หมวดหมู่สินค้า
หมวดหมู่สินค้าคือป้ายที่กำหนดให้กับสินค้าหรือคอลเลกชันสินค้าโดยจะระบุว่าลูกค้าต้องเสียภาษีหรือได้รับการยกเว้นภาษีเมื่อซื้อสินค้าเฉพาะรายการหมวดหมู่สินค้าได้รับเลือกจากระบบการจัดหมวดหมู่สินค้าของ Shopifyซึ่งเป็นรายการตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
นอกจากนี้ หมวดหมู่สินค้ายังมีประโยชน์ในการจัดการสินค้าและสามารถใช้ในการดำเนินการต่อไปนี้ได้:
- การกรองรายการสินค้าของคุณ
- การสร้างคอลเลกชันที่ดำเนินการโดยอัตโนมัติ
- การขายสินค้าในช่องทางที่ต้องใช้ประเภทสินค้าที่มีมาตรฐาน เช่น Facebook
ในหน้านี้
คำแนะนำหมวดหมู่สินค้าอัตโนมัติ
เมื่อคุณสร้างสินค้าหรือหากคุณมีสินค้าที่มีอยู่ซึ่งใช้หมวดหมู่สินค้าหรือข้อมูลอื่นๆ ที่ช่วยในการระบุสินค้า ระบบจะสร้างคำแนะนำหมวดหมู่สินค้าให้กับสินค้านั้น หมวดหมู่ที่แนะนำจะไม่มีผลจนกว่าคุณจะยอมรับหมวดหมู่นั้น
หมวดหมู่นี้เป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น และไม่ควรถือว่าเป็นคำแนะนําด้านภาษี คุณต้องตรวจสอบยืนยันความถูกต้องของหมวดหมู่สินค้าก่อนที่คุณจะยอมรับหมวดหมู่นั้น และพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหากจําเป็น
คุณสามารถเข้าถึงและตรวจสอบหมวดหมู่สินค้าที่แนะนำได้ในส่วนผู้ดูแล Shopify นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าถึงรายการสินค้าทั้งหมดที่คุณต้องการเลือกหมวดหมู่สินค้าด้วยตนเองได้
เข้าถึงหมวดหมู่สินค้า
- จากส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > ภาษีและอากร
- คลิก “สหรัฐอเมริกา” ในส่วน “จัดการการเก็บภาษีการขาย”
- ในส่วน “การจัดหมวดหมู่สินค้าเพื่อจุดประสงค์ด้านภาษี” ให้คลิก “จัดการหมวดหมู่”
- ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้เพื่อมอบหมายหมวดหมู่ให้สินค้า:
การเลือกและการจัดการหมวดหมู่สินค้า
ในหน้า “หมวดหมู่สินค้า” ระบบจะแสดงการแจ้งเตือนหากคุณมีสินค้าที่ไม่มีหมวดหมู่สินค้าหรือหากคุณมีคำแนะนำหมวดหมู่สินค้าที่ต้องตรวจสอบ มีแท็บ 2 แท็บที่แสดงสินค้าที่ต้องตรวจสอบ แท็บ “การตรวจสอบที่รอการดำเนินการ” จะแสดงสินค้าที่มีคำแนะนำหมวดหมู่สินค้า หมวดหมู่สินค้าที่แนะนำในแท็บนี้จะไม่มีผลจนกว่าคุณจะยอมรับ แท็บ “การเลือกที่รอการดำเนินการ” จะแสดงสินค้าที่ไม่มีคำแนะนำและต้องเลือกด้วยตนเอง
มีหลายวิธีในการนำหมวดหมู่สินค้าไปใช้กับสินค้าของคุณ
เลือกหรืออนุมัติหมวดหมู่สินค้แบบทีละรายการ
- ในหน้า “หมวดหมู่สินค้า” ให้ค้นหาสินค้าเพื่อเลือกหรืออนุมัติ
-
ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
- หากระบบให้หมวดหมู่สินค้าที่แนะนำมา ให้อนุมัติคำแนะนำนั้น:
- คลิกที่เครื่องหมายถูกในช่อง “หมวดหมู่สินค้า”
- คลิกที่ “บันทึก”
- ค้นหาและเลือกหมวดหมู่สินค้า:
- คลิกที่ “x” ในช่อง “หมวดหมู่สินค้า”
- ในช่อง “หมวดหมู่สินค้า” ให้พิมพ์คำอธิบายสินค้า
- คลิกที่หมวดหมู่สินค้าเมื่อมีการเสนอคำแนะนำที่ถูกต้อง
- คลิกที่ “บันทึก”
- หากระบบให้หมวดหมู่สินค้าที่แนะนำมา ให้อนุมัติคำแนะนำนั้น:
เลือกหรืออนุมัติหมวดหมู่สินค้าหลายรายการในครั้งเดียว
- ในหน้า “หมวดหมู่สินค้า” ให้คลิกช่องทำเครื่องหมายถัดจากสินค้าทั้งหมดที่คุณต้องการเลือกหรืออนุมัติ
-
ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
- หากระบบให้คำแนะนำมา ให้อนุมัติหมวดหมู่สินค้าที่แนะนำสำหรับสินค้าที่เลือกทั้งหมด:
- ที่ด้านล่างรายการสินค้าให้คลิก “ยอมรับและบันทึก”
- คลิก “ยอมรับและบันทึกทั้งหมด”
- หากระบบให้คำแนะนำมา ให้ค้นหาและเลือกหมวดหมู่สินค้าสำหรับสินค้าที่เลือกไว้:
- ที่ด้านล่างรายการสินค้าให้คลิก “แก้ไขสินค้า”
- ในช่อง “หมวดหมู่สินค้า” ให้พิมพ์คำอธิบายสินค้า
- คลิกที่หมวดหมู่สินค้าเมื่อมีการเสนอคำแนะนำที่ถูกต้อง
- คลิกที่ “บันทึก”
- หากระบบไม่ได้ให้คำแนะนำมา ให้ค้นหาและเลือกหมวดหมู่สินค้าสำหรับสินค้าที่เลือกไว้ทั้งหมด:
- ที่ด้านล่างรายการสินค้าให้คลิก “เลือกหมวดหมู่”
- ในช่อง “เลือกหมวดหมู่” ให้ป้อนคำอธิบายสินค้า
- คลิกที่หมวดหมู่สินค้าเมื่อมีการเสนอคำแนะนำที่ถูกต้อง
- คลิก “ยอมรับและบันทึกทั้งหมด”
- หากระบบให้คำแนะนำมา ให้อนุมัติหมวดหมู่สินค้าที่แนะนำสำหรับสินค้าที่เลือกทั้งหมด:
เลือกหมวดหมู่สินค้าโดยใช้ไฟล์ CSV
คุณสามารถนําเข้าหมวดหมู่สินค้าได้โดยใช้การนําเข้าสินค้าผ่าน CSVหากต้องการตรวจสอบว่าค่าหมวดหมู่สินค้าตรงกับรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของ Shopify หรือไม่ โปรดดูการจัดหมวดหมู่สินค้าของ Shopify
คุณสามารถดาวน์โหลดและดูไฟล์ CSV สินค้าตัวอย่างเพื่อใช้เป็นเทมเพลตได้
การคำนวณภาษีโดยใช้หมวดหมู่สินค้า
หลังจากที่คุณหมวดหมู่สินค้าของคุณแล้ว ระบบจะใช้หมวดหมู่สินค้าในการระบุภาระผูกพันด้านภาษีของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อขายสินค้าไปยังรัฐใดรัฐหนึ่งการใช้หมวดหมู่สินค้านั้นจะช่วยเพิ่มความถูกต้องในการคำนวณภาษีและลดความจำเป็นในการกำหนดภาษีเอง
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณขายเสื้อยืด ในนิวยอร์ก เสื้อผ้าและรองเท้าที่มีมูลค่าน้อยกว่า $110 ดอลลาร์สหรัฐนั้นได้รับข้อยกเว้นจากภาษีการขายในนิวยอร์กและรัฐนิวยอร์ก หากสินค้าของคุณกำหนดหมวดหมู่ถูกต้อง ระบบจะไม่เรียกเก็บภาษีเหล่านี้เมื่อคุณขายสินค้าให้แก่ลูกค้าในนิวยอร์ก หากกฎที่ควบคุมสินค้าเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ระบบจะอัปเดตวิธีการคํานวณภาษีวิธีการคิดภาษีสินค้าของคุณโดยอัตโนมัติ โดยคุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ
หากคุณตั้งหมวดหมู่สินค้าให้แก่สินค้าที่มีการกำหนดภาษีเอง การกำหนดภาษีเองจะแทนที่การคำนวณภาษีหมวดหมู่สินค้า ซึ่งรวมไปถึง ภาษีที่กำหนดเองตามคอลเลกชัน ให้พิจารณาลบภาษีที่กำหนดเองสำหรับสินค้าที่ขัดแย้งกับหมวดหมู่สินค้าของคุณออก อย่างไรก็ตาม หากคุณทราบว่ามีกฎภาษีที่ไม่ได้คํานวณตามหมวดหมู่สินค้า ให้คงภาษีที่กำหนดเองสำหรับสินค้าของคุณไว้
คุณไม่จำเป็นต้องใช้หมวดหมู่สินค้า ทั้งนี้ หากคุณเลือกที่จะไม่ใช้หมวดหมู่สินค้ากับสินค้าของคุณ คุณจะต้องใช้การกำหนดภาษีเองพร้อมทั้งอัปเดตการกำหนดภาษีดังกล่าวด้วยตนเอง
ข้อจำกัด
มีบางสถานการณ์ที่ไม่สามารถใช้หมวดหมู่สินค้าในการคํานวณภาษีได้:
- ภาษีเฉพาะอุตสาหกรรมหรือภาษีเฉพาะสินค้าที่ส่งผลให้เกิดสินค้าเฉพาะรายการที่คำนวณภาษีแยกต่างหาก เช่น ค่าธรรมเนียมของเสียอิเล็กทรอนิกส์
- ภาษีที่อิงตามปริมาณ น้ำหนัก วัตถุดิบ หรือขนาด เช่น ภาษีสรรพสามิต
- ตัวเลือกสินค้าของสินค้ารายการเดียวไม่สามารถมีหมวดหมู่สินค้าที่แตกต่างกันได้
- สินค้ารวมชุดที่สร้างเป็นสินค้ารายการเดียวจะมีหมวดหมู่สินค้าเดียว
- หมวดหมู่สินค้าจะไม่ซิงค์ระหว่าง Shopify กับตลาดต่างๆ เช่น Meta หรือ Google
- ระบบจะไม่ใช้หมวดหมู่สินค้ากับคำสั่งซื้อที่ไม่ผ่านเกณฑ์สำหรับ Shopify Tax
- Shopify POS ไม่รองรับหมวดหมู่ภาษีสินค้า
- สินค้าและหมวดหมู่ที่มีการกำหนดภาษีเอง
การทดสอบภาษีที่คํานวณโดยใช้หมวดหมู่สินค้า
เนื่องจากไม่มีวิธีแสดงตัวอย่างอัตราภาษีที่เฉพาะเจาะจง วิธีที่ดีที่สุดคือการสร้างคำสั่งซื้อสำหรับการทดสอบเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าของคุณต้องเสียภาษีตามที่คาดไว้ หากการคํานวณภาษีที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่คุณคาดหวัง โปรดตรวจสอบรหัสสินค้าเพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้อง เพื่อขอความช่วยเหลือในการตั้งค่าประเภทสินค้าของคุณ โปรดติดต่อฝ่ายช่วยเหลือของ Shopify หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณตั้งค่าหมวดหมู่สินค้าที่ถูกต้องแล้ว ให้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี