การใช้คำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินในธุรกิจแบบ B2B

คุณสามารถสร้างคำสั่งซื้อที่ลูกค้าส่งถึงคุณโดยตรงผ่านทางโทรศัพท์หรืออีเมลแทนที่จะผ่านร้านค้าออนไลน์เป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินได้หากมีการมอบหมายลูกค้าที่เป็นธุรกิจแบบ B2B และตำแหน่งที่ตั้งบริษัทให้กับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ราคา ข้อกำหนดการชำระเงิน และตัวเลือกการการชำระเงินจะเป็นไปตามการตั้งค่าของบริษัทนั้นโดยอัตโนมัติ

การสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินสำหรับบริษัท

หากบริษัทส่งคำสั่งซื้อไปหาคุณภายนอกร้านค้า Shopify เช่น ทางอีเมลหรือทางโทรศัพท์ คุณสามารถสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินสำหรับการซื้อดังกล่าวได้

สร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินและเรียกเก็บเงินในทันที

ขั้นตอน:

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ
  2. คลิกสร้างคำสั่งซื้อ

  3. ภายใต้ลูกค้า ให้เลือกลูกค้าธุรกิจแบบ B2B

  4. เลือกตำแหน่งที่ตั้งบริษัทที่ต้องการซื้อคำสั่งซื้อนั้นให้

  5. หากต้องการเพิ่มสินค้า ให้ค้นหาสินค้าที่ต้องการแล้วคลิก “เพิ่ม

  6. ป้อนหมายเลขคำสั่งซื้อ หากมี สามารถเพิ่มหมายเลขคำสั่งซื้อได้ในภายหลังจากหน้ารายละเอียดคำสั่งซื้อเช่นกัน

  7. คลิกที่ “เรียกเก็บเงิน

  8. ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

    • หากลูกค้าใช้บัตรเครดิตเป็นวิธีการชำระเงิน ให้เลือก “จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต” แล้วป้อนข้อมูลบัตรเครดิต จากนั้นจึงประมวลผลการชำระเงิน
    • หากลูกค้าใช้วิธีการชําระเงินอื่น เช่น เช็ค เงินสด หรือธนาณัติ ให้เลือก “ทำเครื่องหมายว่าชำระแล้ว

สร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินแล้วส่งใบแจ้งหนี้ไปให้ลูกค้าของคุณชำระเงิน

ขั้นตอน:

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ
  2. คลิกสร้างคำสั่งซื้อ

  3. ในส่วนลูกค้า ให้เลือกลูกค้าธุรกิจแบบ B2B

  4. เลือกตำแหน่งที่ตั้งบริษัทที่ต้องการซื้อคำสั่งซื้อนั้นให้

  5. หากต้องการเพิ่มสินค้า ให้ค้นหาสินค้าที่ต้องการแล้วคลิก “เพิ่ม

  6. คลิกส่งใบแจ้งหนี้

สร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินที่มีข้อกำหนดการชำระเงิน

ขั้นตอน:

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ
  2. คลิกสร้างคำสั่งซื้อ

  3. ในส่วนลูกค้า ให้เลือกลูกค้าธุรกิจแบบ B2B

  4. เลือกตำแหน่งที่ตั้งบริษัทที่ต้องการซื้อคำสั่งซื้อนั้นให้

  5. หากต้องการเพิ่มสินค้า ให้ค้นหาสินค้าที่ต้องการแล้วคลิก “เพิ่ม

  6. ป้อนหมายเลขคำสั่งซื้อ หากมี สามารถเพิ่มหมายเลขคำสั่งซื้อได้ในภายหลังจากหน้ารายละเอียดคำสั่งซื้อเช่นกัน

  7. คลิก “การชำระเงินที่ครบกำหนดในภายหลัง” จากนั้นเลือกข้อกําหนดในช่องข้อกําหนดการชำระเงิน หากตำแหน่งที่ตั้งบริษัทหนึ่งมีข้อกำหนดการชำระเงินอยู่แล้ว ระบบจะตั้งข้อกำหนดการชำระเงินตามตำแหน่งที่ตั้งบริษัทโดยอัตโนมัติ

  8. คลิกสร้างคำสั่งซื้อ

การกำหนดให้การสั่งซื้อต้องสร้างเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

หากคุณต้องการตรวจสอบคำสั่งซื้อก่อนที่จะได้รับอนุมัติ คุณสามารถกำหนดให้ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อของตนเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินก่อนที่คุณจะยอมรับคำสั่งซื้อนั้นได้ เมื่อคุณเลือกตัวเลือกส่งคำสั่งซื้อทุกรายการเป็นคำสั่งที่ยังไม่ชำระเงินเพื่อตรวจสอบ ลูกค้าในตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทจะมีปุ่มส่งเพื่อขออนุมัติปรากฎในขั้นตอนการชำระเงิน

คำสั่งซื้อจากตำแหน่งที่ตั้งที่มีการตั้งค่านี้จะปรากฏในหน้าคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินของคำสั่งซื้อคุณ คำสั่งซื้อเหล่านี้จะไม่ดำเนินการต่อจนกว่าคุณจะคลิก “สร้างคำสั่งซื้อ” หรือลูกค้าชำระเงินหลังจากคุณส่งใบแจ้งหนี้ให้พวกเขาแล้วเท่านั้น

ขั้นตอน:

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ให้ไปที่ ลูกค้า > บริษัท
  2. เลือกตำแหน่งที่ตั้งบริษัท
  3. ในส่วนข้อมูลบริษัท ให้ไปที่การชำระเงิน จากนั้นคลิก “แก้ไข
  4. เลือก “"ส่งคำสั่งซื้อทุกรายการเป็นคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินเพื่อให้ตรวจสอบ
  5. คลิกที่ “บันทึก

สกุลเงินในพื้นที่

หากคุณใช้ Shopify Markets ระบบจะระบุสกุลเงินในพื้นที่ การกําหนดราคา อากร และภาษีตามตลาดที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อดังกล่าว หรือหากคุณไม่ได้ใช้ Shopify Markets ระบบจะตั้งค่าสกุลเงินไว้ให้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในแค็ตตาล็อก

เมื่อเปิดใช้ตลาดมากกว่าหนึ่งแห่ง ที่อยู่ที่จัดส่งของลูกค้าจะเป็นตัวระบุตลาดของคำสั่งซื้อนั้น การเพิ่มลูกค้าจะอัปเดตตลาดของคำสั่งซื้อนั้น เพื่อให้ระบบแสดงใบแจ้งหนี้ การกําหนดราคาสินค้า และข้อมูลการชำระเงินเป็นสกุลเงินในพื้นที่ของลูกค้ารายนั้น

ในคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินซึ่งแสดงสกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่สกุลเงินเริ่มต้นของร้านค้า ระบบจะคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้เมื่อคุณสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน โดยอัตรานี้เป็นอัตราแบบตายตัวและระบบจะนำไปใช้กับใบแจ้งหนี้ ไม่ว่าอัตราแลกเปลี่ยนนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากคุณบันทึกคำสั่งซื้อเป็นแบบร่างและทำการแก้ไขในภายหลัง ระบบจะอัปเดตการกําหนดราคาทั้งหมดในคำสั่งซื้อโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เป็นปัจจุบัน ณ เวลาที่ทำการแก้ไข

หากหลังจากชําระเงินแล้วบางส่วน แล้วคุณต้องการแก้ไขรายการสินค้าในคำสั่งซื้อ ระบบจะใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศปัจจุบันกับสินค้าที่ถูกแก้ไข

หากคุณต้องการใช้การกําหนดราคาและสกุลเงินอื่นสำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ให้เปลี่ยนตลาด แต่ก่อนอื่น โปรดตรวจสอบดูผลกระทบดังต่อไปนี้ที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนตลาดในการสั่งซื้อ:

  • ภาษีอาจรวมหรือไม่รวมอยู่ในราคาสินค้า ตัวอย่างเช่น คำสั่งซื้อที่อยู่ในตลาดสหรัฐอเมริกาจะไม่รวมภาษีไว้ในราคา แต่คำสั่งซื้อที่อยู่ในตลาดเยอรมนีจะรวมภาษีไว้ในราคาด้วย
  • อัตราภาษีจะแตกต่างกันไปตามตลาด ในขั้นตอนการชำระเงิน หากลูกค้าเปลี่ยนที่อยู่ที่จัดส่งเป็นที่อยู่ซึ่งอยู่นอกตลาด ระบบจะเรียกเก็บภาษีโดยใช้อัตราภาษีที่ถูกต้องสำหรับที่อยู่ที่จัดส่งของลูกค้า แต่ตลาดในคำสั่งซื้อซึ่งมีการตั้งค่าไว้ว่ารวมหรือไม่รวมภาษีนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
  • หากคุณใช้บริการจากภายนอกในการกําหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้กับตลาด ระบบจะระบุการกําหนดราคาในคำสั่งซื้อตามอัตราแลกเปลี่ยนของบริการ อย่างไรก็ตาม อัตราที่ Shopify Payments ใช้ในการคํานวณยอดเงินที่ร้านค้าของคุณจะได้รับนั้นจะอิงจากตลาดที่เลือกไว้ใน Shopify ดังนั้น จํานวนเงินที่เรียกเก็บจากคำสั่งซื้ออาจแตกต่างจากจํานวนเงินที่คุณได้รับในการชำระเงิน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่การแปลงสกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยน
  • ราคาขายปลีกที่ผู้ผลิตแนะนำ (MSRP): ในกรณีที่คุณต้องขายสินค้าตาม MSRP ในตลาดของลูกค้า หากคุณเปลี่ยนตลาดและใช้ราคาตลาดอื่นแทน นั่นอาจเป็นการละเมิดสัญญาได้

เปลี่ยนตลาดให้กับการสั่งซื้อ

หากคุณใช้ Shopify Markets และต้องการเปลี่ยนการกําหนดราคาและสกุลเงินในคำสั่งซื้อของคุณ คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนการกําหนดราคา ส่วน ตลาด ของคำสั่งซื้อของคุณจะปรากฏต่อเมื่อเปิดใช้งานตลาดอื่นที่ไม่ใช่ตลาดหลักของคุณแล้วเท่านั้น หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงการกําหนดราคาของตลาดใดตลาดหนึ่งโดยเฉพาะ คุณจำเป็นต้องเปิดใช้งานตลาดนั้นและสกุลเงินในพื้นที่ของตลาด

ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนแปลงการกําหนดราคา โปรดแน่ใจว่าได้ตรวจสอบผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงการกําหนดราคาแล้ว

ขั้นตอน

  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ > รายการที่ยังไม่ชำระเงิน
  2. คลิกแบบร่างคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
  3. ในส่วนตลาด ให้คลิกที่ไอคอนรูปดินสอ
  4. เลือกตลาดเพื่อใช้การกำหนดราคากับแบบร่างคำสั่งซื้อของคุณ
  5. คลิก เปลี่ยนแปลงการกําหนดราคา
  6. คลิกที่ “บันทึก

ราคาคำสั่งซื้อจะแสดงเป็นสกุลเงินในพื้นที่ของลูกค้า เมื่อคุณทำการเปลี่ยนแปลงแบบกำหนดเองต่อไปนี้กับคำสั่งซื้อ:

  • หากคุณเพิ่มสินค้าเฉพาะรายการหรือส่วนลดคำสั่งซื้อแบบปรับแต่งเอง มูลค่าส่วนลดจะแสดงในสกุลเงินของร้านค้า
  • หากคุณเพิ่มราคาค่าจัดส่งที่กำหนดเอง ระบบจะแสดงราคาเป็นสกุลเงินของร้านค้า
  • หากคุณเพิ่มรายการที่กำหนดเอง ราคาจะปรากฏในสกุลเงินของร้านค้า

หลังจากที่คุณทำการเปลี่ยนแปลงแบบกำหนดเองเหล่านี้แล้ว ระบบจะแสดงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในคำสั่งซื้อด้วยสกุลเงินในพื้นที่ของลูกค้า

การจัดส่งในพื้นที่หรือการรับสินค้าที่ร้าน

หากต้องจัดส่งคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน คุณสามารถเลือกอัตราค่าจัดส่งที่ตั้งไว้ล่วงหน้า สร้างอัตราแบบกำหนดเอง หรือเลือกการจัดส่งในพื้นที่หรือการรับสินค้าที่ร้านก็ได้

หากเลือกวิธีจัดส่งไว้ล่วงหน้าเมื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ลูกค้าจะไม่สามารถแก้ไขวิธีจัดส่งดังกล่าวได้ในขั้นตอนการชำระเงิน โดยจะมีผลกับทั้งลูกค้าแบบธุรกิจสู่ธุรกิจและลูกค้าแบบจำหน่ายสินค้าให้ผู้บริโภคโดยตรง

หากไม่ได้เลือกวิธีจัดส่งไว้ล่วงหน้าเมื่อมีการสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน ลูกค้าสามารถเลือกได้จากอัตราค่าจัดส่งที่พร้อมใช้งานในขั้นตอนการซื้อสินค้าได้ แต่จะไม่สามารถเลือกการจัดส่งในพื้นที่หรือการรับสินค้าที่ร้านได้ หากคุณต้องการให้ลูกค้ามารับสินค้าจากหนึ่งในตำแหน่งที่ตั้งของคุณ คุณต้องเลือกตำแหน่งที่ตั้งในการรับสินค้าที่ร้านไว้ล่วงหน้าเมื่อสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงิน

พร้อมเริ่มต้นการขายด้วย Shopify แล้วหรือยัง

ทดลองใช้งานฟรี