การจัดการลูกค้า

เมื่อลูกค้ารายใหม่ทำการสั่งซื้อกับร้านค้าของคุณ ชื่อและข้อมูลของพวกเขาจะถูกเพิ่มไปยังรายการลูกค้าของคุณโดยอัตโนมัติ และระบบจะสร้างโปรไฟล์ลูกค้าขึ้นเมื่อลูกค้าโต้ตอบกับธุรกิจของคุณโดยดำเนินการตามวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้:

  • ลงทะเบียนเข้าร่วมรายชื่ออีเมลหรือบัญชีผู้ใช้ของลูกค้า
  • ทำการสั่งซื้อ
  • เริ่มทำการสั่งซื้อ แต่ไม่ดำเนินการชำระเงินให้เสร็จเรียบร้อย

หรือคุณจะเพิ่มลูกค้าไปยังร้านค้าของคุณด้วยตนเองก็ได้เช่นกัน

คุณสามารถส่งข้อความอีเมลไปยังลูกค้าแต่ละรายได้จากส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ หรือจะส่งส่วนลดและข้อความอีเมลไปยังกลุ่มลูกค้าโดยใช้กลุ่มลูกค้าก็ได้

เพิ่มโปรไฟล์ลูกค้า

ขั้นตอน:

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า

  2. คลิก “เพิ่มลูกค้า

  3. ป้อนข้อมูลของลูกค้า

  4. ตัวเลือกเสริม: หากลูกค้ายินยอมที่จะรับอีเมลการตลาดและคุณได้ระบุอีเมลไว้แล้วใน ส่วนภาพรวมลูกค้า ให้ทําเครื่องหมายที่ลูกค้ายินยอมที่จะรับอีเมลการตลาด

  5. ในส่วนการตั้งค่าภาษี ให้เลือกว่าจะเก็บภาษีหรือไม่

    • หากต้องการเก็บภาษี ให้เลือกเก็บภาษี
    • หากไม่ต้องการเก็บภาษี ให้เลือกไม่ต้องเก็บภาษี
    • หากต้องการเก็บภาษียกเว้นการยกเว้นภาษีที่ใช้ได้ ให้เลือกเก็บภาษียกเว้นการยกเว้นภาษีที่ใช้ได้ จากนั้นในเมนูดรอปดาวน์การยกเว้นภาษี ให้เลือกการยกเว้นภาษี
  6. คลิกที่ “บันทึก

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะที่ปุ่ม “+
  4. ป้อนข้อมูลของลูกค้า
  5. หากคุณเรียกเก็บภาษีการขายของลูกค้า ให้เปิดใช้ตัวเลือก “เก็บภาษี
  6. แตะที่บันทึก
  7. ตัวเลือกเสริม: หากลูกค้ายินยอมที่จะรับอีเมลการตลาด และคุณได้ระบุที่อยู่อีเมลแล้ว ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้:

    1. ในส่วน “การตลาดผ่านอีเมล” ให้แตะที่ “แก้ไขสถานะ
    2. แตะที่ “ลูกค้ายินยอมที่จะให้ทำการตลาดผ่านอีเมล
    3. แตะ
  8. หากลูกค้าที่อาศัยอยู่ในแคนาดาและได้รับการยกเว้นภาษีการขาย ให้แตะที่ไอคอนดินสอแล้วทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

    1. ในส่วน การยกเว้นภาษีให้แตะ “จัดการ
    2. แตะที่ “การยกเว้นภาษี” ทั้งหมดที่มีผลกับลูกค้ารายนี้
    3. แตะ
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม จากนั้นจึงแตะที่ ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะที่ปุ่ม “+
  4. ป้อนข้อมูลของลูกค้า
  5. หากคุณเรียกเก็บภาษีการขายของลูกค้า ให้เปิดใช้ตัวเลือก “เก็บภาษี
  6. แตะที่บันทึก
  7. ตัวเลือกเสริม: หากลูกค้ายินยอมที่จะรับอีเมลการตลาด และคุณได้ระบุที่อยู่อีเมลแล้ว ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้:

    1. ในส่วน “การตลาดผ่านอีเมล” ให้แตะที่ “แก้ไขสถานะ
    2. แตะที่ “ลูกค้ายินยอมที่จะให้ทำการตลาดผ่านอีเมล
    3. แตะ
  8. หากลูกค้าที่อาศัยอยู่ในแคนาดาและได้รับการยกเว้นภาษีการขาย ให้แตะที่ไอคอนดินสอแล้วทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

    1. ในส่วน การยกเว้นภาษีให้แตะ “จัดการ
    2. แตะที่ “การยกเว้นภาษี” ทั้งหมดที่มีผลกับลูกค้ารายนี้
    3. แตะ

ส่งข้อความอีเมลไปยังลูกค้า

คุณสามารถส่งข้อความอีเมลไปยังลูกค้าได้โดยตรงจากส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณหรือจากแอป Shopify

ขั้นตอน:

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า

  2. คลิกที่ชื่อลูกค้า

  3. ในส่วนภาพรวมของลูกค้า ให้คลิกที่ที่อยู่อีเมลของลูกค้า

  4. แก้ไขบรรทัดหัวเรื่องของอีเมล หรือปล่อยไว้เป็นค่าเริ่มต้น โค้ด shop.name จะป้อนชื่อร้านค้าของคุณไปยังบรรทัดหัวเรื่องของข้อความอีเมลโดยอัตโนมัติ

  5. ในช่องกล่องข้อความที่กำหนดเอง ให้ป้อนข้อความของคุณ

  6. หากต้องการรับสําเนาข้อความของบันทึกของคุณ ในส่วน “ส่งการสําเนาลับถึง” ให้เลือกอีเมลที่เหมาะสม

  7. เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ให้คลิก “ตรวจสอบอีเมล

  8. คลิกที่ “ส่งการแจ้งเตือน

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะที่ชื่อลูกค้า
  4. ในส่วน “ภาพรวมลูกค้า” ให้แตะที่ “อีเมล
  5. หากต้องการรับสําเนาข้อความสำหรับบันทึกของคุณ ให้ป้อนที่อยู่อีเมลของคุณในช่องสำเนาถึง
  6. แก้ไขบรรทัดหัวเรื่องและเนื้อหาของอีเมล
  7. ตรวจสอบข้อความอีเมลแล้วส่ง
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม จากนั้นจึงแตะที่ ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะที่ชื่อลูกค้า
  4. ในส่วน “ภาพรวมลูกค้า” ให้แตะที่ “อีเมล
  5. หากต้องการรับสําเนาข้อความสำหรับบันทึกของคุณ ให้ป้อนที่อยู่อีเมลของคุณในช่องสำเนาถึง
  6. แก้ไขบรรทัดหัวเรื่องและเนื้อหาของอีเมล
  7. ตรวจสอบข้อความอีเมลแล้วส่ง

ตรวจสอบอีเมลที่ส่งแล้ว

หลังจากส่งอีเมลไปยังลูกค้าแล้ว ระบบจะแสดงการแจ้งเตือนในไทม์ไลน์ของลูกค้า หากส่งอีเมลไม่สำเร็จ ไอคอนคำเตือน (ⓘ) จะแสดงขึ้นมาถัดจากการแจ้งเตือน

คุณสามารถตรวจสอบอีเมลที่ส่งแล้วและส่งสําเนาอีเมลนั้นไปให้ลูกค้าหรือตัวคุณเองได้อีกครั้ง

ขั้นตอน:

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า

  2. คลิกที่ชื่อลูกค้า

  3. ในส่วนไทม์ไลน์ ให้ค้นหาการแจ้งเตือนที่มีการส่งอีเมลไปแล้ว

  4. คลิก ดูอีเมล

  5. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการส่งอีเมลใหม่ ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

    • * หากต้องการส่งอีเมลถึงลูกค้า ให้เลือก ลูกค้า จากนั้นคลิก ส่งอีกครั้ง
    • หากต้องการส่งอีเมลถึงตัวคุณเอง ให้เลือก ตัวคุณเอง จากนั้นคลิก ส่งอีกครั้ง
iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ลูกค้า
  2. แตะที่ลูกค้า
  3. แตะที่ลูกค้า
  4. ในส่วนไทม์ไลน์ ให้ค้นหาการแจ้งเตือนที่มีการส่งอีเมลไปแล้ว
  5. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการส่งอีเมลใหม่ ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
    • หากต้องการส่งอีเมลถึงลูกค้า ให้เลือกลูกค้า จากนั้นแตะที่ส่งอีกครั้ง
    • หากต้องการส่งอีเมลถึงตัวคุณเอง ให้เลือกตัวคุณเอง จากนั้นแตะที่ส่งอีกครั้ง
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม จากนั้นจึงแตะที่ ลูกค้า
  2. แตะที่ลูกค้า
  3. แตะที่ลูกค้า
  4. ในส่วนไทม์ไลน์ ให้ค้นหาการแจ้งเตือนที่มีการส่งอีเมลไปแล้ว
  5. ตัวเลือกเสริม: หากต้องการส่งอีเมลใหม่ ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
    • หากต้องการส่งอีเมลถึงลูกค้า ให้เลือกลูกค้า จากนั้นแตะที่ส่งอีกครั้ง
    • หากต้องการส่งอีเมลถึงตัวคุณเอง ให้เลือกตัวคุณเอง จากนั้นแตะที่ส่งอีกครั้ง

แก้ไขโปรไฟล์ลูกค้า

หากมีโปรไฟล์ลูกค้าอยู่แล้วใน Shopify คุณสามารถแก้ไขโปรไฟล์ได้จากหน้า ลูกค้า

ก่อนที่คุณจะอัปเดตโปรไฟล์ลูกค้าให้ตรวจสอบยืนยันว่ามีพนักงานคนอื่นที่แก้ไขโปรไฟล์เดียวกันอยู่หรือไม่เพื่อที่การเปลี่ยนแปลงของคุณจะไม่ขัดแย้งกัน

คุณสามารถเพิ่มหมายเหตุไปยังโปรไฟล์ลูกค้าเพื่อติดตามข้อมูลพิเศษเกี่ยวกับลูกค้าได้ เฉพาะพนักงานในร้านค้าของคุณเท่านั้นที่สามารถดูหมายเหตุเหล่านี้ได้ ลูกค้าจะไม่เห็นหมายเหตุเหล่านี้

การใช้แท็กสามารถช่วยคุณจัดระเบียบรายการโปรไฟล์ลูกค้าของคุณได้ คุณสามารถใช้แท็กเพื่อแบ่งแยกหมวดหมู่ลูกค้าโดยใช้ข้อความที่อธิบายรายละเอียดหรือจัดเรียงตามหมวดหมู่ได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีลูกค้าคนสำคัญ คุณก็สามารถแท็กลูกค้าเหล่านั้นว่าเป็น VIP ได้ และยังสามารถใช้แท็กเพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าได้อีกด้วย ตัวพิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็กไม่มีผลต่อแท็ก

ขั้นตอน:

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า

  2. คลิกที่ชื่อลูกค้า

  3. หากต้องการเพิ่มบันทึกไปยังโปรไฟล์ลูกค้า ให้ป้อนข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับลูกค้าในช่องบันทึกลูกค้า จากนั้นคลิก “บันทึก

  4. ในส่วนภาพรวมลูกค้า ให้คลิก “จัดการ > แก้ไขข้อมูลติดต่อ” แล้วดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสมกับข้อมูลดังต่อไปนี้:

    • ชื่อจริง
    • นามสกุล
    • ภาษา
    • ที่อยู่อีเมล
    • หมายเลขโทรศัพท์
  5. หากต้องการแก้ไขที่อยู่ ในส่วนภาพรวมลูกค้า ให้คลิก “จัดการ > จัดการที่อยู่” แล้วเลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

    • หากต้องการแก้ไขที่อยู่ปัจจุบัน ให้คลิก “แก้ไข” ถัดจากที่อยู่ดังกล่าว
    • หากต้องการเปลี่ยนที่อยู่ซึ่งเป็นที่อยู่เริ่มต้น ให้คลิก “ตั้งเป็นค่าเริ่มต้น” ถัดจากที่อยู่ที่ดังกล่าว
    • หากต้องการเพิ่มที่อยู่ใหม่ไปยังโปรไฟล์ ให้คลิก “เพิ่มที่อยู่ใหม่
  6. หากต้องการแก้ไขการตั้งค่าภาษีของลูกค้า ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

    1. ในส่วนลูกค้า ให้คลิก จากนั้นคลิกจัดการการตั้งค่าภาษี
    2. ในเมนูดรอปดาวน์การตั้งค่าภาษี ให้เลือกว่าจะเก็บภาษีหรือไม่:
      • หากต้องการเก็บภาษี ให้เลือกเก็บภาษี
      • หากไม่ต้องการเก็บภาษี ให้เลือกไม่ต้องเก็บภาษี
      • หากต้องการเก็บภาษียกเว้นการยกเว้นภาษีที่ใช้ได้ ให้เลือกเก็บภาษียกเว้นการยกเว้นภาษีที่ใช้ได้ จากนั้นในเมนูดรอปดาวน์การยกเว้นภาษี ให้เลือกการยกเว้นภาษี
    3. คลิกที่ “บันทึก
  7. หากต้องการเปลี่ยนแปลงว่าลูกค้าจะได้รับอีเมลเพื่อการตลาดหรือไม่ ในส่วนภาพรวมลูกค้า ให้คลิก “จัดการ > แก้ไขการตั้งค่าการตลาด

  8. หากต้องการใช้แท็กกับโปรไฟล์ลูกค้า ในส่วน แท็ก ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

    • หากต้องการเพิ่มแท็กให้คลิกที่ช่องจากนั้นเลือกแท็ก
    • หากต้องการลบแท็กให้คลิก X ถัดจากแท็ก
iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะที่ชื่อลูกค้า
  4. หากต้องการเพิ่มหมายเหตุไปยังโปรไฟล์ลูกค้า ให้แตะที่ช่องแก้ไขในส่วนหมายเหตุ จากนั้นป้อนข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับลูกค้าแล้วแตะที่บันทึก
  5. หากต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า ในส่วนข้อมูลผู้ติดต่อ ให้แตะที่ ... จากนั้นให้ทำตามกรณีดังต่อไปนี้

    • หากต้องการแก้ไขที่อยู่ ให้แตะที่แก้ไขที่อยู่ จากนั้นแตะที่อยู่ที่คุณต้องการแก้ไข เปลี่ยนชื่อ นามสกุล หรือหมายเลขโทรศัพท์ จากนั้นแตะบันทึก
    • หากต้องการเพิ่มที่อยู่ใหม่ลงในโปรไฟล์ ให้แตะที่แก้ไขที่อยู่แล้วแตะ + เพิ่มที่อยู่ใหม่ จากนั้นแตะบันทึก
    • หากต้องการแก้ไขข้อมูลผู้ติดต่อ ให้แตะที่แก้ไขข้อมูลผู้ติดต่อ เปลี่ยนชื่อ นามสกุล ที่อยู่อีเมล หรือหมายเลขโทรศัพท์ จากนั้นแตะบันทึก
  6. หากต้องการแก้ไขการเรียกเก็บภาษี ให้แตะที่การยกเว้นภาษีแล้วแตะที่แก้ไข ซึ่งอยู่ถัดจากตลาดที่คุณต้องการแก้ไข แตะเพื่อเลือกการยกเว้นที่คุณต้องการ จากนั้นแตะบันทึก

  7. หากต้องการเปลี่ยนว่าลูกค้าจะได้รับอีเมลการตลาดหรือไม่ ให้แตะที่การสมัครรับข้อมูลทางการตลาดแล้วแตะเพื่อเปิดใช้ตัวเลือกทางการตลาดที่คุณต้องการใช้กับลูกค้า แตะที่บันทึก

  8. หากต้องการแก้ไขแท็กในโปรไฟล์ลูกค้า ให้แตะที่แท็ก จากนั้นแตะช่องค้นหา จากนั้นให้ทำตามกรณีดังต่อไปนี้

    • ป้อนชื่อแท็กใหม่ จากนั้นแตะเพิ่ม แล้วแตะที่บันทึก
    • ค้นหาแท็กหรือเลือกแท็กโดยใช้ช่องทำเครื่องหมาย แตะบันทึก
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม จากนั้นจึงแตะที่ ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะที่ชื่อลูกค้า
  4. หากต้องการเพิ่มหมายเหตุไปยังโปรไฟล์ลูกค้า ให้แตะช่องเพิ่มหมายเหตุในส่วนหมายเหตุ แล้วป้อนข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับลูกค้า จากนั้นแตะ เพื่อบันทึก
  5. หากต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า ในส่วนข้อมูลผู้ติดต่อ ให้แตะที่ จากนั้นให้ทำตามกรณีดังต่อไปนี้

    • หากต้องการแก้ไขที่อยู่ ให้แตะที่แก้ไขที่อยู่ จากนั้นแตะที่อยู่ที่คุณต้องการแก้ไข เปลี่ยนชื่อ นามสกุล หรือหมายเลขโทรศัพท์
    • หากต้องการเพิ่มที่อยู่ใหม่ลงในโปรไฟล์ ให้แตะที่แก้ไขที่อยู่แล้วแตะ + จากนั้นเพิ่มที่อยู่ใหม่แล้วแตะที่ เพื่อบันทึก
    • หากต้องการแก้ไขข้อมูลผู้ติดต่อ ให้แตะที่แก้ไขข้อมูลผู้ติดต่อ จากนั้นทำการเปลี่ยนชื่อจริง นามสกุล อีเมล หรือหมายเลขโทรศัพท์แล้วแตะที่ เพื่อบันทึก
  6. หากต้องการแก้ไขการเรียกเก็บภาษี ให้แตะที่การยกเว้นภาษีแล้วแตะที่แก้ไข ซึ่งอยู่ถัดจากตลาดที่คุณต้องการแก้ไข จากนั้นแตะเลือกการยกเว้นที่คุณต้องการแล้วคลิกที่ เพื่อบันทึก

  7. หากต้องการเปลี่ยนว่าลูกค้าจะได้รับอีเมลการตลาดหรือไม่ ให้แตะที่การสมัครรับข้อมูลทางการตลาดแล้วแตะเพื่อเปิดใช้ตัวเลือกทางการตลาดที่คุณต้องการใช้กับลูกค้า จากนั้นแตะที่ เพื่อบันทึก

  8. หากต้องการแก้ไขแท็กในโปรไฟล์ลูกค้า ให้แตะที่แท็ก จากนั้นแตะช่องค้นหา จากนั้นให้ทำตามกรณีดังต่อไปนี้

    • ป้อนชื่อแท็กใหม่ จากนั้นแตะเพิ่ม แตะ เพื่อบันทึก
    • ค้นหาแท็กหรือเลือกแท็กโดยใช้ช่องทำเครื่องหมาย จากนั้นแตะที่ เพื่อบันทึก

แก้ไขข้อมูลการชำระเงินสำหรับการสมัครใช้งานของลูกค้า

หากคุณขายสินค้าแบบสมัครใช้งาน และต้องการให้ลูกค้าอัปเดตข้อมูลการชำระเงินของตนเนื่องจากการชำระเงินล้มเหลว คุณจะสามารถอัปเดตโปรไฟล์ของลูกค้าได้ในส่วน Shopify admin ของคุณ

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า

  2. คลิกที่ลูกค้าที่คุณต้องการดูข้อมูลการชำระเงิน

  3. ในส่วนวิธีการชำระเงิน ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ

  4. ตัวเลือกเสริม: หากคุณต้องการให้ลูกค้าอัปเดตข้อมูลการชำระเงินของตนเอง ให้ดำเนินการดังนี้:

    1. สำหรับบัตรที่บันทึกที่เกี่ยวข้อง ให้คลิก > ส่งลิงก์เพื่ออัปเดตบัตร
    2. ในกล่องโต้ตอบ ตรวจสอบรายละเอียดแล้วคลิก "ส่งอีเมล"
  5. ตัวเลือกเสริม: หากคุณต้องการอัปเดตวิธีการชำระเงินของลูกค้าด้วยตนเอง ให้ดำเนินการต่อไปนี้:

    1. สำหรับบัตรที่บันทึกที่เกี่ยวข้อง ให้คลิก > เปลี่ยนบัตร
    2. ในกล่องโต้ตอบ ให้กรอกรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง แล้วคลิก "ยืนยัน"

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสมัครใช้งาน

แก้ไขโปรไฟล์ลูกค้าหลายรายการในครั้งเดียว

จากส่วนผู้ดูแล Shopify คุณสามารถใช้การแก้ไขหลายรายการในครั้งเดียวเพื่อแก้ไขโปรไฟล์ลูกค้าหลายรายในเวลาเดียวกันได้

คุณสามารถใช้การแก้ไขเป็นกลุ่มเพื่อแก้ไขช่องชื่อ นามสกุล แท็ก อีเมล และยอมรับการตลาดผ่านอีเมลในโปรไฟล์ลูกค้า และค่าเมตาฟิลด์ใดๆ

หากต้องการแก้ไขช่องอื่นๆ ในโปรไฟล์ลูกค้า เช่น บรรทัดที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หรือสถานะการยกเว้นภาษี คุณต้อง แก้ไขโปรไฟล์ลูกค้าแยกเป็นรายบุคคลหรือใช้ไฟล์ CSV

คุณสามารถเลือกโปรไฟล์ลูกค้าหลายโปรไฟล์หรือทุกโปรไฟล์ได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

  • หากต้องการแก้ไขโปรไฟล์ลูกค้าหลายโปรไฟล์ ให้เลือกโปรไฟล์ลูกค้าแต่ละโปรไฟล์
  • หากต้องการแก้ไขโปรไฟล์ลูกค้าทั้งหมดที่แสดงอยู่ในรายการในหน้ากลุ่มหรืออิงจากการค้นหา ให้เลือกช่องทำเครื่องหมายถัดจากชื่อลูกค้า ระบบจะแสดงรายชื่อลูกค้าสูงสุด 50 รายต่อหน้า
  • หากต้องการแก้ไขโปรไฟล์ลูกค้าทั้งหมดในร้านค้าของคุณ ให้ตรวจสอบยืนยันว่าได้เลือกกลุ่มลูกค้าทั้งหมด แล้ว เลือกช่องทำเครื่องหมายถัดจากชื่อลูกค้า จากนั้นจึงคลิก “เลือกลูกค้าทั้งหมดมากกว่า 50 รายในร้านค้าของคุณ
  • หากต้องการแก้ไขโปรไฟล์ลูกค้าทั้งหมดในกลุ่ม ให้เลือกช่องทำเครื่องหมายถัดจากชื่อลูกค้า จากนั้นคลิก “เลือกลูกค้าทั้งหมดมากกว่า 50 รายในกลุ่มนี้
  • หากต้องการแก้ไขโปรไฟล์ลูกค้าทั้งหมดในคำค้นหา ให้เลือกช่องทำเครื่องหมายถัดจากชื่อลูกค้า จากนั้นจึงคลิก “เลือกลูกค้าทั้งหมดมากกว่า 50 รายในคำค้นหานี้
  • หากต้องการแก้ไขโปรไฟล์ลูกค้าทั้งหมดในการค้นหา ให้เลือกช่องทำเครื่องหมายถัดจากชื่อลูกค้า จากนั้นคลิก “เลือกลูกค้าทั้งหมดมากกว่า 50 รายในการค้นหานี้

ขั้นตอน:

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า

  2. เลือกโปรไฟล์ลูกค้าที่คุณต้องการแก้ไข

  3. หากต้องการเพิ่มแท็กหรือลบแท็กจากโปรไฟล์ลูกค้าที่เลือก ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้:

    1. คลิกปุ่ม ... ถัดจากปุ่ม Edit customers ค้างไว้
    2. คลิก “เพิ่มแท็ก” หรือ “ลบแท็กออก
    3. เพิ่มหรือลบแท็กออก
    4. คลิกที่ “บันทึก
  4. หากต้องการแก้ไขข้อมูลและแท็กหลายชิ้นในคราวเดียว ให้คลิก แก้ไขลูกค้า จากนั้นให้เลือกใช้วิธีต่อไปนี้:

    1. คลิก “คอลัมน์” จากนั้นเลือกแต่ละช่องที่คุณต้องการแก้ไข
    2. แก้ไขตามความเหมาะสม
    3. คลิกที่ “บันทึก
iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะ > เลือกลูกค้า
  4. เลือกลูกค้าที่คุณต้องการแก้ไขแล้วแตะที่ จากนั้นดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามขั้นตอนต่อไปนี้
    • แตะที่ เพิ่มแท็ก เพื่อเพิ่มแท็ก จากนั้นแตะที่
    • แตะที่ ลบแท็ก เพื่อลบแท็กออก จากนั้นแตะที่
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม จากนั้นจึงแตะที่ ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะ > เลือกลูกค้า
  4. เลือกลูกค้าที่คุณต้องการแก้ไขแล้วแตะที่ จากนั้นดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามขั้นตอนต่อไปนี้
    • แตะที่ เพิ่มแท็ก เพื่อเพิ่มแท็ก จากนั้นแตะที่
    • แตะที่ ลบแท็ก เพื่อลบแท็กออก จากนั้นแตะที่

กำลังผสานรวมโปรไฟล์ลูกค้า

คุณอาจมีโปรไฟล์ลูกค้าอย่างน้อย 2 รายการที่อ้างอิงถึงลูกค้าหนึ่งราย ในกรณีนี้ คุณสามารถรวมโปรไฟล์สองรายการนี้เข้าด้วยกันเป็นโปรไฟล์เดียว ก่อนที่คุณจะทำการรวมโปรไฟล์ให้เสร็จสมบูรณ์ คุณจะสามารถตรวจสอบและเลือกข้อมูลที่ต้องการให้มีในโปรไฟล์ที่จะรวมได้

ข้อมูลต่อไปนี้จะรวมเป็นโปรไฟล์เดียว:

  • คำสั่งซื้อ
  • คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
  • ที่อยู่
  • ที่อยู่อีเมล
  • หมายเลขโทรศัพท์
  • ชื่อ
  • หมายเหตุ
  • แท็ก
  • การตั้งค่าภาษี
  • กิจกรรมบนไทม์ไลน์
  • บัตรเครดิต
  • บัญชีผู้ใช้ของลูกค้า
  • บัตรของขวัญ
  • discounts

หากข้อมูลใดๆ จากทั้งสองโปรไฟล์ขัดแย้งกัน คุณสามารถยกเลิกกระบวนการผสานและปรับข้อมูลในแต่ละข้อมูลบันทึกในหน้าโปรไฟล์ลูกค้าก่อนที่จะดําเนินการผสานต่อไปได้

ข้อจํากัดในการผสานรวมโปรไฟล์ลูกค้า

ก่อนที่คุณจะผสานโปรไฟล์ลูกค้า โปรดตรวจสอบข้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้:

  • หลังจากผสานโปรไฟล์แล้ว คุณไม่สามารถย้อนกระบวนการได้
  • หากโปรไฟล์มีหมายเหตุรวม จำนวนอักษรนั้นจะต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5000 ตัวอักษรรวมถึงการเว้นวรรค
  • หากโปรไฟล์มีแท็ก แท็กรวมจะต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 250 แท็ก
  • หากลูกค้าสมัครรับข้อมูลการตลาดผ่านอีเมลและข้อความ SMS ในโปรไฟล์เดียว แต่ไม่อยู่ในโปรไฟล์อื่น จะมีการสมัครรับข้อมูลโปรไฟล์ที่ผสานอยู่ด้วย
  • ลูกค้าไม่ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อคุณผสานโปรไฟล์ลูกค้าของตน
  • ไม่สามารถผสานโปรไฟล์ในกรณีดังต่อไปนี้ได้:
    • โปรไฟล์ลูกค้ามีหรือเคยมีสัญญาการสมัครใช้งาน
    • โปรไฟล์ลูกค้าโปรไฟล์ใดโปรไฟล์หนึ่งเป็นลูกค้าธุรกิจแบบ B2B ที่เชื่อมโยงกับบริษัทอยู่ หรือยังคงเชื่อมโยงกับคำสั่งซื้อแบบ B2B
    • โปรไฟล์ลูกค้าใดโปรไฟล์หนึ่งมีการเก็บรักษาข้อมูลบัตรเครดิต
    • โปรไฟล์ลูกค้าใดโปรไฟล์หนึ่งมีบัญชีเครดิตร้านค้า
    • โปรไฟล์ลูกค้าอันใดอันหนึ่งมีการเข้าสู่ระบบแบบ Multipass
    • โปรไฟล์ลูกค้าอันใดอันหนึ่งถูกลบแล้ว
    • โปรไฟล์ลูกค้าโปรไฟล์ใดโปรไฟล์หนึ่งถูกลบไปแล้วหรือคำขอลบข้อมูลอยู่ระหว่างดำเนินการ
    • การผสานโปรไฟล์ลูกค้าอยู่ระหว่างดำเนินการ
    • คำขอข้อมูลลูกค้าอยู่ระหว่างดำเนินการ

ผสานโปรไฟล์ลูกค้า

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า

  2. จากรายการลูกค้า ให้คลิกที่โปรไฟล์ลูกค้า

  3. คลิก การดำเนินการเพิ่มเติม > รวมลูกค้า

  4. ในส่วนค้นหาลูกค้าเพื่อผสานกับ ให้ป้อนข้อมูลต่อไปนี้เพื่อค้นหาโปรไฟล์ลูกค้าอื่น:

    • ชื่อจริง
    • นามสกุล
    • ที่อยู่อีเมล
    • หมายเลขโทรศัพท์
    • หมายเลขบัตรเครดิต
  5. เลือกโปรไฟล์ลูกค้าที่เหมาะสม

  6. ในส่วนลูกค้าที่ผสานแล้ว โปรดตรวจสอบว่าข้อมูลใดถูกรวมอยู่และข้อมูลใดที่ถูกละทิ้ง

  7. ตัวเลือกเสริม: คลิก เปลี่ยนแปลงข้อมูลติดต่อ บนเว็บ หรือ แก้ไข บนมือถือ เพื่อปรับแต่งข้อมูลลูกค้าที่เลือกก่อนดำเนินการผสานรวม

  8. ตัวเลือกเสริม: คลิกดูรายละเอียดผสาน ให้ตรวจสอบรายละเอียดการผสาน จากนั้นคลิกปิด

  9. คลิกที่ ผสาน จากนั้นคลิก ยืนยัน

หากคุณต้องการรวมโปรไฟล์ลูกค้ามากกว่าหนึ่งโปรไฟล์ไปยังโปรไฟล์ลูกค้าปัจจุบัน คุณจึงต้องทําขั้นตอนการรวมซ้ํากับแต่ละโปรไฟล์เพิ่มเติม

การผสานจากรายชื่อลูกค้า

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า

  2. เลือกลูกค้า 2 รายที่คุณต้องการผสานเข้าด้วยกัน หากโปรไฟล์ที่คัดลอกมาปรากฏในดัชนีเพียงโปรไฟล์ใดโปรไฟล์หนึ่งเท่านั้น คุณสามารถค้นหาโปรไฟล์อื่นในขั้นตอนต่อไปได้

  3. คลิกที่ปุ่ม “...” ซึ่งอยู่ถัดจากปุ่ม Edit customers

  4. เลือก ผสานลูกค้า

    • หากมีการเลือกลูกค้าสองรายในรายชื่อ ให้ข้ามไปยังขั้นตอนที่ 7
  5. หากเลือกลูกค้ารายเดียวจากรายชื่อ ให้ค้นหาลูกค้าในส่วน ค้นหาลูกค้าที่จะผสาน ใช้ข้อมูลต่อไปนี้เพื่อค้นหา:

    • ชื่อจริง
    • นามสกุล
    • ที่อยู่อีเมล
    • หมายเลขโทรศัพท์
    • หมายเลขบัตรเครดิต
  6. เลือกโปรไฟล์ลูกค้าที่จะคัดลอก

  7. ในส่วนลูกค้าที่ผสานแล้ว โปรดตรวจสอบว่าข้อมูลใดถูกรวมอยู่และข้อมูลใดที่ถูกละทิ้ง

  8. ตัวเลือกเสริม: คลิก เปลี่ยนแปลงข้อมูลติดต่อ บนเว็บ หรือ แก้ไข บนมือถือ เพื่อปรับแต่งข้อมูลลูกค้าที่เลือกก่อนดำเนินการผสานรวม

  9. ตัวเลือกเสริม: คลิกดูรายละเอียดผสาน ให้ตรวจสอบรายละเอียดการผสาน จากนั้นคลิกปิด

  10. คลิกที่ ผสาน จากนั้นคลิก ยืนยัน

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะ > เลือกลูกค้า
  4. เลือกลูกค้าที่คุณต้องการแก้ไข จากนั้นแตะ > ผสานรวม
  5. ในส่วนลูกค้าที่ผสานแล้ว โปรดตรวจสอบว่าข้อมูลใดถูกรวมอยู่และข้อมูลใดที่ถูกละทิ้ง
  6. ตัวเลือกเสริม: แตะที่แก้ไขเพื่อแก้ไขข้อมูลลูกค้าที่เลือกไว้ก่อนที่จะผสานรวม
  7. แตะบันทึก จากนั้นแตะผสานรวมเพื่อยืนยัน
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม จากนั้นจึงแตะที่ ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะ > เลือกลูกค้า
  4. เลือกลูกค้าที่คุณต้องการแก้ไขแล้วแตะที่ > ผสานรวมเอนทรี
  5. ในส่วนลูกค้าที่ผสานแล้ว โปรดตรวจสอบว่าข้อมูลใดถูกรวมอยู่และข้อมูลใดที่ถูกละทิ้ง
  6. ตัวเลือกเสริม: แตะที่แก้ไขเพื่อแก้ไขข้อมูลลูกค้าที่เลือกไว้ก่อนที่จะผสานรวม
  7. แตะที่ เพื่อบันทึกแล้วแตะที่ผสานรวมเพื่อยืนยัน

หากคุณต้องการผสานลูกค้าเข้าด้วยกันมากกว่า 2 ราย ให้ทําซ้ำขั้นตอนดังกล่าวกับแต่ละโปรไฟล์ที่จะเพิ่ม

ลบข้อมูลส่วนตัวลูกค้า

คุณสามารถส่งคำขอลบข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าจากระเบียนของ Shopify และจากแอปและช่องทางใดๆ ที่คุณได้ติดตั้งจากส่วนผู้ดูแล Shopify โดย Shopify จะปกปิดเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อและที่อยู่ของลูกค้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประมวลผลคำขอเกี่ยวกับข้อมูลของลูกค้า

การลบโปรไฟล์ลูกค้า

คุณสามารถลบโปรไฟล์ลูกค้าทีละรายหรือจะลบโปรไฟล์ลูกค้าหลายรายการในครั้งเดียวก็ได้

เมื่อลบโปรไฟล์ลูกค้าแล้ว ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า เช่น ชื่อและที่อยู่ของลูกค้าจะถูกลบออกจากบันทึกของ Shopify ด้วย

ไม่สามารถลบโปรไฟล์ลูกค้าในกรณีต่อไปนี้ได้:

  • ลูกค้ากำลังรอดำเนินการลบข้อมูลเนื่องจากมีการร้องขอให้ลบข้อมูลตาม GDPR
  • ลูกค้ารายดังกล่าวคือผู้รับบัตรของขวัญที่มีกำหนดจัดส่งให้แต่ยังไม่ได้ส่ง
  • ลูกค้าที่เคยมีการสมัครใช้งาน
  • ลูกค้าเกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้ออย่างน้อยหนึ่งรายการ

หากคุณพยายามลบโปรไฟล์หลายรายการในครั้งเดียว ระบบจะลบเฉพาะโปรไฟล์ที่สามารถลบได้เท่านั้น

ลบโปรไฟล์ลูกค้าทีละราย

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า

  2. คลิกที่ชื่อของโปรไฟล์ลูกค้าที่คุณต้องการลบ

  3. คลิกการดำเนินการเพิ่มเติม > ลบลูกค้า

  4. เพื่อยืนยันว่าคุณต้องการลบโปรไฟล์ลูกค้า ให้คลิก “ลบลูกค้า

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะเลือก จากนั้นแตะช่องทำเครื่องหมายเพื่อเลือกโปรไฟล์ลูกค้าที่คุณต้องการลบ
  4. แตะที่ลบ
  5. หากต้องการยืนยันว่าคุณต้องการลบโปรไฟล์ลูกค้า ให้แตะที่ “ลบ
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม จากนั้นจึงแตะที่ ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะที่ > เลือกลูกค้าแล้วแตะที่ช่องทำเครื่องหมายเพื่อเลือกโปรไฟล์ลูกค้าที่คุณต้องการลบออก
  4. แตะที่ลบ
  5. หากต้องการยืนยันว่าคุณต้องการลบโปรไฟล์ลูกค้า ให้แตะที่ “ลบ

ลบโปรไฟล์ลูกค้าหลายรายการในครั้งเดียว

หากคุณดำเนินการลบโปรไฟล์ลูกค้าหลายรายการในครั้งเดียว ระบบจะลบเฉพาะโปรไฟล์ที่สามารถลบได้เท่านั้น โปรไฟล์ลูกค้าใดๆ ที่ไม่สามารถลบได้จะยังคงอยู่ในรายชื่อลูกค้าของคุณ

ขั้นตอน:

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า

  2. เลือกโปรไฟล์ลูกค้าแต่ละโปรไฟล์ที่คุณต้องการแก้ไข

  3. คลิก “...” ข้างปุ่ม Bulk edit จากนั้นคลิก “ลบลูกค้า

  4. คลิก ลบ เพื่อยืนยันว่าคุณต้องการที่จะลบโปรไฟล์ลูกค้าที่เลือก

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะเลือก จากนั้นแตะที่ช่องทำเครื่องหมายเพื่อเลือกโปรไฟล์ลูกค้าที่คุณต้องการลบออก
  4. แตะที่ลบ
  5. หากต้องการยืนยันว่าคุณต้องการลบโปรไฟล์ลูกค้า ให้แตะที่ “ลบ
Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม จากนั้นจึงแตะที่ ลูกค้า
  2. แตะที่ ลูกค้าทั้งหมด
  3. แตะ > เลือกลูกค้า จากนั้นแตะที่ช่องทำเครื่องหมายเพื่อเลือกโปรไฟล์ลูกค้าที่คุณต้องการลบ
  4. แตะที่ลบ
  5. หากต้องการยืนยันว่าคุณต้องการลบโปรไฟล์ลูกค้า ให้แตะที่ “ลบ

ข้อกำหนดของที่อยู่ที่จัดส่งทางทหารในสหรัฐฯ

ที่อยู่อีเมลสำหรับทหารในสหรัฐอเมริกามีรูปแบบที่พิเศษ ซึ่งต้องป้อนด้วยวิธีที่เฉพาะเจาะจง หากป้อนที่อยู่ไม่ถูกต้อง คำสั่งซื้อดังกล่าวอาจส่งไม่ถึงผู้รับที่กำหนด ที่อยู่ของทหารในสหรัฐอเมริกามีอยู่ 3 ประเภท ดังนี้

  • ที่ทำการไปรษณีย์กองทัพบก/อากาศ (APO)
  • ที่ทำการไปรษณีย์กองทัพเรือ (FPO)
  • ที่ทำการไปรษณีย์ทางการทูต (DPO)

หากคุณได้รับคำสั่งซื้อที่มีที่อยู่ที่จัดส่งทางการทหารของสหรัฐฯ ให้ดูให้แน่ใจว่าคุณได้ระบุที่อยู่อย่างถูกต้องก่อนจัดส่งตามคำสั่งซื้อ หากลูกค้าระบุที่อยู่ที่จัดส่งไม่ถูกต้อง ให้แก้ไขที่อยู่ของลูกค้าโดยใช้แนวทางดังต่อไปนี้

  • ป้อนชื่อผู้รับลงในช่อง “ชื่อ” โดยไม่จำเป็นต้องใส่ยศ
  • ส่วนที่อยู่ APO ทั้งหมายเลข PSC และ BOX จะต้องอยู่ใน ช่องที่อยู่
  • ส่วนที่อยู่ FPO และ DPO ทั้งหมายเลข UNIT และ BOX จะต้องอยู่ในช่องที่อยู่
  • สำหรับช่องเมือง ให้กรอกแค่ APO FPO หรือ DPO เท่านั้น โดยไม่ต้องกรอกชื่อเมือง
  • ต้องเลือกสหรัฐอเมริกา ในช่องประเทศ/ภูมิภาค
  • เลือกกองกำลังทหารอเมริกา กองกำลังทหารยุโรป หรือกองกำลังทหารแปซิฟิกในช่องรัฐ ลูกค้าของคุณอาจป้อนตำแหน่งที่ตั้งเหล่านี้ในรูปอักษรย่อเป็น AA (กองกำลังทหารอเมริกา), AE (กองกำลังทหารยุโรป) หรือ AP (กองกำลังทหารแปซิฟิก)

หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อมูลที่อยู่บางส่วน ให้ติดต่อลูกค้าที่ทำการสั่งซื้อเพื่อขอคำชี้แจงเพิ่มเติม

ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ