อัตราค่าจัดส่ง
อัตราค่าจัดส่งคือจำนวนเงินที่คุณเรียกเก็บจากลูกค้าเพิ่มเติมจากต้นทุนของสินค้าที่สั่งซื้อ ต้นทุนของอัตราค่าจัดส่งจะถูกเพิ่มไปยังคำสั่งซื้อของลูกค้าในขั้นตอนการชำระเงิน
คุณสามารถเลือกอัตราค่าจัดส่งและวิธีการจัดส่งที่หลากหลายให้ปรากฏเป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้าของคุณ หรือทำให้ง่ายเข้าไว้โดยให้ตัวเลือกเพียงอย่างเดียว
เมื่อคุณสร้างอัตราค่าจัดส่ง คุณสามารถระบุข้อจำกัดหรือกฎที่ระบุว่าวิธีการจัดส่งแบบใดบ้างที่ลูกค้าสามารถใช้ได้โดยอิงจากเนื้อหาของตะกร้าสินค้าของลูกค้า
ในหน้านี้
อัตราค่าจัดส่งตายตัว
อัตราค่าจัดส่งตายตัวคือจำนวนเงินค่าจัดส่งที่เฉพาะเจาะจงซึ่งคุณเรียกเก็บจากลูกค้าตามคำสั่งซื้อของพวกเขา
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเรียกเก็บเงิน $5 สำหรับการจัดส่งแต่ละครั้ง คุณก็ตั้งค่าอัตราค่าจัดส่งตายตัว $5
ประโยชน์จากอัตราค่าจัดส่งตายตัวก็คือคุณสามารถควบคุมได้ว่าลูกค้าจะถูกเรียกเก็บเงินเท่าไรในขั้นตอนการชำระเงิน
อัตราทั่วไป
อัตราค่าจัดส่งทั่วไปจะคิดค่าจัดส่งตายตัวโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่อยู่ในตะกร้าสินค้า
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการให้ลูกค้าสามารถเลือกระหว่างการจัดส่งปกติ $5 หรือการจัดส่งแบบเร่งด่วน $15 คุณก็ตั้งค่าอัตราค่าจัดส่งทั่วไปสองรายการสำหรับแต่ละตัวเลือก
อัตราสองอัตรานี้จะปรากฏเป็นตัวเลือกในขั้นตอนการชำระเงินของคุณสำหรับคำสั่งซื้อทุกอย่างของลูกค้า
อัตราค่าจัดส่งตามราคา
อัตราค่าจัดส่งตามราคาทำให้คุณสามารถตั้งค่าตะกร้าสินค้าขั้นต่ำสุดและสูงสุดสำหรับอัตราค่าจัดส่งตายตัวของคุณได้
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเรียกเก็บอัตราค่าจัดส่งที่แตกต่างกันสำหรับคำสั่งซื้อที่มีมูลค่าต่ำกว่าและสูงกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการใช้งานอัตราค่าจัดส่งตามราคา คุณสามารถกำหนดอัตราค่าจัดส่งตายตัว 4 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับคำคำสั่งซื้อที่มีมูลค่าต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราค่าจัดส่งตายตัว 10 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับคำคำสั่งซื้อที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ
จากตัวอย่างข้างต้น ลูกค้าที่มีตะกร้าสินค้ามูลค่า 35 ดอลลาร์สหรัฐ จะมีตัวเลือกการจัดส่ง 4 ดอลลาร์สหรัฐ ปรากฏในขั้นตอนการชำระเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ดูตารางที่แสดงตัวอย่างอัตราค่าจัดส่งตามราคาต่อไปนี้ (ค่าจัดส่งทั้งหมดอยู่ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ)
มูลค่าคำสั่งซื้อ | ราคาอัตราค่าจัดส่ง |
---|---|
$0 - $100.00 | $24.99 |
$100.01 - $200.00 | $9.99 |
$200.01 ขึ้นไป | $0 (ฟรี) |
อัตราค่าจัดสั่งตามน้ำหนัก
อัตราค่าจัดส่งตามน้ำหนักจะช่วยให้คุณตั้งค่าน้ำหนักขั้นต่ำและสูงสุดสำหรับคำสั่งซื้อที่มีอัตราค่าจัดส่งตายตัว
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเรียกเก็บอัตราค่าจัดส่งที่แตกต่างกันสำหรับคำสั่งซื้อน้ำหนักต่ำกว่าและสูงกว่า 5 กก. เมื่อใช้อัตราค่าจัดส่งตามน้ำหนัก คุณสามารถกำหนดอัตราค่าจัดส่งตายตัว 7 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับคำสั่งซื้อที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 5 กก. และอัตราค่าจัดส่งตายตัว 15 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับคำสั่งซื้อที่มีน้ำหนักมากกว่า 5 กก. จากตัวอย่างนี้ ลูกค้าที่มีตะกร้าสินค้าที่มีน้ำหนักรวม 7 กก. จะได้ตัวเลือกการจัดส่ง 15 ดอลลาร์สหรัฐ ที่แสดงในขั้นตอนการชำระเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
หากคำสั่งซื้อไม่ตรงกับอัตราค่าจัดส่งที่กำหนดไว้ในการตั้งค่า > การจัดส่งและการส่งมอบ คำสั่งซื้อนั้นจะถูกกำหนดให้กับอัตราค่าจัดส่งตามน้ำหนักที่สูงกว่าถัดไปตัวอย่างเช่น หากมีคำสั่งซื้อที่มีน้ำหนัก 2 กก. และมีอัตราค่าจัดส่งสำหรับคำสั่งซื้อที่มีน้ำหนัก 4 กก. เท่านั้น ลูกค้าจะแสดงอัตราค่าจัดส่งสำหรับคำสั่งซื้อที่มีน้ำหนัก 4 กก. ที่ขั้นตอนการชำระเงินแทนข้อความแจ้งข้อผิดพลาด
ดูตารางที่แสดงตัวอย่างอัตราค่าจัดส่งตามน้ำหนักต่อไปนี้ (ค่าจัดส่งทั้งหมดอยู่ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ):
น้ำหนักรายการในคำสั่งซื้อ | ราคาอัตราค่าจัดส่ง |
---|---|
0 ปอนด์ - 0.99 ปอนด์ | $4.99 |
1 ปอนด์ - 4.99 ปอนด์ | $9.99 |
5 ปอนด์ - 9.99 ปอนด์ | $19.99 |
อัตราค่าจัดส่งฟรี
อัตราค่าจัดส่งตายตัวใดๆ ก็ตามอาจเป็นอัตราค่าจัดส่งฟรีโดยการตั้งค่าจัดส่งเป็น $0 ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการใช้การจัดส่งฟรีสำหรับคำสั่งซื้อทั้งหมด คุณสามารถสร้างอัตราค่าจัดส่งตายตัวเป็น $0 แบบธรรมดาทั่วไปได้
แต่หากคุณต้องการเสนอการจัดส่งฟรีสำหรับคำสั่งซื้อมากกว่า $100 ให้ตั้งค่าอัตราค่าจัดส่งตายตัวตามราคาเป็น $0 สำหรับคำสั่งซื้อมากกว่า $100
อัตราค่าจัดส่งหลังการคำนวณ
อัตราค่าขนส่งหลังการคำนวณคือตัวเลขค่าขนส่งจากผู้ให้บริการขนส่งหรือแอปที่คุณเพิ่มไปยังร้านค้าของคุณ
เมื่อลูกค้ามาถึงขั้นตอนการชำระเงิน ข้อมูลตะกร้าสินค้าของพวกเขาจะถูกส่งไปยังผู้ให้บริการขนส่งหรือแอป และบริการเหล่านั้นจะส่งจำนวนเงินที่คุณควรเรียกเก็บสำหรับเป็นค่าขนส่ง
ประโยชน์จากอัตราค่าจัดส่งที่คำนวณโดยผู้ให้บริการขนส่งคือคุณสามารถบอกต้นทุนที่แน่นอนในการจัดส่งคำสั่งซื้อให้แก่ลูกค้าได้โดยตรง
อัตราค่าขนส่งที่คำนวณโดยผู้ให้บริการขนส่ง
มีผู้ให้บริการขนส่งบางรายที่คุณสามารถเพิ่มไปยังการตั้งค่าการจัดส่งของคุณได้ โดยขึ้นอยู่กับแผนการสมัครใช้งาน Shopify และตำแหน่งที่ตั้งของคุณ
ผู้ให้บริการขนส่งสามารถใช้ข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ได้ในการกำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับการขนส่ง:
- ต้นทางการจัดส่ง
- ปลายทางการจัดส่ง
- น้ำหนักของการจัดส่ง
- มูลค่าของการจัดส่ง
- ขนาดของกล่องการจัดส่ง
- น้ำหนักตามปริมาตร
- ความเร็วในการจัดส่งรายการที่มีการร้องขอ
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าลูกค้าจากวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มาถึงขั้นตอนการชำระเงินพร้อมกับคำสั่งซื้อที่หนัก 1 กก. ส่วนร้านค้าของคุณตั้งอยู่ในออตตาวา ประเทศแคนาดาและขนาดกล่องเริ่มต้นของคุณคือ 5 x 7 x 7 นิ้ว หนัก 0.375 กก. หากคุณเชื่อมต่อบัญชี Shopify ของคุณกับ Canada Post แล้ว Canada Post ก็จะคำนวณตัวเลือกการจัดส่งที่เป็นไปได้สำหรับลูกค้าของคุณโดยอิงตามเงื่อนไขของคำสั่งซื้อและเสนอทางเลือกให้แก่ลูกค้าในขั้นตอนการชำระเงิน
อัตราค่าจัดส่งหลังการคำนวณจากแอป
แอปก็สามารถให้อัตราค่าจัดส่งที่คำนวณแล้วได้เช่นกันในกรณีที่ผู้ให้บริการขนส่งของคุณใช้แอปเพื่อผสานการทำงานกับ Shopify หรือในกรณีที่คุณจำเป็นต้องตั้งค่าการจัดส่งขั้นสูง
หากต้องการดูแอปจัดส่งที่พร้อมใช้งานทั้งหมด ให้ไปที่Shopify App Store
อัตราค่าจัดส่งสำหรับวิธีการจัดส่งในพื้นที่
คุณสามารถตั้งค่าตัวเลือกการรับสินค้าที่ร้านและการจัดส่งในพื้นที่ให้แก่ลูกค้าที่อยู่ใกล้กับธุรกิจของคุณได้
การจัดส่งในพื้นที่
หากธุรกิจของคุณให้บริการการจัดส่ง คุณสามารถสร้างวิธีการจัดส่งในพื้นที่ให้แก่ค้าของคุณได้เลือกใช้งานในขั้นตอนการชำระเงินได้ โดยคุณสามารถกำหนดค่าธรรมเนียมการจัดส่งและจำนวนคำสั่งซื้อขั้นต่ำได้เอง
ระบุความพร้อมในการจัดส่งของคุณโดยแสดงรายการรหัสไปรษณีย์หรือเลือกรัศมีรอบตำแหน่งทีตั้งของธุรกิจคุณ หากที่อยู่ของลูกค้ามีรหัสไปรษณีย์ที่ระบุไว้หรืออยู่ภายในรัศมีที่คุณกำหนด พวกเขาจะสามารถเลือกตัวเลือกการจัดส่งในขั้นตอนการชำระเงินให้เป็นการจัดส่งในพื้นที่ได้
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่การตั้งค่าการจัดส่งในพื้นที่สำหรับคำสั่งซื้อออนไลน์
การรับสินค้าที่ร้าน
คุณสามารถมอบตัวเลือกให้แก่ลูกค้าของคุณให้มารับคำสั่งซื้อของพวกเขาที่หน้าร้านของคุณได้ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดส่งได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้สร้างประสบการณ์การใช้งานร่วมกับแบรนด์ให้แก่ลูกค้าของคุณได้อีกด้วย คุณอาจจะระบุคำแนะนำในการรับสินค้าและแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าคำสั่งซื้อของพวกเขาจะพร้อมให้มารับเมื่อไหร่
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่การตั้งค่าการรับสินค้าสำหรับคำสั่งซื้อออนไลน์
ประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าในการเลือกอัตราค่าจัดส่ง
การตั้งค่าการจัดส่งที่คุณใช้มีผลกับสิ่งที่จะปรากฏในหน้าการชำระเงินของลูกค้า
หลังคุณตั้งค่าอัตราค่าจัดส่งแล้ว คุณสามารถวางคำสั่งซื้อสำหรับทดสอบโดยใช้หน้าการชำระเงินของคุณเองได้ เพื่อดูว่าลูกค้าจะเห็นตัวเลือกใดบ้าง และตรวจสอบว่าอัตราค่าจัดส่งของคุณนั้นถูกต้อง
ทันทีที่ลูกค้าของคุณเข้าถึงการชำระเงินและป้อนที่อยู่สำหรับการจัดส่งระบบจะแสดงวิธีการจัดส่งของพวกเขา แม้ว่าคุณจะสามารถสร้างตัวเลือกการจัดส่งจำนวนมากได้แต่ลูกค้าแต่ละรายจะแสดงเฉพาะรายการที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อของพวกเขาเท่านั้น ตัวเลือกที่ถูกที่สุดจะแสดงเป็นค่าเริ่มต้น
หากลูกค้าของคุณออกจากหน้าการชำระเงินเพื่อเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของคำสั่งซื้อ อาจทำให้อัตราค่าจัดส่งเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากอัตราค่าจัดส่งส่วนใหญ่จะคำนวณจากน้ำหนักของคำสั่งซื้อ การเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของคำสั่งซื้อใดๆ อาจทำให้อัตราค่าจัดส่งเดิมคลาดเคลื่อน เมื่อลูกค้ากลับไปที่ขั้นตอนการชำระเงินหลักเปลี่ยนแปลงคำสั่งซื้อ ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางลูกค้าไปยังขั้นตอนการชำระเงินเดิมที่ค้างไว้ ลูกค้าจะไม่ได้รับอัตราค่าจัดส่งที่มีการคำนวณใหม่จนกว่าจะพร้อมดำเนินการสั่งซื้อให้เสร็จสิ้น
ลูกค้าที่ป้อนที่อยู่สำหรับจัดส่งในภูมิภาคที่ไม่ได้อยู่ในเขตการจัดส่งของคุณ จะได้รับข้อความแจ้งว่า ไม่มีอัตราค่าจัดส่งที่พร้อมให้บริการสำหรับภูมิภาคนั้น

การชำระเงินด้วย PayPal Express
หากลูกค้าของคุณชำระเงินด้วย PayPal Express ระบบจะนำพวกเขาไปยังหน้า PayPal ก่อน เพื่อให้ป้อนข้อมูลบัตรเครดิตและที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงิน หลังขั้นตอนนี้ วิธีจัดส่งที่พร้อมให้บริการจะปรากฏขึ้นมา
คุณอาจต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าพวกเขาจะพบขั้นตอนแทรกกลางนี้ หากชำระเงินด้วย PayPal Express วิธีง่ายๆ ในการดำเนินการเช่นที่ว่าไปคือการสร้างหน้าให้ข้อมูลและใส่ลิงก์หน้านั้นลงในส่วนท้ายของร้านค้าคุณ