การเลือกการตั้งค่าการจัดการร้านค้า
ก่อนจะเปิดร้านค้าให้ลูกค้าเยี่ยมชม คุณต้องปฏิบัติงานต่างๆ เหล่านี้ก่อน
- เพิ่มประเภทบรรจุภัณฑ์
- เลือกวิธีการชำระเงินที่คุณรองรับหรือสถานที่ที่คุณรับชำระเงิน
- ปรับแต่งการตั้งค่าภาษีของคุณ
- เพิ่มนโยบายร้านค้าของคุณไปยังหน้าการชำระเงิน
ในหน้านี้
เพิ่มประเภทบรรจุภัณฑ์
คุณสามารถบันทึกขนาดและน้ำหนักลงในประเภทบรรจุภัณฑ์ที่คุณต้องการได้บนหน้า การจัดส่งและส่งมอบ การตั้งค่าในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ
ระบบไปรษณีย์บางประเภทมีข้อจำกัดด้านขนาดของบรรจุภัณฑ์ที่คุณใช้ในการจัดส่งสินค้า ประกาศเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านขนาดที่มีผลบังคับใช้จะปรากฏขึ้นในกล่องโต้ตอบเมื่อคุณสร้างประเภทบรรจุภัณฑ์ใหม่
หากคุณใส่ขนาดและน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์ อัตราค่าจัดส่งที่คำนวณแล้วของคุณจะตรงตามอัตราจริงยิ่งขึ้น
ขั้นตอน:
เดสก์ท็อป
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การจัดส่งและส่งมอบ
ในส่วนบรรจุภัณฑ์ที่บันทึก ให้คลิกที่เพิ่มบรรจุภัณฑ์
ในช่อง ชื่อบรรจุภัณฑ์ ให้ตั้งชื่อบรรจุภัณฑ์ของคุณ
ในส่วน ประเภทบรรจุภัณฑ์ ให้เลือกประเภทบรรจุภัณฑ์ของคุณ
เพิ่มขนาดและน้ําหนักของบรรจุภัณฑ์
ตัวเลือกเสริม: หากคุณต้องการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เริ่มต้นของร้านค้าเป็นบรรจุภัณฑ์นี้ ให้เลือกใช้บรรจุภัณฑ์นี้ในการคำนวณอัตราค่าจัดส่งในขั้นตอนการชำระเงิน
คลิกเพิ่มบรรจุภัณฑ์
iPhone
- จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “…” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า”
- ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ “การจัดส่งและส่งมอบ ”
- ในส่วนบรรจุภัณฑ์ที่บันทึก ให้แตะที่ “เพิ่มบรรจุภัณฑ์”
-
ป้อนข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับประเภทบรรจุภัณฑ์
- ในช่อง ชื่อบรรจุภัณฑ์ ให้ตั้งชื่อบรรจุภัณฑ์ของคุณ
- ในส่วน ประเภทบรรจุภัณฑ์ ให้เลือกประเภทบรรจุภัณฑ์ของคุณ
- เพิ่มขนาดและน้ําหนักของบรรจุภัณฑ์
ตัวเลือกเสริม: หากคุณต้องการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เริ่มต้นของร้านค้าเป็นบรรจุภัณฑ์นี้ ให้เลือกใช้บรรจุภัณฑ์นี้ในการคำนวณอัตราค่าจัดส่งในขั้นตอนการชำระเงิน
แตะ “เพิ่มบรรจุภัณฑ์”
Android
- จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “…” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า”
- ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ “การจัดส่งและส่งมอบ ”
- ในส่วนบรรจุภัณฑ์ที่บันทึก ให้แตะที่ “เพิ่มบรรจุภัณฑ์”
-
ป้อนข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับประเภทบรรจุภัณฑ์
- ในช่อง ชื่อบรรจุภัณฑ์ ให้ตั้งชื่อบรรจุภัณฑ์ของคุณ
- ในส่วน ประเภทบรรจุภัณฑ์ ให้เลือกประเภทบรรจุภัณฑ์ของคุณ
- เพิ่มขนาดและน้ําหนักของบรรจุภัณฑ์
ตัวเลือกเสริม: หากคุณต้องการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เริ่มต้นของร้านค้าเป็นบรรจุภัณฑ์นี้ ให้เลือกใช้บรรจุภัณฑ์นี้ในการคำนวณอัตราค่าจัดส่งในขั้นตอนการชำระเงิน
แตะ “เพิ่มบรรจุภัณฑ์”
ตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้ง (ไม่บังคับ)
หากคุณมีแผนจัดการสินค้าคงคลังและจัดการคำสั่งซื้อต่างๆ แบบครบวงจรจากสถานที่ต่างๆ คุณสามารถตั้งค่าในส่วนตำแหน่งที่ตั้งได้ หลังจากตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้งต่างๆ แล้ว ในกรณีที่สินค้าหมดสต็อกจากที่หนึ่ง แต่ยังมีสินค้าคงคลังอยู่อีกที่หนึ่ง ระบบจะแบ่งคำสั่งซื้อเพื่อให้สามารถจัดการได้จนครบจากหลายตำแหน่งที่ตั้ง
ตำแหน่งที่ตั้งของคุณสามารถเป็นร้านค้าปลีก คลังสินค้า ร้านป๊อปอัป ซัพพลายเออร์ดรอปชิป หรือสถานที่ใดๆ ที่คุณจัดการหรือเติมสินค้าไว้ การใช้ฟีเจอร์หลายตำแหน่งที่ตั้งจะทำให้คุณทราบถึงข้อมูลสินค้าคงคลังสำหรับธุรกิจของคุณได้อย่างดียิ่งขึ้น
สำหรับแผน Shopify ส่วนใหญ่แล้ว คุณสามารถมีตำแหน่งที่ตั้งได้มากถึงหกที่พร้อมกัน
สร้างตำแหน่งที่ตั้ง
คุณสามารถเพิ่มตำแหน่งที่ตั้งได้ สินค้าคงคลังของคุณจะพร้อมจำหน่ายสำหรับการซื้อทางออนไลน์ตามค่าเริ่มต้นในแต่ละตำแหน่งที่ตั้งใหม่
หากคุณเปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ได้หลังจากที่คุณสร้างตำแหน่งที่ตั้งแล้ว คุณสามารถดำเนินการดังต่อไปนี้จากหน้าตำแหน่งที่ตั้งได้
- ดูวิธีการจัดส่งที่พร้อมสำหรับตำแหน่งที่ตั้ง
- ดูวิธีการจัดส่งที่เปิดใช้งานสำหรับตำแหน่งที่ตั้ง
- กำหนดค่าวิธีการจัดส่งสำหรับตำแหน่งที่ตั้ง
หลังจากสร้างตำแหน่งที่ตั้งเสร็จสิ้น ตำแหน่งที่ตั้งของคุณจะปรากฏที่บริเวณด้านล่างของรายการลำดับความสำคัญการจัดการคำสั่งซื้อ หากคุณมีตำแหน่งที่ตั้งที่เปิดใช้งานมากกว่าหนึ่งแห่ง คุณจำเป็นต้องระบุลำดับความสำคัญสำหรับการจัดการคำสั่งซื้อด้วย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการคำสั่งซื้อในหลายตำแหน่งที่ตั้ง ให้อิงตามการตั้งค่าการจัดการคำสั่งซื้อสำหรับตำแหน่งที่ตั้ง
วิธีการ:
เดสก์ท็อป
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > ตำแหน่งที่ตั้ง
ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้คลิกที่เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง
-
ในส่วนรายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง ให้เพิ่มชื่อและที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้งของคุณ:
- ในส่วนชื่อ ให้คลิกเพิ่ม
- ป้อนชื่อตำแหน่งที่ตั้ง แล้วคลิกเสร็จสิ้น
- ในส่วนที่อยู่ ให้คลิกเพิ่ม
- ป้อนที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นคลิกบันทึก
ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการให้สินค้าคงคลังของคุณพร้อมจำหน่ายสำหรับการซื้อทางออนไลน์ในตำแหน่งที่ตั้งนี้ ให้ปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ โดยตัวเลือกนี้จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับตำแหน่งที่ตั้งใหม่แต่ละแห่ง
คลิกบันทึก
iPhone
- จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม … จากนั้นจึงแตะที่ การตั้งค่า
- ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
- ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง
-
ในส่วนรายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง ให้เพิ่มชื่อและที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้งของคุณ:
- ในส่วนชื่อ ให้แตะเพิ่ม
- ป้อนชื่อตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะบันทึก
- ในส่วนที่อยู่ แตะที่เพิ่ม
- ป้อนที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะบันทึก
ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการให้สินค้าคงคลังของคุณพร้อมจำหน่ายสำหรับการซื้อทางออนไลน์ในตำแหน่งที่ตั้งนี้ ให้ปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ โดยตัวเลือกนี้จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับตำแหน่งที่ตั้งใหม่แต่ละแห่ง
แตะบันทึก
Android
- จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “☰” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า”
- ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
- ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง
-
ในส่วนรายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง ให้เพิ่มชื่อและที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้งของคุณ:
- ในส่วนชื่อ ให้แตะเพิ่ม
- ป้อนชื่อตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะบันทึก
- ในส่วนที่อยู่ แตะที่เพิ่ม
- ป้อนที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะบันทึก
ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการให้สินค้าคงคลังของคุณพร้อมจำหน่ายสำหรับการซื้อทางออนไลน์ในตำแหน่งที่ตั้งนี้ ให้ปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ โดยตัวเลือกนี้จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับตำแหน่งที่ตั้งใหม่แต่ละแห่ง
แตะบันทึก
ตั้งค่าวิธีการชำระเงิน
Shopify รองรับวิธีการชำระเงินหลากหลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายที่สุดในการรับการชำระเงินออนไลน์คือการใช้ Shopify Payments
Shopify Payments ช่วยให้คุณไม่ต้องตั้งค่าผู้ให้บริการชำระเงินจากภายนอก หรือบัญชีผู้ขายสินค้าในการยอมรับการชำระเงิน Shopify Payments พร้อมผสานการทำงานเข้ากับร้านค้า และเปิดโอกาสให้คุณสามารถจัดการธุรกิจและการเงินของคุณได้ในที่เดียว
วิธีการ:
เดสก์ท็อป
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การชำระเงิน
-
เปิดใช้งาน Shopify Payments ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
- หากคุณยังไม่ได้ตั้งค่าผู้ให้บริการการชำระเงินในบัญชีของคุณ ให้คลิกที่ “ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ให้เสร็จสิ้น” ในส่วน Shopify Payments
- หากคุณเปิดใช้งานผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่น ให้คลิกที่ “เปิดใช้งาน Shopify Payments“ ในกล่อง Shopify Payments จากนั้นให้ เปิดใช้งาน Shopify Payments ในกล่องโต้ตอบ การดำเนินการนี้จะลบผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่นออกจากบัญชีผู้ใช้ของคุณ
ป้อนรายละเอียดที่จำเป็นเกี่ยวกับ ร้านค้าและข้อมูลการธนาคารของคุณ จากนั้นคลิก บันทึก
คลิกเสร็จสิ้นการตั้งค่าบัญชีผู้ใช้
iPhone
- จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม … จากนั้นจึงแตะที่ การตั้งค่า
- ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ “การชำระเงิน”
-
เปิดใช้งาน Shopify Payments ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
- หากคุณยังไม่ได้ตั้งค่าผู้ให้บริการการชำระเงินในบัญชีของคุณ ให้แตะที่ “ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ให้เสร็จสิ้น” ในส่วน Shopify Payments
- หากคุณเปิดใช้งานผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่น ให้แตะที่ “เปิดใช้งาน Shopify Payments“ ในกล่อง Shopify Payments จากนั้นให้เปิดใช้งาน Shopify Payments ในกล่องโต้ตอบ การดำเนินการนี้จะลบผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่นออกจากบัญชีผู้ใช้ของคุณ
ป้อนรายละเอียดที่จำเป็นเกี่ยวกับร้านค้าและข้อมูลการธนาคารของคุณ จากนั้นแตะ “บันทึก”
แตะที่ “เสร็จสิ้นการตั้งค่าบัญชีผู้ใช้”
Android
- จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม … จากนั้นจึงแตะที่ การตั้งค่า
- ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ “การชำระเงิน”
-
เปิดใช้งาน Shopify Payments ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
- หากคุณยังไม่ได้ตั้งค่าผู้ให้บริการการชำระเงินในบัญชีของคุณ ให้แตะที่ “ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ให้เสร็จสิ้น” ในส่วน Shopify Payments
- หากคุณเปิดใช้งานผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่น ให้แตะที่ “เปิดใช้งาน Shopify Payments“ ในกล่อง Shopify Payments จากนั้นให้เปิดใช้งาน Shopify Payments ในกล่องโต้ตอบ การดำเนินการนี้จะลบผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่นออกจากบัญชีผู้ใช้ของคุณ
ป้อนรายละเอียดที่จำเป็นเกี่ยวกับร้านค้าและข้อมูลการธนาคารของคุณ จากนั้นแตะ “บันทึก”
แตะที่ “เสร็จสิ้นการตั้งค่าบัญชีผู้ใช้”
หลังจากตั้งค่า Shopify Payments เรียบร้อย คุณสามารถกำหนดค่าต่างๆ หรือสร้างธุรกรรมสำหรับทดสอบบนร้านค้าของคุณได้
ตั้งค่าภาษี
ในฐานผู้ขายสินค้า คุณจำเป็นต้องเพิ่มภาษีให้กับการขายของคุณ จากนั้นให้รายงานและยื่นภาษีเหล่านี้ให้รัฐบาลของคุณทราบ แม้ว่ากฎหมายภาษีอากรจะมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง คุณสามารถตั้งค่าให้ Shopify จัดการกับการคำนวณภาษีการค้าทั่วไปเหล่านี้ได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถตั้งค่าการกำหนดภาษีเองเพื่อจัดการกับกฎหมายภาษีอากรและสถานการณ์เฉพาะอื่นๆ ได้อีกด้วย
Shopify ใช้อัตราภาษีการขายเริ่มต้นหลากหลายอัตรา ซึ่งได้รับการอัปเดตเป็นประจำ หากคุณใช้อัตราเริ่มต้น อย่าลืมตรวจสอบยืนยันให้แน่ใจว่าอัตราดังกล่าวเป็นปัจจุบันและถูกต้อง คุณสามารถกำหนดภาษีต่างๆ ได้ตลอดเวลาเมื่อมีความจำเป็น
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งค่าภาษีของร้านค้าคุณมีความถูกต้อง และอย่าลืมยื่นภาษีให้แก่ร้านค้าของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษี
กระบวนการทั่วไปสำหรับการตั้งค่าภาษี
ขั้นตอนการตั้งค่าภาษีนั้นไม่มีรูปแบบที่ตายตัว ฉะนั้นแล้ว ให้ลองใช้ขั้นตอนเหล่านี้เป็นคำแนวทาง
- หากคุณเป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์ ให้ลองตั้งค่าประเทศเป้าหมายที่คุณจะจัดส่งสินค้า
- หากคุณใช้ Shopify POS ในการขายสินค้าด้วยตนเองให้ตั้งค่าอัตราภาษีโดยอิงตามที่ตั้งร้านค้าปลีกของคุณ อัตราภาษี POS เริ่มต้นจะอิงตามตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีการขายที่หน้าร้าน
-
กำหนดอัตราภาษีในให้กับประเทศหรือภูมิภาคที่คุณต้องการขายและส่งสินค้าไป
- หากคุณอยู่ใน สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร นอรเวย์ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือสิงคโปร์ ซึ่งใช้ภาษีตามการจดทะเบียน ให้ป้อนหมายเลขจดทะเบียนภาษีของคุณเพื่อเก็บภาษี
- หากคุณอยู่ในภูมิภาคที่ใช้ภาษีตามตำแหน่งที่ตั้ง ให้ใช้ค่าเริ่มต้นหรือระบุอัตราภาษีของประเทศและภูมิภาค นอกจากนี้ ให้ระบุว่าคุณจะเรียกเก็บภาษีสำหรับการจัดส่งหรือไม่
หากคุณขายสินค้าที่จับต้องไม่ได้ ให้กำหนดภาษีต่างๆ เพื่อนำไปใช้กับรายการเหล่านั้น
แทนที่อัตราภาษีหรือยกเว้นภาษีให้กับผลิตภัณฑ์ที่จำเป็น การแทนที่ที่คุณตั้งค่าจะถูกใช้กับยอดขายออนไลน์และยอดขาย Shopify POS
ตัวเลือกเสริม: รวมภาษีในราคาสินค้าทั้งหมดของคุณ เมื่อเปิดใช้งานตัวเลือกนี้แล้ว จะไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายทางภาษีเพิ่มเติมในขั้นตอนการชำระเงินของลูกค้า แต่จะมีการคำนวณเพื่อกำหนดเปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้าที่จะเป็นภาษี
ระหว่างตั้งค่าภาษี คุณสามารถเข้าถึงและตรวจสอบการตั้งค่าของคุณได้ในหน้าภาษีและอากรในส่วนผู้ดูแล Shopify
เพิ่มนโยบายร้านค้าของคุณ
ก่อนที่ลูกค้าจะซื้อสินค้า พวกเขาจำเป็นต้องเข้าถึงนโยบายสำหรับการคืนเงิน ความเป็นส่วนตัว และเงื่อนไขในการใช้บริการร้านค้าของคุณก่อน
คุณจำเป็นต้องเพิ่มนโยบายร้านค้าโดยใช้เว็บเพจแยกต่างหาก นโยบายของคุณจะปรากฏเป็นลิงก์ที่บริเวณด้านล่างของหน้าการชำระเงิน
วิธีการ:
ในแท็บหรือหน้าต่างเบราว์เซอร์ใหม่ ให้ไปยังหน้าเพจ
จากส่วนการตั้งค่าการชำระเงินร้านค้าของคุณ ให้คัดลอกนโยบายแต่ละข้อไปยังคลิปบอร์ด
วางเนื้อหาคลิปบอร์ดบนเพจใหม่นั้น
คลิกบันทึกเพจ
เพิ่มลิงก์ไปยังหน้านโยบายของคุณเพื่อให้ลูกค้าสามารถหาค้นหน้าดังกล่าวได้
ขั้นตอนถัดไป
หลังจากเลือกการตั้งค่าการจัดการร้านค้าแล้ว คุณสามารถเตรียมเปิดใช้งานร้านค้าของคุณได้