ค่าใช้จ่าย

ใบเรียกเก็บเงินของคุณแสดงค่าบริการหลากหลายรายการ โดยขึ้นอยู่กับว่าร้านค้าของคุณตั้งอยู่ที่ใดและบริการที่ร้านค้าของคุณใช้ ใบเรียกเก็บเงินของคุณจะถูกชําระโดยใช้วิธีการชําระเงินหลักของคุณ ค่าบริการในใบเรียกเก็บเงิน Shopify จะแสดงบนใบแจ้งยอดของคุณว่า: SHOPIFY * <หมายเลขใบเรียกเก็บเงิน 9 หลัก>

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลการเรียกเก็บเงินของคุณ

ค่าธรรมเนียมการสมัครใช้งาน

ค่าธรรมเนียมการสมัครใช้งานจะขึ้นอยู่กับแผนการใช้งานและรอบการเรียกเก็บเงินของการสมัครใช้งาน

หน้าการเรียกเก็บเงินของส่วนผู้ดูแล Shopify จะแสดงรายการการสมัครใช้งานแบบชําระเงินของคุณที่มีการเก็บค่าใช้จ่ายแบบเรียกเก็บต่อเนื่อง รายการดังกล่าวจะมีการสมัครใช้งานแผน Shopify ของคุณและการสมัครใช้งานอื่นๆ เช่น การสมัครใช้งานแอปของคุณ ซึ่งรวมถึงรายการการสมัครใช้งานแอปที่อยู่ในระหว่างการทดลองใช้ฟรีด้วย แต่แอปที่มีแผนการสมัครใช้งานฟรีจะไม่แสดงในรายการ

คุณสามารถจัดการการสมัครใช้งานแบบชําระเงินของคุณจากรายการการสมัครใช้งานแบบชําระเงินของคุณ หากคุณมีร้านค้าหลายร้าน คุณจะสามารถจัดการการสมัครใช้งานได้ทีละร้านเท่านั้น

ดูค่าธรรมเนียมการสมัครใช้งานแบบชําระเงินของคุณในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. ในส่วนการสมัครใช้งาน ให้คลิกดูการสมัครใช้งานทั้งหมด

  3. หากต้องการดูข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครใช้งานแผน Shopify ให้คลิกจัดการที่อยู่ถัดจากการสมัครใช้งาน จากนั้นไปที่หน้าแผนในส่วนผู้ดูแล Shopify

  4. หากต้องการจัดการแอป ให้คลิกจัดการถัดจากการสมัครใช้งาน เหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้จะเกิดขึ้น:

    • หากคุณเลือกการสมัครใช้งานแอป Shopify คุณจะไปที่หน้าที่เกี่ยวข้องในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ
    • หากคุณเลือกการสมัครใช้งานแอปจากภายนอก คุณจะไปที่หน้าการตั้งค่าของแอปนั้น

ค่าธรรมเนียมใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่ง

หลังจากซื้อใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่งผ่าน Shopify Shipping ระบบจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายผ่านบัญชีผู้ใช้ Shopify ของคุณ หากมีค่าบริการที่ผู้ให้บริการขนส่งเรียกเก็บเป็นค่าประกันการจัดส่งที่คุณซื้อหรือค่าการปรับเปลี่ยนการจัดส่ง คุณจะถูกเรียกเก็บเงินผ่านบัญชีผู้ใช้ Shopify เช่นกัน

ระบบจะเรียกเก็บค่าจัดส่งแยกต่างหากจากการสมัครใช้งาน Shopify ของคุณ หากคุณยกเลิกใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่ง ระบบจะคืนค่าใบจ่าหน้านั้นเป็นเครดิตสำหรับการซื้อใบจ่าหน้าครั้งต่อไป ค่าใบจ่าหน้าจะไม่ถูกชำระคืนไปยังบัญชีผู้ใช้ Shopify ของคุณโดยตรง

แต่ละประเทศมีกฎภาษีค่าจัดส่งที่แตกต่างกัน หากต้องการตรวจสอบว่าประเทศของคุณเรียกเก็บภาษีค่าจัดส่งอย่างไร ให้ดูที่ภาษีเกี่ยวกับใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่ง

หากจำนวนรายการถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงินในแต่ละวันเมื่อคุณซื้อใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่ง คุณจะยังสามารถซื้อใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่งได้เพียง 10% ของยอดเกณฑ์การเรียกเก็บเงินเมื่อมีการสร้างใบแจ้งหนี้ถึงเกณฑ์แล้ว คุณสามารถดูจำนวนขั้นต่ำของบัญชีได้ในส่วนใบเรียกเก็บเงินของหน้าการเรียกเก็บเงินในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ การซื้อใดๆ ที่ดำเนินการในช่วงนี้จะแสดงอยู่ในใบเรียกเก็บเงินในครั้งถัดไปของคุณ หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเรียกเก็บเงินของใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่ง ให้ติดต่อฝ่ายช่วยเหลือของ Shopify

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจากภายนอก

ค่าธรรมเนียมการธุรกรรมจากบริษัทภายนอกคือค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากธุรกรรมแต่ละรายการเมื่อคุณใช้ผู้ให้บริการการธนาคารจากภายนอกในการเรียกเก็บเงินของลูกค้า ค่าธรรมเนียมการธุรกรรมครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่ Shopify ใช้ในการผสานการงานกับผู้ให้บริการการชำระเงินภายนอก ซึ่งแตกต่างกันออกไปตามแผนที่คุณเลือก

เมื่อคุณใช้ Shopify Payments คุณจะไม่ถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจากภายนอกสำหรับคำสั่งซื้อที่ประมวลผลผ่าน Shopify Payments, Shop Pay, Shop Pay Installments หรือ Paypal Express Checkout และจะไม่ถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมหากใช้วิธีการชำระเงินด้วยตนเอง เช่น เงินสด บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) และการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร

ร้านค้าที่ใช้แผน Shopify Plus และใช้ Shopify Payments เป็นช่องทางการชำระเงินหลักจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมสำหรับวิธีการชำระเงินอื่นๆ ที่ใช้ทั้งหมด

วิธีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจากบัญชีของคุณจะขึ้นอยู่กับจำนวนการทำธุรกรรมของร้านค้า ค่าบริการแอปแบบเรียกเก็บต่อเนื่องใดๆ และผู้ให้บริการการชำระเงินที่คุณใช้บริการ

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจะไม่มีผลกับการสั่งซื้อ POS หรือวิธีการชําระเงินด้วยตนเอง ซึ่งได้แก่ บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) เงินฝากธนาคาร เช็ค คำสั่งซื้อสำหรับการทดสอบ และคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่ระบุว่าจ่ายแล้วหรือรอดำเนินการ ทั้งนี้จะไม่มีการคืนค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจากภายนอกเมื่อคุณทำการคืนเงินคำสั่งซื้อ

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเป็นส่วนที่คิดเพิ่มจากค่าธรรมเนียมการดำเนินการที่ผู้ให้บริการการชำระเงินภายนอกของคุณเรียกเก็บ

คํานวณค่าธรรมเนียมการธุรกรรมจากภายนอกของคุณ

Shopify ใช้สูตรนี้ในการคำนวณค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจากภายนอกในระยะเวลา 30 วัน

 [(ต้นทุนสินค้า - ส่วนลด) + ภาษี + ค่าจัดส่ง] x อัตรา 

อัตราค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจากภายนอกแตกต่างกันออกไปตามแผนอัตราค่าบริการ

ดูข้อมูลแยกย่อยของค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจากภายนอกของคุณ

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. คลิกใบเรียกเก็บเงินที่ต้องการดูในส่วนใบเรียกเก็บเงินที่ผ่านมา

  3. หากใบเรียกเก็บเงินมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมดังกล่าวจะมีลิงก์ไปยังคำสั่งซื้อที่เกี่ยวข้อง คลิกเพื่อดูข้อมูล

คุณสามารถดูรายละเอียดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของคำสั่งซื้อใดๆ ที่ครอบคลุมในใบเรียกเก็บเงินนี้ได้จากในแผงที่เปิดขึ้นมา

คลิกคำสั่งซื้อเพื่อดูรายละเอียดทั้งหมดของการทำธุรกรรม

โดเมน ธีม และค่าธรรมเนียมแอปแบบครั้งเดียว

คุณได้รับใบเรียกเก็บเงินที่มีค่าใช้จ่ายแบบครั้งเดียวสำหรับการดำเนินการต่างๆ เช่น การลงทะเบียนโดเมน การซื้อชุดธีม หรือการซื้อแอป คุณสามารถดูประวัติบัญชีได้ในส่วนใบเรียกเก็บเงินของหน้าการเรียกเก็บเงินในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ

การซื้อธีมไม่สามารถขอคืนเงินได้

Tap to Pay บน iPhone หรือ Android

คุณสามารถใช้ Tap to Pay บน iPhone หรือ Tap to Pay บน Android เพื่อรับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตแบบไร้สัมผัส และกระเป๋าเงินดิจิทัลทั้งหมดโดยไม่ต้องมีฮาร์ดแวร์สำหรับการชำระเงิน

ธุรกรรมทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับอัตราบัตรเครดิตและเดบิตมาตรฐานจาก Shopify Payments

ค่าธรรมเนียมการธุรกรรมของ Shopify Tax

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมด้านภาษีจะมีผลกับคำสั่งซื้อที่ใช้ Shopify Tax และจะถูกเรียกเก็บแยกจากการสมัครใช้งาน Shopify ของคุณ Shopify Tax พร้อมให้บริการแก่ผู้ขายทั้งหมดที่ขายสินค้าให้แก่ลูกค้าในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป หรือสหราชอาณาจักร ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของ Shopify Tax จะแสดงในใบเรียกเก็บเงินต่อหนึ่งคำสั่งซื้อหากข้อมูลต่อไปนี้ทั้งหมดเป็นจริง

  • คุณเป็นผู้ขายที่ขายสินค้าให้แก่ลูกค้าในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร หรือสหภาพยุโรป
  • คุณเก็บภาษีในรัฐหรือภูมิภาคที่คุณมีความรับผิดชอบด้านภาษี
  • คุณได้เลือก Shopify Tax เป็นบริการด้านภาษีของคุณ
  • ร้านค้าของคุณมียอดขายเท่ากับหรือมากกว่า:
    • 100,000 ดอลลาร์สหรัฐใน 1 ปีปฏิทินหากร้านค้าของคุณอยู่ในสหรัฐฯ
    • 100,000 ปอนด์สเตอร์ลิงใน 1 ปีปฏิทินหากร้านค้าของคุณอยู่ในสหราชอาณาจักร
    • 100,000 ยูโรใน 1 ปีปฏิทินหากร้านค้าของคุณอยู่ในสหภาพยุโรป

หากยอดขายรวมของร้านค้าคุณเท่ากับหรือมากกว่าเกณฑ์ค่าธรรมเนียมในภูมิภาคของร้านค้า จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแบบคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากธุรกรรมในร้านค้าที่มีการคำนวณภาษี ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมด้านภาษีจะไม่ถูกเรียกเก็บจากลูกค้าของคุณ และจะแสดงในใบเรียกเก็บเงินของ Shopify ของคุณเท่านั้น

Shopify Email

Shopify Email พร้อมให้บริการในแผน Basic, Shopify, Advanced Shopify และ Shopify Plus ร้านค้าทั้งหมดในแผนเหล่านี้จะได้รับสิทธิ์ในการส่งอีเมล 10,000 ฉบับทุกต้นเดือน หลังจากส่งอีเมลครบ 10,000 ฉบับแล้ว จะมีค่าบริการเพิ่มเติม

ค่าใช้จ่ายอีเมลเพิ่มเติมจะถูกเพิ่มไปยังใบเรียกเก็บเงิน Shopify ของคุณในเดือนที่ผ่านมาเป็นอีเมลการตลาด หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของแต่ละกิจกรรมทางอีเมล ให้คลิกที่ “ดูรายละเอียด” ในส่วนการเรียกเก็บเงินของส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ

การจัดการภาษี

หากธุรกิจของคุณตั้งอยู่ในเขตอำนาจศาลของแคนาดาหรือสหรัฐอเมริกาที่ Shopify มีสำนักงานธุรกิจอยู่ Shopify จำเป็นต้องเรียกเก็บภาษีสำหรับการสมัครสมาชิกของคุณตามกฎหมาย Shopify จะเรียกเก็บภาษีเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องทำโดยเจ้าหน้าที่ด้านงานภาษีในเขตอำนาจศาลของคุณ ภาษีเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการสมัครสมาชิก Shopify ของคุณและไม่ได้รับผลจากสินค้าหรือบริการที่ขาย

Shopify เป็นบริษัทสัญชาติแคนาดาที่ดําเนินงานอยู่ในประเทศแคนาดาซึ่งมีข้อกําหนดในการจัดเก็บภาษีการขายในรัฐและเขตต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ดังต่อไปนี้:

รัฐและเขตต่างๆ ในสหรัฐฯ ที่กำหนดให้ Shopify เก็บภาษีการขาย
  • แอละแบมา
  • อะแลสกา
  • แอริโซนา
  • อาร์คันซอ
  • แคลิฟอร์เนีย
  • คอนเนตทิคัต
  • โคโลราโด
  • ฟลอริดา
  • จอร์เจีย
  • ฮาวาย
  • ไอดาโฮ
  • อิลลินอยส์
  • อินดีแอนา
  • ไอโอวา
  • แคนซัส
  • เคนทักกี
  • ลุยเซียนา
  • เมน
  • แมริแลนด์
  • แมสซาชูเซตส์
  • มิชิแกน
  • มินนิโซตา
  • มิสซิสซิปปี
  • มิสซูรี
  • เนแบรสกา
  • เนวาดา
  • นิวเจอร์ซีย์
  • นิวเม็กซิโก
  • นิวยอร์ก
  • นอร์ทแคโรไลนา
  • นอร์ทดาโคตา
  • โอไฮโอ
  • โอคลาโฮมา
  • เพนซิลเวเนีย
  • โรดไอแลนด์
  • เซาท์แคโรไลนา
  • เซาท์ดาโคตา
  • เทนเนสซี
  • เท็กซัส
  • ยูทาห์
  • เวอร์มอนต์
  • เวอร์จิเนีย
  • วอชิงตัน ดีซี
  • วอชิงตัน
  • เวสต์เวอร์จิเนีย
  • วิสคอนซิน
  • ไวโอมิง

หากร้านค้าของคุณตั้งอยู่ในแคนาดา หรือในรัฐหรือเขตที่ระบุไว้ การสมัครใช้งานของคุณจะถูกเรียกเก็บภาษีที่บังคับใช้ เช่น ภาษีการขายแบบรวม (HST) ภาษีการขายของรัฐบาลท้องถิ่น (PST) ภาษีการขายและการบริการ (GST) ภาษีของรัฐ ภาษีของเทศมณฑล หรือภาษีของเทศบาล หากร้านค้าของคุณไม่ได้ตั้งอยู่ในแคนาดา หรือในรัฐหรือเขตที่ Shopify มีข้อกำหนดด้านการจัดเก็บภาษี ก็จะไม่มีการเรียกเก็บภาษีจากการสมัครใช้งานของคุณ

ภาษีจะปรากฏบนบรรทัดที่แยกต่างหากในใบเรียกเก็บเงินของคุณ

ภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายในบัญชีผู้ใช้

หากคุณอาศัยอยู่ในภูมิภาคที่ Shopify จำเป็นต้องเรียกเก็บภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายในบัญชีใดๆของคุณค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะปรากฏในใบแจ้งหนี้ Shopify ของคุณ

ค่าธรรมเนียม GST ในประเทศอินเดีย

หากร้านค้าของคุณตั้งอยู่ในอินเดีย คุณจะถูกเรียกเก็บ GST ในค่าธรรมเนียม Shopify ของคุณตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2021 ค่าใช้จ่ายนี้จะปรากฏบนใบเรียกเก็บเงิน Shopify รายเดือนของคุณ หากต้องการยกเว้นค่า GST คุณต้องระบุหมายเลขประจำตัว GST (GSTIN) ของคุณ

การยกเว้นค่าบริการ GST จะมีผลกับใบแจ้งหนี้ที่ออกหลังจากที่คุณส่ง GSTIN เท่านั้น ค่าบริการ GST ที่เกิดขึ้นในใบแจ้งหนี้ที่ออกก่อนที่คุณจะส่ง GSTIN ถือว่าถูกต้อง และไม่สามารถเปลี่ยนคืนหรือคืนเงินได้

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. คลิก “โปรไฟล์การเรียกเก็บเงิน

  3. ในส่วน GSTIN ให้คลิก “เพิ่ม GSTIN

  4. ป้อน GSTIN ของคุณ จากนั้นคลิกที่ “เพิ่ม GSTIN

ค่าธรรมเนียม GST ในประเทศสิงคโปร์

หากร้านค้าของคุณตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ คุณจะถูกเรียกเก็บ GST ในค่าธรรมเนียม Shopify ของคุณตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019 เป็นต้นไป ค่าใช้จ่ายนี้จะปรากฏบนใบเรียกเก็บเงิน Shopify รายเดือนของคุณ ในขณะนี้คุณไม่สามารถระบุหมายเลข GST ของคุณเพื่อที่จะได้รับการยกเว้นภาษี

SST ที่เรียกเก็บในมาเลเซีย

หากร้านค้าของคุณตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย คุณจะถูกเรียกเก็บภาษีการขายและบริการ (SST) ในค่าธรรมเนียม Shopify ของคุณตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 เป็นต้นไป ค่าใช้จ่ายนี้จะปรากฏบนใบเรียกเก็บเงิน Shopify รายเดือนของคุณ ในขณะนี้คุณไม่สามารถระบุหมายเลข SST ของคุณเพื่อที่จะได้รับการยกเว้นภาษี

หมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับร้านค้าในยุโรป

หากร้านค้าของคุณตั้งอยู่ในยุโรป คุณจำเป็นต้องให้หมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือแจ้งว่าคุณไม่มีหมายเลขดังกล่าว

หมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. คลิก “โปรไฟล์การเรียกเก็บเงิน

  3. ในส่วนหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่มให้ใส่ข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มของคุณ:

    • หากคุณมีหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้คลิก “เพิ่มหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม” โดยป้อนลงในช่องว่างที่ให้ไว้ จากนั้นคลิก “บันทึก
    • หากคุณไม่มีหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้คลิก “ฉันไม่มีหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม” จากนั้นคลิก “ยืนยัน” หมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่มจะแสดงเป็นไม่มี
  4. คลิกบันทึก

Shopify จะตรวจสอบยืนยันหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่มของคุณผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่ม (VIES) และจะเปลี่ยนสถานะจากรอดำเนินการเป็นตรวจสอบยืนยันแล้ว หลังจากที่การตรวจสอบยืนยันเสร็จสิ้น

ค่าธรรมเนียมภาษีมูลค่าเพิ่มในไอร์แลนด์

หากร้านค้าของคุณตั้งอยู่ที่ไอร์แลนด์ คุณจะถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 23% จากค่าธรรมเนียม Shopify ที่เกี่ยวข้อง ค่าใช้จ่ายนี้จะปรากฏในใบเรียกเก็บเงินรายเดือนทั้งหมดของคุณหลังจากวันที่ 1 มิถุนายน 2019

ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บในสวิตเซอร์แลนด์

หากร้านค้าของคุณตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คุณจะถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7.7% จากค่าธรรมเนียม Shopify ที่เกี่ยวข้อง ค่าใช้จ่ายนี้จะปรากฏในใบเรียกเก็บเงินรายเดือนทั้งหมดหลังจากวันที่ 1 สิงหาคม 2021

ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากร้านค้าในชิลี

หากร้านค้าของคุณอยู่ในชิลี ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2022 คุณจะถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 19% หากคุณมี RUT (Rol Único Tributario) ใบเรียกเก็บเงิน Shopify ของคุณอาจได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม คุณต้องป้อน RUT ที่ถูกต้องลงในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณและรับรองว่าคุณเป็นผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มจริง

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. คลิก “โปรไฟล์การเรียกเก็บเงิน

  3. ในส่วนการจดทะเบียนภาษี ให้คลิก “เพิ่ม RUT

  4. ในกล่อง RUT ให้ป้อน RUT ของคุณ

  5. เลือก "ข้าพเจ้ารับรองว่าข้าพเจ้าเป็นผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในชิลี"

  6. คลิก “เพิ่ม RUT

ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากร้านค้าในซาอุดิอาระเบีย

หากร้านค้าของคุณอยู่ในซาอุดีอาระเบีย คุณจะถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 15% ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2022 เป็นต้นไป หากคุณมีหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม ใบเรียกเก็บเงิน Shopify ของคุณอาจได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม คุณต้องป้อนหมายเลขผู้เสียภาษี 15 หลักที่ถูกต้องลงในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณและรับรองว่าคุณเป็นผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. คลิก “โปรไฟล์การเรียกเก็บเงิน

  3. ในส่วนการลงทะเบียนภาษี ให้คลิกที่ป้อนหมายเลขผู้เสียภาษี

  4. ป้อนหมายเลขผู้เสียภาษีของคุณ

  5. เลือกฉันรับรองว่าฉันเป็นผู้เสียภาษีภาษีมูลค่าเพิ่มในซาอุดิอาระเบีย และฉันสามารถแสดงใบรับรองภาษีมูลค่าเพิ่มตามคำขอได้

  6. คลิกเพิ่มหมายเลขผู้เสียภาษี

ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากร้านค้าใน UAE

หากร้านค้าของคุณอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) คุณจะถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2022 เป็นต้นไป หากคุณมีหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม ใบเรียกเก็บเงิน Shopify ของคุณอาจได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หากต้องการได้รับการยกเว้น คุณต้องป้อนหมายเลขผู้เสียภาษี 15 หลักที่ถูกต้องลงในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณและรับรองว่าคุณเป็นผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. คลิก “โปรไฟล์การเรียกเก็บเงิน

  3. ในส่วนการลงทะเบียนภาษี ให้คลิกที่ป้อนหมายเลขผู้เสียภาษี

  4. ป้อนหมายเลขผู้เสียภาษีของคุณ

  5. เลือก “ฉันรับรองว่าฉันเป็นผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสามารถแสดงใบรับรองภาษีมูลค่าเพิ่มตามคำขอได้

  6. คลิกเพิ่มหมายเลขผู้เสียภาษี

ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากร้านค้าในไทย

หากร้านค้าของคุณอยู่ในไทย คุณจะถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2022 เป็นต้นไป หากคุณมีหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม ใบเรียกเก็บเงิน Shopify ของคุณอาจได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม คุณต้องป้อนหมายเลขผู้เสียภาษี 13 หลักที่ถูกต้องลงในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณและรับรองว่าคุณเป็นผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. คลิก “โปรไฟล์การเรียกเก็บเงิน

  3. ในส่วนการลงทะเบียนภาษี ให้คลิกที่ป้อนหมายเลขผู้เสียภาษี

  4. ป้อนหมายเลขผู้เสียภาษีของคุณ

  5. เลือก “ฉันรับรองว่าฉันเป็นผู้เสียภาษีภาษีมูลค่าเพิ่มในไทย และสามารถแสดงใบรับรองภาษีมูลค่าเพิ่มตามคำขอได้

  6. คลิกเพิ่มหมายเลขผู้เสียภาษี

หมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับร้านค้าในแอฟริกาใต้

หากร้านค้าของคุณตั้งอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ คุณจะต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 15% โดยสามารถเลือกที่จะให้หมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่มหรือระบุว่าไม่มีหมายเลขดังกล่าวก็ได้

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. คลิก “โปรไฟล์การเรียกเก็บเงิน

  3. ในส่วนการจดทะเบียนภาษี ให้ป้อนข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มของคุณ:

    • หากคุณมีหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้คลิก “เพิ่มหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม” โดยป้อนลงในช่องว่างที่ให้ไว้ จากนั้นคลิก “เพิ่มหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม
    • หากคุณไม่มีหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้คลิก “ฉันไม่มีหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม” จากนั้นคลิก “ยืนยัน

การยกเว้นภาษี GST ของออสเตรเลียสำหรับการสมัครใช้งาน Shopify

หากร้านค้าของคุณตั้งอยู่ในออสเตรเลีย จะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้าและบริการ (GST) ของออสเตรเลียจากการสมัครใช้งาน Shopify และใบจ่าหน้าสำหรับ Shopify Shipping ของคุณในอัตรา 10% อย่างไรก็ตาม Shopify จะไม่เก็บ GST จากการชำระเงินหากคุณลงทะเบียน GST ของออสเตรเลียและเพิ่มเลขทะเบียนการค้าประจำบริษัทห้างร้านในประเทศออสเตรเลีย (ABN) ไปยังร้านค้า Shopify ของคุณ

ABN คือตัวเลข 11 หลักที่รัฐบาลออสเตรเลียใช้เพื่อระบุธุรกิจของคุณ หากคุณลงทะเบียน GST ออสเตรเลีย ให้เพิ่ม ABN ของคุณเพื่อรับสิทธิ์ยกเว้น GST การเพิ่ม ABN ไปยังร้านค้า Shopify ของคุณและการลงทะเบียน GST ออสเตรเลียนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อรับสิทธิ์ยกเว้น GST ในการสมัครใช้งาน Shopify ของคุณ การยกเว้นภาษี GST ใช้ได้เฉพาะกับใบแจ้งหนี้ที่ออกหลังจากวันที่คุณเพิ่มหมายเลข IRD ลงในบัญชีผู้ใช้ Shopify ของคุณ การยกเว้น GST จะไม่สามารถใช้กับใบแจ้งหนี้ที่อยู่ระหว่างรอดำเนินการหรือยังไม่ได้ชำระเงินเมื่อคุณเพิ่มหมายเลข IRD ลงในบัญชีผู้ใช้ Shopify ของคุณ

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. คลิก “โปรไฟล์การเรียกเก็บเงิน

  3. ในส่วนการจดทะเบียนภาษี ให้คลิกใช่ ฉันได้ลงทะเบียน GSTแล้ว

  4. ป้อน ABN ของคุณแล้วคลิกเพิ่ม ABN

การยกเว้นภาษี GST ของนิวซีแลนด์สำหรับการสมัครใช้งาน Shopify

หากร้านค้าของคุณตั้งอยู่ในนิวซีแลนด์ ในวันที่ 1 กรกฎาคม Shopify จะเรียกเก็บภาษีสินค้าและบริการ (GST) 15% ไปยังใบเรียกเก็บเงิน Shopify ของคุณ อย่างไรก็ตาม Shopify จะไม่เก็บ GST หากคุณลงทะเบียน GST นิวซีแลนด์และเพิ่มหมายเลขกรมสรรพากร (IRD) ของคุณไปยังร้านค้า Shopify

IRD คือตัวเลข 8 หรือ 9 หลักที่รัฐบาลนิวซีแลนด์ใช้เพื่อระบุธุรกิจของคุณ หากคุณลงทะเบียน GST นิวซีแลนด์ ให้เพิ่มหมายเลข IRD ของคุณเพื่อรับสิทธิ์ยกเว้น GST การยกเว้นภาษี GST ใช้ได้เฉพาะกับใบแจ้งหนี้ที่ออกหลังจากวันที่คุณเพิ่มหมายเลข IRD ลงในบัญชีผู้ใช้ Shopify ของคุณ การยกเว้น GST จะไม่สามารถใช้กับใบแจ้งหนี้ที่อยู่ระหว่างรอดำเนินการหรือยังไม่ได้ชำระเงินเมื่อคุณเพิ่มหมายเลข IRD ลงในบัญชีผู้ใช้ Shopify ของคุณ

คุณสามารถเพิ่มหมายเลข IRD ของคุณได้ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2020 เพื่อจัดเตรียมธุรกิจของคุณให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ การเพิ่มหมายเลข IRD ของคุณไปยังร้านค้า Shopify ของคุณและลงทะเบียนภาษี GST นิวซีแลนด์เป็นสิ่งที่จำเป็นหากคุณต้องการยกเว้น GST ในการสมัครใช้งาน Shopify ของคุณ

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. คลิก “โปรไฟล์การเรียกเก็บเงิน

  3. ในส่วนการจดทะเบียนภาษี ให้คลิกใช่ ฉันได้ลงทะเบียน GSTแล้ว

  4. ป้อนหมายเลข IRD ของคุณ จากนั้นคลิกเพิ่ม IRD

การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มของตุรกีในการสมัครใช้งาน Shopify

หากร้านค้าของคุณอยู่ในทูร์เคียตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2021 เป็นต้นไป Shopify จำเป็นต้องเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มไปยังใบเรียกเก็บเงิน Shopify ของคุณ อย่างไรก็ตาม ใบเรียกเก็บเงิน Shopify ของคุณอาจได้รับการยกเว้นภาษีจาก VAT หากคุณระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี 10 หลัก (Vergi Numarasi)

การเพิ่มหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของคุณไปยังร้านค้า Shopify นั้นเป็นสิ่งจําเป็นเพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มในการสมัครใช้งาน Shopify ของคุณ

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. คลิก “โปรไฟล์การเรียกเก็บเงิน

  3. ในส่วนการจดทะเบียนภาษี ให้คลิก “ใช่ ฉันได้ลงทะเบียน VAT แล้ว

  4. ป้อนหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของคุณ จากนั้นคลิกที่ “เพิ่มหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี

การจัดการเครดิตการเรียกเก็บเงิน

เครดิตในบัญชีของคุณจัดกลุ่มได้เป็นหมวดหมู่ดังต่อไปนี้:

  • เครดิตการสมัครใช้งานจะใช้เป็นส่วนลดสำหรับค่าสมัครสมาชิกของคุณ
  • เครดิตแอปจะใช้เป็นส่วนลดสำหรับค่าใช้จ่ายแอปของคุณ
  • เครดิตการจัดส่งจะใช้เป็นส่วนลดสำหรับค่าจัดส่งของคุณ
  • เครดิตธุรกรรมจะใช้เป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของคุณ

เครดิตจะถูกนำไปใช้กับใบเรียกเก็บเงินครั้งถัดไปในหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง เครดิตจากหมวดหมู่หนึ่งไม่สามารถใช้กับหมวดหมู่อื่นได้

ตรวจสอบเครดิตการเรียกเก็บเงินที่มีของคุณ

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูและระบบ Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน

  2. หากคุณมีเครดิตพร้อมให้ใช้งานไม่ว่าจะประเภทใดๆ ให้คลิกดูเครดิตคงเหลือ ในส่วนรอบการเรียกเก็บเงินปัจจุบัน

  3. ในกล่องโต้ตอบ “เครดิตในบัญชีผู้ใช้ของคุณ” ดูเครดิตที่คุณมีอยู่ในประเภทเครดิตใดๆ

ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ