การติดตามการจัดส่งด้วย Shop
คุณสามารถเลือกว่าจะให้ลูกค้าติดตั้งแอป Shop ได้โดยตรงจากหน้าแสดงสถานะคำสั่งซื้อของร้านค้าของคุณหรือไม่ ไม่ว่าคุณจะเพิ่มตัวเลือกนี้ไปยังร้านค้าออนไลน์ของคุณหรือไม่ ลูกค้าจะยังสามารถใช้ Shop เพื่อติดตามคำสั่งซื้อใดๆ ที่มีหมายเลขติดตามพัสดุที่ถูกต้องได้ ซึ่งรวมถึงคำสั่งซื้อจากร้านค้าของคุณด้วย โดยการดำเนินการนี้ไม่มีผลต่อการแสดงของ Shop Store ของคุณใน Shop
เมื่อดาวน์โหลดแอป Shop ลูกค้าของคุณจะได้รับประโยชน์จากสิ่งต่อไปนี้เมื่อพวกเขาติดตามการสั่งซื้อ:
- การอัปเดตสถานะคำสั่งซื้อแบบเรียลไทม์
- การแจ้งเตือนการจัดส่ง
- การติดตามแผนที่สด
เปิดใช้งาน Track with Shop
เมื่อคุณเปิดใช้งาน Track with Shop แล้ว ลูกค้าในประเทศต่อไปนี้สามารถคลิกที่ลิงก์เพื่อติดตั้งแอป Shop จากหน้าแสดงสถานะคำสั่งซื้อบนอุปกรณ์มือถือได้หากพวกเขาอยู่ในประเทศต่อไปนี้:
- สหรัฐอเมริกา
- แคนาดา
- สหราชอาณาจักร
- ออสเตรเลีย
หลังจากที่ลูกค้าติดตั้งแอป Shop และสร้างบัญชีผู้ใช้ ข้อมูลคำสั่งซื้อของพวกเขาจากร้านค้า Shopify จะได้รับการซิงค์โดยอัตโนมัติ
ขั้นตอนมีดังนี้
- จากส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ให้คลิก “ร้านค้า” ในส่วนช่องทางการขาย
- ในส่วนช่องทาง Shop ให้คลิก “การตั้งค่า”
- ในส่วน Track with Shop ให้คลิก “จัดการในการตั้งค่าการชำระเงิน”
- จากหน้าการชำระเงิน ให้เลือก “แสดงลิงก์เพื่อดาวน์โหลดแอป Shop” ที่อยู่ใต้วิธีการติดต่อของลูกค้า เพื่อเปิดใช้งานตัวเลือกนี้สำหรับลูกค้า
- แล้วคลิกที่บันทึก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์ใช้งานแอป Shop จากลูกค้า รวมถึงข้อกำหนดในการติดตั้งและฟีเจอร์การช้อปปิ้งต่างๆ
เพิ่มการติดตามคำสั่งซื้อของคุณ
เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับข้อมูลอัปเดตสถานะการจัดส่ง คุณต้องเพิ่มหมายเลขติดตามพัสดุและผู้ให้บริการขนส่งที่ถูกต้องเมื่อคุณจัดการคำสั่งซื้อ
หากคุณต้องการจัดส่งสินค้าต่างๆ ในคำสั่งซื้อแยกจากกัน คุณสามารถเพิ่มหมายเลขติดตามพัสดุมากกว่าหนึ่งรายการในคำสั่งซื้อ เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตามสินค้าแต่ละรายการได้
มาร์กอัปอีเมลสำหรับการติดตาม Shop
เมื่อลูกค้าติดตั้งแอป Shop พวกเขาจะสามารถเลือกใช้การติดตามอัตโนมัติโดยการเชื่อมต่ออีเมล Gmail หรือ Outlook ได้ หลังจากที่ลูกค้าเชื่อมต่อ Gmail หรือ Outlook แล้ว Shop จะค้นกล่องจดหมายเข้าของพวกเขาเพื่อหาข้อมูลการติดตามที่เกี่ยวข้อง
เพื่อช่วยให้ Shop ค้นหาข้อมูลการติดตามในกล่องจดหมายเข้าของลูกค้าคุณได้อย่างถูกต้องที่สุด คุณสามารถฝังข้อมูลการติดตามลงในมาร์กอัปอีเมลของคุณโดยใช้รูปแบบ Liquid หรือรูปแบบ JSON-LD ได้
แก้ไขเทมเพลตการแจ้งเตือนการจัดส่งของ Shopify
หากคุณใช้เทมเพลตการแจ้งเตือนการจัดส่งของ Shopify คุณสามารถคัดลอกมาร์กอัป Liquid ต่อไปนี้ไปวางที่ด้านบนของการแจ้งเตือนการยืนยันการจัดส่งและการอัปเดตสถานะการจัดส่งได้
<script type=3D"application/ld+json">
{
"@context": "http://schema.org",
"@type": "ParcelDelivery",
"deliveryAddress": {
"@type": "PostalAddress",
"streetAddress": "",
"addressLocality": "",
"addressRegion": "",
"addressCountry": "",
"postalCode": ""
},
"carrier": {
"@type": "Organization",
"name": ""
},
"partOfOrder": {
"@type": "Order",
"orderNumber": "",
"orderStatus": "OrderProcessing",
"merchant": {
"@type": "Organization",
"name": "",
"url": ""
}
},
"trackingNumber": "",
"trackingUrl": ""
}
</script>
แก้ไขเทมเพลตการแจ้งเตือนการจัดส่งจากภายนอก
หากคุณใช้บริการอื่นเพื่อส่งการแจ้งเตือนการจัดส่ง คุณสามารถใช้ตัวอย่างมาร์กอัป JSON ต่อไปนี้เป็นรูปแบบได้
<script type=3D"application/ld+json">
{
"@context": "http://schema.org",
"@type": "ParcelDelivery",
"deliveryAddress": {
"@type": "PostalAddress",
"streetAddress": "Example Street, 5th",
"addressLocality": "Example Address Locality",
"addressRegion": "REGION",
"addressCountry": "US",
"postalCode": "12345-6789"
},
"expectedArrivalFrom": "Not available",
"expectedArrivalUntil": "Not available",
"carrier": {
"@type": "Organization",
"name": "CARRIER_NAME"
},
"itemShipped": {
"@type": "Product",
"name": "Example Product Title",
"image": "https://exampleimage.com/200/300",
"url": "https://www.example.com/your/orders/123456789"
},
"partOfOrder": {
"@type": "Order",
"orderNumber": "123456789",
"orderStatus": "OrderProcessing",
"merchant": {
"@type": "Organization",
"name": "EXAMPLE_BRAND",
"url": "mailto:example@gmail"
},
"broker": {
"@type": "Organization",
"name": "Example store name",
"url": "mailto:store@pemail"
}
},
"trackingNumber": "123456789",
"trackingUrl": "https://www.example.com/your/orders/123456789/order_tracking"
}
</script>