กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค

เมื่อคุณขายสินค้าผ่าน Shopify คุณจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่บังคับใช้กับธุรกิจของคุณ กฎหมายเหล่านี้มักจะครอบคลุมประเด็นปัญหาต่างๆ เช่น วิธีการโฆษณา วิธีส่งคืนสินค้าที่บกพร่องของลูกค้า รวมถึงความปลอดภัยของสินค้าและมาตรฐานการเรียกคืนสินค้า

คุณสามารถขยายธุรกิจของคุณและเข้าถึงลูกค้าใหม่ได้โดยการขายสินค้าของในต่างประเทศ เมื่อคุณขายสินค้าทั่วโลก คุณจะต้องปฏิบัติตามทั้งกฎหมายของที่ตั้งร้านค้าของคุณและกฎหมายของสถานที่ที่คุณจัดส่งสินค้าไป ใช้ข้อมูลในหน้านี้เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่อาจมีผลบังคับใช้กับธุรกิจของคุณ

การบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้ขึ้นอยู่กับภูมิภาคที่ตั้งร้านค้าของคุณและภูมิภาคที่คุณขายสินค้า

เพื่อให้แน่ใจว่าร้านค้า Shopify ของคุณจะไม่หยุดชะงัก โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในเขตอำนาจตามกฎหมายใดๆ ก็ตามที่คุณดำเนินธุรกิจ

ข้อมูลติดต่อ

ภายใต้ข้อกำหนดในการใช้บริการของ Shopify คุณต้องให้ข้อมูลติดต่อร้านค้าออนไลน์ของคุณที่เป็นปัจจุบันและถูกต้อง ซึ่งข้อมูลนี้ต้องประกอบด้วย:

  • ชื่อธุรกิจของคุณ
  • อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ที่ลูกค้าสามารถใช้เพื่อติดต่อคุณหากมีคำถาม ข้อร้องเรียน หรือมีการเรียกร้องใดๆ
  • ที่อยู่จริงของธุรกิจของคุณ

ข้อมูลติดต่อของคุณต้องเปิดเผยต่อสาธารณะและเข้าถึงได้ง่าย

คุณสามารถเพิ่มนโยบายของร้านค้าหรือเพิ่มหน้า “ติดต่อเรา” ไปยังร้านค้าออนไลน์ของคุณ

คุณสามารถใช้แหล่งข้อมูลและเครื่องมือสร้างนโยบายของ Shopify ได้ฟรี เพื่อสร้างนโยบายต่อไปนี้ให้กับเว็บไซต์ของคุณได้โดยง่าย:

ข้อกำหนดด้านข้อมูลการติดต่อของเขตเศรษฐกิจยุโรป

หากคุณเป็นผู้ขายที่อยู่อาศัยหรือจัดส่งสินค้าไปยังเขตเศรษฐกิจยุโรป หรือหากคุณเป็นผู้ขายที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคในเขตเศรษฐกิจยุโรป คุณต้องระบุหมายเลขบริษัทของคุณและหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในร้านค้าออนไลน์ของคุณด้วย

ตรวจสอบกฎหมายต่อไปนี้ที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าจากหรือไปยังเขตเศรษฐกิจยุโรป

นโยบายการคืนเงิน

ภายใต้ข้อจํากัดในการใช้บริการของ Shopify คุณต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายการคืนเงินในร้านค้าออนไลน์ของคุณที่เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง เปิดเผยได้ต่อสาธารณะ และเข้าถึงได้ง่าย

นโยบายการคืนเงินของคุณควรประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้:

  • เวลาที่ต้องคืนสินค้า
  • ที่อยู่สำหรับส่งสินค้าที่เรียกคืน
  • ต้นทุนการคืนสินค้าและผู้ที่ชำระค่าคืนสินค้า
  • ข้อมูลที่แจ้งว่าเวลาในการคืนเงินจะขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าอาศัยอยู่ห่างจากตำแหน่งที่ตั้งของคุณเท่าใด
  • ข้อมูลติดต่อที่ลูกค้าสามารถใช้ติดต่อคุณได้หากพวกเขาไม่ได้รับการคืนเงินในเวลาที่เหมาะสม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มนโยบายของร้านค้า เช่น นโยบายการคืนเงิน นโยบายความเป็นส่วนตัว ข้อกำหนดในการใช้บริการ นโยบายการจัดส่ง หรือนโยบายร้านค้าตามกฎหมาย ไปยังร้านค้าออนไลน์ของคุณ

ข้อกำหนดนโยบายการคืนเงินในเขตเศรษฐกิจยุโรป

หากคุณเป็นผู้ขายที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจยุโรป หรือหากคุณเป็นผู้ขายที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคในเขตเศรษฐกิจยุโรป นโยบายการคืนเงินของคุณต้องมีการระบุเกี่ยวกับสิทธิขั้นพื้นฐานแก่ผู้บริโภคในเขตเศรษฐกิจยุโรป รวมถึงสิทธิในการถอนคืนสินค้าและการส่งมอบสินค้าให้ตรงตามสัญญา

ตรวจสอบกฎหมายต่อไปนี้ซึ่งเกี่ยวกับการขายสินค้าแก่ผู้บริโภคในเขตเศรษฐกิจยุโรป

การจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่ง

ภายใต้ข้อกำหนดในการใช้บริการ Shopify คุณต้องเพิ่มข้อมูลติดต่อสาธารณะ นโยบายการคืนเงิน และไทม์ไลน์การจัดการคำสั่งซื้อไปยังร้านค้าของคุณ ทั้งนี้ ก่อนที่ลูกค้าจะดำเนินการสั่งซื้อเสร็จ พวกเขาควรจะต้องทราบอย่างชัดเจนว่าต้องใช้เวลานานเท่าใดกว่าที่สินค้าจะมาถึง

คุณควรแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ให้แก่ลูกค้าของคุณ:

  • หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือความล่าช้าในการสั่งซื้อของลูกค้า
  • อาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการนําเข้าหรือค่าธรรมเนียมศุลกากรเนื่องจากคุณจัดส่งสินค้าจากประเทศอื่น

หากคุณใช้การดรอปชิปหรือบริการจากผู้ให้บริการภายนอกเพื่อจัดการสินค้า คุณควรแจ้งลูกค้าว่าสินค้าถูกจัดส่งโดยผู้ให้บริการภายนอกจากตำแหน่งที่ตั้งอื่น

ข้อกำหนดของการจัดการสินค้าและการจัดส่งในพื้นที่เศรษฐกิจยุโรป

เขตเศรษฐกิจยุโรปมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการคำสั่งซื้อ ข้อมูลการจัดส่ง และการเปิดเผยข้อมูลค่าธรรมเนียมการนําเข้าหรือค่าธรรมเนียมศุลกากร รวมถึงตัวอย่างต่อไปนี้

การกล่าวอ้างด้านประสิทธิภาพสินค้า การตลาด และการกําหนดราคาสินค้า

ข้อกำหนดในการใช้บริการของ Shopify กำหนดให้การกล่าวอ้างเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่คุณขายในร้านค้าของคุณต้องเป็นความจริง ในบางเขตอำนาจศาล กฎหมายอาจกําหนดข้อกําหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับการกล่าวอ้างด้านการตลาดหรือประสิทธิภาพเกี่ยวกับสินค้าของคุณ

การกล่าวอ้างเกี่ยวกับความนิยมและความพร้อมจำหน่ายของสินค้าควรมีความชัดเจนและถูกต้อง ตัวอย่างการตลาดที่อาจหลอกลวงหรือสร้างความเข้าใจผิดได้มีดังต่อไปนี้

  • การแจ้งเตือนสต็อกสินค้าที่มีจำกัด เช่น “เหลือเพียง [x] รายการ” ทั้งที่ความจริงมีรายการสินค้าพร้อมจำหน่ายเหลืออยู่มากกว่านั้น
  • ตัวนับเวลาถอยหลัง เช่น “เหลือเพียง [x] ชั่วโมง” ทั้งที่การกล่าวอ้างนั้นนั้นไม่เป็นความจริง
  • การกล่าวอ้างว่ามีกี่คนที่ซื้อสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งไปแล้ว เช่น “[x] คนซื้อสินค้าวันนี้” ทั้งที่การกล่าวอ้างนั้นไม่เป็นความจริง

ข้อกําหนดด้านประสิทธิภาพ การตลาด และการกําหนดราคาในเขตเศรษฐกิจยุโรป

หากคุณเป็นผู้ขายที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจยุโรป หรือหากคุณเป็นผู้ขายที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคในเขตเศรษฐกิจยุโรป ให้พิจารณากฎต่อไปนี้

  • ในการอวดอ้างประสิทธิภาพสินค้า การตลาด และการกําหนดราคา คุณต้องรวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรนําเข้าเอาไว้ในราคาสุดท้ายที่แสดงบนสินค้าที่วางจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์ของคุณ
  • หากคุณมีส่วนลดหรือการลดราคา คุณต้องระบุราคาสินค้าก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ กฎหมายยุโรปยังห้ามไม่ให้มีการอวดอ้างสรรพคุณที่ชวนให้เข้าใจผิดหรือเกินจริง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกําหนดการกําหนดราคายุโรป

ตรวจสอบกฎหมายต่อไปนี้ซึ่งเกี่ยวกับการขายสินค้าแก่ผู้บริโภคในเขตเศรษฐกิจยุโรป

การเรียกคืนสินค้า

หลายประเทศมีกฎระเบียบเกี่ยวกับสินค้าที่เรียกคืน สินค้ามักจะถูกเรียกคืนเมื่อได้รับการระบุว่าก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้า คุณมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายเกี่ยวกับการเรียกคืนในทุกเขตอำนาจตามกฎหมายที่คุณประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งของร้านค้าของคุณและตำแหน่งที่ตั้งของลูกค้า ซึ่งอาจหมายความว่าคุณต้องดำเนินการต่อไปนี้

  • หากมีการเรียกคืนสินค้าที่คุณขายหรือเคยขายไปในอดีต คุณจะต้องลบสินค้าที่ถูกเรียกคืนจากร้านค้าออนไลน์ของคุณทันที
  • ในกรณีที่กฎหมายกำหนด คุณจะต้องแจ้งให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าที่ถูกเรียกคืนซึ่งเป็นไปตามกฎหมายเหล่านั้น

คุณสามารถค้นหาข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับการเรียกคืนสินค้าได้ทางออนไลน์ เช่น บนเว็บไซต์ของรัฐบาลต่อไปนี้:

แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค

คุณสามารถค้นหาข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับแนวทางการรับรู้ของผู้บริโภคในเขตอำนาจศาลผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ซึ่งมีตัวอย่างดังต่อไปนี้

เมื่อกฎหมายเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) บังคับใช้

หากคุณเป็นผู้ขายที่อยู่นอกเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) แต่กำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคที่อยู่ใน EEA ตัวอย่างเช่น หากคุณโฆษณาโดยใช้สื่อท้องถิ่นในประเทศที่อยู่ใน EEA และใช้ภาษาท้องถิ่นอื่นๆ ของประเทศที่อยู่ใน EEA นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ หรือหากคุณสร้างเว็บไซต์โดยใช้ชื่อโดเมนใน EEA กฎหมายเหล่านี้ก็อาจมีผลบังคับใช้กับคุณ

ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ