จัดการภาษีสหภาพยุโรปของคุณ
หลังจากที่คุณอัปเดตร้านค้าเพื่อใช้ฟีเจอร์ภาษีใหม่ของสหภาพยุโรป คุณสามารถจัดการการตั้งค่าภาษี รวมถึงการลงทะเบียน ภาษีที่กำหนดเอง และการยกเว้นภาษีสำหรับลูกค้าของคุณได้
ในหน้านี้
จัดการภูมิภาคที่คุณได้ลงทะเบียนไว้
คุณสามารถเพิ่ม ลบ หรือเปลี่ยนแปลงการลงทะเบียนหรือหมายเลขบัญชีของคุณเมื่อใดก็ได้
หากคุณได้รับการยกเว้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และในภายหลังจำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศอื่นๆ คุณจะไม่มีคุณสมบัติในการได้รับการยกเว้นอีกต่อไป ระบบไม่รองรับการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มเติมกับการยกเว้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หากคุณจำเป็นต้องเพิ่มการลงทะเบียนเพิ่มเติม คุณต้องเปลี่ยนประเภทการลงทะเบียนของคุณเป็นการลงทะเบียนแบบ One-Stop Shop หรือการลงทะเบียนเฉพาะประเทศก่อน
หมายเหตุ: ช่วงเปลี่ยนผ่านของ Brexit ได้สิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2020 ด้วยเหตุนี้ กฎหมายใหม่จะมีผลกับการขายระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2021 เป็นต้นไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบต่อธุรกิจของคุณ
ขั้นตอน:
- จากส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ให้ไปที่การตั้ง ค่า > ภาษีและอากร
- ในส่วนประเทศ/ภูมิภาค ให้คลิก “สหภาพยุโรป”
-
ในส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขายภายในสหภาพยุโรป ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
- หากต้องการแก้ไขการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีอยู่ ให้คลิกที่ปุ่ม “...” ถัดจากภูมิภาคที่คุณต้องการแก้ไข
- หากต้องการตั้งค่าการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มใหม่ ให้คลิกที่ “เพิ่มประเทศ”
- หากต้องการเปลี่ยนประเภทการลงทะเบียนของคุณ ให้คลิกที่ “เปลี่ยนการลงทะเบียน”
อัปเดตภูมิภาคและหมายเลขบัญชีของคุณ
คลิกที่บันทึก
แทนที่ภาษี
บางครั้งอัตราภาษีเริ่มต้นจะไม่ถูกนำไปใช้กับสินค้าบางรายการ ตัวอย่างเช่นเสื้อผ้าเด็กบางปร ะเภทอาจได้รับการยกเว้นภาษีหรือมีอัตราภาษีที่ต่ำกว่า หากไม่สามารถใช้อัตราค่าจัดส่งเริ่มต้นได้คุณจำเป็นต้องสร้างการอัตราภาษีแทนที่
สร้างภาษีที่กำหนดเองสำหรับสินค้า
การสร้างภาษีที่กำหนดเองสำหรับสินค้าเป็นกระบวนการสองขั้นตอน ในขั้นแรก คุณต้องสร้างคอลเลกชันสินค้าที่มีสินค้าที่มีอัตราภาษีที่แตกต่างจากสินค้าอื่น จากนั้นจึงระบุภูมิภาคที่ต้องการใช้ภาษีที่กำหนดเองและอัตราภาษีที่ต้องการใช้
ขั้นตอน:
-
สร้างคอลเลกชันโดยดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- จากส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่สิ นค้า > คอลเลกชัน
- คลิกสร้างคอลเลกชันจากนั้นป้อนชื่อให้คอลเลกชัน
- ใต้ประเภทคอลเลกชัน ให้เลือกกำหนดเอง
- คลิกที่บันทึกคอลเลกชัน
-
สร้างการกำหนดเองโดยดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- จากส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > ภาษีและอากร
- ในส่วนประเทศ/ภูมิภาค ให้คลิกที่ภูมิภาคที่ต้องการแทนที่
- ในส่วน การกำหนดภาษีเอง ให้คลิก “เพิ่มการแทนที่สินค้า”
- เลือกคอลเลกชัน
- เลือกภูมิภาคที่จะใช้ภาษีที่กำหนดเอง
- ป้อนอัตราภาษีสำหรับคอลเลกชันในภูมิภาคนั้น
- คลิกเพิ่มการแทนที่ภาษี
จัดการการคำนวณภาษีของคุณ
คุณสามารถจัดการการตั้งค่าต่างๆ ที่จะกำหนดว ิธีคำนวณภาษีสำหรับสินค้าได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถกำหนดได้ว่าจะรวมภาษีในราคาสินค้าของคุณหรือไม่ จะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าดิจิทัลหรือไม่ และจะเก็บภาษีจากค่าจัดส่งหรือไม่ คุณสามารถจัดการการตั้งค่าเหล่านี้ได้ในหน้าการตั้งค่าภาษีและอากร ไปที่การกำหนดและการยกเว้นภาษีเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
ขั้นตอน:
- จากส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > ภาษีและอากร
- ในส่วนการคำนวณภาษีให้เลือกตัวเลือกที่สอดคล้อง
- คลิกที่บันทึก
การปัดเศษภาษี
ก่อนหน้านี้ ภาษีจะได้รับการปัดเศษที่ร ะดับใบแจ้งหนี้ โดยระบบจะคำนวณภาษีจากยอดรวมย่อยของคำสั่งซื้อ จากนั้นจึงปัดเศษผลลัพธ์ หลังจากที่คุณอัปเดตการตั้งค่าเพื่อใช้คุณลักษณะภาษีของสหภาพยุโรป จำนวนภาษีจะถูกปัดเศษที่ระดับสินค้าเฉพาะรายการ ซึ่งหมายความว่ายอดรวมมูลค่าภาษีจะคำนวณจากการคิดอัตราภาษีกับสินค้าแต่ละรายการในคำสั่งซื้อ ก่อนจะปัดเศษผลลัพธ์ แล้วจึงนำยอดรวมย่อยเหล่านี้มาบวกเข้าด้วยกันเพื่อคิดเป็นยอดรวมมูลค่าของคำสั่งซื้อ
การปัดเศษภาษีในระดับสินค้าเฉพาะรายการจะช่วยปรับปรุงการคำนวณอัตราภาษีที่แตกต่างกัน และทำให้การคำนวณภาษีสำหรับคำสั่งซื้อที่มีสินค้าที่ต้องเสียภาษีและไม่ต้องเสียภาษีง่ายขึ้น
ตัวอย่างของการปัดเศษภาษีที่ระดับใบแจ้งหนี้และที่ระดับสินค้าเฉพาะรายการ
ลูกค้าทำการสั่งซื้อสินค้าที่แตกต่างกัน 42 รายการ แต ่ละรายการมีราคา 14.99 ยูโร และต้องคิดภาษี 20% ระบบจะคิดภาษีสินค้าเฉพาะรายการสำหรับสินค้าแต่ละรายการโดยคูณราคา (14.99 ยูโร) ด้วยอัตราภาษี (0.20) ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เป็น 2.998 ยูโร
ก่อนหน้านี้ ระบบจะรวมภาษีของสินค้าแต่ละรายการจะเข้าด้วยกันและปัดเศษยอดรวม โดยในกรณีนี้ ยอดรวมที่ได้จะเป็น 125.916 ยูโร ซึ่งจะปัดเศษเป็น 125.92 ยูโร
ปัจจุบัน มูลค่าภาษีจะปัดเศษในระดับสินค้าแต่ละรายการ ซึ่งหมายความว่ามูลค่าภาษีสำหรับสินค้าแต่ละชิ้นจะถูกนำมาปัดเศษแยกกัน มูลค่าภาษี 2.998 ยูโรของสินค้ารายการหนึ่งจะถูกปัดเศษเป็น 3.00 ยูโร ซึ่งจะถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อคำนวนยอดรวม โดยในกรณีนี้ ยอดรวมภาษีจะเป็น 126.00 ยูโร
การยกเว้นการเรียกเก็บภาษีแบบย้อนกลับของสหภาพยุโรป
การยกเว้นการเรียกเก็บภาษีแบบย้อนกลับของสหภาพยุโรปจะยกเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มแบบเต็มจำนวนในคำสั่งซื้อทั้งหมดที่จัดส่งให้กับลูกค้าธุรกิจแบบ B2B ในสหภาพยุโรปไปยังประเทศที่คุณไม่ได้เป็นผู้จัดการคำสั่งซื้อ ตัวอย่างเช่น การยกเว้นจะมีผลกับคำสั่งซื้อจัดส่งให้กับลูกค้าธุรกิจแบบ B2B ในไอร์แลนด์จากตำแหน่งที่ตั้งการจัดการคำสั่งซื้อในนประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอิงจากตำแหน่งที่ตั้งการจัดการคำสั่งซื้อของคุณ ไม่ใช่ที่อยู่ร้านค้าจากรายละเอียดร้านค้าของคุณ
ต้องระบุตำแหน่งที่ตั้งของสหภาพยุโรปที่เปิดใช้อยู่เพื่อให้การยกเว้นการเรียกเก็บภาษีแบบย้อนกลับของสหภาพยุโรปนั้นดำเนินการได้อย่างถูกต้อง หากคุณมีตำแหน่งที่ตั้งการจัดการคำสั่งซื้อหลายแห่ง คุณสามารถเปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้งการจัดการคำสั่งซื้อไปอีกแห่งหนึ่งนอกประเทศที่จัดส่งของลูกค้า เพื่อให้การยกเว้นการเรียกเก็บภาษีดำเนินการได้ตามที่ต้องการ