การแก้ไขรายการคำสั่งซื้อ
ลูกค้าของคุณอาจต้องการเปลี่ยนสินค้า หรือคุณต้องการเพิ่มหรือลบสินค้าออกจากคำสั่งซื้อ หลังจากที่สร้างคำสั่งซื้อแล้ว คุณสามารถแก้ไขคำสั่งซื้อได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
- เพิ่มสินค้า
- ลบสินค้า
- แก้ไขจำนวนสินค้า
- ใช้งานส่วนลดกับรายการ
- ปรับส่วนลดด้วยตนเองสำหรับรายการที่มีอยู่
- ลบส่วนลดด้วยตนเองสำหรับรายการที่มีอยู่
- เพิ่มอัตราค่าจัดส่ง
- ลบอัตราค่าจัดส่ง
การแก้ไขที่คุณสามารถดำเนินการกับคำสั่งซื้อได้นั้นขึ้นอยู่กับการจัดการคำสั่งซื้อของสินค้า หากสินค้าได้รับการจัดการแล้ว คุณจะไม่สามารถลบสินค้าออกหรือปรับจำนวนสินค้าได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถแก้ไขสินค้าที่ยังไม่ได้จัดการหรือเพิ่มสินค้าไปยังคำสั่งซื้อได้ โดยต้นทุนรวมของคำสั่งซื้อจะอัปเดตเมื่อแก้ไขคำสั่งซื้อ หากต้นทุนในคำสั่งซื้อเปลี่ยนแปลง คุณจะต้องเรียกเก็บเงินหรือคืนเงินส่วนต่างตามต้นทุนแก่ลูกค้าของคุณ
หากต้องการแก้ไขคำสั่งซื้อ คุณต้องเป็นเจ้าของร้านหรือมีสิทธิ์อนุญาตแก้ไขคำสั่งซื้อ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิ์อนุญาตของพนักงาน
ในหน้านี้
ข้อควรพิจารณาก่อนแก้ไขคำสั่งซื้อ
ก่อนที่คุณจะแก้ไขคำสั่งซื้อ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและตัดสินใจว่าต้องการแก้ไขคำสั่งซื้อในร้านค้าหรือไม่
การแก้ไขคำสั่งซื้ออาจส่งผลต่อร้านค้าของคุณในส่วนต่างๆ ต่อไปนี้
- แอป
- ส่วนลด
- การจัดส่ง
- บริการจัดการคำสั่งซื้อ
- การวิเคราะห์ความเสี่ยง
- การชำระเงินแบบเร่งด่วน
- สกุลเงิน
- การวิเคราะห์
คุณสามารถสร้างคำสั่งซื้อสำหรับทดสอบเพื่อตรวจสอบยืนยันว่าการแก้ไขคำสั่งซื้อใช้งานได้กับร้านค้าของคุณ
แอป
คำสั่งซื้อที่สร้างโดยแอปไม่สามารถแก้ไขได้ในส่วนผู้ดูแล Shopify หรือแก้ไขโดยใช้แอปอื่นๆ ได้ เฉพาะแอปที่สร้างคำสั่งซื้อเท่านั้นที่สามารถแก้ไขคำสั่งซื้อได้ แต่ถ้าหากแอปสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินและเปลี่ยนเป็นคำสั่งซื้อในภายหลัง คุณก็สามารถแก้ไขคำสั่งซื้อดังกล่าวได้ในส่วนผู้ดูแล Shopify และแก้ไขโดยใช้แอปอื่นๆ ได้
นอกจากนี้ แอปบางแอปอาจไม่รู้จักการแก้ไขคำสั่งซื้อ ข้อมูลในแอปของคุณจึงอาจไม่ถูกต้องหลังจากที่แก้ไขคำสั่งซื้อแล้ว การแก้ไขคำสั่งซื้ออาจส่งผลต่อแอปการจัดการคำสั่งซื้อ ตัวอย่างเช่น หากคุณแก้ไขคำสั่งซื้อเพื่อลบสินค้าบางรายการออก แอปการจัดการคำสั่งซื้อของคุณอาจไม่ลบรายการนั้นออก คุณอาจจัดส่งสินค้าที่ถูกลบออกจากคำสั่งซื้อและไม่ได้รับการชำระเงินโดยไม่ได้ตั้งใจ
คุณสามารถติดต่อผู้พัฒนาแอปเพื่อยืนยันว่าแอปเหล่านี้จำเป็นต้องอัปเดตหรือไม่ผู้พัฒนาแอปสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากการแก้ไขคำสั่งซื้อโดยใช้ GraphQL
ส่วนลด
คุณสามารถเพิ่ม แก้ไข หรือลบส่วนลดสินค้าเฉพาะรายการด้วยตนเองได้ส่วนลดตามระดับคำสั่งซื้อบางรายการจะถูกคำนวณใหม่หลังจากแก้ไขคำสั่งซื้อแล้ว
การแก้ไขส่วนลดด้วยตนเอง
คุณสามารถเพิ่มส่วนลดด้วยตนเองให้กับสินค้าเฉพาะรายการที่มีอยู่ในคำสั่งซื้อ หรืออัปเดตหรือลบส่วนลดสำหรับสินค้าเฉพาะรายการที่มีอยู่ในคำสั่งซื้อได้
ไม่สามารถเพิ่ม ลบ หรืออัปเดตส่วนลดตามระดับคำสั่งซื้อได้ นอกจากนี้ ไม่สามารถแก้ไขประเภทส่วนลดสินค้าเฉพาะรายการต่อไปนี้ได้:
- รหัสส่วนลด
- ส่วนลดสคริปต์
- ส่วนลดอัตโนมัติ
การคำนวณส่วนลดใหม่
ระบบจะไม่คำนวณส่วนลดบางประเภทใหม่อีกครั้งหลังจากที่คุณแก้ไขคำสั่งซื้อ ดังนั้นให้ตรวจสอบยอดรวมของคำสั่งซื้อที่มีส่วนลดอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจได้ว่าลูกค้าของคุณจะชำระเงินเป็นจำนวนที่ถูกต้อง
ประเภทส่วนลดต่อไปนี้จะถูกคำนวณใหม่เมื่อมีการแก้ไขคำสั่งซื้อ:
- เปอร์เซ็นต์ส่วนลดที่ใช้กับคำสั่งซื้อทั้งหมด ส่วนลดเหล่านี้จะถูกคำนวณใหม่เมื่อคุณเพิ่มสินค้าใหม่หรือเปลี่ยนจำนวนสินค้า
- รหัสส่วนลดแบบจำนวนคงที่ซึ่งใช้กับสินค้าหรือคอลเลกชันบางรายการ ส่วนลดเหล่านี้จะถูกคำนวณใหม่เมื่อคุณปรับจำนวนสินค้าที่มีการใช้ส่วนลดอยู่แล้ว โดยส่วนลดประเภทนี้จะถูกคำนวณใหม่หากเป็นรหัสส่วนลดที่สามารถใช้ได้มากกว่าหนึ่งครั้งต่อหนึ่งคำสั่งซื้อ
การจัดส่ง
วิธีจัดส่งและอัตราจะไม่ถูกคำนวณใหม่เมื่อคุณแก้ไขคำสั่งซื้อ แต่คุณสามารถเพิ่มค่าบริการจัดส่งแบบกำหนดเองได้ หากคุณเปลี่ยนหรือเพิ่มสินค้าไปยังคำสั่งซื้อและน้ำหนักหรือขนาดของคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น คุณอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการจัดส่ง
ไม่สามารถแก้ไขคำสั่งซื้อที่ใช้วิธีการจัดส่งแบบจัดส่งในพื้นที่ได้ นอกจากนี้ คุณยังไม่สามารถเปลี่ยนวิธีการจัดส่งคำสั่งซื้อได้ เช่น เปลี่ยนจากการจัดส่งเป็นการรับสินค้า
บริการจัดการคำสั่งซื้อ
ติดต่อบริการจัดการคำสั่งซื้อเพื่อตรวจสอบยืนยันว่าคุณสามารถแก้ไขสินค้าที่จัดการโดยบริการจัดการคำสั่งซื้อได้หรือไม่
หากบริการจัดการคำสั่งซื้อของคุณไม่ทำงานกับการแก้ไขคำสั่งซื้อให้แก้ไขสินค้าอาจทำให้คำสั่งซื้อที่ไม่ได้รับหรือไม่เสร็จสิ้น
หากบริการจัดการคำสั่งซื้อของคุณทำงานร่วมกับการแก้ไขคำสั่งซื้อสินค้าใหม่หรือจำนวนใหม่ที่เพิ่มไปยังคำสั่งซื้อจะกลายเป็นสินค้าใหม่เพื่อจัดการ สินค้าที่ถูกลบออกจากคำสั่งซื้อไม่ได้จัดการรายการอีกต่อไป
การวิเคราะห์ความเสี่ยง
หากคุณเรียกเก็บเงินจากลูกค้าหลังจากที่แก้ไขคำสั่งซื้อแล้ว ตัวชี้วัดการวิเคราะห์การหลอกลวงของคำสั่งซื้อและสถานะการป้องกันการฉ้อโกงสามารถเปลี่ยนแปลงได้
การชำระเงินแบบเร่งด่วน
หากคุณต้องการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าหลังจากที่คุณแก้ไขคำสั่งซื้อแล้ว ลูกค้าของคุณจะไม่มีการชำระเงินแบบเร่งด่วนให้เลือกในขั้นตอนการชำระเงินใหม่ ซึ่งการชำระเงินนี้มีผลต่อการชำระเงินแบบอื่นๆ เช่น Apple Pay
สกุลเงิน
หากคุณแก้ไขคำสั่งซื้อหลังจากชําระเงินด้วยสกุลเงินอื่น อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอาจแตกต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนกับคำสั่งซื้อก่อนหน้าโดยขึ้นอยู่กับประเภทการแก้ไขที่คุณแก้ไขดังนี้:
- หากคุณเพิ่มสินค้าใหม่ ระบบจะใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศปัจจุบัน ณ เวลาที่แก้ไข
- หากคุณเพิ่มจำนวนสินค้าที่มีอยู่ ระบบจะใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ เวลาที่สร้างคำสั่งซื้อ
- หากคุณลบสินค้าหรือลดจำนวนสินค้าที่มีอยู่ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในช่วงเวลาสร้างคำสั่งซื้อซื้อตั้งแต่แรกเริ่มจะใช้เพื่อไม่ให้ลูกค้าของคุณได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงของสกุลเงินสำหรับการคืนเงิน
หากคุณไม่มีสิทธิ์แก้ไขคำสั่งซื้อในสกุลเงินอื่นๆ หรือหากคุณไม่สามารถแก้ไขคำสั่งซื้อเฉพาะรายการได้ คุณสามารถขอคืนเงินสำหรับคำสั่งซื้อดังกล่าว จากนั้นจึงสร้างคำสั่งซื้อที่ยังไม่ชำระเงินโดยใช้ตลาดที่ต้องการ แล้วส่งอีเมลใบแจ้งหนี้เป็นสกุลเงินในพื้นที่ของลูกค้า
ตัววิเคราะห์ข้อมูล
หากคุณแก้ไขคำสั่งซื้อหลังจากวันที่มีการสั่งซื้อ การแก้ไขดังกล่าวจะแสดงเป็นคำสั่งซื้อแยกต่างหากในรายงานของคุณโดยรายงานจะแสดงคำสั่งซื้อที่มีการแก้ไขเหมือนกับว่าเป็นคำสั่งซื้อใหม่แม้ว่าจะยังไม่ได้สร้างคำสั่งซื้อใหม่ก็ตาม
รายงานต่อไปนี้จะได้รับผลกระทบมีดังต่อไปนี้
คำสั่งซื้อที่มีการรับสินค้าที่ร้าน
คุณสามารถแก้ไขคำสั่งซื้อสำหรับการรับสินค้าที่ร้านก่อนหรือหลังจากที่คุณเตรียมคำสั่งซื้อดังกล่าวได้ คุณสามารถแก้ไขคำสั่งซื้อสำหรับการรับสินค้าที่ร้านได้ในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณหรือในแอป Shopify เท่านั้น ไม่สามารถแก้ไขในแอป POS ได้
คำสั่งซื้อที่มีการชำระเงินที่รอดำเนินการ
หากสินค้าอยู่ในสถานะรอดำเนินการชำระเงิน คุณจะไม่สามารถแก้ไขรายการสินค้าในคำสั่งซื้อและส่วนลดได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำสั่งซื้อที่รอดำเนินการชำระเงิน
สินค้าที่มีภาษีและอากร
หากคำสั่งซื้อมีการเรียกเก็บอากรและภาษี เช่น คำสั่งซื้อแบบชำระอากรในการจัดส่งแล้ว (DDP) คุณจะไม่สามารถแก้ไขคำสั่งซื้อนั้นได้
เพิ่มสินค้าไปยังคำสั่งซื้อ
คุณสามารถเพิ่มสินค้าไปยังคำสั่งซื้อของคุณ หากคุณเพิ่มสินค้าไปยังคำสั่งซื้อ คุณสามารถส่งอีเมลใบแจ้งหนี้ไปยังลูกค้าของคุณพร้อมกับลิงก์ไปยังหน้าการชำระเงิน หรือคุณสามารถรับชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อดังกล่าวได้
ขั้นตอน:
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ
คลิกคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
คลิกแก้ไข
ในส่วนเพิ่มสินค้า ให้ป้อนชื่อของสินค้าที่คุณต้องการเพิ่มไปในคำสั่งซื้อของคุณ หรือคลิกที่เรียกดูเพื่อดูรายการสินค้าและคอลเลกชันของร้านค้าของคุณ คุณสามารถสร้างรายการแบบกำหนดเองสำหรับคำสั่งซื้อได้เช่นกัน โดยคลิกที่เพิ่มรายการแบบกำหนดเอง
เลือกสินค้าหรือตัวเลือกสินค้าแต่ละรายการที่คุณต้องการเพิ่มลงในคำสั่งซื้อของคุณ
- คลิกที่เสร็จสิ้น
- ตัวเลือกเสริม: เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการแก้ไขในส่วนเหตุผลในการแก้ไข ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
- จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
- แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
- แตะที่ “...”
- แตะที่แก้ไข
- แตะที่เพิ่มสินค้าแล้วป้อนชื่อของสินค้าที่คุณต้องการเพิ่มไปยังคำสั่งซื้อในแถบค้นหา หรือแตะที่เพิ่มรายการที่กำหนดเองเพื่อสร้างสินค้าแบบกำหนดเองสำหรับคำสั่งซื้อ
- แตะที่สินค้าหรือตัวเลือกสินค้าแต่ละรายการที่คุณต้องการเพิ่มไปยังคำสั่งซื้อ จากนั้นแตะที่ “เสร็จสิ้น”
- ตัวเลือกเสริม: เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการแก้ไขในส่วนเหตุผลในการแก้ไข ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
- จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
- แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
- แตะที่ “⋮”
- แตะที่แก้ไข
- แตะที่เพิ่มสินค้าแล้วป้อนชื่อของสินค้าที่คุณต้องการเพิ่มไปยังคำสั่งซื้อในแถบค้นหา หรือแตะที่เพิ่มรายการที่กำหนดเองเพื่อสร้างสินค้าแบบกำหนดเองสำหรับคำสั่งซื้อ
- แตะที่สินค้าหรือตัวเลือกสินค้าแต่ละรายการที่คุณต้องการเพิ่มไปยังคำสั่งซื้อ จากนั้นแตะที่ “เสร็จสิ้น”
- ตัวเลือกเสริม: เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการแก้ไขในส่วนเหตุผลในการแก้ไข ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
นำรายการสินค้าออกจากคำสั่งซื่อ
คุณสามารถลบสินค้าออกจากคำสั่งซื้อของคุณได้ หากคุณต้องการเปลี่ยนสินค้า คุณจำเป็นต้องลบสินค้าที่ไม่ต้องการออกแล้วจึงเพิ่มสินค้าใหม่
ขั้นตอน:
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ
คลิกคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
คลิกแก้ไข
ใต้รายการที่คุณต้องการลบ ให้คลิกลบรายการออก
ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการส่งคืนสินค้าไปยังคลังสินค้า ให้ยกเลิกการเลือกการคืนสินค้ากลับสต็อก สินค้าที่คุณนำออกจะถูกส่งคืนสต็อกไปยังตำแหน่งที่ตั้งเดิมโดยอัตโนมัติ
ตัวเลือกเสริม: เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการแก้ไขในส่วนเหตุผลในการแก้ไข ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
- จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
- แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
- แตะที่ “...”
- แตะที่แก้ไข
- ใต้รายการที่คุณต้องการลบ ให้แตะ “ลบรายการออก”
- ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการส่งคืนสินค้าไปยังคลังสินค้า ให้ยกเลิกการเลือกการคืนสินค้ากลับสต็อก สินค้าที่คุณนำออกจะถูกส่งคืนสต็อกไปยังตำแหน่งที่ตั้งเดิมโดยอัตโนมัติ
- ตัวเลือกเสริม: เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการแก้ไขในส่วนเหตุผลในการแก้ไข ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
- จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
- แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
- แตะที่ “⋮”
- แตะที่แก้ไข
- ใต้รายการที่คุณต้องการลบ ให้แตะ “ลบรายการออก”
- ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการส่งคืนสินค้าไปยังคลังสินค้า ให้ยกเลิกการเลือกการคืนสินค้ากลับสต็อก สินค้าที่คุณนำออกจะถูกส่งคืนสต็อกไปยังตำแหน่งที่ตั้งเดิมโดยอัตโนมัติ
- ตัวเลือกเสริม: เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการแก้ไขในส่วนเหตุผลในการแก้ไข ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
แก้ไขจำนวนสินค้าในคำสั่งซื้อ
คุณสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนสินค้าในคำสั่งซื้อของคุณได้ หากคุณเพิ่มจำนวนสินค้าในคำสั่งซื้อของคุณ คุณสามารถส่งอีเมลใบแจ้งหนี้ไปยังลูกค้าของคุณพร้อมกับลิงก์ไปยังหน้าการชำระเงิน หรือคุณสามารถรับการชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อนั้นได้
ขั้นตอน:
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ
คลิกคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
คลิกแก้ไข
ใต้รายการที่คุณต้องการแก้ไข ให้คลิกแก้ไขจำนวน
ป้อนจำนวนสินค้าใหม่
คลิกที่เสร็จสิ้น
ตัวเลือกเสริม: หากคุณลดจำนวนและไม่ต้องการส่งคืนสินค้ากลับไปยังสินค้าคงคลัง ให้ยกเลิกการเลือก “คืนสินค้ากลับสต็อก” ซึ่งสินค้าที่คุณลบออกจะถูกคืนสต็อกไปยังตำแหน่งที่ตั้งเดิมโดยอัตโนมัติ
ตัวเลือกเสริม: เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการแก้ไขในส่วนเหตุผลในการแก้ไข ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
- จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
- แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
- แตะที่ “...”
- แตะที่แก้ไข
- ใต้สินค้าที่คุณต้องการแก้ไข ให้แตะ “แก้ไขจำนวน”
- ป้อนจำนวนสินค้าใหม่
- แตะเสร็จสิ้น
- ตัวเลือกเสริม: หากคุณลดจำนวนและไม่ต้องการส่งคืนสินค้ากลับไปยังสินค้าคงคลัง ให้ยกเลิกการเลือก “คืนสินค้ากลับสต็อก” ซึ่งสินค้าที่คุณลบออกจะถูกคืนสต็อกไปยังตำแหน่งที่ตั้งเดิมโดยอัตโนมัติ
- ตัวเลือกเสริม: เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการแก้ไขในส่วนเหตุผลในการแก้ไข ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
- จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
- แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
- แตะที่ “⋮”
- แตะที่แก้ไข
- ใต้สินค้าที่คุณต้องการแก้ไข ให้แตะ “แก้ไขจำนวน”
- ป้อนจำนวนสินค้าใหม่
- แตะเสร็จสิ้น
- ตัวเลือกเสริม: หากคุณลดจำนวนและไม่ต้องการส่งคืนสินค้ากลับไปยังสินค้าคงคลัง ให้ยกเลิกการเลือก “คืนสินค้ากลับสต็อก” ซึ่งสินค้าที่คุณลบออกจะถูกคืนสต็อกไปยังตำแหน่งที่ตั้งเดิมโดยอัตโนมัติ
- ตัวเลือกเสริม: เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการแก้ไขในส่วนเหตุผลในการแก้ไข ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
ใช้ส่วนลดกับสินค้าในคำสั่งซื้อ
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ
คลิกคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
คลิกแก้ไข
ใต้สินค้าเฉพาะรายการที่คุณต้องการให้ส่วนลด ให้คลิกที่แก้ไขส่วนลด
เลือกประเภทส่วนลด จากนั้นป้อนมูลค่าส่วนลดแล้วเพิ่มเหตุผลสำหรับส่วนลด ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
คลิกนำไปใช้
หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
- จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
- แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
- แตะที่ “...”
- แตะที่แก้ไข
- ใต้สินค้าเฉพาะรายการที่คุณต้องการให้ส่วนลด ให้แตะ “ใช้ส่วนลด”
- เลือกประเภทส่วนลด จากนั้นป้อนมูลค่าส่วนลดแล้วเพิ่มเหตุผลสำหรับส่วนลด ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
- แตะที่ “ใช้”
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
- จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
- แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
- แตะที่ “⋮”
- แตะที่แก้ไข
- ใต้สินค้าเฉพาะรายการที่คุณต้องการให้ส่วนลด ให้แตะ “ใช้ส่วนลด”
- เลือกประเภทส่วนลด จากนั้นป้อนมูลค่าส่วนลดแล้วเพิ่มเหตุผลสำหรับส่วนลด ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
- แตะที่ “ใช้”
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
ปรับส่วนลดกับรายการที่มีอยู่
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ
คลิกคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
คลิกแก้ไข
ใต้สินค้าเฉพาะรายการที่มีได้รับส่วนลดซึ่งคุณต้องการอัปเดต ให้คลิก “แก้ไขส่วนลด”
ปรับประเภทส่วนลด มูลค่าส่วนลดและเหตุผลสำหรับส่วนลด
คลิกที่เสร็จสิ้น
หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
- จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
- แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
- แตะที่ “...”
- แตะที่แก้ไข
- ใต้สินค้าเฉพาะรายการที่มีได้รับส่วนลดซึ่งคุณต้องการอัปเดต ให้คลิก “แก้ไขส่วนลด”
- ปรับประเภทส่วนลด มูลค่าส่วนลดและเหตุผลสำหรับส่วนลด
- แตะเสร็จสิ้น
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
- จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
- แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
- แตะที่ “⋮”
- แตะที่แก้ไข
- ใต้สินค้าเฉพาะรายการที่มีได้รับส่วนลดซึ่งคุณต้องการอัปเดต ให้คลิก “แก้ไขส่วนลด”
- ปรับประเภทส่วนลด มูลค่าส่วนลดและเหตุผลสำหรับส่วนลด
- แตะเสร็จสิ้น
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
นำส่วนลดออกจากรายการสินค้าที่มีอยู่
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ
คลิกคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
คลิกแก้ไข
ใต้สินค้าเฉพาะรายการที่มีได้รับส่วนลดซึ่งคุณต้องการอัปเดต ให้คลิก “แก้ไขส่วนลด”
คลิกลบส่วนลด
หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
- จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
- แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
- แตะที่ “...”
- แตะที่แก้ไข
- ใต้สินค้าเฉพาะรายการที่มีได้รับส่วนลดซึ่งคุณต้องการอัปเดต ให้แตะ “แก้ไขส่วนลด”
- แตะ “ลบส่วนลด”
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
- จากแอป Shopify ให้แตะ คำสั่งซื้อ
- แตะคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
- แตะที่ “⋮”
- แตะที่แก้ไข
- ใต้สินค้าเฉพาะรายการที่มีได้รับส่วนลดซึ่งคุณต้องการอัปเดต ให้แตะ “แก้ไขส่วนลด”
- แตะ “ลบส่วนลด”
- หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
เพิ่มอัตราค่าจัดส่ง
คุณสามารถเพิ่มอัตราค่าจัดส่งแบบกำหนดเองไปยังคำสั่งซื้อของคุณได้ หลังจากที่คุณเพิ่มอัตราค่าจัดส่งแล้ว คุณสามารถแก้ไขหรือลบอัตราค่าจัดส่งก่อนที่จะอัปเดตคำสั่งซื้อ หรือสามารถเพิ่มอัตราค่าจัดส่งใหม่ได้
เมื่อเพิ่มอัตราค่าจัดส่ง คุณสามารถส่งอีเมลใบแจ้งหนี้ไปยังลูกค้าของคุณพร้อมกับลิงก์ไปยังหน้าการชำระเงิน หรือคุณสามารถรับการชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อนั้นได้
ขั้นตอน:
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ
คลิกคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
คลิกแก้ไข
ในส่วนการชำระเงิน ให้คลิก “เพิ่มการจัดส่ง”
ป้อนชื่อและราคาของอัตราค่าจัดส่ง
คลิกที่เสร็จสิ้น
หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
ลบอัตราค่าจัดส่ง
คุณสามารถลบอัตราค่าจัดส่งออกจากคำสั่งซื้อได้ หากคุณต้องการแก้ไขอัตราค่าจัดส่ง คุณต้องลบอัตราค่าจัดส่งออกและเพิ่มอัตราค่าจัดส่งใหม่
ขั้นตอน:
ในส่วนผู้ดูแล Shopify ให้ไปที่คำสั่งซื้อ
คลิกคำสั่งซื้อที่คุณต้องการแก้ไข
คลิกแก้ไข
ในส่วนการชำระเงิน ให้คลิกแก้ไขการจัดส่ง
คลิกไอคอนถังขยะที่อยู่ถัดจากอัตราค่าจัดส่งที่คุณต้องการลบออก
คลิก “ลบ”
หลังจากเสร็จสิ้นการแก้ไขคำสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อ
การตรวจสอบและอัปเดตคำสั่งซื้อที่ถูกแก้ไข
เมื่อคุณแก้ไขคำสั่งซื้อแล้ว คุณจำเป็นต้องตรวจสอบยอดรวมที่อัปเดตแล้วอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ ต้นทุนทั้งหมดของคำสั่งซื้ออาจเพิ่มหรือลดลงเนื่องจากจำนวนที่ลูกค้าของคุณชำระเงินในขั้นตอนการชำระเงิน ขึ้นอยู่กับการแก้ไขที่คุณดำเนินการ
หลังจากที่คุณแก้ไขคำสั่งซื้อแล้ว ให้ดำเนินการตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับยอดรวมคำสั่งซื้อสั่งซื้ออย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
- หากยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ให้รวบรวมการชำระเงินจากลูกค้าของคุณ
- หากยอดคำสั่งซื้อลดลง ให้คืนเงินให้แก่ลูกค้าของคุณ
- หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงยอดคำสั่งซื้อ คุณสามารถแจ้งให้ลูกค้าของคุณทราบถึงการแก้ไขดังกล่าวได้
หลังจากที่คุณแก้ไขคำสั่งซื้อแล้ว คุณสามารถปรับแต่งใบแจ้งหนี้หรือการแจ้งเตือนที่ส่งไปยังลูกค้าได้โดยการแก้ไขเทมเพลต
การเก็บเงินเมื่อยอดรวมคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น
หากค่าใช้จ่ายของคำสั่งซื้อที่ได้รับการแก้ไขเพิ่มมากขึ้น คุณจำเป็นต้องเรียกเก็บเงินเพิ่มจากลูกค้าของคุณ โดยข้อมูลสรุปจะแสดงว่ามีจำนวนเงินที่จะต้องเรียกเก็บเพิ่ม
คุณสามารถส่งใบแจ้งหนี้ที่มีลิงก์ไปยังหน้าการชำระเงินไปให้ลูกค้าของคุณได้ หรือคุณสามารถรับการชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อนั้นได้
การคืนเงินเมื่อยอดรวมคำสั่งซื้อลดลง
หากค่าใช้จ่ายของคำสั่งซื้อที่ถูกแก้ไขลดลง คุณจำเป็นต้องอัปเดตคำสั่งซื้อและดำเนินการคืนเงินให้ลูกค้าของคุณ โดยจํานวนเงินที่จะคืนจะแสดงในส่วนข้อมูลสรุป
ขั้นตอน:
- หากคุณไม่ต้องการส่งการแจ้งเตือนให้ลูกค้าทราบว่าคำสั่งซื้อดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง ให้ยกเลิกการเลือกส่งการแจ้งเตือนไปยังลูกค้า
- คลิกอัปเดตคำสั่งซื้อเพื่อยืนยันการแก้ไขคำสั่งซื้อ
- จากคำสั่งซื้อที่คุณแก้ไข ให้คัดลอกจำนวนเงินที่คุณต้องชำระคืนให้แก่ลูกค้าของคุณ เนื่องจากคุณจำเป็นต้องใช้ตัวเลขนี้ในขั้นตอนอื่น
- คลิกคืนเงิน
- ตัวเลือกเสริม: เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการแก้ไขในส่วนเหตุผลในการคืนเงิน ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
- ในส่วนการคืนเงิน ให้ป้อนจำนวนเงินที่คุณต้องชำระคืนให้แก่ลูกค้าของคุณ
- ไม่บังคับ: หากคุณต้องการส่งการแจ้งเตือนให้ลูกค้าของคุณ ให้เลือกส่งการแจ้งเตือนไปยังลูกค้า
- คลิกคืนเงิน
ขั้นตอน:
- หากคุณไม่ต้องการส่งการแจ้งเตือนให้ลูกค้าทราบว่าคำสั่งซื้อดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง ให้ยกเลิกการเลือกส่งการแจ้งเตือนไปยังลูกค้า
- แตะอัปเดตคำสั่งซื้อเพื่อยืนยันการแก้ไขคำสั่งซื้อ
- จากคำสั่งซื้อที่คุณแก้ไข ให้เลื่อนไปที่คุณค้างชำระลูกค้า
- คัดลอกยอดเงินในคุณค้างชำระลูกค้า เนื่องจากคุณจำเป็นต้องใช้ตัวเลขนี้ในขั้นตอนอื่น
- แตะ คืนเงิน
- ในส่วนการคืนเงิน ให้ป้อนจำนวนเงินที่คุณต้องชำระคืนให้แก่ลูกค้าของคุณ
- ตัวเลือกเสริม: เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการแก้ไขในส่วนเหตุผลในการคืนเงิน ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
- ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการส่งการแจ้งเตือนให้ลูกค้าของคุณ ให้ยกเลิกการเลือกแจ้งเตือนลูกค้าทางอีเมล
- แตะ คืนเงิน
ขั้นตอน:
- หากคุณไม่ต้องการส่งการแจ้งเตือนให้ลูกค้าทราบว่าคำสั่งซื้อดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง ให้ยกเลิกการเลือกส่งการแจ้งเตือนไปยังลูกค้า
- แตะอัปเดตคำสั่งซื้อเพื่อยืนยันการแก้ไขคำสั่งซื้อ
- จากคำสั่งซื้อที่คุณแก้ไข ให้เลื่อนไปที่จำนวนเงินที่ต้องคืน
- คัดลอกจำนวนเงินที่ต้องคืน เนื่องจากคุณจำเป็นต้องใช้ตัวเลขนี้ในขั้นตอนอื่น
- แตะ คืนเงิน
- ในส่วนการคืนเงิน ให้ป้อนจำนวนเงินที่คุณต้องชำระคืนให้แก่ลูกค้าของคุณ
- ตัวเลือกเสริม: เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการแก้ไขในส่วนเหตุผลในการคืนเงิน ทั้งนี้ ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นหมายเหตุนี้
- ตัวเลือกเสริม: หากคุณไม่ต้องการส่งการแจ้งเตือนให้ลูกค้าของคุณ ให้ยกเลิกการเลือกแจ้งเตือนลูกค้าทางอีเมล
- แตะ คืนเงิน
แจ้งให้ลูกค้าทราบเมื่อไม่มีการเปลี่ยนแปลงกับยอดรวมคำสั่งซื้อ
หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงต้นทุนของคำสั่งซื้อ คุณก็ไม่จำเป็นต้องคืนเงินหรือเก็บการชำระเงิน ตามค่าเริ่มต้นแล้ว ลูกค้าของคุณจะได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว หากคุณไม่ต้องการส่งการแจ้งเตือนลูกค้าของคุณ ให้ยกเลิกการเลือก “ส่งการแจ้งเตือนไปยังลูกค้า” แล้วคลิกที่ “อัปเดตคำสั่งซื้อ” เพื่อดำเนินการแก้ไขคำสั่งซื้อให้เสร็จสิ้น