การป้องกันการฉ้อโกง

ธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุมัติจากลูกค้าจะถือเป็นธุรกรรมที่เป็นการหลอกลวง ธุรกรรมที่หลอกลวงอาจส่งผลให้มีการเรียกคืนยอดเงินซึ่งจะทำให้คุณต้องสูญเสียเงินได้ การวิเคราะห์การฉ้อโกงที่สร้างขึ้นภายในระบบ Shopify จะใช้อัลกอริทึมการเรียนรู้ของระบบเพื่อช่วยตรวจจับคำสั่งซื้อที่ผิดปกติให้คุณได้รับรู้ คุณสามารถตรวจสอบคำสั่งซื้อที่ผิดปกติได้ในหลายวิธีด้วยกัน

ตรวจสอบยืนยันที่อยู่ IP

ที่อยู่ IP ที่ใช้สั่งคำสั่งซื้อเป็นตัวชี้วัดถึงการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ลองพิจารณาว่าข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้เป็นจริงหรือไม่:

  • ที่อยู่ IP ของลูกค้ามีตำแหน่งที่ตั้งไม่ตรงตามที่ระบุไว้หรือไม่
  • ที่อยู่ IP เป็นของบริษัทโฮสต์เว็บไซต์หรือไม่
  • ที่อยู่ IP เป็นที่อยู่ IP สำหรับบริการพร็อกซีหรือไม่

หากคุณพบว่าคำตอบของคำถามข้อใดข้อหนึ่งข้างต้นเป็นใช่ คุณควรติดต่อลูกค้าเพื่อตรวจสอบยืนยันความถูกต้องของคำสั่งซื้อ

คุณสามารถตรวจดูตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับที่อยู่ IP ที่ต้องการได้โดยใช้เครื่องมือฟรีดังต่อไปนี้

คุณสามารถค้นหาที่อยู่ IP ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อได้ในส่วนการวิเคราะห์การหลอกลวงของหน้ารายละเอียดคำสั่งซื้อ

โทรไปตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุบนคำสั่งซื้อ

การโทรศัพท์ไปหาลูกค้านับเป็นวิธีที่ดี คุณยังสามารถใช้บริการ เช่น 411.com เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าหมายเลขโทรศัพท์มือถือดังกล่าวตั้งอยู่ในบริเวณที่มีรหัสพื้นที่เดียวกันกับข้อมูลที่ระบุในที่อยู่ที่เรียกเก็บเงินหรือไม่ ลูกค้าที่หลอกลวงมักจะใช้เบอร์โทรศัพท์ปลอม หากมีคนรับโทรศัพท์ ให้ถามคำถามทั่วไปเกี่ยวกับคำสั่งซื้อของพวกเขาและพิจารณาวิธีที่พวกเขาตอบคำถาม พวกเขาทราบหรือไม่ว่าตนใช้ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล และชื่ออะไร พวกเขาดูมีปัญหาในการให้ข้อมูลทั่วไปเหล่านั้นหรือไม่

ค้นหาที่อยู่อีเมล

การค้นหาที่อยู่อีเมลบน Google หรือเครื่องมือค้นหาอื่นๆ สามารถช่วยคุณตัดสินใจว่าที่อยู่อีเมลดังกล่าวเคยถูกบันทึกว่ามีการใช้งานเพื่อหลอกลวงมาก่อนหรือไม่ คุณยังสามารถค้นหาโพสต์บนโซเชียลมีเดียหรือข้อมูลอื่นๆ ที่ผูกไว้กับที่อยู่อีเมลนี้ได้อีกด้วย

ตรวจสอบยืนยันว่าที่อยู่ที่เรียกเก็บเงินและที่อยู่ในการจัดส่งตรงกันหรือไม่

ผู้หลอกลวงมีแนวโน้มที่จะให้ที่อยู่ในการจัดส่งที่ไม่ตรงกับที่อยู่ที่เรียกเก็บเงิน คุณสามาถใช้ Google Maps เพื่อดูที่อยู่และระยะห่างระหว่างที่อยู่ทั้งสอง หากที่อยู่ทั้งสองอยู่ห่างกันเกินไป (ตัวอย่างเช่น อยู่คนละทวีป) คำสั่งซื้อนั้นจะเป็นคำสั่งซื้อที่หลอกลวง แต่อย่าลืมว่าอาจมีกรณีที่นักช้อปจริงส่งของขวัญหรือซื้อของในนามของผู้อื่นซึ่งทำให้ที่อยู่ไม่ตรงกันได้

ตรวจสอบดูว่าคำสั่งซื้อหลายรายการใช้ที่อยู่ที่เรียกเก็บเงินที่ต่างกันในขณะที่ใช้ที่อยู่ที่จัดส่งเดียวกันหรือไม่

คำสั่งซื้อหลายรายการที่มีที่อยู่ที่เรียกเก็บเงินต่างกัน มีที่อยู่รัฐและชื่อที่ต่างกัน แต่ใช้จุดหมายปลายทางในการจัดส่งเดียวกันหรือไม่ ประเด็นเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณของคำสั่งซื้อจากการฉ้อโกงด้านการชำระเงินทั้งสิ้น ดำเนินการต่ออย่างระมัดระวัง และติดต่อลูกค้าโดยใช้ข้อมูลที่ระบุไว้ในขั้นตอนการชำระเงิน

ตรวจสอบคำสั่งซื้อที่มีมูลค่ามาก

หากคุณได้รับคำสั่งซื้อที่มีมูลค่าสูงกว่าปกติมากเกินไป คุณควรตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้ารายดังกล่าว

ติดตั้งแอปป้องกันการฉ้อโกง

นอกจากนี้คุณยังสามารถติดตั้งแอปต่างๆ เพื่อลดโอกาสของการจัดการการสั่งซื้อจากการฉ้อโกงด้านการสั่งซื้อ เรียกดู แอปป้องกันการทุจริตอื่นๆ ใน Shopify App Store

หากต้องการบล็อกผู้ใช้ที่พยายามสั่งคำสั่งซื้อที่หลอกลวงซ้ำๆ คุณสามารถใช้แอป Fraud Filter จาก Shopify ได้

สร้างขั้นตอนการทำงาน

คุณสามารถสร้างขั้นตอนการทำงานโดยใช้ Flow เพื่อให้แจ้งเตือนเมื่อมีคำสั่งซื้อที่น่าสงสัยได้ ไปที่ Shopify Flow เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าการจัดเก็บการชำระเงินของคุณ

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจะถูกเรียกเก็บสำหรับการชำระเงินที่ดำเนินการทั้งหมดผ่านผู้ให้บริการการชำระเงินภายนอก และจะไม่คืนค่าธรรมเนียมให้คุณเมื่อคุณดำเนินเรื่องการคืนเงินคุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าการจัดเก็บการชำระเงินเพื่อไม่ให้คำสั่งซื้อบางรายการถูกเรียกเก็บเงินโดยอัตโนมัติ และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมสำหรับคำสั่งซื้อจากการฉ้อโกงด้านการชำระเงินต่อธุรกิจของคุณ

ทางเลือกอื่นในการจัดเก็บการชำระเงินโดยอัตโนมัติอาจรวมถึง:

การจัดเก็บการชำระเงินด้วยตนเองจะเพิ่มขั้นตอนการทำงานการจัดการคำสั่งซื้อ แต่จะช่วยให้คุณควบคุมการจัดเก็บการชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อเฉพาะได้มากขึ้น คุณสามารถประเมินต้นทุนค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่อาจเกิดขึ้น และเวลาที่ต้องใช้เพิ่มขึ้นในขั้นตอนการทำงานการจัดการคำสั่งซื้อของคุณ เพื่อพิจารณาว่าขั้นตอนใดเหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

ขั้นตอนถัดไป

ท้ายที่สุดแล้ว คุณจะต้องตัดสินใจว่าคุณรู้สึกมั่นใจในการจัดการคำสั่งซื้อที่มีความเสี่ยงสูงหรือไม่

หากคุณเลือกที่จะไม่จัดการคำสั่งซื้อที่มีความเสี่ยงสูง คุณสามารถยกเลิกและคืนเงินคำสั่งซื้อได้

ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ