Shopify Shipping กับ Sendle

หากคุณจะจัดส่งจากตำแหน่งที่ตั้งในออสเตรเลีย คุณสามารถซื้อ ใบจ่าหน้า Shopify Shipping ได้จาก Sendle คุณสามารถส่งพัสดุของคุณที่จุดรับสินค้าแล้วจัดส่งภายในออสเตรเลีย หรือคุณสามารถนัดหมายการรับสินค้าและจัดส่งพัสดุระหว่างประเทศได้

โดยอัตราค่าจัดส่งที่คุณถูกเรียกเก็บจะอิงจากบัญชีผู้ใช้ Shopify ที่ใช้ Sendle

ที่อยู่ที่มีสิทธิ์รับบรรจุภัณฑ์ที่จัดส่งด้วย Sendle

ตรวจสอบข้อกำหนดเกี่ยวกับที่อยู่ที่จัดส่งต่อไปนี้เมื่อใช้ Shopify Shipping กับ Sendle:

  • Sendle จะไม่จัดส่งหรือรับพัสดุจากกล่อง PO
  • ไม่ใช่ที่อยู่ทั้งหมดในออสเตรเลียมีสิทธิ์ในการซื้อใบจ่าหน้า Sendle ผ่าน Shopify จัดส่ง ก่อนที่คุณจะซื้อใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่งโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ทำความเข้าใจกับวิธีต่างๆ ที่จะส่งพัสดุของคุณไปยัง Sendle
  • ที่อยู่ต้นทางของคุณจำเป็นต้องเข้าเกณฑ์ในการรับสินค้า แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ส่งสินค้าก็ตาม ตำแหน่งที่ตั้งในการจัดส่งภายในประเทศและระหว่างประเทศนั้นแตกต่างกัน ซึ่งหมายความว่าการมีสิทธิ์ใช้บริการอย่างหนึ่งไม่ได้ทำให้คุณมีสิทธิ์ใช้งานอีกบริการหนึ่ง
  • หากคุณเข้าไม่เกณฑ์การใช้งานประเภทใด วิธีดังกล่าวจะไม่ปรากฏเป็นตัวเลือกเมื่อคุณซื้อใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่ง

คุณจำเป็นต้องใส่ชื่อชานเมืองและรหัสไปรษณีย์ เพื่อตรวจสอบว่าที่อยู่ต้นทางเข้าเกณฑ์การซื้อใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่งหรือวิธีการใดที่พร้อมให้บริการในการจัดส่งของคุณไปยัง Sendle ใส่ชื่อชานเมืองในช่องเมือง แทนการใส่ชื่อเมือง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือเพื่อตรวจสอบชานเมืองที่พร้อมใช้งาน โปรดดูที่ด้านล่างนี้

การนำสินค้าของคุณไปยัง Sendle

คุณสามารถส่งสินค้าของคุณที่จุดรับสินค้าของ Sendle ได้ ค้นหาจุดรับสินค้าของ Sendle ที่ใกล้กับคุณที่สุด

หากต้องการส่งพัสดุไปยัง Sendle คุณจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้:

  • ที่อยู่ของคุณมีสิทธิ์ในการจัดส่ง
  • เป็นการจัดส่งภายในประเทศ คุณไม่สามารถจัดส่งระหว่างประเทศได้
  • การจัดส่งมีน้ำหนักไม่เกิน 10 กก.
  • ปริมาตรของการจัดส่งน้อยกว่า 40 ลิตร

การกำหนดเวลารับสินค้าที่ Sendle จัดส่ง

คุณสามารถนัดหมายเวลารับสินค้ากับ Sendle ได้หากเป็นไปตามข้อกำหนดเหล่านี้

การจัดส่งระหว่างประเทศสามารถรับได้เท่านั้นแต่ไม่สามารถจัดส่งได้

คุณกำหนดเวลารับสินค้าของคุณระหว่างที่ซื้อใบจ่าหน้าเท่านั้น คุณไม่สามารถกำหนดเวลารับสินค้าได้อีกหลังจากซื้อ

เมื่อกำหนดเวลารับสินค้าครั้งแรก คุณต้องคลิกแก้ไขรายละเอียดการรับเพื่อเพิ่มรายละเอียดและคำแนะนำสำหรับการรับสินค้า รายละเอียดเหล่านี้จะได้รับการบันทึกและเพิ่มไปยังการรับสินค้าทั้งหมดในอนาคตเป็นค่าเริ่มต้น แต่สามารถแก้ไขได้ตลอดเวลา

ตำแหน่งที่ตั้งในการรับสินค้าเป็นที่เดียวกับต้นทางการจัดส่งบนใบจ่าหน้า

วันที่รับสินค้าที่เร็วที่สุดคือวันทำการถัดไปเสมอ คุณไม่สามารถกำหนดเวลาสำหรับการรับสินค้าอย่างเฉพาะเจาะจงได้ พนักงานส่งของจะมาถึงประมาณ 8:00 น. ถึง 18:00 น.

เมื่อคุณเลือกวันที่รับสินค้า ระบบจะแสดงวันที่ที่คุณมีรับสินค้าที่กำหนดไปแล้วสำหรับแสดงอยู่ใต้วันที่รับสินค้าที่กำหนดเวลาไว้ ในเมนูดรอปดาวน์วันที่รับสินค้า

การจัดการเวลารับสินค้าที่ Sendle จัดส่ง

เมื่อกำหนดเวลารับสินค้าแล้ว คุณสามารถแก้ไขได้เฉพาะวันที่รับสินค้าและคำแนะนำในการรับสินค้าเท่านั้น หากต้องการเปลี่ยนวันที่รับสินค้าสำหรับคำสั่งซื้อเดียว ให้คลิกปุ่ม ... > จัดการพัสดุ > กำหนดเวลารับสินค้าใหม่ ภายในคำสั่งซื้อจากนั้นกรอกแบบฟอร์ม หากคุณจำเป็นต้องเปลี่ยนวันที่รับสินค้าสำหรับคำสั่งซื้อทั้งหมด ให้คลิก “ดูการรับสินค้า” > “กำหนดเวลารับสินค้าใหม่” ในหน้าคำสั่งซื้อ คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวันที่รับสินค้าในวันเดียวกับที่มีการรับสินค้าได้

หากต้องการเปลี่ยนคำแนะนำในการรับสินค้า ให้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Sendle และเพิ่ม Shopify ในบรรทัดของหัวเรื่อง

หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดอื่นๆ เช่น ที่อยู่ที่จัดส่ง ให้ยกเลิกใบจ่าหน้าแล้วสร้างใบจ่าหน้าใหม่

วันของเวลารับสินค้าที่ Sendle จัดส่ง

ในวันที่รับสินค้า ให้นำการจัดส่งของคุณไปยังตำแหน่งที่ตั้งที่ระบุไว้ในรายละเอียดการรับสินค้า หากการจัดส่งทั้งแบบภายในประกาศและแบบระหว่างประเทศมีการกำหนดเวลาสำหรับรับสินค้า ให้แยกการจัดส่งเป็นสองกอง จะมีพนักงานส่งของ 2 คนมารับการจัดส่งแต่ละประเภท

สำหรับการรับสินค้าระหว่างประเทศครั้งแรกๆ ของคุณ พนักงานส่งของ Sendle จะขอให้คุณยืนยันตัวตน หากคุณอยู่ในที่อยู่ธุรกิจแล้ว พนักงานส่งของ Sendle จะขอหลักฐานที่คุณทำงานให้แก่ธุรกิจนั้นๆ เช่น นามบัตร ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีบัตรประจำตัวเมื่อพนักงานส่งของมาถึง หากไม่สามารถระบุตัวตนของคุณได้ พนักงานมีสิทธิ์ไม่รับการจัดส่งและคุณต้องกำหนดเวลารับสินค้าใหม่

ข้อกำหนดด้านบรรจุภัณฑ์สำหรับการจัดส่งของ Sendle

Sendle มีข้อจำกัดในบรรจุภัณฑ์ภายในประเทศและระหว่างประเทศที่แตกต่างกัน

ข้อกำหนดด้านบรรจุภัณฑ์ภายในประเทศสำหรับการจัดส่งของ Sendle

ค่าสูงสุดที่ Sendal อนุญาตสำหรับบรรจุภัณฑ์ภายในประเทศมีดังต่อไปนี้:

  • ห้ามมีด้านใดยาวกว่า 180 ซม. (79.86 นิ้ว)
  • น้ำหนักสูงสุดคือ 25 กก. (55.1 ปอนด์)
  • ปริมาตรสูงสุดคือ 100 ลิตร

หากต้องการทราบข้อจำกัดเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์แต่ละประเภท โปรดดูที่เว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sendle

ข้อกำหนดด้านบรรจุภัณฑ์ระหว่างประเทศสำหรับการจัดส่งของ Sendle

ค่าสูงสุดที่ Sendle อนุญาตให้กับบรรจุภัณฑ์ระหว่างประเทศมีดังต่อไปนี้:

  • ห้ามมีด้านใดยาวกว่า 105 ซม. (41.3 นิ้ว)
  • น้ำหนักสูงสุดคือ 20 กก. (44.1 ปอนด์)
  • ผลรวมสูงสุดของขนาดคือ 150 ซม. (59 นิ้ว)

หากต้องการทราบข้อจํากัดโดยละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่เว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sendle

รวมความคุ้มครองประกันภัยสำหรับการจัดส่ง Sendle

Sendle เสนอความคุ้มครองสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่สูญหายและเสียหายสูงสุด 100 ดอลลาร์ออสเตรเลีย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่นโยบายความคุ้มครองของ Sendle

การสั่งซื้ออุปกรณ์การจัดส่งของ Sendle

หากต้องการใช้บริการ Unlimited Satchel ของ Sendle คุณจำเป็นต้องใช้บรรจุภัณฑ์ของ Sendle โดยคุณสามารถซื้อบรรจุภัณฑ์ได้จากเว็บไซต์ของ Sendle

การติดต่อฝ่ายช่วยเหลือของ Sendle

เมื่อคุณติดต่อฝ่ายช่วยเหลือของ Sendle ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้กรอก Shopify ในบรรทัดหัวเรื่องของอีเมล เพื่อให้ระบบนำทางคุณไปพบกับทีมให้ความช่วยเหลือของ Sendle ที่มีเครื่องมือในการช่วยเหลือผู้ขาย Shopify ที่ครบครันยิ่งกว่า

การส่งคำร้องเกี่ยวกับความเสียหายจากการขนส่งสำหรับการจัดส่งของ Sendle ที่ล่าช้า

หากคุณใช้ Sendle กับ Shopify Shipping และการจัดส่ง Sendle ของคุณสูญหายหรือเสียหาย คุณสามารถยื่นคำร้องเกี่ยวกับการขนส่งสำหรับการจัดส่งของ Sendle ได้

หากต้องการยื่นคำร้องเกี่ยวกับการขนส่งสำหรับการจัดส่งของ Sendle คุณต้องส่งคำขอเพื่อให้ Sendle ตรวจสอบสถานะการจัดส่งของคุณ การอัปเดตคำถามของคุณจะถูกโพสต์บนหน้าการติดตามของ Sendle หาก Sendle พิจารณาว่าการจัดส่งของคุณมีสิทธิ์ได้รับคำเรียกร้อง คุณสามารถส่งคำเรียกร้องของคุณได้

การตอบกลับทางอีเมลจาก Sendle ที่เกี่ยวกับการเคลมของคุณจะถูกส่งไปยังที่อยู่อีเมลของเจ้าของบัญชีผู้ใช้สำหรับร้านค้าของคุณ

ขั้นตอนที่ 1: สอบถามข้อมูล

  1. จากหน้าส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ไปที่คำสั่งซื้อ
  2. คลิกคำสั่งซื้อ
  3. คลิกที่ลิงก์การติดตามของ Sendle
  4. หากตัวเลือกที่มีให้ใช้ไม่เหมาะกับสถานการณ์ของคุณ ให้คลิกที่ “ความช่วยเหลือ” ในหน้าการติดตามของ Sendle

ขั้นตอนที่ 2: ส่งการร้องเรียนที่มีสิทธิ์

หลังจากส่งแบบการสอบถามและ Sendle พิจารณาว่าคุณมีสิทธิ์ในการเคลม คุณจึงจะสามารถส่งคำขอเคลมได้

  1. จากหน้าส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ไปที่คำสั่งซื้อ
  2. คลิกคำสั่งซื้อ
  3. ใน”ส่วนที่จัดการแล้ว” ให้คลิกที่ปุ่ม...
  4. คลิก “จัดการพัสดุ
  5. คลิกที่ “ยื่นข้อเรียกร้อง” และปฏิบัติตามคําแนะนําในหน้า Sendle เพื่อส่งข้อเรียกร้องค่าสินไหมที่คุณมีสิทธิ์รับ

พร้อมเริ่มต้นการขายด้วย Shopify แล้วหรือยัง

ทดลองใช้งานฟรี