การเลือกการตั้งค่าการจัดการร้านค้า

ก่อนจะเปิดร้านค้าให้ลูกค้าเยี่ยมชม คุณต้องปฏิบัติงานต่างๆ เหล่านี้ก่อน

  • เพิ่มประเภทบรรจุภัณฑ์
  • เลือกวิธีการชำระเงินที่คุณรองรับหรือสถานที่ที่คุณรับชำระเงิน
  • ปรับแต่งการตั้งค่าภาษีของคุณ
  • เพิ่มนโยบายร้านค้าของคุณไปยังหน้าการชำระเงิน

เพิ่มประเภทบรรจุภัณฑ์

คุณสามารถบันทึกขนาดและน้ำหนักลงในประเภทบรรจุภัณฑ์ที่คุณต้องการได้บนหน้า การจัดส่งและส่งมอบ การตั้งค่าในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ

ระบบไปรษณีย์บางประเภทมีข้อจำกัดด้านขนาดของบรรจุภัณฑ์ที่คุณใช้ในการจัดส่งสินค้า ประกาศเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านขนาดที่มีผลบังคับใช้จะปรากฏขึ้นในกล่องโต้ตอบเมื่อคุณสร้างประเภทบรรจุภัณฑ์ใหม่

หากคุณใส่ขนาดและน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์ อัตราค่าจัดส่งที่คำนวณแล้วของคุณจะตรงตามอัตราจริงยิ่งขึ้น

ขั้นตอน:

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การจัดส่งและส่งมอบ

  2. ในส่วนบรรจุภัณฑ์ที่บันทึก ให้คลิกที่เพิ่มบรรจุภัณฑ์

  3. ในช่อง ชื่อบรรจุภัณฑ์ ให้ตั้งชื่อบรรจุภัณฑ์ของคุณ

  4. ในส่วน ประเภทบรรจุภัณฑ์ ให้เลือกประเภทบรรจุภัณฑ์ของคุณ

  5. เพิ่มขนาดและน้ําหนักของบรรจุภัณฑ์

  6. ตัวเลือกเสริม: หากคุณต้องการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เริ่มต้นของร้านค้าเป็นบรรจุภัณฑ์นี้ ให้เลือกใช้บรรจุภัณฑ์นี้ในการคำนวณอัตราค่าจัดส่งในขั้นตอนการชำระเงิน

  7. คลิกเพิ่มบรรจุภัณฑ์

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ “การจัดส่งและส่งมอบ
  3. ในส่วนบรรจุภัณฑ์ที่บันทึก ให้แตะที่ “เพิ่มบรรจุภัณฑ์
  4. ป้อนข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับประเภทบรรจุภัณฑ์

    1. ในช่อง ชื่อบรรจุภัณฑ์ ให้ตั้งชื่อบรรจุภัณฑ์ของคุณ
    2. ในส่วน ประเภทบรรจุภัณฑ์ ให้เลือกประเภทบรรจุภัณฑ์ของคุณ
    3. เพิ่มขนาดและน้ําหนักของบรรจุภัณฑ์
  5. ตัวเลือกเสริม: หากคุณต้องการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เริ่มต้นของร้านค้าเป็นบรรจุภัณฑ์นี้ ให้เลือกใช้บรรจุภัณฑ์นี้ในการคำนวณอัตราค่าจัดส่งในขั้นตอนการชำระเงิน

  6. แตะ “เพิ่มบรรจุภัณฑ์

Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ “การจัดส่งและส่งมอบ
  3. ในส่วนบรรจุภัณฑ์ที่บันทึก ให้แตะที่ “เพิ่มบรรจุภัณฑ์
  4. ป้อนข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับประเภทบรรจุภัณฑ์

    1. ในช่อง ชื่อบรรจุภัณฑ์ ให้ตั้งชื่อบรรจุภัณฑ์ของคุณ
    2. ในส่วน ประเภทบรรจุภัณฑ์ ให้เลือกประเภทบรรจุภัณฑ์ของคุณ
    3. เพิ่มขนาดและน้ําหนักของบรรจุภัณฑ์
  5. ตัวเลือกเสริม: หากคุณต้องการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เริ่มต้นของร้านค้าเป็นบรรจุภัณฑ์นี้ ให้เลือกใช้บรรจุภัณฑ์นี้ในการคำนวณอัตราค่าจัดส่งในขั้นตอนการชำระเงิน

  6. แตะ “เพิ่มบรรจุภัณฑ์

ตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้ง (ไม่บังคับ)

หากคุณมีแผนจัดการสินค้าคงคลังและจัดการคำสั่งซื้อต่างๆ แบบครบวงจรจากสถานที่ต่างๆ คุณสามารถตั้งค่าในส่วนตำแหน่งที่ตั้งได้ หลังจากตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้งต่างๆ แล้ว ในกรณีที่สินค้าหมดสต็อกจากที่หนึ่ง แต่ยังมีสินค้าคงคลังอยู่อีกที่หนึ่ง ระบบจะแบ่งคำสั่งซื้อเพื่อให้สามารถจัดการได้จนครบจากหลายตำแหน่งที่ตั้ง

ตำแหน่งที่ตั้งของคุณสามารถเป็นร้านค้าปลีก คลังสินค้า ร้านป๊อปอัป ซัพพลายเออร์ดรอปชิป หรือสถานที่ใดๆ ที่คุณจัดการหรือเติมสินค้าไว้ การใช้ฟีเจอร์หลายตำแหน่งที่ตั้งจะทำให้คุณทราบถึงข้อมูลสินค้าคงคลังสำหรับธุรกิจของคุณได้อย่างดียิ่งขึ้น

สำหรับแผน Shopify ส่วนใหญ่แล้ว คุณสามารถมีตำแหน่งที่ตั้งได้มากถึงหกที่พร้อมกัน

สร้างตำแหน่งที่ตั้ง

คุณสามารถเพิ่มตำแหน่งที่ตั้งได้ สินค้าคงคลังของคุณจะพร้อมจำหน่ายสำหรับการซื้อทางออนไลน์ตามค่าเริ่มต้นในแต่ละตำแหน่งที่ตั้งใหม่

หากคุณเปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ได้หลังจากที่คุณสร้างตำแหน่งที่ตั้งแล้ว คุณสามารถดำเนินการดังต่อไปนี้จากหน้าตำแหน่งที่ตั้งได้

  • ดูวิธีการจัดส่งที่พร้อมสำหรับตำแหน่งที่ตั้ง
  • ดูวิธีการจัดส่งที่เปิดใช้งานสำหรับตำแหน่งที่ตั้ง
  • กำหนดค่าวิธีการจัดส่งสำหรับตำแหน่งที่ตั้ง

หลังจากสร้างตำแหน่งที่ตั้งเสร็จสิ้น ตำแหน่งที่ตั้งของคุณจะปรากฏที่บริเวณด้านล่างของรายการลำดับความสำคัญการจัดการคำสั่งซื้อ หากคุณมีตำแหน่งที่ตั้งที่เปิดใช้งานมากกว่าหนึ่งแห่ง คุณจำเป็นต้องระบุลำดับความสำคัญสำหรับการจัดการคำสั่งซื้อด้วย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการคำสั่งซื้อในหลายตำแหน่งที่ตั้ง ให้อิงตามการตั้งค่าการจัดการคำสั่งซื้อสำหรับตำแหน่งที่ตั้ง

วิธีการ:

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > ตำแหน่งที่ตั้ง

  2. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้คลิกที่เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง

  3. ในส่วนรายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง ให้เพิ่มชื่อและที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้งของคุณ:

    1. ในส่วนชื่อ ให้คลิกเพิ่ม
    2. ป้อนชื่อตำแหน่งที่ตั้ง แล้วคลิกเสร็จสิ้น
    3. ในส่วนที่อยู่ ให้คลิกเพิ่ม
    4. ป้อนที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นคลิกบันทึก
  4. ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการให้สินค้าคงคลังของคุณพร้อมจำหน่ายสำหรับการซื้อทางออนไลน์ในตำแหน่งที่ตั้งนี้ ให้ปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ โดยตัวเลือกนี้จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับตำแหน่งที่ตั้งใหม่แต่ละแห่ง

  5. คลิกบันทึก

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม จากนั้นจึงแตะที่ การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง
  4. ในส่วนรายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง ให้เพิ่มชื่อและที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้งของคุณ:

    1. ในส่วนชื่อ ให้แตะเพิ่ม
    2. ป้อนชื่อตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะบันทึก
    3. ในส่วนที่อยู่ แตะที่เพิ่ม
    4. ป้อนที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะบันทึก
  5. ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการให้สินค้าคงคลังของคุณพร้อมจำหน่ายสำหรับการซื้อทางออนไลน์ในตำแหน่งที่ตั้งนี้ ให้ปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ โดยตัวเลือกนี้จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับตำแหน่งที่ตั้งใหม่แต่ละแห่ง

  6. แตะบันทึก

Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม “” จากนั้นจึงแตะที่ “การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ ตำแหน่งที่ตั้ง
  3. ในส่วนตำแหน่งที่ตั้งทั้งหมด ให้แตะที่เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง
  4. ในส่วนรายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง ให้เพิ่มชื่อและที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้งของคุณ:

    1. ในส่วนชื่อ ให้แตะเพิ่ม
    2. ป้อนชื่อตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะบันทึก
    3. ในส่วนที่อยู่ แตะที่เพิ่ม
    4. ป้อนที่อยู่ของตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นแตะบันทึก
  5. ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการให้สินค้าคงคลังของคุณพร้อมจำหน่ายสำหรับการซื้อทางออนไลน์ในตำแหน่งที่ตั้งนี้ ให้ปิดใช้งานตัวเลือกสินค้าคงคลังที่ตำแหน่งที่ตั้งนี้พร้อมสำหรับใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์ โดยตัวเลือกนี้จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับตำแหน่งที่ตั้งใหม่แต่ละแห่ง

  6. แตะบันทึก

ตั้งค่าวิธีการชำระเงิน

Shopify รองรับวิธีการชำระเงินหลากหลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายที่สุดในการรับการชำระเงินออนไลน์คือการใช้ Shopify Payments

Shopify Payments ช่วยให้คุณไม่ต้องตั้งค่าผู้ให้บริการชำระเงินจากภายนอก หรือบัญชีผู้ขายสินค้าในการยอมรับการชำระเงิน Shopify Payments พร้อมผสานการทำงานเข้ากับร้านค้า และเปิดโอกาสให้คุณสามารถจัดการธุรกิจและการเงินของคุณได้ในที่เดียว

วิธีการ:

เดสก์ท็อป
  1. ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่การตั้งค่า > การชำระเงิน

  2. เปิดใช้งาน Shopify Payments ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:

    • หากคุณยังไม่ได้ตั้งค่าผู้ให้บริการการชำระเงินในบัญชีของคุณ ให้คลิกที่ “ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ให้เสร็จสิ้น” ในส่วน Shopify Payments
    • หากคุณเปิดใช้งานผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่น ให้คลิกที่ “เปิดใช้งาน Shopify Payments“ ในกล่อง Shopify Payments จากนั้นให้ เปิดใช้งาน Shopify Payments ในกล่องโต้ตอบ การดำเนินการนี้จะลบผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่นออกจากบัญชีผู้ใช้ของคุณ
  3. ป้อนรายละเอียดที่จำเป็นเกี่ยวกับ ร้านค้าและข้อมูลการธนาคารของคุณ จากนั้นคลิก บันทึก

  4. คลิกเสร็จสิ้นการตั้งค่าบัญชีผู้ใช้

iPhone
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม จากนั้นจึงแตะที่ การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ “การชำระเงิน
  3. เปิดใช้งาน Shopify Payments ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:

    • หากคุณยังไม่ได้ตั้งค่าผู้ให้บริการการชำระเงินในบัญชีของคุณ ให้แตะที่ “ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ให้เสร็จสิ้น” ในส่วน Shopify Payments
    • หากคุณเปิดใช้งานผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่น ให้แตะที่ “เปิดใช้งาน Shopify Payments“ ในกล่อง Shopify Payments จากนั้นให้เปิดใช้งาน Shopify Payments ในกล่องโต้ตอบ การดำเนินการนี้จะลบผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่นออกจากบัญชีผู้ใช้ของคุณ
  4. ป้อนรายละเอียดที่จำเป็นเกี่ยวกับร้านค้าและข้อมูลการธนาคารของคุณ จากนั้นแตะ “บันทึก

  5. แตะที่ “เสร็จสิ้นการตั้งค่าบัญชีผู้ใช้

Android
  1. จากแอป Shopify ให้แตะที่ปุ่ม จากนั้นจึงแตะที่ การตั้งค่า
  2. ในส่วนการตั้งค่าร้านค้า ให้แตะที่ “การชำระเงิน
  3. เปิดใช้งาน Shopify Payments ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:

    • หากคุณยังไม่ได้ตั้งค่าผู้ให้บริการการชำระเงินในบัญชีของคุณ ให้แตะที่ “ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ให้เสร็จสิ้น” ในส่วน Shopify Payments
    • หากคุณเปิดใช้งานผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่น ให้แตะที่ “เปิดใช้งาน Shopify Payments“ ในกล่อง Shopify Payments จากนั้นให้เปิดใช้งาน Shopify Payments ในกล่องโต้ตอบ การดำเนินการนี้จะลบผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่นออกจากบัญชีผู้ใช้ของคุณ
  4. ป้อนรายละเอียดที่จำเป็นเกี่ยวกับร้านค้าและข้อมูลการธนาคารของคุณ จากนั้นแตะ “บันทึก

  5. แตะที่ “เสร็จสิ้นการตั้งค่าบัญชีผู้ใช้

หลังจากตั้งค่า Shopify Payments เรียบร้อย คุณสามารถกำหนดค่าต่างๆ หรือสร้างธุรกรรมสำหรับทดสอบบนร้านค้าของคุณได้

ตั้งค่าภาษี

ในฐานผู้ขายสินค้า คุณจำเป็นต้องเพิ่มภาษีให้กับการขายของคุณ จากนั้นให้รายงานและยื่นภาษีเหล่านี้ให้รัฐบาลของคุณทราบ แม้ว่ากฎหมายภาษีอากรจะมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง คุณสามารถตั้งค่าให้ Shopify จัดการกับการคำนวณภาษีการค้าทั่วไปเหล่านี้ได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถตั้งค่าการกำหนดภาษีเองเพื่อจัดการกับกฎหมายภาษีอากรและสถานการณ์เฉพาะอื่นๆ ได้อีกด้วย

Shopify ใช้อัตราภาษีการขายเริ่มต้นหลากหลายอัตรา ซึ่งได้รับการอัปเดตเป็นประจำ หากคุณใช้อัตราเริ่มต้น อย่าลืมตรวจสอบยืนยันให้แน่ใจว่าอัตราดังกล่าวเป็นปัจจุบันและถูกต้อง คุณสามารถกำหนดภาษีต่างๆ ได้ตลอดเวลาเมื่อมีความจำเป็น

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งค่าภาษีของร้านค้าคุณมีความถูกต้อง และอย่าลืมยื่นภาษีให้แก่ร้านค้าของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษี

กระบวนการทั่วไปสำหรับการตั้งค่าภาษี

ขั้นตอนการตั้งค่าภาษีนั้นไม่มีรูปแบบที่ตายตัว ฉะนั้นแล้ว ให้ลองใช้ขั้นตอนเหล่านี้เป็นคำแนวทาง

  1. หากคุณเป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์ ให้ลองตั้งค่าประเทศเป้าหมายที่คุณจะจัดส่งสินค้า
  2. หากคุณใช้ Shopify POS ในการขายสินค้าด้วยตนเองให้ตั้งค่าอัตราภาษีโดยอิงตามที่ตั้งร้านค้าปลีกของคุณ อัตราภาษี POS เริ่มต้นจะอิงตามตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีการขายที่หน้าร้าน
  3. กำหนดอัตราภาษีในให้กับประเทศหรือภูมิภาคที่คุณต้องการขายและส่งสินค้าไป

  4. หากคุณขายสินค้าที่จับต้องไม่ได้ ให้กำหนดภาษีต่างๆ เพื่อนำไปใช้กับรายการเหล่านั้น

  5. แทนที่อัตราภาษีหรือยกเว้นภาษีให้กับผลิตภัณฑ์ที่จำเป็น การแทนที่ที่คุณตั้งค่าจะถูกใช้กับยอดขายออนไลน์และยอดขาย Shopify POS

  6. ตัวเลือกเสริม: รวมภาษีในราคาสินค้าทั้งหมดของคุณ เมื่อเปิดใช้งานตัวเลือกนี้แล้ว จะไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายทางภาษีเพิ่มเติมในขั้นตอนการชำระเงินของลูกค้า แต่จะมีการคำนวณเพื่อกำหนดเปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้าที่จะเป็นภาษี

ระหว่างตั้งค่าภาษี คุณสามารถเข้าถึงและตรวจสอบการตั้งค่าของคุณได้ในหน้าภาษีและอากรในส่วนผู้ดูแล Shopify

เพิ่มนโยบายร้านค้าของคุณ

ก่อนที่ลูกค้าจะซื้อสินค้า พวกเขาจำเป็นต้องเข้าถึงนโยบายสำหรับการคืนเงิน ความเป็นส่วนตัว และเงื่อนไขในการใช้บริการร้านค้าของคุณก่อน

คุณจำเป็นต้องเพิ่มนโยบายร้านค้าโดยใช้เว็บเพจแยกต่างหาก นโยบายของคุณจะปรากฏเป็นลิงก์ที่บริเวณด้านล่างของหน้าการชำระเงิน

วิธีการ:

  1. กำหนดนโยบายร้านค้า

  2. ในแท็บหรือหน้าต่างเบราว์เซอร์ใหม่ ให้ไปยังหน้าเพจ

  3. สร้างเพจใหม่

  4. จากส่วนการตั้งค่าการชำระเงินร้านค้าของคุณ ให้คัดลอกนโยบายแต่ละข้อไปยังคลิปบอร์ด

  5. วางเนื้อหาคลิปบอร์ดบนเพจใหม่นั้น

  6. คลิกบันทึกเพจ

  7. เพิ่มลิงก์ไปยังหน้านโยบายของคุณเพื่อให้ลูกค้าสามารถหาค้นหน้าดังกล่าวได้

ขั้นตอนถัดไป

หลังจากเลือกการตั้งค่าการจัดการร้านค้าแล้ว คุณสามารถเตรียมเปิดใช้งานร้านค้าของคุณได้

ไม่พบคำตอบที่คุณต้องการงั้นหรือ เราพร้อมช่วยเหลือคุณ