จัดการภาษีของคุณ

หลังจากที่คุณอัปเดตร้านค้าเพื่อใช้ฟีเจอร์ภาษีตามการลงทะเบียน คุณสามารถจัดการการตั้งค่าภาษี รวมถึงการลงทะเบียน การกำหนดภาษีเอง และการยกเว้นภาษีสำหรับลูกค้าของคุณได้

จัดการภูมิภาคที่คุณได้ลงทะเบียน

คุณสามารถเพิ่ม ลบ หรือเปลี่ยนแปลงการลงทะเบียนหรือหมายเลขบัญชีของคุณเมื่อใดก็ได้

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > ภาษีและอากร
  2. ในส่วนประเทศ/ภูมิภาค ให้คลิกที่ภูมิภาคของคุณ
  3. ในส่วนภาษีการขาย ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

    • หากต้องการจดทะเบียนภาษีใหม่ ให้คลิกที่ “เก็บภาษีการขาย
    • หากต้องการแก้ไขการจดทะเบียนภาษีที่มีอยู่แล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม “...” ถัดจากภูมิภาคที่คุณต้องการแก้ไข
  4. อัปเดตภูมิภาคและหมายเลขบัญชีของคุณ

  5. คลิกที่ “เรียกเก็บภาษีการขาย

แทนที่ภาษี

บางครั้งอัตราภาษีเริ่มต้นจะไม่ถูกนำไปใช้กับสินค้าบางรายการ ตัวอย่างเช่นเสื้อผ้าเด็กบางประเภทอาจได้รับการยกเว้นภาษีหรือมีอัตราภาษีที่ต่ำกว่า หากไม่สามารถใช้อัตราค่าจัดส่งเริ่มต้นได้คุณจำเป็นต้องสร้างการอัตราภาษีแทนที่

สร้างภาษีที่กำหนดเองสำหรับสินค้า

การสร้างภาษีที่กำหนดเองสำหรับสินค้าเป็นกระบวนการสองขั้นตอน ในขั้นแรก คุณต้องสร้างคอลเลกชันสินค้าที่มีสินค้าที่มีอัตราภาษีที่แตกต่างจากสินค้าอื่น จากนั้นจึงระบุภูมิภาคที่ต้องการใช้ภาษีที่กำหนดเองและอัตราภาษีที่ต้องการใช้

ขั้นตอน:

  1. สร้างคอลเลกชันโดยดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:

    1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่สินค้า > คอลเลกชัน
    2. คลิกสร้างคอลเลกชันจากนั้นป้อนชื่อให้คอลเลกชัน
    3. ใต้ประเภทคอลเลกชัน ให้เลือกกำหนดเอง
    4. คลิกที่บันทึกคอลเลกชัน
  2. สร้างการกำหนดเองโดยดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:

    1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > ภาษีและอากร
    2. ในส่วนประเทศ/ภูมิภาค ให้คลิกที่ประเทศหรือภูมิภาคที่ต้องการสร้างการแทนที่
    3. ในส่วนการกำหนดภาษีเอง ให้คลิกเพิ่มการกำหนดภาษีเอง:
    4. เลือกสินค้า
    5. เลือกคอลเลกชัน
    6. เลือกภูมิภาคที่จะใช้ภาษีที่กำหนดเอง
    7. ป้อนอัตราภาษีสำหรับคอลเลกชันในภูมิภาคนั้น
    8. คลิกเพิ่มการแทนที่ภาษี

จัดการการคำนวณภาษีของคุณ

คุณสามารถจัดการการตั้งค่าต่างๆ ที่จะกำหนดวิธีคำนวณภาษีสำหรับสินค้าได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถกำหนดได้ว่าจะรวมภาษีในราคาสินค้าของคุณหรือไม่ จะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าดิจิทัลหรือไม่ และจะเก็บภาษีจากค่าจัดส่งหรือไม่ คุณสามารถจัดการการตั้งค่าเหล่านี้ได้ในหน้าการตั้งค่าภาษีและอากร ไปที่การกำหนดและการยกเว้นภาษีเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

ขั้นตอน:

  1. จากส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > ภาษีและอากร
  2. ในส่วน “ตัดสินใจว่าจะเรียกเก็บภาษีอย่างไร” ให้เลือกตัวเลือกที่ต้องการใช้
  3. คลิกที่บันทึก

การปัดเศษภาษี

ก่อนหน้านี้ ภาษีจะปัดเศษที่ระดับใบแจ้งหนี้ โดยระบบจะคำนวณภาษีจากยอดรวมย่อยของคำสั่งซื้อ จากนั้นจึงปัดเศษผลลัพธ์ หลังจากที่คุณอัปเดตการตั้งค่าเพื่อใช้คุณลักษณะภาษีของสหภาพยุโรป จำนวนภาษีจะถูกปัดเศษที่ระดับสินค้าเฉพาะรายการ ซึ่งหมายความว่ายอดรวมมูลค่าภาษีจะคำนวณจากการคิดอัตราภาษีกับสินค้าแต่ละรายการในคำสั่งซื้อ ก่อนจะปัดเศษผลลัพธ์ แล้วจึงรวมยอดรวมย่อยเหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อคิดยอดรวมมูลค่าของคำสั่งซื้อ

การปัดเศษภาษีในระดับสินค้าเฉพาะรายการจะช่วยปรับปรุงการคำนวณอัตราภาษีที่แตกต่างกัน และทำให้การคำนวณภาษีสำหรับคำสั่งซื้อที่มีสินค้าที่ต้องเสียภาษีและไม่ต้องเสียภาษีง่ายขึ้น

ตัวอย่างของการปัดเศษภาษีที่ระดับใบแจ้งหนี้และที่ระดับสินค้าเฉพาะรายการ

ลูกค้าทำการสั่งซื้อสินค้าที่แตกต่างกันจำนวน 42 รายการ แต่ละรายการมีราคา $14.99 และต้องคิดภาษี 18% ระบบจะคิดภาษีสินค้าเฉพาะรายการสำหรับสินค้าแต่ละรายการโดยนำราคา ($14.99) ไปคูณด้วยอัตราภาษี (0.18) ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เท่ากับ $2.6982

ในอดีต ระบบจะรวมภาษีของสินค้าแต่ละรายการเข้าด้วยกันและปัดเศษของยอดรวม ในกรณีนี้ ผลบวกรวมเท่ากับ $113.3244 ดังนั้นระบบจะปัดเศษเป็น $113.32

แต่ในปัจจุบัน ระบบจะปัดเศษค่าภาษีตั้งแต่ในระดับสินค้าเฉพาะรายการ ซึ่งหมายความว่าค่าภาษีสำหรับสินค้าแต่ละชิ้นจะถูกนำมาปัดเศษแยกกัน เช่น หากค่าภาษีของสินค้าเฉพาะรายการคือ $2.6982 ระบบจะปัดเศษเป็น $2.70 จากนั้นจะนำมาบวกกันเพื่อคำนวนยอดรวม โดยในกรณีนี้ ยอดรวมภาษีจะเป็น $113.40

พร้อมเริ่มต้นการขายด้วย Shopify แล้วหรือยัง

ทดลองใช้งานฟรี