คำถามที่พบบ่อย Shopify POS

ในหน้านี้

Shopify POS ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ใดบ้าง

ข้อควรรู้ด้านความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ iOS และ Android ของแอป Shopify POS

แอป Shopify POS มีให้บริการสำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android เท่านั้น ไม่สามารถใช้งานบนแล็ปท็อป คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป หรือแท็บเล็ต Amazon Fire

แอป Shopify POS จะใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้

รายการของ iPhones, iPads, อุปกรณ์ Android และ POS Go รวมถึงรุ่นและระบบปฏิบัติการที่ต้องใช้ซึ่งใช้งานร่วมกับแอป Shopify POS ได้
อุปกรณ์คำอธิบาย
iPadรุ่นที่ 5 หรือรุ่นที่ใหม่กว่าซึ่งใช้ iPadOS 15 ขึ้นไป
iPad Air รุ่นที่ 2 หรือรุ่นที่ใหม่กว่าซึ่งใช้ iPadOS 15 ขึ้นไป
iPad miniรุ่น 4 หรือรุ่นที่ใหม่กว่าซึ่งใช้ iPadOS 15 ขึ้นไป
iPad ProiPad Pro ทุกรุ่นที่ใช้ iPadOS 15 ขึ้นไป
iPhoneiPhone 7 หรือรุ่นใหม่กว่าซึ่งใช้ iOS 15 ขึ้นไป
POS GoPOS Go ที่ใช้งานการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ Shopify ให้ล่าสุด
Androidโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตที่ใช้ Android ตั้งแต่เวอร์ชัน 10.0 ขึ้นไป พร้อมเปิดใช้บริการ Google Play และ Google Mobile

แอป Shopify POS จะไม่รองรับระบบปฏิบัติการ iOS 14 หรือต่ำกว่าอีกต่อไป สำหรับ iOS เวอร์ชันเก่า คุณสามารถใช้แอปต่อไปได้ แต่จะไม่สามารถอัปเดตได้อีกต่อไป หากต้องการรับประโยชน์จากการแก้ไขบั๊กและฟีเจอร์ใหม่ๆ คุณต้องอัปเดตอุปกรณ์ของคุณให้เป็น iOS 15 ขึ้นไป หากไม่สามารถทำได้ ให้สลับไปใช้ Shopify POS บนอุปกรณ์อื่นที่ใช้ iOS 15 ขึ้นไป

เหตุใดฉันจึงต้องอัปเดตแอป Shopify POS ของฉัน

คุณจะต้องหมั่นอัปเดตแอป Shopify POS ให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบันทุกๆ 180 วันเพราะการอัปเดตซอฟต์แวร์จะทำให้คุณได้ใช้ฟีเจอร์ล่าสุดและช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดจากซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัยได้ เพื่อไม่ให้สูญเสียสิทธิ์ในการเข้าถึงแอป Shopify POS ให้เปิดการอัปเดตอัตโนมัติ

ความแตกต่างระหว่าง Shopify POS กับ POS Pro คืออะไร

Shopify POS คือแอประบบขายหน้าร้านที่มีฟีเจอร์มากมายสำหรับรองรับร้านค้าปลีกที่มีหน้าร้านจริงของคุณ คุณสามารถใช้งานแอป Shopify POS ได้ในทุกแผนการสมัครใช้งาน

Shopify POS Pro เป็นส่วนขยายสำหรับ Shopify POS ที่จะปลดล็อกฟีเจอร์เพิ่มเติมสำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้าน เมื่อเริ่มใช้ Shopify POS คุณจะสามารถทดลองใช้ฟีเจอร์ของ Pro ได้ฟรี 3 วัน ในช่วงเวลานั้น คุณสามารถเลือกที่จะใช้งานฟีเจอร์ของเวอร์ชัน Pro สำหรับร้านค้าปลีกของคุณต่อไปได้โดยชำระค่าบริการรายเดือนเพิ่มเติม มิฉะนั้น แอปของคุณจะเปลี่ยนกลับเป็น Shopify POS เวอร์ชันฟรีโดยอัตโนมัติ ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ

ทำไมฉันต้องมีร้านค้า Shopify หากฉันไม่ต้องการขายออนไลน์

ร้านค้า Shopify คือที่ที่คุณสามารถจัดการข้อมูล เช่น ลูกค้า สินค้าคงคลัง และรายละเอียดบัญชีผู้ใช้ของคุณได้ ไม่ว่าคุณขายสินค้าอะไรก็ตาม แอป Shopify POS จะจัดการกิจกรรมที่เกี่ยวกับลูกค้ารวมถึงการตั้งค่าในร้านค้าให้คุณ

ฉันต้องการอะไรนอกเหนือจากแอป

คุณเพียงต้องมีอุปกรณ์ที่รองรับ แอป Shopify POS ร้านค้า Shopify (ซึ่งคุณสามารถสร้างในแอปได้) และสินค้าที่ต้องการขายเท่านั้น Shopify POS ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ค้าปลีกได้หลากหลายประเภท เช่น ลิ้นชักเก็บเงิน แท่นวาง iPad เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ และเครื่องสแกนบาร์โค้ด แต่คุณก็สามารถดำเนินการขายได้โดยไม่ต้องมีฮาร์ดแวร์เหล่านี้ ทั้งนี้ คุณสามารถสามารถหาซื้อฮาร์ดแวร์ Shopify POS ได้จากร้านค้าฮาร์ดแวร์ของ Shopify ในบางประเทศ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ร้านค้าฮาร์ดแวร์ของ Shopify

พินพนักงานคืออะไร

Shopify POS จะใช้พินพนักงานที่มีหมายเลขระบุตัวตนสี่หลัก (PIN) ที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเข้าถึงแอป Shopify POS

เมื่อพนักงานที่เข้าสู่ระบบดำเนินการชำระเงินผ่าน Shopify POS ชื่อของพนักงานรายนั้นจะผูกไว้กับคำสั่งซื้อดังกล่าว ซึ่งคุณสามารถดูว่าพนักงานคนใดเป็นผู้ดำเนินการคำสั่งซื้อได้ในมุมมองรายละเอียดของคำสั่งซื้อใน Shopify POS และในไทม์ไลน์คำสั่งซื้อในส่วนผู้ดูแล Shopify

หากคุณไม่แน่ใจว่ารหัสพินที่มอบให้พนักงานคืออะไร คุณก็สามารถตั้งพินพนักงานใหม่ได้ในส่วนผู้ดูแล

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. ไปที่การตั้งค่าในส่วนผู้ดูแล Shopify
  2. คลิก “ผู้ใช้และสิทธิ์อนุญาต
  3. คลิกที่ชื่อบัญชีผู้ใช้ของพนักงานที่คุณต้องการแก้ไข
  4. ในส่วนการเข้าถึงระบบขายหน้าร้าน ให้เปิดใช้สิทธิ์อนุญาต “ให้สิทธิ์การเข้าถึงระบบขายหน้าร้านแก่พนักงานรายนี้
  5. ในส่วน “พิน” ให้ป้อนพิน 4 หลักหรือคลิก “สร้างพินใหม่” เพื่อให้พนักงานสามารถใช้รหัสพินนั้นเข้าสู่ระบบ Shopify POS ได้
  6. แล้วคลิกที่บันทึก

ฉันต้องขายสินค้าเดียวกันในร้านค้ากับที่ขายในออนไลน์หรือไม่

ไม่ต้อง เมื่อคุณเพิ่มสินค้าในส่วนผู้ดูแล Shopify คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการลงขายในร้านค้าจริง บนออนไลน์ หรือทั้งสองแห่ง

แอปใช้งานได้ในทุกประเทศและทุกสกุลเงินหรือไม่

เกือบทุกที่ คุณสามารถใช้ Shopify POS ได้ทั่วโลก แต่ร้านค้าของคุณต้องอยู่ในประเทศที่ Shopify มีผู้ให้บริการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตที่รองรับ

เหตุใดสินค้าบางรายการ (หรือทั้งหมด) ของฉันจึงขาดหายไปจาก Shopify POS

หากคุณไม่ได้เพิ่มสินค้าของคุณไปยังช่องทางการขาย POS ในส่วนผู้ดูแล Shopify ระบบจะไม่ระบุชื่อสินค้าของคุณในแอป แต่หากคุณเพิ่มสินค้าแล้วแต่สินค้ายังไม่ปรากฏ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เข้าสู่ระบบในตำแหน่งที่ตั้งที่ถูกต้อง

ฉันจะทำให้สินค้าพร้อมจำหน่ายเฉพาะใน Shopify POS ได้อย่างไร

คุณสามารถเปลี่ยนความพร้อมจำหน่ายของสินค้าได้จากหน้าสินค้า ซึ่งอยู่ในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ

หากต้องการเปลี่ยนความพร้อมจำหน่ายของสินค้าแต่ละรายการ ให้คลิกที่สินค้าและแก้ไขความพร้อมจำหน่ายของสินค้า เพื่อให้มีการเลือกการขายสินค้าเฉพาะ Point of Sale เท่านั้น คลิก “เสร็จสิ้น” จากนั้นคลิก “บันทึก

หากต้องการเปลี่ยนความพร้อมจำหน่ายของสินค้าหลายชิ้น ให้เลือกสินค้าที่คุณต้องการแก้ไขจากนั้นคลิกการดำเนินการ แล้วเลือกทำให้สินค้าพร้อมจำหน่าย จากนั้นจึงเปลี่ยนความพร้อมจำหน่ายโดยเลือกเพียง Point of Sale เท่านั้น จากนั้นจึงคลิกทำให้สินค้าพร้อมจำหน่าย

Shopify POS รองรับภาษาใดบ้าง

Shopify POS รองรับภาษาต่อไปนี้:

  • จีน (ตัวย่อ)
  • จีน (ตัวเต็ม)
  • ภาษาเช็ก
  • เดนมาร์ก
  • ดัตช์
  • อังกฤษ
  • ภาษาฟินแลนด์
  • ฝรั่งเศส
  • เยอรมัน
  • อิตาลี
  • ญี่ปุ่น
  • ภาษาเกาหลี
  • Norwegian Bokmal
  • ภาษาโปแลนด์
  • โปรตุเกส (บราซิล)
  • ภาษาโปรตุเกส (โปรตุเกส)
  • สเปน
  • ภาษาสวีเดน
  • ภาษาไทย
  • ภาษาตุรกี

หากต้องการเปลี่ยนภาษาของแอป Shopify POS คุณจะต้องเปลี่ยนภาษาของอุปกรณ์ iOS ผ่านการตั้งค่า iOS

ขั้นตอนมีดังนี้

iOS
  1. ปิดแอป Shopify POS
  2. ใน iPad ของคุณให้แตะที่การตั้งค่า > ทั้วไป > ภาษาและภูมิภาค
  3. แตะที่ภาษา iPadจากนั้นเลือกภาษาที่คุณต้องการจากรายการแล้วแตะที่เสร็จสิ้น
  4. แตะเปลี่ยนเป็น (ภาษาที่เลือก)
Android
  1. ปิดแอป Shopify POS
  2. ในอุปกรณ์ของคุณ ให้แตะการตั้งค่า > ระบบ > ภาษาและการป้อนข้อมูล
  3. แตะภาษาและภูมิภาคแล้วเลือกภาษาที่ต้องการจากรายการดังกล่าว
  4. ตัวเลือกเสริม: หากไม่มีภาษาที่ต้องการปรากฏในรายการ ให้แตะเพิ่มภาษาแล้วเลือกภาษาที่ต้องการ

คุณอาจใช้งานภาษาอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ในนี้ได้ แต่ระบบจะไม่รองรับภาษาเหล่านั้นและอาจทำให้คำแปลตกหล่น ซึ่งคำแปลที่ตกหล่นนั้นจะปรากฏเป็นภาษาอังกฤษตามค่าเริ่มต้นแทน

ฉันควรอย่างไรหากเครื่องอ่านบัตร POS ถูกขโมย

ควรยกเลิกการจับคู่เครื่องอ่านบัตร POS ที่ไม่ได้ใช้งาน สูญหาย หรือถูกขโมยจากแอป Shopify POS

ขั้นตอนมีดังนี้

  1. แตะ และไปที่การตั้งค่าในแอป POS
  2. คลิก จัดการฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่อ
  3. ค้นหาเครื่องอ่านบัตรและเลือก ลืม
  4. ไปที่การตั้งค่า Bluetooth ของอุปกรณ์ iOS หรือ Android และลืมเครื่องอ่านบัตร

คุณสามารถซื้อฮาร์ดแวร์ Shopify POS มาเปลี่ยนทดแทนได้จากร้านค้าฮาร์ดแวร์ของ Shopify

ฉันจะรักษาความปลอดภัยของเครื่องอ่านบัตรของฉันได้อย่างไร

รักษาเครื่องอ่านบัตรของคุณให้ปลอดภัยโดยปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  • เฝ้าระวังพฤติกรรมน่าสงสัยที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ เช่น การที่บุคคลที่ไม่รู้จักพยายามถอดปลั๊กหรือเปิดอุปกรณ์ ตรวจสอบยืนยันตัวตนของบุคคลภายนอกที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ซ่อมแซมหรือบํารุงรักษา Shopify ไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปซ่อมบำรุงอุปกรณ์เหล่านี้
  • รายงานพฤติกรรมน่าสงสัยและสิ่งที่บ่งชี้ว่าอุปกรณ์ POS อาจถูกปรับเปลี่ยนหรือถูกแทนที่ให้เจ้าของบัญชีผู้ใช้ Shopify ทราบ ตัวอย่างของสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปกรณ์อาจถูกปรับเปลี่ยนหรือถูกแทนที่ ได้แก่ การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นที่ไม่คาดคิดหรือการถอดสายเชื่อมต่อออกจากอุปกรณ์ ฉลากรับรองความปลอดภัยหายไปหรือถูกเปลี่ยน โครงอุปกรณ์แตกหรือเปลี่ยนสี หรือการเปลี่ยนแปลงของหมายเลขซีเรียลหรือเครื่องหมายภายนอกอื่นๆ
  • ตรวจสอบอุปกรณ์ POS เป็นระยะๆ เพื่อตรวจหาการดัดแปลง (ตัวอย่างเช่น การติดตั้งเครื่องอ่านบัตรเข้ากับอุปกรณ์) หรือการแทนที่ (ตัวอย่างเช่น การตรวจสอบหมายเลขลำดับประจำสินค้าหรือคุณลักษณะอื่นๆ ของอุปกรณ์ เพื่อยืนยันว่าไม่มีการนำอุปกรณ์โจรกรรมมาแทนที่อุปกรณ์นี้) ห้ามใช้อุปกรณ์ POS ที่อาจถูกดัดแปลงจนกว่าจะมีการตรวจสอบอุปกรณ์ดังกล่าว

คุณต้องรับผิดชอบในการบํารุงรักษาเครื่องอ่านบัตร POS ที่มีทั้งหมดในอินเทอร์เฟสผู้ดูแลระบบร้านค้า

หากอุปกรณ์ถูกดัดแปลง ให้ลบอุปกรณ์ดังกล่าวออกจากอุปกรณ์ POS ของคุณในอินเทอร์เฟสการตั้งค่า ในแอป POS ให้แตะที่ เลือก การตั้งค่า > จัดการฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่อ ค้นหาอุปกรณ์ แล้วเลือก “ลืม

หากมีการใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการดัดแปลงในการบันทึกข้อมูลการชำระเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตอาจถูกโจรกรรมได้ คุณมีหน้าที่ต้องรายงานข้อมูลการชำระเงินที่ถูกโจรกรรมไปยังผู้ให้บริการชำระเงิน (และ/หรือแบรนด์ของบัตรนั้นๆ) ตามขั้นตอนการรับมือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่กำหนดไว้ และตามข้อกำหนดของ PCI DSS เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน PCI

ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ