีเมล shopify.com ลงในกลุ่ม:
customer_email_domain = 'shopify.com'
หมายเหตุ
## ภาษาของลูกค้า

ชื่อ: customer_language

เพิ่มลูกค้าลงในกลุ่มตามภาษาที่ลูกค้าใช้ในการติดต่อสื่อสารกับร้านค้าของคุณ

ตัวดำเนินการ เท่ากับ: =
ไม่เท่ากับ: !=
ไม่มีอยู่: IS NULL
มีอยู่: IS NOT NULL


ค่า ใช้รหัสภาษาแบบสองตัวอักษรตาม ISO 639-1
รูปแบบ ค่าต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนของรหัสภาษา ISO ทั่วไป ข้อมูลของคุณไม่ได้จํากัดเพียงรหัสภาษาเหล่านี้เท่านั้น คุณสามารถป้อนรหัสภาษาอื่นที่ถูกต้องด้วยตนเองได้ แต่ค่าที่แนะนำต่างๆ ในเครื่องมือแก้ไขที่คุณสามารถเลือกใช้ได้จะเป็นค่าที่มีให้ใช้ในข้อมูลลูกค้าของคุณเท่านั้น
  • อังกฤษ: 'en'
  • ฝรั่งเศส: 'fr'
  • สเปน: 'es'
  • เยอรมัน: 'de'
  • อิตาลี: 'it'
  • ญี่ปุ่น: 'ja'
  • รัสเซีย: 'ru'
ตัวอย่าง รวมลูกค้าที่สื่อสารกับร้านค้าของคุณเป็นภาษาอังกฤษ:
customer_language = 'en'

ยกเว้นลูกค้าที่สื่อสารกับร้านค้าของคุณเป็นภาษาอังกฤษแบบแคนาดา:
customer_language != 'en-CA'



หมายเหตุ
  • คุณสามารถเพิ่มรหัส ISO ของภาษาไปยังค่าดังกล่าวเพื่อระบุภาษาถิ่นของภาษานั้นๆ ได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ 'en-US' เพื่อระบุถึงภาษาถิ่นของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร, 'en-GB' เพื่อระบุถึงภาษาถิ่นของสหราชอาณาจักร, 'pt-PT' เพื่อระบุถึงภาษาถิ่นของโปรตุเกส และ 'pt-BR' เพื่อระบุึงภาษาถิ่นของบราซิล
  • ค่าตัวกรองทำหน้าที่เป็นอักขระหากมีการระบุคำนำหน้าเป็นภาษาเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากค่าตัวกรองมี 'en'ผลลัพธ์ของคุณจะมีลูกค้าที่มีการตั้งค่าภาษาเป็น 'en' และลูกค้าที่ตั้งค่าภาษาเป็น 'en-GB' 'en-CA' และอื่นๆ
## แท็กลูกค้า

ชื่อ: customer_tags

เพิ่มลูกค้าลงในกลุ่มตามแท็กที่พวกเขามี

ตัวดำเนินการ Contains this exact tag: CONTAINS
Doesn't contain this exact tag: NOT CONTAINS
Doesn't exist: IS NULL
Exists: IS NOT NULL


ค่าชื่อแท็กของลูกค้า
รูปแบบ
ตัวอย่าง เพิ่มลูกค้าที่มีแท็ก GoldStatus ลงในกลุ่ม:
customer_tags CONTAINS 'GoldStatus'
หมายเหตุ ตัวพิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็กไม่มีผลต่อแท็ก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมและข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับแท็ก
## ลูกค้าที่อยู่ภายในระยะ

ชื่อ: customer_within_distance

รวมลูกค้าภายในระยะทางที่ระบุของตำแหน่งที่ตั้งที่บันทึกไว้

พารามิเตอร์ฟังก์ชัน คุณสามารถใช้พารามิเตอร์ระยะทางได้เพียงพารามิเตอร์เดียวในแต่ละตัวกรอง
coordinates (ต้องระบุ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุตำแหน่งที่ตั้งปักหมุดที่คุณต้องการใช้เพื่อสร้างกลุ่มของคุณ
distance_km (ต้องระบุ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุรัศมีระยะทางที่คุณต้องการค้นหาลูกค้า
distance_mi (ต้องระบุ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุรัศมีระยะทางที่คุณต้องการค้นหาลูกค้า




ตัวดำเนินการ MATCHES: พารามิเตอร์คือจริง
NOT_MATCHES: พารามิเตอร์คือเท็จ
IS NULL: ไม่มีพารามิเตอร์
IS NOT NULL: มีพารามิเตอร์






มูลค่า
รูปแบบ รูปแบบที่รองรับสำหรับ coordinates:
  • ตัวเลข (ละติจูด), ตัวเลข (ลองจิจูด)

  • รูปแบบที่รองรับสำหรับพิกัด (ละติจูด, ลองจิจูด):
  • ตัวเลข: #

  • รูปแบบที่รองรับสำหรับ distance_mi, distance_km:
  • ตัวเลข: #




  • ตัวอย่าง ตัวกรองนี้ต้องมีพิกัดและพารามิเตอร์หนึ่งระยะทางจึงจะถูกต้อง

    กรองลูกค้าที่มีที่อยู่ภายในรัศมี 10 ไมล์จากพิกัด (45.419190, -75.696727):
    customer_within_distance MATCHES (coordinates = (45.419190, -75.696727), distance_mi = 10 )

    สามารถใช้ตัวกรองร่วมกับตัวกรองอื่นๆ เพื่อจำกัดรายชื่อลูกค้าของคุณให้แคบลงได้อีก ตัวอย่างเช่น:
    กรองลูกค้าที่มีที่อยู่ภายในรัศมี 20 กิโลเมตรจากพิกัด (43.634, -79.412) และได้ส่งคำสั่งซื้ออย่างน้อย 1 รายการ:
    customer_within_distance MATCHES (coordinates = (43.634,-79.412), distance_km = 20 ) AND number_of_orders > 0






    หมายเหตุ
    • Shopify Segmentation จะแปลงตำแหน่งที่ตั้งที่คุณบันทึกไว้เป็นคู่พิกัดโดยอัตโนมัติ และจะปรากฏเป็นค่าที่เลือกได้เมื่อใช้ตัวกรองนี้
    • หากร้านค้าของคุณมีตำแหน่งที่ตั้งที่บันทึกไว้ Shopify Magic จะแปลคู่พิกัดสำหรับชื่อตำแหน่งที่ตั้งของคุณในการแปลของ Magic โดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น: "ลูกค้าที่มีที่อยู่ภายในรัศมี 10 ไมล์จากตำแหน่งที่ตั้ง 'Salt Lake City Store'"
    ## อีเมลกิจกรรม

    ชื่อ: shopify_email.EVENT

    รวมลูกค้าตามเหตุการณ์อีเมลที่เลือก เหตุการณ์ที่รองรับ (EVENT) มีดังต่อไปนี้:

    • เด้งกลับ: bounced
    • คลิก: clicked
    • จัดส่ง: delivered
    • ถูกระบุว่าเป็นสแปม: marked_as_spam
    • เปิด: opened
    • ยกเลิกการสมัครรับข้อมูล: unsubscribed
    พารามิเตอร์ฟังก์ชัน activity_id (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อเลือก ID กิจกรรมทางการตลาดที่คุณต้องการกรอง
    count (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุจำนวนครั้งที่เหตุการณ์ทางอีเมลจะเกิดขึ้น
    date (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุวันที่ของเหตุการณ์



    ตัวดำเนินการ MATCHES: ใช้เมื่อได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว
    NOT_MATCHES: ใช้เมื่อไม่ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้น
    IS NULL: ไม่มีพารามิเตอร์
    IS NOT NULL: มีพารามิเตอร์

    สำหรับวันที่ ตัวดำเนินการที่ใช้ได้ประกอบด้วย:
    เท่ากับ: =
    ไม่เท่ากับ: !=
    มากกว่า: >
    น้อยกว่า: <
    น้อยกว่าหรือเท่ากับ: <=
    มากกว่าหรือเท่ากับ: >=
    อยู่ระหว่าง: BETWEEN











    มูลค่า
    รูปแบบรูปแบบที่รองรับสำหรับ:activity_id
  • = (ค่าเดียว)
  • IN : ค่าหนึ่งชุดที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคโดยมี "OR" โดยนัยอยู่ในวงเล็บ ตัวอย่างเช่น: (activity_id IN 1, 2, 3) มีข้อจำกัด ID กิจกรรม 500 รายการในหนึ่งชุด

    รูปแบบวันที่ที่รองรับสำหรับ date:



  • วันที่ที่แน่นอน: YYYY-MM-DD
  • ตัวอย่างการออฟเซ็ตวันที่:
    • 7 วันที่ผ่านมา -7d

    • 4 สัปดาห์ผ่านมา: -4w

    • 3 เดือนที่ผ่านมา -3m

    • 1 ปีที่ผ่านมา: -1y

    • วันที่ตั้งชื่อ: today, yesterday


  • วันที่ที่มีชื่อเป็นค่าเริ่มต้นและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ใช้การชดเชยวันที่สำหรับให้วันที่แบบกำหนดเอง

    เหตุการณ์ทางอีเมลพร้อมใช้งานในช่วง 26 เดือนที่ผ่านมา โดยข้อมูลเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022

    รูปแบบที่รองรับสำหรับ count:
  • ตัวเลข: #








  • ตัวอย่าง ระบุว่าเหตุการณ์อีเมลเกิดขึ้นโดยใช้ตัวดำเนินการ MATCHES หรือ NOT MATCHES:
    shopify_email.opened MATCHES (activity_id = 135195754518)
    shopify_email.opened NOT MATCHES (activity_id = 135195754518)

    ใช้พารามิเตอร์ activity_id เพื่อระบุ ID กิจกรรมการตลาดที่คุณต้องการกรองสำหรับ:
    shopify_email.delivered MATCHES (activity_id = 135195754518)

    ใช้พารามิเตอร์ date และตัวดำเนินการ >= เพื่อระบุวันที่เริ่มต้นสำหรับเหตุการณ์อีเมล:
    shopify_email.delivered NOT_MATCHES (activity_id = 135195754518, date >= 2022-01-01)

    ใช้พารามิเตอร์ date และตัวดำเนินการ <= เพื่อระบุวันที่สิ้นสุดสำหรับเหตุการณ์อีเมล:
    shopify_email.delivered MATCHES (activity_id = 135195754518, date <= 2022-01-01)

    ใช้พารามิเตอร์ date และตัวดำเนินการ BETWEEN เพื่อระบุวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดสำหรับเหตุการณ์อีเมล:
    shopify_email.bounced NOT_MATCHES (activity_id = 135195754518, BETWEEN -12m AND today)













    หมายเหตุ
    • เมื่อคุณสร้างส่วนของลูกค้าโดยใช้พารามิเตอร์ activity_id คุณสามารถเลือกกิจกรรมทางการตลาดตามชื่อจากรายการที่จะปรากฏขึ้น
    • เนื่องด้วยการเก็บรักษาข้อมูล หากไม่มีพารามิเตอร์ date ผลลัพธ์จะถูกกรองสำหรับช่วง 26 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่มีวันที่เริ่มต้นหรือสิ้นสุดที่ตั้งไว้
    • หากไม่มี activity_id หมายความว่าตัวกรองของคุณมีกิจกรรมของ Shopify Email ทั้งหมด
    ## สถานะการสมัครใช้งานอีเมล

    ชื่อ: email_subscription_status

    รวมลูกค้าตามการสมัครรับอีเมลการตลาดของคุณ

    ตัวดำเนินการ เท่ากับ: =
    ไม่เท่ากับ: !=
    ไม่มีอยู่: IS NULL
    มีอยู่: IS NOT NULL


    ค่า ไม่ได้สมัครรับอีเมล: 'NOT_SUBSCRIBED' ลูกค้าไม่ได้สมัครรับอีเมลการตลาดจากคุณ
    สมัครรับอีเมลแล้ว: 'SUBSCRIBED' ลูกค้าสมัครรับอีเมลการตลาดจากคุณแล้ว
    รอดำเนินการ: 'PENDING' ลูกค้าอยู่ในขั้นตอนการสมัครรับอีเมลการตลาดจากคุณ
    ไม่ถูกต้อง: 'INVALID' สถานะการตลาดที่อยู่อีเมลของลูกค้าไม่ถูกต้อง
    ยกเลิกการสมัครรับอีเมล: 'UNSUBSCRIBED' ลูกค้าได้ยกเลิกการสมัครรับอีเมลการตลาดจากคุณแล้ว
    ลบ: 'REDACTED' ที่อยู่อีเมลของลูกค้าได้ถูกลบออกแล้ว




    รูปแบบ
    ตัวอย่าง เพิ่มลูกค้าที่สมัครรับข้อมูลการตลาดผ่านอีเมลของคุณลงในกลุ่ม:
    email_subscription_status = 'SUBSCRIBED'
    หมายเหตุ
    ## วันที่สั่งซื้อครั้งแรก

    ชื่อ: first_order_date

    รวมลูกค้าที่มีการสั่งซื้อครั้งแรกในวันที่ระบุ

    ตัวดำเนินการ ในวันที่ที่ระบุ: =
    นอกเหนือจากวันที่ที่ระบุ: !=
    ในวันที่ที่ระบุหรือก่อนหน้านั้น: <=
    ก่อนหน้าวันที่ที่ระบุ: <
    ในวันที่ที่ระบุหรือหลังจากนั้น: >=
    หลังจากวันที่ที่ระบุ: >
    ระหว่างวันที่ที่ระบุ: BETWEEN {date1} AND {date2}
    ไม่มีอยู่: IS NULL
    มีอยู่: IS NOT NULL







    ค่า
    รูปแบบ วันที่แน่นอน: YYYY-MM-DD
    ตัวอย่างค่าความคลาดเคลื่อนของวันที่: -4w, -10y
    วันที่ตั้งชื่อ:
    • วันนี้: = today
    • เมื่อวาน: = yesterday
    • ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา: >= 7_days_ago
    • ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา: >= 30_days_ago
    • ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา: >= 90_days_ago
    • ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา: >= 12_months_ago
    วันที่ที่มีชื่อเป็นค่าเริ่มต้นและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ให้ใช้การชดเชยวันที่สำหรับวันที่แบบกำหนดเอง

    ตัวอย่าง รวมลูกค้าที่ส่งคำสั่งซื้อแรกตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว:
    first_order_date >= 7_days_ago

    รวมลูกค้าที่ส่งคำสั่งซื้อแรกตั้งแต่ 8 เดือนที่แล้ว:
    first_order_date > -8m



    หมายเหตุ ค่าวันที่จะอิงตามเวลาทั้งวันโดยขึ้นอยู่กับเขตเวลาที่ร้านค้าของคุณใช้งานอยู่
    ## วันที่สั่งซื้อล่าสุด

    ชื่อ: last_order_date

    เพิ่มลูกค้าที่สั่งซื้อครั้งล่าสุดในวันที่ระบุลงในกลุ่ม

    ตัวดำเนินการ ในวันที่ที่ระบุ: =
    นอกเหนือจากวันที่ที่ระบุ: !=
    ในวันที่ที่ระบุหรือก่อนหน้านั้น: <=
    ก่อนหน้าวันที่ที่ระบุ: <
    ในวันที่ที่ระบุหรือหลังจากนั้น: >=
    หลังจากวันที่ที่ระบุ: >
    ระหว่างวันที่ที่ระบุ: BETWEEN {date1} AND {date2}
    ไม่มีอยู่: IS NULL
    มีอยู่: IS NOT NULL







    ค่า
    รูปแบบ วันที่แน่นอน: YYYY-MM-DD
    ตัวอย่างค่าความคลาดเคลื่อนของวันที่: -4w, -10y
    วันที่ตั้งชื่อ:
    • วันนี้: = today
    • เมื่อวาน: = yesterday
    • ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา: >= 7_days_ago
    • ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา: >= 30_days_ago
    • ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา: >= 90_days_ago
    • ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา: >= 12_months_ago
    วันที่ที่มีชื่อเป็นค่าเริ่มต้นและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ให้ใช้การชดเชยวันที่สำหรับวันที่แบบกำหนดเอง

    ตัวอย่าง รวมลูกค้าที่สั่งซื้อครั้งล่าสุดตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว:
    last_order_date >= 7_days_ago

    รวมลูกค้าที่สั่งซื้อครั้งล่าสุดตั้งแต่แปดเดือนที่ผ่านมา
    last_order_date > -8m



    หมายเหตุ ค่าวันที่จะอิงตามเวลาทั้งวันโดยขึ้นอยู่กับเขตเวลาที่ร้านค้าของคุณใช้งานอยู่
    ## จำนวนของคำสั่งซื้อ

    ชื่อ: number_of_orders

    เพิ่มลูกค้าลงในกลุ่มตามจํานวนที่ลูกค้าเคยสั่งซื้อจากร้านค้าของคุณ

    ตัวดำเนินการ เท่ากับ: =
    ไม่เท่ากับ: !=
    มากกว่า: >
    น้อยกว่า: <
    น้อยกว่าหรือเท่ากับ: <=
    มากกว่าหรือเท่ากับ: >=
    ระหว่าง: BETWEEN





    ค่าค่าที่คุณป้อนต้องเป็นจํานวนเต็ม
    รูปแบบ ช่วงตัวเลข: # AND #
    ตัวเลข: #
    ตัวอย่าง เพิ่มลูกค้าที่เคยสั่งซื้อมากกว่า 10 ครั้งลงในกลุ่ม:
    number_of_orders > 10
    หมายเหตุ BETWEEN จะครอบคลุมทั้งค่าแรกและค่าสุดท้ายด้วย ตัวอย่างเช่น number_of_orders BETWEEN 1 AND 100 จะเพิ่มลูกค้าลูกค้าที่เคยสั่งซื้ออย่างน้อย 1 ครั้งจนถึง 100 ครั้งลงในกลุ่ม
    ## สั่งซื้อแล้ว

    ชื่อ: orders_placed

    เพิ่มลูกค้าที่สั่งซื้อหรือใช้จ่ายเป็นจำนวนหนึ่งในช่วงวันที่ที่ระบุ

    พารามิเตอร์ฟังก์ชัน app_id (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุแอปที่ใช้ในการสร้างคำสั่งซื้อ
    location_id (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุตำแหน่งที่ตั้งที่ส่งคำสั่งซื้อ
    count (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุจำนวนครั้งที่แน่นอนที่มีการส่งคำสั่งซื้อ
    amount (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุยอดชำระที่แน่นอนของคำสั่งซื้อ
    sum_amount (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุจำนวนเงินที่ใช้ไปในคำสั่งซื้อทั้งหมด
    date (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุวันที่สำหรับเหตุการณ์






    ตัวดำเนินการ MATCHES: พารามิเตอร์คือจริง
    NOT_MATCHES: พารามิเตอร์คือเท็จ
    IS NULL: ไม่มีพารามิเตอร์
    IS NOT NULL: มีพารามิเตอร์

    สำหรับวันที่ ตัวดำเนินการที่ใช้ได้ประกอบด้วย:
    เท่ากับ: =
    ไม่เท่ากับ: !=
    มากกว่า: >
    น้อยกว่า: <
    น้อยกว่าหรือเท่ากับ: <=
    มากกว่าหรือเท่ากับ: >=
    ระหว่าง: BETWEEN











    ค่า
    รูปแบบ รูปแบบที่รองรับสำหรับ count, amount, และ sum_amount:
    หมายเลข: #

    รูปแบบที่รองรับสำหรับ date:
    วันที่ที่แน่นอน: YYYY-MM-DD
    ตัวอย่างออฟเซ็ตวันที่:
    • 7 วันที่แล้ว: -7d
    • 4 สัปดาห์ผ่านมา: -4w
    • 3 เดือนที่ผ่านมา: -3m
    • 1 ปีที่แล้ว: -1y
    วันที่ตั้งชื่อ:
    • วันนี้: today
    • เมื่อวาน: yesterday
    วันที่ที่ตั้งชื่อแล้วนั้นเป็นค่าเริ่มต้นและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้




    ตัวอย่าง ระบุว่าได้ส่งคำสั่งซื้อโดยใช้ตัวดำเนินการ MATCHES หรือ NOT_MATCHES:
    orders_placed MATCHES ()
    orders_placed NOT_MATCHES ()

    กรองลูกค้าที่ส่งคำสั่งซื้อมากกว่า 3 รายการ (รวม) ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา:
    orders_placed MATCHES (count >= 3, date >= -6m)

    กรองลูกค้าที่ใช้จ่ายมากกว่า 1,000 ดอลลาร์ (รวม) ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา:
    orders_placed MATCHES (sum_amount >= 1000, date >= -90d)

    กรองลูกค้าที่ใช้จ่ายน้อยกว่า 100 ดอลลาร์ (รวม) ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา:
    orders_placed MATCHES (sum_amount <= 100, date >= -7d)

    กรองลูกค้าที่ใช้จ่ายมากกว่า 1,000 ดอลลาร์ (รวม) และส่งคำสั่งซื้อมากกว่า 3 รายการ (รวม) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2023:
    orders_placed MATCHES (sum_amount >= 1000, count >= 3, date >= 2023-01-01)

    ใช้พารามิเตอร์ date และตัวดำเนินการ BETWEEN เพื่อระบุช่วงวันที่ที่เฉพาะเจาะจง คุณสามารถแสดงได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2023 ถึง 1 มิถุนายน 2023 (รวม) ในลักษณะต่อไปนี้:
    orders_placed MATCHES (count >= 3, BETWEEN 2023-01-01 AND 2023-06-01)
















    หมายเหตุ
    • เมื่อคุณเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่จํานวนเงิน สกุลเงินที่ใช้ในการกรองลูกค้าของคุณจะปรากฏขึ้น
    • เมื่อคุณเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ไวยากรณ์ต่อไปนี้:
      amount,sum_amount คำอธิบายของไวยากรณ์นั้นจะปรากฏขึ้น
    • หากไม่มี parameters หมายความว่าตัวกรองของคุณรวมคำสั่งซื้อทั้งหมดตลอดเวลา
    ## ระดับการใช้จ่ายที่คาดการณ์ไว้

    ชื่อ: predicted_spend_tier

    เพิ่มลูกค้าที่อยู่ในระดับการใช้จ่ายที่คาดการณ์ที่ระบุไว้ลงในกลุ่ม ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระดับการใช้จ่ายที่คาดการณ์

    ตัวดำเนินการ เท่ากับ: =
    ไม่เท่ากับ: !=
    ไม่มีอยู่: IS NULL
    มีอยู่: IS NOT NULL


    ค่า 'HIGH'
    'MEDIUM'
    'LOW'



    รูปแบบ
    ตัวอย่าง รวมลูกค้าที่อยู่ในระดับ HIGH:
    predicted_spend_tier = 'HIGH'
    หมายเหตุ
    ## สถานะการซื้อสินค้าแบบสมัครใช้งาน

    ชื่อ: product_subscription_status

    เพิ่มลูกค้าที่สถานะการซื้อสินค้าแบบชำระล่วงหน้าเป็นไปตามที่ระบุลงในกลุ่ม

    ตัวดำเนินการ เท่ากับ: =
    ไม่เท่ากับ: !=
    ไม่มีอยู่: IS NULL
    มีอยู่: IS NOT NULL


    ค่า ใช้งานอยู่: 'SUBSCRIBED' ลูกค้าใช้งานการซื้อสินค้าแบบชำระล่วงหน้าอยู่
    ยกเลิกแล้ว: 'CANCELLED' ลูกค้าได้ยกเลิกการซื้อสินค้าแบบชำระล่วงหน้าแล้ว
    หมดอายุ: 'EXPIRED' การซื้อสินค้าแบบชำระล่วงหน้าของลูกค้าหมดอายุแล้ว
    ล้มเหลว: 'FAILED' ลูกค้าไม่ได้ชำระเงิน
    ไม่เคยสมัครรับข้อมูล: 'NEVER_SUBSCRIBED' ลูกค้าไม่เคยซื้อแบบชำระล่วงหน้า
    หยุดชั่วคราว: 'PAUSED' ลูกค้าได้หยุดการซื้อสินค้าแบบชำระล่วงหน้าของตนไว้ชั่วคราว




    รูปแบบ
    ตัวอย่าง เพิ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้าแบบชำระล่วงหน้าอยู่ลงในกลุ่ม:
    product_subscription_status = 'SUBSCRIBED'
    หมายเหตุ
    ## สินค้าที่ซื้อ

    ชื่อ: products_purchased

    เพิ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้าที่ระบุลงในกลุ่ม นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพิ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้าในช่วงวันที่ที่ระบุลงในกลุ่มได้อีกด้วย

    พารามิเตอร์ฟังก์ชัน id (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อที่คุณต้องการกรอง
    quantity (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุปริมาณสินค้าที่ซื้อต่อหนึ่งคำสั่งซื้อ
    sum_quantity (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุปริมาณสินค้าที่ซื้อจากทุกคำสั่งซื้อ
    date (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุวันที่สำหรับเหตุการณ์
    tag (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุแท็กสินค้าสำหรับสินค้าที่ซื้อที่คุณต้องการกรอง



    ตัวดำเนินการ MATCHES: พารามิเตอร์คือจริง
    NOT_MATCHES: พารามิเตอร์คือเท็จ
    IS NULL: ไม่มีพารามิเตอร์
    IS NOT NULL: มีพารามิเตอร์

    สำหรับวันที่ ตัวดำเนินการที่ใช้ได้ประกอบด้วย:
    เท่ากับ: =
    ไม่เท่ากับ: !=
    มากกว่า: >
    น้อยกว่า: <
    น้อยกว่าหรือเท่ากับ: <=
    มากกว่าหรือเท่ากับ: >=
    ระหว่าง: BETWEEN











    มูลค่า
    รูปแบบ รูปแบบที่รองรับสำหรับ tag:
    string (ค่าเดียว)

    รูปแบบที่รองรับสำหรับ id:
  • = (ค่าเดียว)
  • IN : ค่าหนึ่งชุดที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคโดยมี "OR" โดยนัยอยู่ในวงเล็บ ตัวอย่างเช่น: (id IN 1012132033639, 2012162031638, 32421429314657) มีข้อจำกัด ID สินค้าที่ 500 รายการในหนึ่งชุด

    รูปแบบ date ที่รองรับ:
    วันที่ที่แน่นอน: YYYY-MM-DD
    ตัวอย่างออฟเซ็ตวันที่:
    • 7 วันที่แล้ว: -7d
    • 4 สัปดาห์ผ่านมา: -4w
    • 3 เดือนที่ผ่านมา: -3m
    • 1 ปีที่แล้ว: -1y
    • วันที่ตั้งชื่อ: today, yesterday
    วันที่ที่มีชื่อเป็นค่าเริ่มต้นและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

    รูปแบบที่รองรับสำหรับ quantity และ sum_quantity:
    ตัวเลข: #










  • ตัวอย่าง ระบุว่ามีการซื้อสินค้าโดยใช้ตัวดำเนินการ MATCHES หรือ NOT_MATCHES:
    products_purchased MATCHES (id = 2012162031638)
    products_purchased NOT_MATCHES (id IN 2012162031638, 1012132033639) products_purchased MATCHES (tag = 'red')

    กรองลูกค้าที่ซื้อสินค้าที่เจาะจงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2022 จนถึงวันนี้:
    products_purchased MATCHES (id = 1012132033639, BETWEEN 2022-01-01 AND today)

    กรองลูกค้าที่ซื้อสินค้าที่มีแท็กสี 'red' ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2022 จนถึงวันนี้:
    products_purchased MATCHES (tag = 'red', BETWEEN 2022-01-01 AND today)

    ภายในช่วง 30 วันที่ผ่านมา:
    products_purchased MATCHES (date >= -30d)

    จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2022:
    products_purchased MATCHES (date <= 2022-01-01)

    ใช้พารามิเตอร์ date และตัวดำเนินการ BETWEEN เพื่อระบุช่วงวันที่ที่เฉพาะเจาะจง คุณสามารถแสดงผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2022 ถึง 1 มิถุนายน 2022 (รวม) ในลักษณะต่อไปนี้:
    products_purchased MATCHES (id = 1012132033639, BETWEEN 2022-01-01 AND 2022-06-01)

    กรองลูกค้าที่เพิ่งซื้อสินค้าจำนวนมากที่มีแท็กที่เฉพาะเจาะจง:
    products_purchased MATCHES (tag = 'product_tag', sum_quantity >= 3, date >= -90d)



















    หมายเหตุ
    • เมื่อคุณสร้างส่วนของลูกค้าโดยใช้พารามิเตอร์ ID คุณสามารถเลือกสินค้าตามชื่อจากรายการที่ปรากฎขึ้น หรือคุณจะเริ่มโดยการพิมพ์ชื่อสินค้าแล้วเลือกจากรายการก็ได้เช่นกัน
    • ID สินค้า (ไม่ใช่ชื่อสินค้า) จะถูกป้อนลงในโค้ด เมื่อคุณเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ ID สินค้า ชื่อสินค้าและรูปภาพจะแสดงขึ้น
    • หากไม่มีพารามิเตอร์ date ทั้งสองรายการ ผลลัพธ์จะถูกกรองสำหรับเวลาทั้งหมดโดยไม่มีวันที่เริ่มต้นหรือสิ้นสุดที่ตั้งไว้
    • หากไม่มีพารามิเตอร์ใดๆ ตัวกรองของคุณจะรวมสินค้าทั้งหมดที่มีการซื้อตั้งแต่เริ่มต้น
    ## กลุ่ม RFM

    ชื่อ: rfm_group

    รวมลูกค้าตามกลุ่ม RFM ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ไว้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ลูกค้า RFM

    รายการตัวดําเนินการและค่าของกลุ่ม RFM ที่เป็นไปได้ รวมถึงตัวอย่าง
    ตัวดำเนินการ เท่ากับ: =
    ไม่เท่ากับ: !=
    ไม่มีอยู่: IS NULL
    มีอยู่: IS NOT NULL


    ค่า ไม่มีการใช้งาน: 'DORMANT'
    มีความเสี่ยง: 'AT_RISK'
    เคยเป็นลูกค้าประจำ: 'PREVIOUSLY_LOYAL'
    จำเป็นต้องตรวจสอบ: 'NEEDS_ATTENTION'
    มีแนวโน้มไม่กลับมาสูง: 'ALMOST_LOST'
    ลูกค้าประจำ: 'LOYAL'
    มีแนวโน้มที่ดี: 'PROMISING'
    ใช้งานอยู่: 'ACTIVE'
    ใหม่: 'NEW'
    ยอดเยี่ยม: 'CHAMPIONS'
    ลูกค้ามุ่งหวัง: 'PROSPECTS'









    รูปแบบ
    ตัวอย่าง รวมลูกค้าในกลุ่ม RFM ที่จำเป็นต้องตรวจสอบ:
    rfm_group = 'NEEDS_ATTENTION'
    หมายเหตุ
    ## สถานะการสมัครใช้งาน SMS

    ชื่อ: sms_subscription_status

    รวมลูกค้าตามการสมัครรับข้อความ SMS ทางการตลาดของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลติดต่อของลูกค้า

    ตัวดำเนินการ เท่ากับ: =
    ไม่เท่ากับ: !=
    ไม่มีอยู่: IS NULL
    มีอยู่: IS NOT NULL


    ค่า สมัครรับข้อมูลแล้ว: 'SUBSCRIBED' ลูกค้าสมัครรับข้อความ SMS ทางการตลาดของคุณแล้ว
    รอดำเนินการ: 'PENDING' ลูกค้าอยู่ในระหว่างดำเนินการสมัครรับข้อความ SMS ทางการตลาดของคุณ
    ลบข้อมูลแล้ว: 'REDACTED' ลูกค้ากำลังรอดำเนินการลบข้อมูลเนื่องจากมีการร้องขอให้ลบข้อมูลตาม GDPR
    ยกเลิกการสมัครรับข้อมูลแล้ว: 'UNSUBSCRIBED' ลูกค้าได้ยกเลิกการสมัครรับข้อความ SMS ทางการตลาดของคุณแล้ว
    ไม่ได้สมัครรับข้อมูล: 'NOT_SUBSCRIBED' ลูกค้าไม่เคยสมัครรับข้อความ SMS ทางการตลาดของคุณ



    รูปแบบ
    ตัวอย่าง เพิ่มลูกค้าที่สมัครรับข้อความ SMS การตลาดของคุณลงในกลุ่ม:
    sms_subscription_status = 'SUBSCRIBED'
    หมายเหตุ
    ## รัฐหรือจังหวัด

    ชื่อ: customer_regions

    รวมลูกค้าที่มีที่อยู่ในภูมิภาคที่ระบุไว้ภายในประเทศ โดยระบบอาจรวมลูกค้าที่มีที่อยู่หลายแห่งไว้ในกลุ่มลูกค้าที่ใช้ตัวกรองนี้มากกว่า 1 กลุ่ม

    ตัวดำเนินการ ประกอบด้วยที่ตั้งที่ระบุ: CONTAINS
    ไม่ได้ประกอบด้วยที่ตั้งที่ระบุ: NOT CONTAINS
    ไม่มีอยู่: IS NULL
    มีอยู่: IS NOT NULL


    ค่าใช้รหัสประเทศตาม ISO ที่มีรหัสส่วนย่อย ISO 3166-2
    รูปแบบ
    ตัวอย่าง รวมลูกค้าที่มีที่อยู่ในรัฐนิวยอร์ก:
    customer_regions CONTAINS 'US-NY'
    หมายเหตุ หากต้องการค้นหาภูมิภาค คุณสามารถเริ่มพิมพ์ชื่อภูมิภาค จากนั้นจึงเลือกค่าที่เหมาะสมจากรายการที่ปรากฏขึ้น
    ## บัญชีเครดิตร้านค้า

    ชื่อ: store_credit_accounts

    เพิ่มลูกค้าที่มียอดคงเหลือของเครดิตร้านค้าลงในร้านค้าของคุณ

    พารามิเตอร์ฟังก์ชัน balance (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุยอดคงเหลือในบัญชีเครดิตร้านค้าปัจจุบันของลูกค้า
    currency (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุสกุลเงินสำหรับยอดคงเหลือของเครดิตร้านค้าของลูกค้า
    next_expiry_date (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุวันหมดอายุที่เร็วที่สุดของเครดิตร้านค้าที่ยังไม่ได้ใช้จ่าย
    last_credit_date (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุวันที่ที่ลูกค้าได้รับเครดิตร้านค้าครั้งสุดท้าย


    ตัวดำเนินการ MATCHES: พารามิเตอร์คือจริง
    NOT_MATCHES: พารามิเตอร์คือเท็จ
    IS NULL: ไม่มีพารามิเตอร์
    IS NOT NULL: มีพารามิเตอร์

    สำหรับวันที่ ตัวดำเนินการที่ใช้ได้ประกอบด้วย:
    เท่ากับ: =
    ไม่เท่ากับ: !=
    มากกว่า: >
    น้อยกว่า: <
    น้อยกว่าหรือเท่ากับ: <=
    มากกว่าหรือเท่ากับ: >=
    ระหว่าง: BETWEEN











    ค่า
    รูปแบบ รูปแบบที่รองรับสำหรับ currency:
    รหัสสกุลเงิน: ตัวอย่างเช่น USD

    รูปแบบที่รองรับสำหรับ balance:
    หมายเลข: #

    รูปแบบที่รองรับสำหรับ next_expiry_date และ last_credit_date:
    วันที่ที่แน่นอน: YYY-MM-DD
    ตัวอย่างออฟเซ็ตวันที่:
    7 วันที่ผ่านมา: -7d
    4 สัปดาห์ที่ผ่านมา: -4w
    3 เดือนที่ผ่านมา: -3m
    1 ปีที่ผ่านมา: -1y
    วันที่ที่ตั้งชื่อ:
  • วันนี้: today
  • เมื่อวาน: yesterday
  • วันที่ที่ตั้งชื่อแล้วนั้นเป็นค่าเริ่มต้นและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้












    ตัวอย่าง กรองลูกค้าที่มียอดคงเหลือบัญชีเครดิตร้านค้ามากกว่าหรือเท่ากับ 1 ในสกุลเงินใดๆ:
    store_credit_accounts MATCHES (balance >= 1)

    กรองลูกค้าที่มียอดคงเหลือบัญชีเครดิตร้านค้ามากกว่าหรือเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ:
    store_credit_accounts MATCHES (balance >= 1, currency: 'USD')

    กรองลูกค้าที่มีเครดิตร้านค้ากำลังจะหมดอายุภายใน 7 วันข้างหน้า:
    store_credit_accounts MATCHES (next_expiry_date <= +7d)

    กรองลูกค้าที่ได้รับเครดิตร้านค้าครั้งล่าสุดเมื่อนานกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังคงมียอดคงเหลือที่สามารถใช้จ่ายได้:
    store_credit_accounts MATCHES (last_credit_date <= -1m, balance >= 1)









    หมายเหตุ
    • ลูกค้าจะมีบัญชีเครดิตร้านค้าหากคุณเคยออกเครดิตร้านค้าให้ โดยยอดคงเหลือของเครดิตร้านค้าของลูกค้าจะมากกว่าหรือเท่ากับ 0 ก็ได้
    • บัญชีเครดิตร้านค้าจะมีสกุลเงินที่เฉพาะเจาะจง หากคุณไม่ได้ใส่พารามิเตอร์ currency ลงในกลุ่มของคุณ ตัวกรองของคุณจะแสดงผลเป็นบัญชีเครดิตร้านค้าทั้งหมด ไม่ว่าจะมีสกุลเงินประเภทใดก็ตาม
    • ลูกค้าหนึ่งรายสามารถมีบัญชีเครดิตร้านค้าได้ตั้งแต่ 0 บัญชีขึ้นไป โดยขึ้นอยู่กับจำนวนสกุลเงินที่คุณรองรับ ตัวอย่างเช่น หากคุณออกเครดิตร้านค้าให้ลูกค้าทั้งที่เป็นดอลลาร์แคนาดาและดอลลาร์สหรัฐ ลูกค้ารายนั้นจะมีบัญชีเครดิตร้านค้า 2 บัญชี
    ## กิจกรรมหน้าร้าน

    ชื่อ: storefront.EVENT

    รวมลูกค้าตามกิจกรรมหน้าร้าน เหตุการณ์ที่รองรับ (EVENT) มีดังต่อไปนี้:

    • สินค้าที่ดูแล้ว: product_viewed
    • คอลเลกชันที่ดูแล้ว: collection_viewed
    พารามิเตอร์ฟังก์ชัน ID (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุสินค้าหรือคอลเลกชันที่คุณต้องการกรอง
    date (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุวันที่ของเหตุการณ์
    count (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุจำนวนครั้งที่แน่นอนที่มีการดูสินค้าหรือคอลเลกชัน

    พารามิเตอร์เฉพาะเหตุการณ์ของสินค้า:
    tag (ไม่บังคับ): ใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อระบุแท็กสินค้าที่คุณต้องการกรอง การกระทำเช่นนี้จะเหมือนกับการกรอง ID สินค้าทุกรายการที่มีแท็กนั้น






    ตัวดำเนินการ MATCHES: พารามิเตอร์คือจริง
    NOT_MATCHES: พารามิเตอร์คือเท็จ
    IS NULL: ไม่มีพารามิเตอร์
    IS NOT NULL: มีพารามิเตอร์

    สำหรับวันที่ ตัวดำเนินการที่ใช้ได้ประกอบด้วย:
    เท่ากับ: =
    ไม่เท่ากับ: !=
    มากกว่า: >
    น้อยกว่า: <
    น้อยกว่าหรือเท่ากับ: <=
    มากกว่าหรือเท่ากับ: >=
    ระหว่าง: BETWEEN











    มูลค่า
    รูปแบบ รูปแบบที่รองรับสำหรับ id:
  • = (ค่าเดียว)
  • IN : ค่าหนึ่งชุดที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคโดยมี "OR" โดยนัยอยู่ในวงเล็บ ตัวอย่างเช่น: (id IN 1012132033639, 2012162031638, 32421429314657) มีข้อจำกัดของ ID สินค้าหรือคอลเลกชัน 500 รายการในหนึ่งชุด

    รูปแบบที่รองรับสำหรับ tag: string (ค่าเดียว)

    รูปแบบ date ที่รองรับ: วันที่แน่นอน: YYYY-MM-DD
    ตัวอย่างค่าความคลาดเคลื่อนของวันที่:
    • 7 วันที่แล้ว: -7d
    • 4 สัปดาห์ผ่านมา: -4w
    • 3 เดือนที่ผ่านมา: -3m
    • 1 ปีที่แล้ว: -1y
    วันที่ที่มีชื่อ:
    • วันนี้: today
    • เมื่อวาน: yesterday
    กิจกรรมหน้าร้านพร้อมใช้งานในช่วง 26 เดือนที่ผ่านมา โดยข้อมูลเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023

    วันที่ที่มีชื่อเป็นค่าเริ่มต้นและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ให้ใช้การชดเชยวันที่สำหรับวันที่แบบกำหนดเอง






  • ตัวอย่าง ระบุว่าเหตุการณ์หน้าร้านเกิดขึ้นโดยใช้ตัวดำเนินการ MATCHES หรือ NOT_MATCHES: storefront.product_viewed MATCHES()
    storefront.collection_viewed NOT_MATCHES ()

    ใช้พารามิเตอร์ id เพื่อระบุสินค้าที่คุณต้องการกรอง:
    storefront.product_viewed MATCHES (id = 2012162031638)
    storefront.collection_viewed MATCHES (id IN 2012162031638, 456, 789)

    ใช้พารามิเตอร์ tag เพื่อติดแท็กสินค้าที่คุณต้องการกรอง:
    storefront.product_viewed MATCHES (tag = 'jeans')

    ใช้พารามิเตอร์ date และตัวดำเนินการ >=เพื่อระบุวันที่เริ่มต้นสำหรับเหตุการณ์หน้าร้าน:
    storefront.product_viewed MATCHES (id = 2012162031638, date >= 2023-04-03)
    storefront.collection_viewed MATCHES (id = 2012162031638, date >= -30d)

    ใช้พารามิเตอร์ date และตัวดำเนินการ <= เพื่อระบุวันที่สิ้นสุดสำหรับเหตุการณ์หน้าร้าน:
    storefront.product_viewed MATCHES (id = 2012162031638, date <= 2023-04-30)
    storefront.collection_viewed MATCHES (id = 2012162031638, date <= -7d)

    ใช้พารามิเตอร์ date และตัวดำเนินการ BETWEEN เพื่อระบุวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดสำหรับเหตุการณ์หน้าร้าน:
    storefront.product_viewed MATCHES (id = 2012162031638, BETWEEN 2023-04-03 AND 2023-04-30)
    storefront.collection_viewed MATCHES (id = 2012162031638, BETWEEN -90d AND -30d)

    กรองลูกค้าที่ดูสินค้าที่เจาะจงในช่วง 30 วันที่ผ่านมา:
    storefront.product_viewed MATCHES (id = 2012162031638, date >= -30d)

    กรองลูกค้าที่ดูคอลเลกชันที่เจาะจงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2023 จนถึงวันนี้:
    storefront.collection_viewed MATCHES (id = 2012162031638, BETWEEN 2023-01-01 AND today)

























    หมายเหตุ
    • เมื่อคุณสร้างส่วนของลูกค้าโดยใช้พารามิเตอร์ ID คุณสามารถเลือกสินค้าหรือคอลเลกชันตามชื่อจากรายการที่ปรากฎขึ้น หรือคุณจะเริ่มโดยการพิมพ์ชื่อสินค้าหรือคอลเลกชันแล้วเลือกจากรายการก็ได้เช่นกัน
    • ID สินค้า ที่ไม่ใช่ชื่อสินค้า จะถูกป้อนลงในโค้ด เมื่อคุณเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ ID ชื่อสินค้าหรือคอลเลกชันและรูปภาพจะแสดงขึ้น
    • คอลเลกชันจะใช้รูปภาพที่บันทึกไว้เป็นรูปภาพขนาดย่อของคอลเลกชัน หากมี ไม่เช่นนั้นจะแสดงเป็นตัวยึดตำแหน่งรูปภาพโดยทั่วไป
    • เนื่องด้วยการเก็บรักษาข้อมูล หากไม่มีพารามิเตอร์ date ผลลัพธ์จะถูกกรองสำหรับช่วง 26 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่มีวันที่เริ่มต้นหรือสิ้นสุดที่ตั้งไว้
    • หากไม่มี id หมายความว่าตัวกรองของคุณมีสินค้าทั้งหมด
    ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ