การใช้คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินในธุรกิจแบบ B2B
คุณสามารถสร้างคำสั่งซื้อที่ลูกค้าส่งถึงคุณโดยตรงผ่านทางโทรศัพท์หรืออีเมลแทนที่จะผ่านร้านค้าออนไลน์เป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินได้หากมีการมอบหมายลูกค้าที่เป็นธุรกิจแบบ B2B และตำแหน่งที่ตั้งบริษัทให้กับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ราคา ข้อกำหนดการชำระเงิน และตัวเลือกการการชำระเงินจะเป็นไปตามการตั้งค่าของบริษัทนั้นโดยอัตโนมัติ
ในหน้านี้
การสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินสำหรับบริษัท
หากบริษัทส่งคำสั่งซื้อไปหาคุณภายนอกร้านค้า Shopify เช่น ทางอีเมลหรือทางโทรศัพท์ คุณสามารถสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินสำหรับการซื้อดังกล่าวได้
สร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินและเรียกเก็บเงินในทันที
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน
คลิกสร้างคำสั่งซื้อ
ในส่วนลูกค้า ให้เลือกลูกค้าธุรกิจแบบ B2B
เลือกตำแหน่งที่ตั้งบริษัทที่ต้องการซื้อคำสั่งซื้อนั้นให้
หากต้องการเพิ่มสินค้า ให้ค้นหาสินค้าที่ต้องการแล้วคลิก “เพิ่ม”
-
ตัวเลือกเสริม: หากต้องการเพิ่มหมายเลขคำสั่งซื้อลงในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินของคุณ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ในส่วนหมายเลขคำสั่งซื้อ ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ
- ป้อนหมายเลขคำสั่งซื้อ แล้วคลิกเสร็จสิ้น
คลิกที่ “เรียกเก็บเงิน”
-
เรียกเก็บเงินสำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินของคุณโดยใช้หนึ่งในวิธีการชำระเงินต่อไปนี้
- หากลูกค้าใช้บัตรเครดิตเป็นวิธีการชำระเงิน ให้คลิกป้อนข้อมูลบัตรเครดิต แล้วป้อนข้อมูลบัตรเครดิต จากนั้นจึงประมวลผลการชำระเงิน
- หากลูกค้าใช้วิธีการชําระเงินอื่น เช่น เช็ค เงินสด หรือธนาณัติ ให้คลิกทำเครื่องหมายว่าชำระแล้ว
- หากลูกค้ามีบัตรเครดิตที่อยู่ในห้องนิรภัยแล้ว ให้คลิกบัตรเครดิตที่คุณต้องการเรียกเก็บเงิน จากนั้นคลิกเรียกเก็บเงินเพื่อเรียกเก็บเงินตามจำนวนเงินที่แสดงไปยังบัตรที่เลือก
คลิกสร้างคำสั่งซื้อ
สร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินแล้วส่งใบแจ้งหนี้ไปให้ลูกค้าของคุณชำระเงิน
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน
คลิกสร้างคำสั่งซื้อ
ในส่วนลูกค้า ให้เลือกลูกค้าธุรกิจแบบ B2B
เลือกตำแหน่งที่ตั้งบริษัทที่ต้องการซื้อคำสั่งซื้อนั้นให้
หากต้องการเพิ่มสินค้า ให้ค้นหาสินค้าที่ต้องการแล้วคลิก “เพิ่ม”
-
ตัวเลือกเสริม: หากต้องการเพิ่มหมายเลขคำสั่งซื้อลงในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินของคุณ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ในส่วนหมายเลขคำสั่งซื้อ ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ
- ป้อนหมายเลขคำสั่งซื้อ แล้วคลิกเสร็จสิ้น
-
หากต้องการส่งใบแจ้งหนี้ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ในส่วนการชำระเงิน ให้คลิกส่งใบแจ้งหนี้
- ตัวเลือกเสริม: เพิ่มข้อความแบบกำหนดเองลงในใบแจ้งหนี้
- ตัวเลือกเสริม: หากต้องการให้ลูกค้าของคุณใช้ส่วนลดเมื่อชำระเงินใบแจ้งหนี้นี้ ให้เลือกอนุญาตให้ลูกค้าใช้รหัสส่วนลดเมื่อชำระเงินตามใบแจ้งหนี้นี้
- คลิกตรวจสอบใบแจ้งหนี้ จากนั้นคลิกส่งใบแจ้งหนี้
คลิกสร้างคำสั่งซื้อ
สร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีข้อกำหนดการชำระเงิน
คุณสามารถสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินพร้อมข้อกำหนดในการชำระเงินได้ ข้อกำหนดในการชำระเงินจะช่วยให้คุณกำหนดวันที่ครบกำหนดชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อได้ คุณยังสามารถตั้งค่าข้อกำหนดเงินมัดจำแบบเป็นเปอร์เซ็นต์สำหรับข้อกำหนดการชำระเงินของคุณได้ หากคุณเพิ่มข้อกำหนดการวางมัดจำลงในข้อกำหนดในการชำระเงิน ลูกค้า B2B ของคุณจะต้องชำระเงินมัดจำทันทีหลังจากที่คุณส่งใบแจ้งหนี้
ขั้นตอน:
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน
คลิกสร้างคำสั่งซื้อ
ในส่วนลูกค้า ให้เลือกลูกค้าธุรกิจแบบ B2B
เลือกตำแหน่งที่ตั้งบริษัทที่ต้องการซื้อคำสั่งซื้อนั้นให้
หากต้องการเพิ่มสินค้า ให้ค้นหาสินค้าที่ต้องการแล้วคลิก “เพิ่ม”
-
ตัวเลือกเสริม: หากต้องการเพิ่มหมายเลขคำสั่งซื้อลงในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินของคุณ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ในส่วนหมายเลขคำสั่งซื้อ ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ
- ป้อนหมายเลขคำสั่งซื้อ แล้วคลิกเสร็จสิ้น
-
เพิ่มข้อกำหนดในการชำระเงินลงในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินของคุณ:
- ในส่วนการชำระเงิน ให้เลือกการชำระเงินที่จะครบกำหนดในภายหลัง
- จากเมนูดรอปดาวน์ข้อกำหนดการชำระเงิน ให้เลือกข้อกำหนดการชำระเงิน หากตำแหน่งที่ตั้งบริษัทหนึ่งมีข้อกำหนดการชำระเงินอยู่แล้ว ระบบจะตั้งข้อกำหนดการชำระเงินตามตำแหน่งที่ตั้งบริษัทโดยอัตโนมัติ
ตัวเลือกเสริม: คลิก + ต้องวางเงินมัดจำ จากนั้นป้อนจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ต้องการฝากเงินวางเงินมัดจำ เช่น 20%
คลิกที่ “บันทึก”
หลังจากที่คุณกำหนดระยะเวลาชำระเงินแล้ว คุณสามารถส่งใบแจ้งหนี้หรือรับการชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อ
การกำหนดให้การสั่งซื้อต้องสร้างเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
หากคุณต้องการตรวจสอบคำสั่งซื้อก่อนที่จะได้รับอนุมัติ คุณสามารถกำหนดให้ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อของตนเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินก่อนที่คุณจะยอมรับคำสั่งซื้อนั้นได้ เมื่อคุณเลือกตัวเลือกส่งคำสั่งซื้อทุกรายการเป็นคำสั่งที่ยังไม่ชำระเงินเพื่อตรวจสอบ ลูกค้าในตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทจะมีปุ่มส่งเพื่อขออนุมัติปรากฎในขั้นตอนการชำระเงิน
คำสั่งซื้อจากตำแหน่งที่ตั้งที่มีการตั้งค่านี้จะปรากฏในหน้าคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินของคำสั่งซื้อคุณ คำสั่งซื้อเหล่านี้จะไม่ดำเนินการต่อจนกว่าคุณจะคลิก “สร้างคำสั่งซื้อ” หรือลูกค้าชำระเงินหลังจากคุณส่งใบแจ้งหนี้ให้พวกเขาแล้วเท่านั้น
ขั้นตอน:
เดสก์ท็อป
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่ลูกค้า > บริษัท
คลิกบริษัทที่คุณต้องการกำหนดให้สร้างคำสั่งซื้อเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินในขั้นตอนการชำระเงิน
ในส่วนการชำระเงิน ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ
ในส่วนการส่งคำสั่งซื้อ ให้เลือกส่งคำสั่งซื้อทั้งหมดเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินเพื่อตรวจสอบ
คลิกที่ “บันทึก”
iPhone
- จากแอป Shopify ให้แตะ “…” > “ลูกค้า”
- แตะ “บริษัท”
- แตะบริษัทที่คุณต้องการกำหนดให้สร้างคำสั่งซื้อเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินในขั้นตอนการชำระเงิน
- ในส่วนการชำระเงิน ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
- ในส่วนการส่งคำสั่งซื้อ ให้เลือกส่งคำสั่งซื้อทั้งหมดเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินเพื่อตรวจสอบ
- แตะที่บันทึก
Android
- จากแอป Shopify ให้แตะ “☰” > “ลูกค้า”
- แตะ “บริษัท”
- แตะบริษัทที่คุณต้องการกำหนดให้สร้างคำสั่งซื้อเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินในขั้นตอนการชำระเงิน
- ในส่วนการชำระเงิน ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
- ในส่วนการส่งคำสั่งซื้อ ให้เลือกส่งคำสั่งซื้อทั้งหมดเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินเพื่อตรวจสอบ
- แตะ✓
ปลดล็อกการกำหนดราคาสินค้าในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินสำหรับธุรกิจแบบ B2B
คุณสามารถเปิดใช้งานการล็อกราคาในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใดๆ ได้ การล็อกราคาจะทำให้แน่ใจว่าราคาสินค้าในคำสั่งซื้อจะไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าคุณจะอัปเดตราคาสินค้าในภายหลังในส่วนผู้ดูแล Shopify ก็ตาม ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์เมื่อคุณต้องการรักษาราคาที่เสนอให้กับลูกค้า แม้ว่าราคาสินค้าจะมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลังก็ตาม โดยค่าเริ่มต้น ราคาในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินจะถูกปลดล็อก จนกว่าคุณจะเลือกล็อกราคาในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินด้วยตนเอง
การล็อกการกำหนดราคาจะมีผลใช้กับสินค้าที่มีอยู่ทั้งหมดในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน โดยรวมถึงสินค้าที่เพิ่มไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินหลังจากใช้การล็อกการกําหนดราคาแล้ว สินค้าที่ล็อกราคาไว้จะแสดงสัญลักษณ์รูปแม่กุญแจที่ด้านข้างราคาสินค้าในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
หลังจากเปิดใช้งานการล็อกราคาแล้ว คุณสามารถเลือกปลดล็อกราคาสินค้าได้ตลอดเวลา เมื่อคุณปลดล็อกราคาสินค้า คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินจะอัปเดตตามการเปลี่ยนแปลงราคาใดๆ ที่เกิดขึ้นกับสินค้าเดิม หรืออัปเดตตามราคาที่กำหนดค่าล่าสุดของ แค็ตตาล็อกสินค้า
ขั้นตอนมีดังนี้
เดสก์ท็อป
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน
คลิกที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือคลิก สร้างคำสั่งซื้อ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่
หลังจากเพิ่มสินค้าของคุณไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินแล้ว ให้คลิก > ล็อกการกำหนดราคาสินค้า
แล้วคลิกที่บันทึก
iPhone
- ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
- แตะที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือแตะ + เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่
- หลังจากเพิ่มสินค้าของคุณไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินแล้ว ให้แตะที่ ... > การกำหนดราคาสินค้า
- แตะบันทึก
Android
- ในแอป Shopify ให้แตะที่คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
- แตะที่คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีอยู่หรือแตะ + เพื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินใหม่
- หลังจากเพิ่มสินค้าของคุณไปยังคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินแล้ว ให้แตะที่ ... > การกำหนดราคาสินค้า
- แตะที่ ✓ เพื่ออัปเดตคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
คุณสามารถปลดล็อกการกำหนดราคาสินค้ได้ทุกเมื่อ โดยเลือก ... > ปลดล็อกการกำหนดราคาสินค้า
คุณสามารถปลดล็อกราคาสินค้าได้เมื่อคุณ ส่งใบแจ้งหนี้หรือลิงก์ชำระเงิน เมื่อส่งใบแจ้งหนี้หรือแชร์ลิงก์ชำระเงิน ราคาจะถูกกำหนดให้ล็อกไว้ตามค่าเริ่มต้น เว้นแต่คุณจะตั้งค่าให้ปลดล็อกด้วยตนเอง
สกุลเงินในพื้นที่
หากคุณใช้เครื่องมือการขายระหว่างประเทศ ระบบจะระบุสกุลเงินในพื้นที่ การกำหนดราคา อากร และภาษีตามตลาดที่เชื่อมโยงกับคำสั่งซื้อ หรือหากคุณไม่ได้ใช้เครื่องมือการขายระหว่างประเทศ ระบบจะตั้งค่าสกุลเงินไว้ให้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในแค็ตตาล็อก
เมื่อเปิดใช้ตลาดมากกว่าหนึ่งแห่ง ที่อยู่ที่จัดส่งของลูกค้าจะเป็นตัวระบุตลาดของคำสั่งซื้อนั้น การเพิ่มลูกค้าจะอัปเดตตลาดของคำสั่งซื้อนั้น เพื่อให้ระบบแสดงใบแจ้งหนี้ การกําหนดราคาสินค้า และข้อมูลการชำระเงินเป็นสกุลเงินในพื้นที่ของลูกค้ารายนั้น
ในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินซึ่งแสดงสกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่สกุลเงินเริ่มต้นของร้านค้า ระบบจะคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้เมื่อคุณสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน โดยอัตรานี้เป็นอัตราแบบตายตัวและระบบจะนำไปใช้กับใบแจ้งหนี้ ไม่ว่าอัตราแลกเปลี่ยนนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากคุณบันทึกคำสั่งซื้อเป็นแบบร่างและทำการแก้ไขในภายหลัง ระบบจะอัปเดตการกําหนดราคาทั้งหมดในคำสั่งซื้อโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เป็นปัจจุบัน ณ เวลาที่ทำการแก้ไข
หากหลังจากชําระเงินแล้วบางส่วน แล้วคุณต้องการแก้ไขรายการสินค้าในคำสั่งซื้อ ระบบจะใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศปัจจุบันกับสินค้าที่ถูกแก้ไข
หากคุณต้องการใช้การกําหนดราคาและสกุลเงินอื่นสำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ให้เปลี่ยนตลาด แต่ก่อนอื่น โปรดตรวจสอบดูผลกระทบดังต่อไปนี้ที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนตลาดในการสั่งซื้อ:
- ภาษีอาจรวมหรือไม่รวมอยู่ในราคาสินค้า ตัวอย่างเช่น คำสั่งซื้อที่อยู่ในตลาดสหรัฐอเมริกาจะไม่รวมภาษีไว้ในราคา แต่คำสั่งซื้อที่อยู่ในตลาดเยอรมนีจะรวมภาษีไว้ในราคาด้วย
- อัตราภาษีจะแตกต่างกันไปตามตลาด ในขั้นตอนการชำระเงิน หากลูกค้าเปลี่ยนที่อยู่ที่จัดส่งเป็นที่อยู่ซึ่งอยู่นอกตลาด ระบบจะเรียกเก็บภาษีโดยใช้อัตราภาษีที่ถูกต้องสำหรับที่อยู่ที่จัดส่งของลูกค้า แต่ตลาดในคำสั่งซื้อซึ่งมีการตั้งค่าไว้ว่ารวมหรือไม่รวมภาษีนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
- ภาษีและอากรจะถูกกำหนดโดยที่อยู่ที่จัดส่งของลูกค้าซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามตลาดที่คุณเลือก ตัวอย่างเช่น หากคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินมีที่อยู่จัดส่งในแคนาดา และคุณอัปเดตตลาดเป็นการกำหนดราคาและสกุลเงินของตลาดสหรัฐอเมริกาแต่คุณยังคงที่อยู่ที่จัดส่งในแคนาดาไว้ คำสั่งซื้อดังกล่าวจะคงภาษีและอากรของแคนาดาไว้
- หากคุณใช้บริการจากภายนอกในการกําหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้กับตลาด ระบบจะระบุการกําหนดราคาในคำสั่งซื้อตามอัตราแลกเปลี่ยนของบริการ อย่างไรก็ตาม อัตราที่ Shopify Payments ใช้ในการคํานวณยอดเงินที่ร้านค้าของคุณจะได้รับนั้นจะอิงจากตลาดที่เลือกไว้ใน Shopify ดังนั้น จํานวนเงินที่เรียกเก็บจากคำสั่งซื้ออาจแตกต่างจากจํานวนเงินที่คุณได้รับในการชำระเงิน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่การแปลงสกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยน
- ราคาขายปลีกที่ผู้ผลิตแนะนำ (MSRP): ในกรณีที่คุณต้องขายสินค้าตาม MSRP ในตลาดของลูกค้า หากคุณเปลี่ยนตลาดและใช้ราคาตลาดอื่นแทน นั่นอาจเป็นการละเมิดสัญญาได้
เปลี่ยนตลาดให้กับการสั่งซื้อ
หากคุณใช้ Shopify International และต้องการเปลี่ยนการกําหนดราคาและสกุลเงินในคำสั่งซื้อของคุณ คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนการกําหนดราคา ส่วนตลาดของคำสั่งซื้อของคุณจะปรากฏต่อเมื่อเปิดใช้งานตลาดอื่นที่ไม่ใช่ตลาดหลักของคุณแล้วเท่านั้น หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงการกําหนดราคาของตลาดใดตลาดหนึ่งโดยเฉพาะ คุณจำเป็นต้องเปิดใช้งานตลาดนั้นและสกุลเงินในพื้นที่ของตลาด
ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนแปลงการกําหนดราคา โปรดแน่ใจว่าได้ตรวจสอบผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงการกําหนดราคาแล้ว
ขั้นตอน:
เดสก์ท็อป
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน
คลิกแบบร่างคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
ในส่วนตลาด ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ
เลือกตลาดเพื่อใช้การกำหนดราคากับแบบร่างคำสั่งซื้อของคุณ
คลิก เปลี่ยนแปลงการกําหนดราคา
คลิกที่ “บันทึก”
iPhone
- ในแอป Shopify ให้ไปที่ คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
- แตะคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่คุณต้องการแก้ไข
- ในส่วนตลาด ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
- เลือกตลาดเพื่อใช้การกำหนดราคากับแบบร่างคำสั่งซื้อของคุณ
- แตะ เปลี่ยนการกำหนดราคา
- แตะที่บันทึก
Android
- ในแอป Shopify ให้ไปที่ คำสั่งซื้อ > คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน
- แตะคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่คุณต้องการแก้ไข
- ในส่วนตลาด ให้แตะที่ไอคอนรูปดินสอ
- เลือกตลาดเพื่อใช้การกำหนดราคากับแบบร่างคำสั่งซื้อของคุณ
- แตะ เปลี่ยนการกำหนดราคา
- แตะ ✓
ราคาคำสั่งซื้อจะแสดงเป็นสกุลเงินในพื้นที่ของลูกค้า เมื่อคุณทำการเปลี่ยนแปลงแบบกำหนดเองต่อไปนี้กับคำสั่งซื้อ:
- หากคุณเพิ่มสินค้าเฉพาะรายการหรือส่วนลดคำสั่งซื้อแบบปรับแต่งเอง มูลค่าส่วนลดจะแสดงในสกุลเงินของร้านค้า
- หากคุณเพิ่มราคาค่าจัดส่งที่กำหนดเอง ระบบจะแสดงราคาเป็นสกุลเงินของร้านค้า
- หากคุณเพิ่มรายการที่กำหนดเอง ราคาจะปรากฏในสกุลเงินของร้านค้า
หลังจากที่คุณทำการเปลี่ยนแปลงแบบกำหนดเองเหล่านี้แล้ว ระบบจะแสดงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในคำสั่งซื้อด้วยสกุลเงินในพื้นที่ของลูกค้า
การจัดส่งในพื้นที่หรือการรับสินค้าที่ร้าน
หากต้องจัดส่งคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน คุณสามารถเลือกอัตราค่าจัดส่งที่ตั้งไว้ล่วงหน้า สร้างอัตราแบบกำหนดเอง หรือเลือกการจัดส่งในพื้นที่หรือการรับสินค้าที่ร้านก็ได้
หากเลือกวิธีจัดส่งไว้ล่วงหน้าเมื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ลูกค้าจะไม่สามารถแก้ไขวิธีจัดส่งดังกล่าวได้ในขั้นตอนการชำระเงิน โดยจะมีผลกับทั้งลูกค้าแบบธุรกิจสู่ธุรกิจและลูกค้าแบบจำหน่ายสินค้าให้ผู้บริโภคโดยตรง
หากไม่ได้เลือกวิธีจัดส่งไว้ล่วงหน้าเมื่อมีการสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ลูกค้าสามารถเลือกได้จากอัตราค่าจัดส่งที่พร้อมใช้งานในขั้นตอนการซื้อสินค้าได้ แต่จะไม่สามารถเลือกการจัดส่งในพื้นที่หรือการรับสินค้าที่ร้านได้ หากคุณต้องการให้ลูกค้ามารับสินค้าจากหนึ่งในตำแหน่งที่ตั้งของคุณ คุณต้องเลือกตำแหน่งที่ตั้งในการรับสินค้าที่ร้านไว้ล่วงหน้าเมื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน